ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
กัมมปัจจัย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=65212 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 24 ธ.ค. 2024, 16:52 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | กัมมปัจจัย | ||
.. ๑๓. กัมมปัจจัย กรรม หมายถึงการจงใจกระทำ องค์ธรรมได้แก่ เจตนาเจตสิก ดังที่อัฏฐสาลินี อรรถกถาแสดงไว้ เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วิตามิน เจยิตฺวา กมฺมํ กโรติ กาเยนะ วาจา มนสา ซึ่งแปลเป็นใจความสำคัญ ภิกษุทั้งหลาย เรา(ตถาคต) กล่าวว่า เจตนา นั่นแหละ เป็นกรรม เมื่อมีเจตนาแล้ว บุคคลย่อมกระทำกรรมโดยทางกาย ทางวาจา และทางใจ เจตนา ที่เป็นตัวกรรมนั้น มี กิจฺจ หรือ สตฺติ อำนาจหน้าที่ ๒ อย่าง คือ ๑. เจตนา คือ ความจงใจในสัมปยุตตธรรมที่เป็น กุศล อกุสล วิบาก กิริยา ทุกๆ ขณะที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัจจัย ช่วยอุปการะให้เกิดกุสลนามขันธ์ ๔. อกุสลนามขันธ์ ๔ วิบาก นามขันธ์๔ และ กิริยานามขันธ์ ๔ ดังนี้เรียกตาม กิจ หรือ สัตติ คือ อำนาจหน้าที่ว่าเป็น สังวิธานกิจ หมายความว่า จะปรุงแต่ง จัดแจง ให้สำเร็จกิจนั้น ๆ เรียกตามปัจจัย คือตาม ความอุปการะช่วยเหลือก็เป็น สหชาตกัมมปัจจัย หมายถึง เจตนาที่เกิดพร้อมในขณะเดียวกัน กับ สัมปยุตตธรรม คือ เกิดในกาลปัจจุบัน ๒. เจตนา คือความจงใจในสัมปยุตตธรรม เฉพาะที่เป็นกุศลและอกุสลเท่านั้น ที่ดับไปแล้ว แต่อำนาจแห่งเจตนานั้นเป็นปัจจัยช่วยอุปการะให้เกิดผลวิบากและกัมมชรูป ในอนาคต อย่างนี้เรียกตามกิจ หรือ สัตติ อำนาจหน้าที่ ว่าเป็น พีชนิธานกิจ หมาย ความว่า ยังให้เกิดพืชพันธุ์ขึ้น เรียกตามปัจจัย คือ ตามความอุปการะช่วยเหลือ ว่าเป็น นานักขณิกกัมมปัจจัย หมายถึงเจตนาที่เกิดในขณะที่ต่าง ๆ กัน เกิดในกาลอนาคต ที่เป็น ปฏิสนธิก็ได้ ที่เป็นปวัตติกาลก็ได้ รวมได้ความว่า กัมมปัจจัยนี้ จำแนกออกได้เป็น ๒ คือ สหชาตกัมมปัจจัย และ นานักขณิกกัมมปัจจัย แต่ละปัจจัยมีความหมายสั้น ๆ ดังนี้ ก. เจตนา ที่สัมปยุตตกับสหชาตธรรม เป็นปัจจัย ช่วยอุปการะแก่นาม คือ จิต เจตสิก และแก่รูป ที่เกิดพร้อมกับเจตนานั้น อย่างนี้ได้ชื่อว่า สหชาตกัมมปัจจัย ข. เจตนาที่ต่างขณะกัน คือเจตนานั้นหรือกรรมนั้นหรือสหชาตกัมมนั้นได้ดับไปแล้ว เป็นปัจจัยช่วยอุปการะแก่นาม และแก่รูปที่เกิดขึ้นในอนาคตโดยอาศัยอำนาจแห่งกรรมที่ ดับไปแล้วนั้น อย่างนี้ได้ชื่อว่า นานักขณิกกัมมปัจจัย
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 24 ธ.ค. 2024, 18:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กัมมปัจจัย |
๑๓ สหชาตกัมมปัจจัย ๑. สหชาตกัมม หมายความว่า เจตนาที่เกิดพร้อม ๒. ประเภท นามเป็นปัจจัย นามรูปเป็นปัจจยุบบัน ๓. ชาติ เป็นสหชาตชาติ หมายความว่า ปัจจัยธรรมกับปัจยุบบัน ธรรมเกิดพร้อมกันในจิตดวงเดียวกัน ๔. กาล เป็นปัจจุบัน หมายความว่าทั้งปัจจัยและปัจจยุบบันต่างก็ยังไม่ ทันดับไป ๕. สัตติ มีทั้ง ชนกสัตติ และอุปถัมภกสัตติ ๖. องค์ธรรมของปัจจัย ได้แก่ เจตนาเจตสิก ๘๙ ที่ในจิต ๘๙ องค์ธรรมของปัจจุยุบบัน ได้แก่ จิต ๘๙ เจตสิก ๕๑ (เว้นเจตนา) จิตตรูป ปฏิ- สนธิกัมมชรูป องค์ธรรมของปัจจนิก ได้แก่ เจตนาเจตสิก ๘๙ ที่ในจิต ๘๙, และ พาหิรรูป, อาหารชรูป, อุตุชรูป, อสัญญสัตตกัมมชรูป, ปวัตติกัมชรูป ๗. ความหมายโดยย่อ สหชาตกัมมปัจจัยนี้ มี ๗ วาระ (๑) กุสลเป็นปัจจัยแก่กุสล เจตนาเจตสิก ๒๑ ที่ในกุสลจิต ๒๑ เป็นสหชาตกันม ปัจจัย กุสลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๗ (เว้นเจตนา) เป็นสหชาตกัมมปัจจยุบบัน (๒) กุสลเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ เจตนาเจตสิก ๒๑ ที่ในกุสลจิต ๒๑ในปัญจโวการภูมิ เป็นสหชาตปัจจัย จิตตชรูปที่มีกุสลนามขันธ์ ๔ เป็นสมุฏฐานนั้น เป็นสหชาตกัมมปัจจยุบบัน (๓) กุสลเป็นปัจจัยแก่กุสลด้วยแก่อยากตะด้วย เจตนาเจตสิก ๒๑ ที่ในกุสลจิต ๒๑ ในปัญจโวการภูมิ เป็นสหชาตกัมมปัจจัย กุสลจิต ๒๑ เจตสิก ๓๗ (เว้นเจตนา)ด้วย และจิตตชรูป ซึ่งมีกุสลนามขันธ์ ๔ เป็นสมุฏฐานนั้นด้วย เป็นชาตกัมมปัจจยุบบัน (๔) อกุสลเป็นปัจจัยแก่อกุสล เจตนาเจตสิก ๑๒ ที่ในอกุสลจิต ๑๒ เป็นสหชาต กัมมปัจจัย อกุสลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๖ (วันเจตนา) เป็นสหชาตกัมมปัจจยุบบัน (๕) อกุสลเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ เจตนาเจตสิก ๑๒ ที่ในอกุสลจิต ๑๒ ใน ปัญจโวการภูมิ เป็นสหชาตกัมมปัจจัย จิตตชรูป ซึ่งมีอกุสลนามขันธ์ ๔ เป็นสมุฏฐานนั้น เป็นสหชาตกัมมปัจจยุบบัน |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ธ.ค. 2024, 05:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กัมมปัจจัย |
(๖) อกุสลเป็นปัจจัยแก่อกุสลด้วย เจตนาเจตสิก ๑๒ ที่ในอกุสล จิต ๑๒ ในปัญจโวการภูมิ เป็นสหชาดกัมมปัจจัย อกุสลจิต ๑๒ เจตสิก ๒๖ (เว้นเจตนา) ด้วย และ จิตตชรูป ซึ่งมีอกุสลนามขันธ์ ๔ เป็นสมุฏฐานนั้นด้วย เป็นสหขาตกัมม ปัจจยุบบัน (๗) อพยากตะเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ เจตนาเจตสิกที่ในวิบากจิต ๓๖ และที่ใน กิริยาจิต ๒๐ ในปวัตติกาลและในปฏิสนธิกาลตามสมควร เป็นสหชาตกัมมปัจจัย วิบากจิต ๓๖ กิริยาจิต ๒o เจตสิก ๓๗ (เว้นเจตนา) วิบากจิตตชรูปกิริยาจิตตชรูป ในปวัตติกาล และปฏิสนธิกัมมชรูป ในปฏิสนธิกาล เป็นสหชาตกัมมปัจยุบบัน ๘. ปัจจัยที่เกิดร่วมด้วยกันได้ รวม ๑๐ ปัจจัย คือ ๑. สหชาตกัมมปัจจัย ๒. สหชาตปัจจัย ๓. อัญญมัญญปัจจัย ๔. สหชาตนิสสยปัจจัย ๕. วิปากปัจจัย ๖. นามอาหารปัจจัย ๗. สัมปยุตตปัจจัย ๘. สหชาตวิปปยุตตปัจจัย ๙. สหชาตัตถิปัจจัยม ๑๐. สหชาตอวิคดปัจจัย นานักขณิกกัมมปัจจัย เมื่อขณะกระทำทุจริตก็ดี สุจริตก็ดี เจตนาที่เกิดพร้อมกับอกุสลจิตหรือกุสลจิตนั้น เป็นสหชาตกัมมปัจจัย ครั้นอกุสลจิตหรืออกุสลจิตพร้อมด้วยเจตนานั้น ๆ ดับไปแล้ว เจตนา นั้นก็มีสภาพกลับกลายเป็น นานักขณิกกัมมปัจจัย มีอำนาจหน้าที่ให้บังเกิดผลแก่ผู้ นั้นในอนาคตกาล ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ทั้งไนปวิตติกาลและปฏิสนธิกาล นานักขณิกกรรม ที่เป็นกุศล อกุสลนั้น มีอยู่ในสันดานด้วยกันทั้งนั้น แต่เมื่อ ขณะที่จะส่งผลให้ปรากฏขึ้น ย่อมอาศัย กาล คติ อุปธิ และ ปโยคะ เป็น เครื่องประ- กอบด้วย คือ ก.กาล หมายถึง คราว สมัย ในสมัยใดที่พระพุทธศาสนารุ่งเรื่องผู้ปกครอง ประเทศ ปกครองด้วยความมีศีลธธรรมเป็นที่ตั้ง อย่างนี้เรียกว่ากาลสัมปัตติ ถ้าเป็นไป อย่างตรงกันข้าม ก็เรียกว่า กาลวิปัตติ ข. คติ หมายถึงว่า ผู้ที่เกิดอยู่ในสุคติภูมิ มีมนุษย์ เทวดา พรหม ก็เรียกว่า คติสัมปัตติ ผู้ที่เกิดในทุคติภูมิ เป็น สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสูรกาย เหล่านี้ เรียกว่านี้ คติวิปัตติ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ธ.ค. 2024, 06:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กัมมปัจจัย |
ค. อุปธิ หมายถึง ผู้มือวัยวะ หรืออาบตนะ มี หู ตา เป็นต้น ครบถ้านบริบูรณ์ เรียกว่า อุปธิสัมปัตติ ถ้าขาดตกบกพร่อง ไม่สมบูรณ์ ก็เรียกว่า อุปธิวิปัตติ ง. ปโยคะ หมายถึง ความเพียร ผู้ที่เพียรชอบ ประกอบแต่กาย วาจา ใจ สุจริต เช่นนี้เรียกว่า ปโยคสัมปัตติ ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ก็เรียกว่า ปโยคปัตติ ในปวัตติกาล ขณะใด้ป็นผู้มีสัมปัตติ ขณะนั้นนานักขณิกกรรมกุสลกรรมย่อมไดัโอกาส ที่จะส่งผลให้ผู้นั้นได้ประสบกับอารมณ์ที่เป็นอิฏฐารมณ์ พร้อมทั้งได้รับกัมมชรูป อันเป็น ที่น่ารักน่าปรารถนา ถ้าขณะใดมี วิปัตติ ขณะนั้น นานักขณิกกรรมที่เป็นอกุศล ย่อมได้ โอกาสส่งผลให้ผู้นั้นประสบกับอนิฏฐารมณ์ พร้อมทั้งได้รับกัมมชรูปที่ไม่น่ารักน่าปรารถนา ส่วนในปฏิสนธิกาล สัตว์ทั้งหลายย่อมได้รับทันที ในขณะที่ปฏิสนธิ คือ อกุสล นานักขนิกกรรม ก็ส่งผลให้ปฏิสนธิในอบายภูมิ ถ้าเป็นกุสลนานักขนิกกรรม ก็ส่งผลให้ ปฏิสนธิเป็น มนุษย์ เทวดา พรหม ตามสมควรแก่กรรมของตนในอดีต ๑. นานักขณิกกรรม หมายความว่า เจตนาในขณะที่ต่างกัน ๒. ประเภท นามเป็นปัจจัย นามรูปเป็นปัจยุบบัน ๓. ชาติ ในปัจจัยนี้ มีถึง ๓ ชาติ คือ ก. อนันตรูปนิสสยปกตูปชาติ หมายความว่า ปัจจัยธธรรมกับปัจจยุบบันนธรรม นั้นเกิดติดต่อกันโดยไม่มีระหว่างคั่นนั้นอย่างหนึ่ง, ปัจจัยธรรมนี้เป็นที่อาศัยอันมีกำลังอย่าง แรงกล้าแก่ปัจจยุบบันนธรรมอย่างหนึ่ง และปัจจัยธรรมอันเป็นที่อาศัยอย่างแรงกล้าที่ได้ทำ มาแล้วด้วยดีนั้น ช่วยอุปการะแก่ปัจยุบบันนธรรมอีกอย่างหนึ่ง ทั้ง ๓ นี้ ได้แก่ มัคคเจตนา ที่เป็นปัจจัยให้เกิดผลจิต ข. ปกตูปนิสสยชาติ หมายความว่า ปัจจัยธรรมอันเป็นที่อาศัยอย่างแรงกล้าที่ได้ ทำมาแล้วด้วยดีนั้น ช่วยอุปการะมาปัจจยุบบันนธรรมให้เกิดขึ้นได้แก่เจตนาเจตสิกที่มีกำลัง มากช่วยอุปการะให้เกิดวิบากนามขันธ์ ๔ ค. นานักขณิกกัมมชาติ หมายความว่า ปัจจัยธรรมที่เป็นอดีต คือ ที่ดับไปแล้วนั้น มีอำนาจให้เกิดปัจจยุบบันนธรรมในภายหลัง ได้แก่ เจตนาเจตสิกที่มีกำลังน้อย (ทุพละ) เป็นปัจจัยช่วยอุปการะแก่กามวิบากจิตให้เกิดขึ้น และเจตสิกที่มีกำลังมาก (พลวะ) และกำลัง น้อย (ทุพละ) เป็นปัจจัยช่วยอุปการะ แก่ กัมมชรูป ให้เกิดขึ้น ๔. กาล เป็นอดีตกาล |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ธ.ค. 2024, 06:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: กัมมปัจจัย |
๕. สัตติ เป็นชนกสัตติ แต่อย่างเดียว ๖.องค์ธรรมของปัจจัย ได้แก่ เจตนาเจตสิกที่ในอกุสลจิต ๑๒ และที่ในกุสลจิต ๒๑ ที่เป็นอดีต คือที่ได้ดับไปแล้ว องค์ธรรมของปัจยุบบัน ได้แก่ วิบากจิต ๓๖ เจคสิก ๓๘ ปฏิสนธิกรรมชรูป อสัญญสัตตกัมมชรูป ปวัตติกัมมชรูป องค์ธรรมของปัจจนิก ได้แก่ อกุสลจิต ๑๒ กุสลจิต ๒๑ กิริยาจิต ๒๐ เจตสิก ๕๒ จิตตชรูป พาหิรรูป อาหารรูป อุตุชรูป ๗. ความหมายโดยย่อ นานักขณิกกัมมปัจจัยนี้ มี ๒ วาระ (๑) กุศลเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ กุสลเจตนา ๒๑ ในกุสลนามขันธ์ ๔ ที่เป็นอดีต เป็นนานักขนิกกัมมปัจจัย กุสลวิบากจิต ๒๙ เจตสิก ๓๘ และ กันมชรูป เป็นนานัก- ขนิกกัมมปัจจยุบบัน (๒) อกุสลเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ อกุสลเจตนา ๑๒ ในอกุสลนามขันธ์ ๔ ที่เป็น อดีต เป็นนานักขณิกกัมมปัจจัย อกุสลวิบากจิต ๗ อัญญสมานาเจตสิก ๑๐ (เว้น วิริยะ ปีติ ฉันทะ) และกัมมชรูป เป็นนานักขณิกกัมปัจจยุบบัน ๘. ปัจจัยที่เกิดร่วมด้วยกันได้ รวม ๗ ปัจจัย คือ ๑. นานักขณิกกัมมปัจจัย ๒. อนันตรปัจจัย ๓. สมนันตรปัจจัย ๔. อนันตรูปนิสสยปัจจัย ๕. ปกตูนิสสยปัจจัย ๖. นัตถิปัจจัย ๗. วิคตปัจจัย |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |