ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=22756 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ariyachon [ 02 มิ.ย. 2009, 23:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
หลายคนชอบบ่นเพ้อกับตัวเอง.. หรือกับผู้อื่นบ้างว่า.. ชีวิตนี้ฉันมีแต่ความทุกข์.. ไม่เคยพบเจอความสุขเลย.. และไม่เคยรู้เลยว่า..ความสุขเป็นเช่นไร..?? แต่ก็มีไม่กี่คน.. ที่เขาพบเจอความสุขอย่างแท้จริง.. เพียงเพราะรู้จักคำว่า..อดทน..และทำใจ.. ได้แก่..อดทนต่อความทุกข์ได้บ้าง.. ทำใจไม่ให้เป็นทุกข์บ้าง.. นั่นแหละเขาจึงจะได้พบเจอความสุข.. หากเราไม่รู้จักคำว่า..อดทน..และทำใจ.. ชีวิตนี้ทั้งชีวิต.. รับรองได้เลยว่า.. เขาจะไม่รู้จักคำว่า..ความสุขเป็นเช่นไร ?? เลย.. เพราะคนไม่เข้าใจคำว่า “สุข-ทุกข์” จึงหลงยึดผิด..คิดผิด.. ติดสมมติเพียงแค่..คำว่าสุข-ทุกข์ภายนอกเท่านั้น.. ความสุข-ความทุกข์.. คือ..สิ่งๆเดียวกันที่มีอยู่ในตัวตนของเรา.. และเป็นเพื่อนสนิทที่ติดตัวเรามาตลอด.. แต่อาจดูคล้ายกับว่า.. ความสุขนั้น..ออกจะเป็นเพื่อนเทียม.. ที่ไม่ค่อยมาเยี่ยมเยือนเราสักเท่าไหร่.. นาน ๆ ครั้งจึงจะหลงแวะมาเยี่ยมเยือนเรา.. ไม่เหมือนความทุกข์.. ที่เป็นเพื่อนแท้..ที่ติดสนิทติดตามเรา.. อยู่เคียงข้างเราเป็นประจำ.. คนจึงเกิดความทุกข์ขึ้นบ่อย ๆ.. แต่ถึงอย่างไรก็ตาม.. ระหว่างเพื่อนเทียม..คือ..ความสุข.. หรือจะเป็นเพื่อนแท้..คือ..ความทุกข์..ก็ตาม.. เพื่อนทั้ง ๒ คนนี้..ก็ได้ชื่อว่า.. เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา.. ที่มาช่วยสร้างสรรค์ชีวิตของเราให้มีรสชาด.. เพราะฉะนั้น.. ในชีวิตนี้..จึงตอบได้คำตอบที่เที่ยงแน่นอนว่า.. ไม่มีใคร..ไม่เคยมีทุกข์อย่างเดียว.. และก็ไม่มีใคร..ไม่เคยมีแต่ความสุขอย่างเดียว..เช่นกัน.. จะสุขหรือทุกข์.. อยู่ที่ใจเราเป็นผู้กำหนด.. และเลือกที่จะคบเพื่อนคนใด..ประเภทไหน.. บทความ..โดย..ชายน้อย.. ที่มา : dhammathai.org |
เจ้าของ: | คนไร้สาระ [ 03 มิ.ย. 2009, 03:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
![]() โพสต์หัวข้อ "รู้จักตัวเอง" ด้วยค่ะ รู้จักตัวเอง ![]() แต่ไม่เห็นตนเอง คนเรารู้จักแบ่งแยก รู้จักผู้อื่น รู้จักสิ่งต่างๆ แต่ไม่รู้จักตนเอง ![]() เห็นปมด้อยของผู้อื่น เห็นความโลภของผู้อื่น แต่ไม่เห็นความตระหนี่ของตนเอง เห็นความคิดไม่ดีของผู้อื่น แต่ไม่เห็นความเขลาของตนเอง ![]() ประวัติศาสตร์ ของสังคมรู้จักญาติพี่น้อง แต่ไม่รู้จักตนเอง ![]() เห็นความหล่อ ความงามความอัปลักษณ์ แต่มองไม่เห็นในจิตของตนเอง ![]() จิตตนเองได้ ความโลภ โกรธ หลงอิจฉาริษยา ความเห็นแก่ตัว ความคับแค้น คงจะมีหน้าตาอัปลักษณ์จนสุดทน ![]() “รู้จักโฉมหน้าดั้งเดิมของตนเอง” แล้วใครล่ะจะรู้จักโฉมหน้าที่แท้จริง ของตนเองจริงๆ ![]() ได้ส่วนเสีย ความสำเร็จความผิดหวัง ของผู้อื่น คอยต่อว่าผู้อื่นด้อย คุณธรรมด้อยการศึกษา ![]() ความรับผิดชอบ การดำรงชีวิตื หากไม่รู้จักตนเองและดิ้นรนสับสน ไปตลอดชีวิต ไม่ประสบความสำเร็จ อะไรสักอย่าง ก็คงจะเป็นที่ น่าเสียดายจริงๆ สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในโลกคือ ไม่สามารถรู้จักตนเอง คนที่ไม่รู้จักตนเอง ก็ยากที่จะเข้าใจความจริง ยากที่จะได้รับรู้สิ่งดีๆ เป็นเหตุให้เกิดอุปสรรค ที่จะเกิดปัญญาในทางธรรม ![]() เปิดหน้ากากของตนเองออก แยกแยะและวิเคราะห์ตนเองอย่าง ตรงไปตรงมา เพื่อให้รู้จักตนเอง ![]() ไม่อาจที่จะละเลยและนิ่งดูดายได้ ![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 03 มิ.ย. 2009, 05:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ...คุณ ariyachon คุณคนไร้สาระ ขอบคุณในธรรมดีดี...ที่นำมาฝากกันบ่อยบ่อย ขอบคุณที่เป็นกัลยาณมิตร...ที่น่ารักเสมอ ขอบคุณที่รู้จักกัน...ณ ที่แห่งนี้ เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ ธรรมะสวัสดีค่ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | คนขวางโลก [ 03 มิ.ย. 2009, 08:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
ผมชอบตรงๆ งี้นะ อ้อมค้อมเสียเวลา แค่อยากถามคุณ คนไร้สาระ นะครับ สิ่งที่คุณสรรหามาเขียน สรรหามาบรรยาย สรรหามาตอบ สรรหามาแนะนำคนโน้น คนนี้นี่ ถือว่า เป็นความพยายามที่ดีมาก ได้ประโยชน์และได้สาระมากๆๆๆๆๆๆ คุณกล่าวว่า การรู้จักตนเองเป็นบทเรียนบทใหญ่ที่สุดในชีวิต ไม่อาจที่จะละเลยและนิ่งดูดายได้ แล้วคุณหละ รู้และเข้าใจพื้นฐานของพุทธศาสนานี้แค่ไหนกัน อะไรคือพื้นฐานที่สำคัญที่สุด เมื่อคุณรู้แล้ว การแนะนำผู้อื่น ก็ควรจะรู้พื้นฐานของคนๆ นั้นด้วย เช่น คนถามเขากำลังเรียนอยู่อนุบาลแต่มีปัญหามาถามคุณว่า การจะทำวิทยานิพนธ์เพื่อจบปริญญาเอกนี่เขาทำกันยังไงบ้าง ผมอยากเห็น ผู้ให้ความเห็นที่มีความรู้ดีๆ อย่างคุณ ช่วยผู้ที่หลงทางได้ตรงจุดมากกว่านี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเขามากๆๆๆๆ ไม่ได้ตำหนิอะไรนะครับ แค่อยากให้พิจารณา ข้อแนะนำของผมบ้างก็เท่านั้นซึ่งจะทำ จะคิดตามหรือไม่ก็สุดแล้วแต่คุณนะครับ ผมแค่อยากคุยธรรมะแบบที่ อยู่ในความเป็นจริงหน่อยก็เท่านั้น เห็นหลงทางกันหลายคนแล้ว คุยกันแนะนำกันแต่ละที โน่นทางเข้าพระนิพพานโน่น ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้สละนั่นสละนี่ ปล่อยวางนี่ นั่น โน่น ฯลฯ แต่ตัวเองยังอุ๊แว้ๆ อยู่เลย คนที่เข้ามาเสาะแสวงหาแนวทางและปัญญาในเว๊ปที่ดีนี้ เขาจะได้ประโยชน์สูงสุดเฉพาะตัวเขาไป ก็ขอแนะนำ ผู้ดูแลเว็ปทุกท่านด้วยและกัน เพราะผมก็ยังคงเป็นพวกสมองไส้เดือนกิ้งกืออยู่ ได้อ่านคำแนะนำแล้วบางทีดูเหมือนง่ายแต่ทำยาก ห่างไกลตัวเหลือเกิน ท่านผู้มีภูมิปัญญาดี มีความรู้เยอะ ก็กรุณาช่วยแนะนำด้วยนะครับ |
เจ้าของ: | ariyachon [ 03 มิ.ย. 2009, 10:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
ยินดีที่เข้ามาทักทายนะครับ คุณ คนขวางโลก พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ว่า สิ่งที่เป็นการยากที่สุด มี 4 อย่าง และหนึ่งในสี่อย่าง นั้นก็คือ "การได้ฟังพระสัทธรรม" ถึงแม้ข้อธรรมบางอย่าง อาจจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่เราทั้งหมดก็ยัง โชคดีนะครับ ที่ได้ยินได้ฟัง ได้เกิดมาอยู่ในบวรของพระพุทธศาสนา และแม้ได้ฟังธรรมที่ลึกซึ้งเพียงไร กิเลสอาจไม่หายไปจากจิตจากใจนี้ก็ตาม แต่ยังดีที่ได้นำไปปฏิบัติบ้าง ปรับปรุงตนเองบ้าง ฝึกฝนไปวันละนิดละหน่อย เพื่อได้สัมผัสกับความสงบสุข แม้เพียงชั่วขณะจิต ให้ได้ขัดเกลากิเลสไป ให้จางไปบ้าง มรรคผลนิพพาน ในกาลข้างหน้า ก็เป็นสิ่งที่พึงหวังได้ครับ เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ |
เจ้าของ: | คนไร้สาระ [ 03 มิ.ย. 2009, 11:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
![]() ![]() มุมมองคนเรามีหลายหลาก การให้ความรู้นั้นก็มี หลายระดับ ตามแต่ความเห็นของท่านนั้น พระพุทธเจ้าจึง เปรียบพวกเราเช่นบัวสี่เหล่า ข้อความนี้เป็นของกัลยาณมิตร ท่านหนึ่ง ให้มานานแล้วไม่ทราบชื่อ ![]() หยั่งรู้จิตของท่านผู้ใด จะสามารถเห็นและสามารถแยกแยะ อธิบายสอนแต่ละท่านได้ ข้อความที่นำมาโพสต์ ตัวเอง ก็อ่านพร้อมกับสอนตัวเองไปด้วย แล้วแต่ท่านใด จะมีปัญญา พิจารณาเห็นสารัตถะ "ทางนี้เป็นทางไปแต่ผู้เดียว " ![]() ยังเป็นผู้ศึกษาอยู่ รู้อย่างเดียวคือกิเลส ที่วิ่งไปมา จึงมิอาจกล่าวธรรมะชั้นสูงอะไรได้ เพียงเห็นแค่ ความเกิด-ดับ เห็นแต่กิเลสตัวเองผุดขึ้นทั้งวัน จิตไหลไปไหลมา ตามสภาวะ ตามปัจจัย เมื่อกระทบ ผัสสะเมื่อใด ขาดสติตัวตนโผล่ออกมา ขณะจิตที่กำลัง อธิบายอยู่นี่ ก็เห็นความอยาก (อยากเขียน) ตอนนี้ยัง ตามเก็บข้อมูลอยู่ค่ะ (วิจัยธรรม) ![]() ผู้ที่ตั้งใจจะศึกษาอยู่แล้วคือ สมาธิ - สติ สำหรับบอร์ดนี้ คือ บทความธรรมะ ![]() ก็จะเป็นการดียิ่ง (ถ้ากำลังหาอะไรอยู่ ขอให้หาให้พบค่ะ ขอเสนออีกนิด หาใจตัวเองให้เจอดีที่สุด) กรรมใดที่พลาด พลั้งไปขออโหสิกรรมแก่คุณด้วย ![]() ![]() |
เจ้าของ: | คนขวางโลก [ 03 มิ.ย. 2009, 11:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
สำหรับข้อมูล และการศึกษาธรรมมีบอร์ดสำหรับ ผู้ที่ตั้งใจจะศึกษาอยู่แล้วคือ สมาธิ - สติ สำหรับบอร์ดนี้ คือ บทความธรรมะ บทความธรรมะ กับ การปฏิบัติมันก็ต้องอาศัยพื้นฐานเดียวกันไม่ใช่เหรอครับพี่น้อง หรือว่าการปฏิบัติต้องทำอย่างนี้ แต่ใน บทความธรรมะต้องทำอีกอย่างหนึ่ง คนที่เข้ามาในบอร์ดนี้ ก็ต้องการคำแนะนำ ข้อคิดเห็นที่ตนเองสามารถทำได้อย่างง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์สูงสุด ถามว่า มันมีด้วยเหรอแบบนี้ มันไม่มีหรอก แต่ก็พากันตอบตามความคิดเห็น ความเข้าใจของตนเองเป็นที่ตั้งแล้วความรู้ที่นำมาตอบมาบรรยายมาอธิบายนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นความรู้ในระดับ คิดๆ คิดตามตำรา คิดตามครูอาจารย์ คิดจินตนาการตามความรู้ความเข้าใจของตนเองเป็นพื้นฐาน ว่ามันถูกต้อง จึงละเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดไป เช่น คุณ คนไร้สาระ นะครับที่เขียนว่า ความรู้ในทางธรรม ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอกค่ะ ยังเป็นผู้ศึกษาอยู่ รู้อย่างเดียวคือกิเลส ที่วิ่งไปมา จึงมิอาจกล่าวธรรมะชั้นสูงอะไรได้ เพียงเห็นแค่ ความเกิด-ดับ เห็นแต่กิเลสตัวเองผุดขึ้นทั้งวัน จิตไหลไปไหลมา ตามสภาวะ ตามปัจจัย เมื่อกระทบ ผัสสะเมื่อใด ขาดสติตัวตนโผล่ออกมา ขณะจิตที่กำลัง อธิบายอยู่นี่ ก็เห็นความอยาก (อยากเขียน) ตอนนี้ยัง ตามเก็บข้อมูลอยู่ค่ะ (วิจัยธรรม) ก็คุณเห็นขนาดนั้นแล้ว ทำไม คุณธรรมขั้น พระโสดาบัน ถึงยังไม่เกิดในจิตในใจคุณสักที เพราะคุณมองข้ามสิ่งสำคัญไปมิใช่หรือ เปรียบกับตอนนี้คุณรู้แล้วว่าจะต้องให้ปุ๋ยทางใบ ฉีดยอด เพื่อเร่งดอกเร่งผล แต่คุณลืมบำรุงรากไม้ให้ดี เมื่อวันข้างหน้ามันออกดอกออกผลมาก พอเจอลมแรงหน่อยต้นมันก็จะโค่นล้มได้ง่าย ดูแล้วคุณก็มีความรู้ที่ดีมากคนหนึ่ง สามารถเผยแผ่ธรรมะได้ดีทีเดียว ผมก็แค่อยากให้คุณอย่าลืมบำรุงรากด้วยก็เท่านั้น ( ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 03 มิ.ย. 2009, 12:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
อ้างคำพูด: ก็คุณเห็นขนาดนั้นแล้ว ทำไม คุณธรรมขั้น พระโสดาบัน ถึงยังไม่เกิดในจิตในใจคุณสักที ผมขอตอบแล้วกันว่า คุณไร้ฯ ยังไม่เจริญสติจนมีสติเกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ได้ทุกขณะจิต หรือยังไม่เกิดสติสัปปชัญญปัพพะนั่นเอง ซึ่งสติใหญ่ที่ว่ามานี้มีอยู่ในอานาปานสติ และ สติปัฏฐาน4 จึงต้องทำให้มาก ถึงจะทำให้กิเลสลดลงได้ ไม่ใช่แต่เหนกิเลส แต่กิเลสก้มีอยู่เท่าเดิม ![]() และคุณไร้สาระเองก้ใช่ว่าจะไม่สามารถบรรลุโสดาบันได้ เพียงแต่หากจะทำต้องมีเวลาในการปฏิบัติอย่างมาก ต้องใช้มหาสติ ถอนความหลงชอบ ความยึดติด ความสบายในร่างกายทั้งหมด จนเห็นว่าร่างกายนี้ไม่เที่ยง ไม่ใช่ของเรา ไม่คงทนต้องแปรเปลี่ยนไปเกิดนิพพิทาญาณ(เหนเป็นนิมิตว่าร่างกายเน่าเปื่อยสลายลงไปกองกับพื้นดินแล้วเบื่อหน่ายในรุปกายนี้)แล้วเอาสติที่ถอนอาสวะที่ยังหลงเหลือ ตอนนั้นแหละเข้าใกล้พระโสดาอีกแค่เส้นยาแดงผ่าแปดแล้ว ![]() |
เจ้าของ: | คนขวางโลก [ 03 มิ.ย. 2009, 12:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
คุณ อินทรีย์5 และคุณไร้สาระเองก้ใช่ว่าจะไม่สามารถบรรลุโสดาบันได้ เพียงแต่หากจะทำต้องมีเวลาในการปฏิบัติอย่างมาก ต้องใช้มหาสติ ถอนความเบื่อหน่าย ความยึดติด ความสบายในร่างกายทั้งหมด จนเกิดนิพพิทาญาณ(เหนเป็นนิมิตว่าร่างกายเน่าเปื่อยสลายลงไปกองกับพื้นดินแล้วเบื่อหน่ายในรุปกายนี้)แล้วเอาสติที่ถอนอาสวะที่ยังหลงเหลือ ตอนนั้นแหละเข้าใกล้พระโสดาอีกแค่เส้นยาแดงผ่าแปดแล้ว นี่ก็หลักการและทฤษฎี แน่นปึกอีกแล้ว ดีจังเลยผู้รู้เยอะแยะดีแฮะ ตื่นเต้นจังเลย เอางี้ผมถามคุณ อินทรีย์5 เลยละกันว่า เมื่อมีคนหนึ่งมั่นใจว่าเขาจะเอาแน่หละทีนี้ จะปฏิบัติให้ได้มรรคผลนิพานกันหละ ตายเป็นตาย แล้วมาขอคำแนะนำจากท่าน ท่านจะให้เขาเริ่มต้นยังไงเป็นอันดับแรก(สภาวะของ โสดาบัน สักกทาคามี อนาคามี อรหันต์ ปุถุชนก็สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องบวช) |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 03 มิ.ย. 2009, 13:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
อยากจะบอกว่า ไม่ใช่ทฤษฏีแน่นนะครับ แต่มันเป็นพื้นฐานที่ชาวพุทธจะต้องมีและรู้ไว้เพื่อไปปฏิบัติ -ที่บอกว่าตายเป็นตาย เอาล่ะปฏิบัติเพื่อเอามรรคผล ยังงี้จะยังไม่สำเร็จ(สำเร็จยาก) และยังจะไม่ได้มรรคผลง่ายๆ เพราะมีความอยากเป็นจุดเริ่มต้น(ทำกรรมฐานไม่ขึ้น) ไม่ใช่มีศรัทธา เป็นจุดเริ่ม 1.บุญกรรมฐานข้อแรกเลย ว่าศรัทธาที่ถูกต้อง ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่ ศรัทธาแบบวิปลาส(เห็นจากผิดเป็นถูก) ![]() 2.ได้ข้อแรกมา ก้ต้องมีอินทรีย์สังวร ก็ดูที่อินทรีย์ทั้ง6 นี่ไงเพราะถ้าไม่มีข้อนี้ปฏิบัติต่อไปก็ลำบากมากๆ พูดง่ายๆรวมลงไปในเรื่อง ของศีลทั้งหลาย และ กุศลกรรมบท10 ![]() 3. สำคัญที่สุด คือเจริญสติ ทำสติผนวกเข้ากับจิต ทุกอริยาบท หลัก คือนั่ง นอน ยืน เดิน และอริบทย่อย คือ กิน ดื่ม ก่อนหลับ หลังตื่น เหลียวซ้ายแลขวา งอแขน เหยียดแขน หมุนตัว แล้วใส่คำปริกรรม ที่เป็นอาการแล้วลงท้าย...หนอ เข้าไป (ข้อนี้คือได้หัวใจกรรมฐาน ถ้าเป็นสติปัฏฐาน 4 คือสอบผ่านข้อแรกที่ว่าด้วยเรื่องของหมวดกายแล้ว ถ้าในเรื่องมรรคก็ได้สัมมาสติและสัมมาสมาธิพร้อมกัน) ทำได้แค่นี้ก้เริ่มก้าวหน้าแล้ว อย่าเพิ่งพูดถึงอรหัตผล อรหัตมรรค กันเลย เอาพื้นฐานที่ถูกต้องกันก่อน ![]() |
เจ้าของ: | คนขวางโลก [ 03 มิ.ย. 2009, 13:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
แจ๋ว...เจ๋งจริง...เยี่ยมยอด ต่อไปครับ ที่ว่า 1.บุญกรรมฐานข้อแรกเลย ว่าศรัทธาที่ถูกต้อง ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ ไม่ใช่ ศรัทธาแบบวิปลาส(เห็นจากผิดเป็นถูก) มันคืออะไร ต้องทำยังไงหรือแบบไหน ถึงจะเป็น ศรัทธาที่ถูกต้อง ที่เป็นสัมมาทิฏฐิ |
เจ้าของ: | หมูตอน [ 03 มิ.ย. 2009, 14:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
ariyachon เขียน: หลายคนชอบบ่นเพ้อกับตัวเอง.. หรือกับผู้อื่นบ้างว่า.. ชีวิตนี้ฉันมีแต่ความทุกข์.. ไม่เคยพบเจอความสุขเลย.. และไม่เคยรู้เลยว่า..ความสุขเป็นเช่นไร..?? แต่ก็มีไม่กี่คน.. ที่เขาพบเจอความสุขอย่างแท้จริง.. เพียงเพราะรู้จักคำว่า..อดทน..และทำใจ.. ได้แก่..อดทนต่อความทุกข์ได้บ้าง.. ทำใจไม่ให้เป็นทุกข์บ้าง.. นั่นแหละเขาจึงจะได้พบเจอความสุข.. หากเราไม่รู้จักคำว่า..อดทน..และทำใจ.. ชีวิตนี้ทั้งชีวิต.. รับรองได้เลยว่า.. เขาจะไม่รู้จักคำว่า..ความสุขเป็นเช่นไร ?? เลย.. เพราะคนไม่เข้าใจคำว่า “สุข-ทุกข์” จึงหลงยึดผิด..คิดผิด.. ติดสมมติเพียงแค่..คำว่าสุข-ทุกข์ภายนอกเท่านั้น.. ความสุข-ความทุกข์.. คือ..สิ่งๆเดียวกันที่มีอยู่ในตัวตนของเรา.. และเป็นเพื่อนสนิทที่ติดตัวเรามาตลอด.. แต่อาจดูคล้ายกับว่า.. ความสุขนั้น..ออกจะเป็นเพื่อนเทียม.. ที่ไม่ค่อยมาเยี่ยมเยือนเราสักเท่าไหร่.. นาน ๆ ครั้งจึงจะหลงแวะมาเยี่ยมเยือนเรา.. ไม่เหมือนความทุกข์.. ที่เป็นเพื่อนแท้..ที่ติดสนิทติดตามเรา.. อยู่เคียงข้างเราเป็นประจำ.. คนจึงเกิดความทุกข์ขึ้นบ่อย ๆ.. แต่ถึงอย่างไรก็ตาม.. ระหว่างเพื่อนเทียม..คือ..ความสุข.. หรือจะเป็นเพื่อนแท้..คือ..ความทุกข์..ก็ตาม.. เพื่อนทั้ง ๒ คนนี้..ก็ได้ชื่อว่า.. เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา.. ที่มาช่วยสร้างสรรค์ชีวิตของเราให้มีรสชาด.. เพราะฉะนั้น.. ในชีวิตนี้..จึงตอบได้คำตอบที่เที่ยงแน่นอนว่า.. ไม่มีใคร..ไม่เคยมีทุกข์อย่างเดียว.. และก็ไม่มีใคร..ไม่เคยมีแต่ความสุขอย่างเดียว..เช่นกัน.. จะสุขหรือทุกข์.. อยู่ที่ใจเราเป็นผู้กำหนด.. และเลือกที่จะคบเพื่อนคนใด..ประเภทไหน.. บทความ..โดย..ชายน้อย.. ที่มา : dhammathai.org เราเพิ่งเจอมากับตัวเองเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเทอมที่แล้วเค้าให้จับกลุ่มทำโปรเจคกัน3คน เราก็มีกลุ่มที่ดีเรียบร้อยแล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงกระทันหัน เค้าเปลี่ยนให้จับกลุ่มเป็น4คน เนื่องจากนักศึกษาในห้องมันมากมายเหลือเกิน สรุปว่า เราโดนลอยแพ จากเพื่อนในกลุ่มและเพื่อนสนิท ทำให้เราต้องตระเวนถามเพื่อนในห้องว่าใครยังไม่มีกลุ่ม สุดท้ายเราก็จับกลุ่มได้ 3 คน จากเพื่อนๆที่อยู่กลุ่มอื่น เรื่องนี้ทำให้เรารู้และตระหนักได้ว่า อะไรจะเปลี่ยนแปลงตอนไหนก็ได้ เพื่อนคนไหนเป็นไง ตอนนี้รู้หมดไส้หมดพุงเลยที่เดียว ขนาดที่เราวางแผนชีวิตซะขนาดนี้แล้ว เรายังต้องมีเรื่องทุกข์ใจ ไม่มีสิ่งใดแน่นอนและคงทน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราคงจะโกรธเพื่อนมากเลย คงจะกลุ้ม ไม่พอใจ หาทางออกไม่ได้ และอะไรๆอีกหลายอย่างที่หมกมุ่นอยู่ในใจเราทำให้เกิดทุกข์ เราเคยทุกข์กับเรื่องเพียงเล็กๆน้อยๆ ร้องไห้จะเป็นจะตาย อันนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวเราอย่างแท้จริง หลังจากที่เราศึกษาธรรมมะมากขึ้นนะ เราสามารถปรับเปลี่ยนความคิดให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้น ทำให้ใจเราไม่ทุกข์ ปล่อยวางได้มากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ สุดท้าย เราชอบข้อความนี้มากมายเลย และขออนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ ไม่มีใครที่จะมีความสุขได้เพียงอย่างเดียวและตลอดไป จงอย่าไปยิดติดกับความสุขนั้น เพราะเดี๋ยวมันก็คงจะผ่านไป จะสุขหรือทุกข์.. อยู่ที่ใจเราเป็นผู้กำหนด.. และเลือกที่จะคบเพื่อนคนใด..ประเภทไหน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 03 มิ.ย. 2009, 15:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขอถามสักนิด..ชีวิตนี้มีสุขหรือทุกข์.. |
ก็สิ่งที่น้องหมูตอนโพทส์อนุโมนาบุญและกล่าวขอบคุณในสิ่งที่แนะนำทำให้น้องเขาคิดได้แล้วนำไปใช้กับเพื่อนแต่ละกลุ่มที่ซ่าๆในห้อง นี่ไง ชัดเจนมาก นี่แหละเรียก สัมมาทิฏฐิ หรือความเห็นในสิ่งที่ถูกต้อง ศรัทธาที่ถูกต้อง ไม่ได้เข้าใจยากอะไรแต่ประการใด เชื่อในที่ดีและถูกต้อง แล้วนำเอาสิ่งที่เชื่อนี้ไปทำให้ถูกต้อง ทำให้ดี ผลที่ได้ก้อย่างที่น้องเขาว่ามาทั้งหมด ตรงกันข้ามถ้าเชื่อผิดๆ แล้วทำไรผิดๆ ก็ได้ความวุ่นวาย สับสน กลับคืนมา เป็นต้น ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |