วันเวลาปัจจุบัน 04 ธ.ค. 2024, 22:06  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2024, 13:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8291


 ข้อมูลส่วนตัว




Screenshot_20240913-091909_TikTok.jpg
Screenshot_20240913-091909_TikTok.jpg [ 169.05 KiB | เปิดดู 1121 ครั้ง ]
ไม่ควรหวนกลับสู่ของเก่าที่เป็นอดีต

สภาวธรรมที่เป็นขันธ์ ๕ เช่น ปสาทรูปที่เป็นรูปใส ใบหน้า มือเท้า เป็นต้น
ซึ่งเป็นวรรณรูปที่เห็นได้และสภาวธรรมที่เห็นได้อื่นๆซึ่งได้ผ่านพ้นไปได้ดับ
ไปแล้ว ปัจจุบันเป็นธรรมที่ไม่ได้มีปรากาฏอยู่ เพราะฉะนั้น โยคีจึงไม่ควรที่จะทวน
ระลึกคิดยึดมั่นถือมั่นสภาวธรรมที่หายไปแล้วด้วยตัณหาและทิฏฐิ ซึ่งลักษณะการ
ถือมั่นยืดมั่นด้วยตัณหาและทิฏฐินั้น พึงทราบดังนี้ ไยดีผู้ยึดมันถือมันสิ่งที่ตนเคย
เห็นมาก่อนด้วยความยินดี เช่น นัยตาของเรานั้นมีความสว่างไสวมองเห็นได้ดี
สามารถเห็นได้แม้ซึ่งสิ่งที่ละเอียดอ่อนเล็กๆ น้อยๆ แม้ใบหน้าของเราก็เป็นใบหน้า
ที่สวยงาม ตวงตา คิ้ว มือเท้าของเราก็งดงาม ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน เสื้อผ้าอาภรณ์
เครื่องประดับต่างๆก็งดงามถ้าหากเราได้เห็นรูปในยุคนั้น ก็คงจะรู้สึกดีไม่น้อยที่เดียว
ดังนี้เป็นต้น

ส่วนลักษณะการยึดมันถือมั่นด้วยทิฏฐิพึงทราบดังนี้ โยคีนั้นอาจระลึกนึกนึกถึง
สิ่งที่เป็นอดีตในลักษณะต่างๆ เช่น ระลึกนึกถึงในลักษณะที่เป็นสิ่งที่ยั่งยืนนับตั้งแต่
เวลาที่เห็น จนกระทั่งถึงเวลาปัจจุบันว่า นี่คือตัวเรา นี่คือบุคคลที่เป็นตัวเรา เราเป็น
ผู้เห็น เราเห็นสิ่งที่เป็นตัวเราเป็นตัวบุคคล และในลักษณะที่เป็นสัตว์บุคคลซึ่งละ
จาก ภพนี้หรือตายจากภพนี้แล้วย้ายยังไปสู่ภพอื่น และในลักษณะที่ว่า เมื่อตายไปแล้ว
จากภพนี้ ก็จะสูญหายไป โยคีไม่ควรที่จะจินตนาการคิดด้วยตัณหาทิฏฐิ ยึดมั่น
ถือมั่นในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตโดยทำนองนี้แล แม้ในเรื่องของการได้ยิน ได้กลิ่น
ได้บริโภค ใช้สอย ลิ้มรส ได้กระทบสัมผัส และได้รู้ธรรมารมเน์ซึ่งเป็นอดีต
ก็ไม่ควรที่จะกระทำเช่นเดียวกัน ที่สำคัญก็คือว่าไม่ควรที่จะหวนระลึกนึกถึง
หรือหมกมุ่นในความคิดที่ว่าในกาลก่อนเราได้ทำการกำหนดได้อย่างดีชัดเจน
ในกาลก่อนเรากำหนดได้ไม่ดีไม่ชัดเจนโดยเด็ดขาด

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2024, 16:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8291


 ข้อมูลส่วนตัว




Screenshot_20240920_064311_TikTok.jpg
Screenshot_20240920_064311_TikTok.jpg [ 177.91 KiB | เปิดดู 680 ครั้ง ]
ไม่ควรหวังสิ่งใหม่ซึ่งเป็นอนาคต

การหวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น ปรารถนาว่า
เราทำอย่างไรหนอเราจึงจะถูกลอตเตอรี่ และเมื่อถูกลอตเตอรื่แล้วเราจะใช้สอย
เป็นอยู่อย่างไร อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นความคิดที่เสียเวลา เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็น
การปรารถนาเกี่ยวกับรูปสรีระร่างกาย เช่น อยากให้ดวงตาที่สดใส โดยตั้งใจ
ปรารถนาว่า ขอให้เรามีดวงตาที่สดใส ขอดวงตาของเราอย่าได้มืดมน ขอให้
ผิวพรรณ วรรณะของเราจงดูอ่อนเยาว์สวยงาม ขอให้เจอแต่สิ่งที่สวยงาม ขอให้
ได้ใช้สอยแต่สิ่งที่ดีๆ ขอให้พบเพื่อนที่ดี ของสิ่งดีๆอย่าได้ทายไปจากเรา ดังนี้
เป็นต้น แม้ในเรื่องของโสตปสาทที่เกี่ยวกับการได้ยินก็โดยทำนองเดียวกันนี้แล
ที่สำคัญก็คือว่า เกี่ยวกับเรื่องนึกคิดแล้วโยคีไม่ควรที่จะคาดหวังเพื่อให้เกิดการ
กำหนด ที่ดีหรือเพื่อให้เกิดอารมณ์ที่ดีมาปรากฎ หรือเพื่อให้ให้เกิดญาณพิเศษใดๆ
ทั้งสิ้น

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร