วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 21:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2024, 15:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว




FB_IMG_1733045693292.jpg
FB_IMG_1733045693292.jpg [ 136.51 KiB | เปิดดู 1301 ครั้ง ]
องค์ที่ ๕ สพายตนะ

สพายตนะ เป็นปัจจัยแก่ ผัสสะ คือ ผัสสะจะปรากฏขึ้นได้ก็เพราะมีสฬายตนะ
เป็นปัจจัย ลักขณาทิจตุกะของสฬายตนะ มีดังนี้
อายตนลกฺขณํ > มีการกระทบหรือ มีการทำให้วัฏฏสงสารยืนยาวไม่มีที่สิ้น
สุด เป็นลักษณะ
ทสฺสนรสํ > มีการยึดอารมณ์ของตน ๆ เป็นกิจ
(วา) ทสฺสนาทิรสํ > (หรือ) มีการเห็นเป็นต้น เป็นกิจ
วตฺถุตฺตรภาวปจฺจุปฎฺฐานํ > มีความเป็นวัตถุ เป็นทวาร ของวิญญาณธาตุ ๗ ตามควร
แก่อารมณ์ เป็นผล
นามรูปปทฎฺธานํ > มีเจตสิก และกัมมชรูป เป็นเหตุใกล้

ในบทก่อน อัชฌัตติกายตนะ ๖ คือ อายตนะภายใน ๖ ที่เป็นปัจจยุบบันนธรรม
ของนามรูปนั้น ได้แก่ จักขวายตนะ โสตายตนะ ฆานายตนะ ชิวหายตนะ กายายตนะ และ มนายตนะ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2024, 16:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


ในบทนี้ สฬายตนะที่เป็นปัจจัยแก่ผัสสะ ก็ได้แก่ อัชฌัตติกายตนะ ๖ ที่กล่าว
แล้วนี่เอง
๑. จักขุสัมผัสสะ ปรากฏได้เพราะมีเกิดขึ้น จักขวายตนะ เป็นปัจจัย
๓.โสตสัมผัสสะปรากฏได้เพราะมีเกิดขึ้น โสตายตนะ เป็นปัจจัย
๓. ฆานสัมผัสสะปรากฏได้เพราะมีเกิดขึ้น ฆานายตนะ เป็นปัจจัย
๔.ชิวหาสัมผัสสะ. ปรากฏได้เพราะมีเกิดขึ้น ชิวหายตนะ เป็นปัจจัย
๕.กายสัมผัสสะปรากฏได้เพราะมีเกิดขึ้น กายายตนะ เป็นปัจจัย
๖. มโนสัมผัสสะปรากฏได้เพราะมีเกิดขึ้น มนายตนะ เป็นปัจจัย
ผัสสะทั้ง ๖ ในที่นี้ ได้แก่ผัสสเจตสิกที่ในโลกียวิบากวิญญาญาณ ๓๒ เท่านั้น แต่หมาย
เลข ๑ ถึง ๕ เป็นผัสสะในทวิปัจวิญญาณ ๑๐ ตามลำดับส่วนหมาย ๖
ได้แก่ผัสสะในโลกียวิปากวิญญาณ ๒๒ ที่เหลือ
ธรรมชาติที่กระทบอารมณ์นั่นแหละ คือ คือ ผัสสะ แต่ไม่ได้หมายความเพียงว่า
ของสองสิ่งกระทบกันเท่านั้น หากหมายถึงว่าต้องมีธรรม ๓ ประการมาประชุมร่วมพร้อมกัน
จึงจะเรียกว่า ผัสสะ ธรรม ๓ ประการ คือ อารมณ์ ๑ วัตถุ ธรรม ๒ ประการนี้กระทบ
กันและทำให้เกิด วิญญาณ อีก ๑ ด้วย ไม่ใช่ว่ากระทบกันเฉย ๆ ดังมีบาลีใน นิทานวัคค
สังยุตตพระบาลี ว่า
จกฺขุญจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺ ปชฺชติ จกฺขุวิญฺญาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส
โสตญจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺ ปชฺชติ โสตวิญฺญาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส
ฆานญจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ ฆานวิญฺญาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส
ชิวฺหญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺ ปชฺชติ หิวฺหาวิญฺญาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส
กายญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺ ปชฺชติ กายวิญฺญาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส
มนญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺ ปชฺชติ มโนวิญฺญาณํ ติณฺณํ สงฺคติ ผสฺโส

ซี่งแปลว่า
จักขุวิญญาณย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัย จักขุปสาทกระทบกับรูปารมณ์
มาประชุมพร้อมกันระหว่าง จักขุปสาท และ จักขุวิญญาณทั้ง ๓ นี้
แหละชื่อว่า ผัสสะ
โสตวิญญาณ ฯลฯ...............
ฆานวิญญาณ ฯลฯ...............
ชิวหาวิญญาณ ฯลฯ..............
กายวิญญาณ ฯลฯ...............
มโนวิญญาณย่อมปรากฏขึ้นได้เพราะอาศัย ภวังคจิตกระทบกับธัมมารมณ์
การประชุมพร้อมกันระหว่าง ภวังคจิต ธัมมารมณ์และ มโนวิญญาณทั้ง ๓ นี้
แหละชื่อว่า ผัสสะ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ธ.ค. 2024, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


สฬายตนะเป็นปัจจัยแก่ ผัสสะนี้ เมื่อกล่าวโดยภูมิ คือ กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ
แล้วดังนี้
ในกามภูมิ ๑๑ มีอัชฌัตติกายตนะได้ครบทั้ง ๖ ผัสสะก็ย่อมเกิดได้ครบทั้ง ๖ เหมือนกัน
ในรูปภูมิ ๑๕ (เว้นอสัญญสัตตภูมิ ๑) มีอัชฌัตติกายตนะเพียง ๓ คือ จักขวายตนะ
โสตายตนะ และ มนายตนะ เท่านี้ จึงได้ผัสสะเพียง ๓ เท่ากัน คือ จักขุสัมผัสสะ โสตสัมผัสสะ
และ มโนสัมผัสสะ
ในรูปภูมิอีก ๑ คือ อสัญญสัตตภูมิ ไม่มีอัชฌัตติกายตนะเลยแม้แต่สักอย่างเดียว ดังนั้น
ผัสสะทั้ง ๖ จึงไม่เกิดมีในภูมินี้เลย
ในอรูปภูมิ ๔ มี อัชญัตติกายตนะ เพียง ๑ คือ มนายตนะ จึงมี ผัสสะเพียง
มโนสัมผัสสะ เท่ากัน

ปัจจัย ๒๔ เกี่ยวแก่สพายตนะ

ในบท สฬายตนะ เป็นปัจจัยแก่ ผัสสะนี้ มีปัจจัย ๒๔ เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
ก. จักขวายตนะ เป็นปัจจัยแก่ จักขุสัมผัสสะ ก็ด้วยอำนาจแห่งปัจจัย ๖ ปัจจัย คือ
๑. นิสสยปัจจัย ๒. ปุเรชาตปัจจัย
๓. อินทริยปัจจัย. ๔. วิปปยุตตปัจจัย
๕.อัตถิปัจจัย ๖. อวิคตปัจจัย

ข. โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่ โสตสัมผัสสะ
ค. ฆานายตนะ เป็นปัจจัยแก่ ฆานสัมผัสสะ
ง. ชิวหายตนะ เป็นปัจจัยแก่ ชิวหาสัมผัสสะ
จ. กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่ กายสัมผัสสะ
ทั้ง ๔ นี้ ก็ด้วยอำนาจแห่ง ปัจจัย ๖ ปัจจัย เท่ากันและเหมือนกันกับข้อ ก.
ทุกประการ
ฉ. มนายตนะ เป็นปัจจัยแก่ มโนสัมผัสสะ ก็ด้วยอำนาจแห่งปัจจัย ๙ ปัจจัย คือ
๑. สหชาตปัจจัย. ๒. อัญญมัญปัจจัย ๓. นิสสยปัจจัย
๔. วิปากปัจจัย. ๕. อาหารปัจจัย ๖. อินทริยปัจจัย
๗.สัมปยุตตปัจจัย ๘. อัตถิปัจจัย ๙.อวิคตปัจจัย
ในบรรดาปัจจัยเหล่านี้ ล้วนได้อธิบายความหมายมาแล้วในบทก่อนๆทั้งนั้น จึง
ไม่ต้องกล่าวซ้ำในที่นี้อีก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร