วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 19:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2009, 21:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

:b8:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2009, 22:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุกับคุณฌาณด้วยครับ

แต่ผมสงสัยว่าหมื่นตาทำไมมีดวงเดียวเองครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2009, 22:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ชื่อของหมื่นตาดัดแปลงมาจากชื่อของคุณหมอเบส
บล็อกของคุณหมอชื่อ Dr.Manta

จากแมนต้าเป็นหมื่นตาครับ หุหุหุ
เล่นกันง่ายๆแบบนี้เลย 55555

:b4:

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2009, 22:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 21:34
โพสต์: 56


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาด้วยค่ะ :b8:

.....................................................
๐ การเป็นผู้ฟังบ้างก็ไม่เสียหายอะไร จะได้รู้ว่าสิ่งที่เข้าใจมากนั้นผิดหรือถูก ๐


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ค. 2009, 22:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 03:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณฌาณ

ขอบคุณธรรมะดีดีที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ
คุณฌาณมีรูปสวยๆ ข้อความอ่านง่ายๆ เนื่อหาดีๆมาฝากกันบ่อยๆ
จะรอและติดตามอ่านอีกนะคะ

เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

:b16: cool :b36:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 06:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: เจริญตา เจริญใจ ค่ะ คุณฌาณ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 06:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อภัยทาน คืออย่างไร ?

รูปภาพ

อภัยทาน ก็คือการยกโทษให้
คือการไม่ถือความผิดหรือการล่วงเกินกระทบกระทั่งว่าเป็นโทษ


อภัยทานนี้เป็นคุณแก่ผู้ให้ ยิ่งกว่าแก่ผู้รับ เช่นเดียวกับทานทั้งหลายเหมือนกัน คืออภัยทานหรือการให้อภัยนี้ เมื่อเกิดขึ้นในใจผู้ใด จะยังจิตใจของผู้นั้นให้ผ่องใสพ้นจากการกลุ้มรุมบดบังของโทสะ

อันใจที่แจ่มใส กับใจที่มืดมัว ไม่อธิบายก็น่าจะทราบกันอยู่ทุกคนว่าใจแบบไหนที่ยังความสุขให้เกิดขึ้นแก่เจ้าของ ใจแบบไหนที่ยังความทุกข์ให้เกิดขึ้น และใจแบบไหนที่เป็นที่ต้องการ ใจแบบไหนที่ไม่เป็นที่ต้องการเลย


ความจริงนั้น ทุกคนที่สนใจบริหารจิต จะต้องสนใจอบรมจิตให้รู้จักอภัยในความผิดทั้งปวง ไม่ว่าผู้ใดจะทำแก่ตน แม้การให้อภัยจะเป็นการทำได้ไม่ง่ายนัก สำหรับบางคนที่ไม่เคยอบรมมาก่อน แต่ก็สามารถจะทำได้ด้วยการอบรมไปทีละเล็กละน้อย เริ่มแต่ที่ไม่ต้องฝืนใจมากนักไปก่อนในระยะแรก

ตัวอย่างเช่น เวลาขึ้นรถประจำทางที่มีผู้โดยสารคอยขึ้รถอยู่เป็นจำนวนมาก หากจะมีผู้เบียดแย่งขึ้นหน้า ทั้งๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ถ้าเกิดโกรธขึ้นมาไม่ว่าน้อยหรือมาก ก็ให้ถือเป็นโอกาสอบรมจิตใจให้รู้จักอภัยให้เขาเสีย เพราะเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรถือโกรธกันหนักหนา เป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกินควรจะอภัยให้กันได้ แต่บางที่ไม่ตั้งใจคิดเอาไว้ก็จะไม่ทันให้อภัยจะเป็นเพียงโกรธแล้วจะหายโกรธไปเอง

โกรธแล้วหายโกรธเอง กับโกรธแล้วหายโกรธเพราะให้อภัย ไม่เหมือนกัน โกรธแล้วหายโกรธเองเป็นเรื่องธรรมดา ทุกสิ่งเมื่อเกิดแล้วต้องดับ ไม่เป็นการบริหารจิตแต่อย่างใด แต่โกรธแล้วหายโกรธเพราะคิดให้อภัย เป็นการบริหารจิตโดยตรง จะเป็นการยกระดับของจิตให้สูงขึ้น ดีขึ้น มีค่าขึ้น

ผู้ดูแลเห็นความสำคัญของจิต จึงควรมีสติทำความเพียรอบรมจิตให้คุ้นเคยต่อการให้อภัยไว้เสมอ เมื่อเกิดโทสะขึ้นในผู้ใดเพราะการปฏิบัติล้วงล้ำก้ำเกินเพียงใดก็ตาม พยายามมีสติพิจารณาหาทางให้อภัยทานเกิดขึ้นในใจให้ได้ ก่อนที่ความโกรธจะดับไปเสียเองก่อน

ทำได้เช่นนี้จะเป็นคุณแก่ตนเองมากมายนัก ไม่เพียงแต่จะทำให้มีโทสะลดน้อยลงเท่านั้น และเมื่อปล่อยให้ความโกรธดับไปเอง ก็มักหาดับไปหมดสิ้นไม่ เถ้าถ่านคือความผูกโกรธมักจะยังเหลืออยู่ และอาจกระพือความโกรธขึ้นอีกในจิตใจได้ในโอกาสต่อไป

ผู้อบรมจิตให้คุ้นเคยอยู่เสมอกับการให้อภัย แม้จะไม่ได้รับการขอขมา ก็ย่อมอภัยให้ได้ ในทางตรงกันข้าม ผู้ไม่เคยอบรมจิตใจให้คุ้นเคยกับการให้อภัยเลย โกรธแล้วก็ให้หายเอง แม้ได้รับการขอขมาโทษ ก็อาจจะไม่อภัยให้ได้ เป็นเรื่องของการไม่ฝึกใจให้เคยชิน

อันใจนั้นฝึกได้ ไม่ใช่ฝึกไม่ได้ ฝึกอย่างไดก็จะเป็นอย่างนั้น ฝึกให้ดีก็จะดี ฝึกให้ร้ายก็จะร้าย...


:: การบริหารจิตสำหรับผู้ใหญ่
:: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 07:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


อภัยทาน

การอภัยคนเป็นสิ่งที่ต้องมีอยู่ทุกๆ วัน

เมื่อรู้จักอภัยคนจิตใจก็จะใสสว่างขึ้นทุกวัน

ถอยหนึ่งก้าวไม่ใช่ถอยออกมาจากคนกลุ่มนั้น

แต่ให้ถอยออกมาจากอารมณ์ของตน

โดยไม่ต้องมีเหตผุลอะไรทั้งสิ้น อย่าบอกว่าทำไม่ได้


(พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา ที่ สกุลอู๋ อเมริกา ๒๙ ส.ค. ๒๕๔๒)

รูปภาพ

มนุษย์ทุกคนเกิดมาต่างเคยทำผิด

เพียงแต่โลกนี้ขาดแคลนคนอภัย

ความผิดครั้งเดียวลบล้างความดีร้อยครั้งทิ้ง

สมควรหรือไม่ (ไม่) ฉะนั้นแม้ความผิดครั้งเดียว

จะเป็นความผิดที่ใหญ่กว่าสิ่งที่เขาทำดีร้อยครั้งนั้น

เราก็ยังต้องมีใจกว้างพร้อมที่จะอภัย

ถ้าเราไม่รู้จักอภัยคนอื่น

แล้วคนอื่นจะอภัยตัวเราได้อย่างไร


(พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา ที่ ผู่ถี พิษณุโลก ๑๑ ธ.ค. ๒๕๔๒)

รูปภาพ

“อภัยคนในสิ่งที่ยากอภัย

อดทนในสิ่งยากทนยอาจารย์จี้กงเมตตา ที่ ผู่ถี พษฯ่อมส่งผล

หัดบำเพ็ญบรรลุเป็นคนเหนือคน

สุกงอมผลคืนหรือเวียนอยู่ที่ตน”


(พระโอวาทท่านองค์ประธานคุมสอบสามภูมิเมตตา ที่ เซิ่งเต๋อ ประจวบฯ ๔ ธ.ค.๒๕๔๒)

บ่อยครั้งที่พยายามทำทุกอย่าง ดีกับเขาสารพัด

แต่สิ่งที่ตอบแทนกลับมาคือคำด่า

แต่พระพุทธองค์ถูกทำร้ายถึงขนาดโดนฆ่า โดนว่า

แต่ท่านก็ไม่ถือโกรธ พร้อมจะฝึกเมตตาให้อภัย

เมื่อไรที่เราพร้อมจะฝึกเมตตาให้อภัย

เมื่อนั้นก็ได้ย่างก้าวฝึกการเป็นพุทธะ


(พระโอวาทท่านแปดเซียนหันเซียงจื่อเมตตา ที่ จินจง พิจิตร ๑๑ ม.ค. ๒๕๔๓ )

รูปภาพ

บางคนบำเพ็ญธรรม แต่ทำตัวลับๆ ล่อๆ ดูแล้วไม่สง่างาม

เมื่อเราเป็นคนเปิดเผยก็ต้องรู้จักที่จะให้อภัยคน

จึงจะเพิ่มความมีราศี เพิ่มบารมี

และสง่างามเหมือนปราชญ์ได้

เพราะฉะนั้นปราชญ์เปิดเผย จริงใจ อภัยคนให้จำไว้


(พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา ที่ จินจง พิจิตร ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๓)

บางครั้งคนอื่นทำให้เราโมโห บางครั้งเราก็โมโหคนอื่น

แต่เมื่อเขาทำผิดต้องให้อภัยเขา

อย่าได้เอามาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะปากที่เราพูด

เมื่อไรที่เห็นคนผิดต้องคิดว่า แม้แต่ตัวเราก็ยังผิดได้

คนอื่นก็ผิดบ้างเป็นธรรมดาต้องพร้อมที่จะให้โอกาสเขา

ทำความดี และให้เวลาเขา เพื่อจะเป็นคนใหม่

หากศิษย์น้องทำได้ คนในโลกนี้แม้จะทำผิดพลาด

ก็พร้อมที่จะลุกขึ้นยืน

แล้วเดินต่อไปข้างหน้าด้วยกำลังใจที่เกิดจากเรา



(พระโอวาทพระนาจาเมตตา ที่ ฉือฮุ่ย นครศรีฯ ๑๘ มี.ค. ๒๕๔๓)

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 07:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.ค. 2008, 14:47
โพสต์: 1562

อายุ: 0
ที่อยู่: หิมพานต์

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

“ใครเกิดมาดีพร้อม”

ส่วนมากทุกคนต่างมีทั้งข้อดี ข้อเสีย

คนอื่นก็เหมือนกัน มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

การอยู่ร่วมกันเราย่อมให้อภัยเขาได้

เมื่อไรฟังแล้วไม่ถูกหู มองแล้วไม่ถูกตา

ต้องคิดว่านั่นคือความไม่สมบูรณ์ของเขา

ให้อภัยเข้าใจเราถึงมีสุข

และอยู่ร่วมกับเขาได้อย่างฉันท์มิตร

(พระโอวาทพระนาจาเมตตา ที่ ผู่ถี พิษณุโลก ๑๕ พ.ค. ๒๕๔๒)

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

ฉะนั้นการให้อะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับการให้อภัย


(พระโอวาทท่านต้าเซี่ยวฝอถงเมตตา ที่ เจาหยู เซียงใหม่ ๘ ก.ค. ๒๕๔๓)

การให้อภัยหนึ่งวันไม่สามารถลบล้าง

ความเกลียดหนึ่งชีวิตได้

เหมือนเขาอภัยท่านหนึ่งครั้งจะสามารถล้างความเกลียด

ที่ท่านเคยมีมาเป็นปีๆ นั้นได้หรือไม่ (ไม่ได้)

เช่นเดียวกับเอาน้ำความดีหนึ่งขัน

มาราดความชั่วหรือความสกปรกที่สะสมมานาน

จะล้างได้หมดไหม


(พระโอวาทท่านแปดเซียนหลันไฉ่เหอเมตตา ที่ หมิงฮุย ลพบุรี ๑๕ มี.ค. ๒๕๔๓

รูปภาพ

ถ้าหากว่ามีคนๆ หนึ่ง

อยากจะปรับเปลี่ยนตนเองให้ดียิ่งขึ้น

แต่อีกฝ่ายก็ยังมองแต่สิ่งเก่า ๆ อย่างนี้ไม่ยุติธรรม

อาจารย์จึงอยากสอนให้ศิษย์นั้นลืมตาให้กว้าง ๆ

เพื่อเป็นการมองให้เห็นชัด

ในเมื่อตานั้นมองได้แต่ข้างหน้า มองข้างหลังไม่ได้

เมื่อตามีองศาอยู่แค่นี้ ก็จำเป็นที่จะต้องลืมตาให้กว้าง

เพื่อมองหน้าให้ถึงหลัง

มองบนให้ถึงล่างด้วยตาเล็กๆ นี้แหละ

ภายในหนึ่งปี ถ้าเราทำดีคงไว้ ร้ายขจัดได้อย่างจริงจัง

คนที่เคยเกลียดก็จะเปลี่ยนมารักเรา แต่อย่ารู้สึกท้อใจ

หากในที่สุดเขาก็ไม่ยอมที่จะมองเห็นสิ่งดีของเรา

นั่นอาจแสดงว่าความไม่ดีที่เราทำไว้

กับคนๆ นั้นอาจจะมากเกินไป


(พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา ที่ ผู่ถี พิษณุโลก ๑๑ ธ.ค. ๒๕๔๓)

รูปภาพ

ศิษย์ต้องรู้จักให้อภัย อันว่าโซ่นั้นยิ่งต่อก็ยิ่งยาว

หากศิษย์นั้นไม่ไปต่อกับผู้อื่น

แต่กลับตัดเสีย ๑ ห่วงก็จะสั้นลง

แล้วโซ่ที่แข็งแรงเส้นนั้นก็จะไม่กลับมามัดเรา

ยืมโอกาสที่คนอื่นนั้นให้ร้าย แล้วกลับมาให้โอกาสตัวเอง

ด้วยการปลดโซ่ไม่ทำกรรมต่อ

ยังปลดโซ่ที่ไปเกี่ยวกับคนอื่นทิ้งด้วย

ปกติการปลดโซ่นั้นได้ทีละ ๑ ข้อ

แต่การปลดโซ่ของศิษย์ครั้งนี้ได้ทีเดียว ๒ ข้อ ยิ่งคุ้มค่า

หากไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ ถือว่าเป็นคนโง่


(พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา ที่ ฉงเต๋อ กาญจนบุรี ๑๕ มี.ค. ๒๕๔๑)

รูปภาพ

อย่าได้เรียกร้องทุกอย่างที่เราเห็น

ทุกอย่างที่เราจับได้ ว่าจะต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป

เพราะตัวเราเองก็มีทั้งความดีและความชั่วอยู่ในใจ

คนอื่นที่เรามอง เขาก็อาจจะมีข้อบกพร่องได้

ถ้าหากว่าเราเรียกร้องจากคนอื่นว่า

เขาต้องสมบูรณ์ ๑๐๐ %

ตัวเราก็ต้องสมบูรณ์ ๑๐๐% เหมือนกัน

ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็จงอย่าไปเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้


(พระโอวาทพระพฤฒาชันษาแห่งทักษิณาลัยเมตตา ที่หยูซื่อ อเมริกา ๑๐ ก.ย. ๒๕๔๓)

การอยู่ร่วมกันต้องรู้จักอดทนและมีความสามัคคี

การให้อภัยเกิดก่อนความสามัคคี

หากศิษย์นั้นรู้จักทำใจ รู้จักอดทน อดกลั้น

รู้จักให้อภัย รู้จักเสียสละบ้าง

สิ่งเหล่านี้จะทำให้ศิษย์เป็นผู้ที่อยู่เหนือคน


(พระโอวาทพระอาจารย์จี้กงเมตตา ที่ ไท่อิน กรุงเทพฯ ๒๑ ก.ค. ๒๕๔๐)

รูปภาพ

คิดจะทำสิ่งใดขอให้พินิจไตร่ตรองให้ดีว่า

มีคุณค่าเหมาะสมไหม

หากมีสิ่งที่เราผิดพลาดอยู่ก็อย่าได้ว่าผู้อื่น

เมื่อไรที่เราให้อภัยตนเองได้

ก็ต้องพร้อมที่จะให้อภัยผู้อื่นได้

การให้ที่ไม่ต้องเสียแรงกาย คือ การให้อภัย

การให้อภัยจะทำให้โลกสันติ ทำให้จิตใจผ่องแผ้ว

ปลอดโปร่งสบายซึ่งดีกว่าผูกใจเจ็บ เก็บไว้ก็หนักหน่วงใจ

ฉะนั้นเมื่ออยู่ด้วยกันก็ให้อภัยกัน

ก่อนที่จะกล่าวโทษเขานั้น

ต้องถามตัวเองก่อนว่าเราทำผิดหรือไม่


(พระโอวาทท่านแปดเซียนหลันไฉ่เหอเมตตา ที่ เจิ้งซิน อุบล ๒๖ ก.ค. ๒๕๔๐)

คำว่า “อภัย” นี้ ถ้าทำได้ คนที่เป็นสุขก็คือตัวเราเอง

มีคำกล่าวว่า การปีนขึ้นภูเขานั้นปีนยาก

แต่การลงภูเขานั้นง่าย

การทำความดีก็เหมือนกับการปีนภูเขาที่ยากและเหนื่อย

ไม่เหมือนการลืนไถลที่ง่ายนิดเดียว

การปฎิบัติธรรมก็เช่นเดียวกันต้องพบอุปสรรค

บางครั้งเราเห็นคนอื่นทำผิดครั้งเดียว

ก็จะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าคนนี้คือคนที่เป็นแบบนี้

อันที่จริงเขาสามารถแก้ไขและเปลี่ยนแปลงได้

ฉะนั้นอย่าไปยึดติดว่าเขาเป็นแบบนี้ตลอดไป

สักวันเขาอาจจะพลิกกลับมาดีก็ได้

ส่วนคนที่ดีก็อาจจะพลิกกลับมาร้ายก็เป็นได้


(พระโอวาทพระนาจาเมตตา ที่ ไท่อิน กรุงเทพฯ ๑๙ ก.ค. ๒๕๔๐)

.....................................................
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ
ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต แด่พระพุทธเจ้า แด่พระธรรม แด่พระสงฆ์ นับแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2009, 15:36
โพสต์: 435

ที่อยู่: malaysia

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณ ณาณ :b8:
เป็นบทความธรรมะที่สาระดีมากค่ะ เพราะดิฉันคนหนึ่งที่พยายามเรียนรู้การให้อภัย ก็นานเหมือนกันกว่าจะสำเร็จ อ่านบทความแล้วนํ้าตาคลอเลยค่ะ ตอนนี้รู้แล้วค่ะ :b48: ความรักแท้คือการให้อภัย :b48:ขอขอบพระคุณค่ะ :b8: สำหรับบทความเพิ่มความรู้มากขึ้นค่ะ
ด้วยความเคารพ :b46: :b46: :b46:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2011, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8: :b20:

ขออนุญาตนำไปโพสต์ลงใน fb. Savikanoi Dhammajak ด้วยนะค่ะ
http://www.facebook.com/profile.php?id=1219966611
http://www.facebook.com/people/Savikanoi-Dhammajak/1219966611



ปล. คิดถึง “น้องฌาณ” จังเลย
หายหน้าหายตาไปจากลานธรรมจักร ซะนานแสนนานนนน

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2011, 17:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช่แค่ถูกใจ :b17: แต่เป็นความจริงอย่างยิ่ง ถ้าสังคมทุกคนให้อภัยซึ่งกันและกัน โลกใบนี้ก็สงบ
เพราะทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครล้วนแล้วแต่เคยทำผิดพลาดมาด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้ามีคำว่า ให้อภัยก็จะ
ไม่มีเวรมีภัยด้วยกัน และเป็นการบำเพ็ญบารมีขั้นสูงในด้านของ ทาน (อภัยทาน)ครับ
อนุโมทนาด้วยเป็นอย่างสูงครับ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2011, 20:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


ซาบซึ้งมากครับ

:b8: :b8:

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 เม.ย. 2011, 21:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณมากครับ

:b8: :b8:

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 15 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 60 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร