วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ม.ค. 2010, 20:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 มี.ค. 2009, 15:11
โพสต์: 240

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

สวัสดีปีใหม่
พระราชญาณกวี (สุวิทย์ ปิยวิชฺโช) หรือปิยโสภณ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก


อ่านสนุก ได้ความรู้ และข้อคิดดีๆ ที่ถูกต้องมากมาย


นโมตัสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสฺมพุทฺธสฺส
นโมตัสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสฺมพุทฺธสฺส
นโมตัสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสฺมพุทฺธสฺส

ขอเจริญพร ท่านผู้บริหารยุวพุทธิกสมาคมฯ ทุกท่าน
ตลอดถึงท่านผู้ที่มาปฏิบัติธรรม มารับพรปีใหม่ที่ยุวพุทธิก
สมาคมฯได้จัดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก
คนไทยของเรามีทางเลือกเยอะสิริมงคลของชีวิตขึ้นอยู่กับวิธีคิด
ของแต่ละคน เราทั้งหลายพอจะทราบดีเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่คน
อีกพวกหนึ่งสวดมนต์นั่งสมาธิภาวนาข้ามปีรับน้ำพระพุทธมนต์
เป็นคนแก่คนเฒ่า แต่คนหนุ่มคนสาวถูกไฟคลอกอยู่ในผับ ลูก
ของคนที่อยู่ในโบสถ์หลานของคนที่สวดมนต์เหลนของคนที่
กำลังอธิฐานจิตให้เกิดสิริมงคล ขอให้ลูกให้หลานของตัวเอง
ปลอดภัย แต่ปรากฏว่าลูกหลานของตัวเองกลับไม่ปลอดภัย
เพราะไปในที่ไม่เป็นสิริมงคล ถูกย่างสดกว่า 60 คนที่เหลือก็
พิการมองดูไม่เป็นผู้เป็นคน ที่วัดมีน้ำมนต์ ที่ผับมีน้ำเมา ความ
เป็นสิริมงคลไม่ได้เกิดขึ้นจากน้ำเมา แต่เกิดขึ้นจากน้ำมนต์ถ้า
เราไปผับไปบาร์ไปเที่ยว ความไม่ปลอดภัยก็เกิดขึ้น ความเป็น
สิริมงคลไม่มี แต่ถ้าเราไปสถานที่ เช่น วัดวาอาราม ใกล้ๆบ้าน
ของเรา หรือมาที่ยุวพุทธิกสมาคมฯ แห่งนี้
จะมีแต่ความปลอดภัยในชีวิต จะไม่มีคำว่าอุบัติเหตุ เสียใจไม่มี
ฉะนั้น เวลาที่เราทั้งหลายนึกถึงภาพความเป็นสิริมงคล อยากให้
เรานึกถึงชีวิตของเราว่า ถูกปกป้องคุ้มครองพิทักษ์รักษาอย่างยิ่ง
เพราะเปราะบางมาก

อาตมาภาพชอบปั้นพระ วันหนึ่งก็ปั้นพระเป็นเซรามิค
ซึ่งใครก็ไม่ทำกัน ส่วนใหญ่ปั้นเป็นทองเหลืองมีคนคนหนึ่งก็มา
ทัก บอกท่านอย่าทำเลยเวลาที่มันแตกมันหักไม่เป็นสิริมงคล ถ้า
จะปั้น ปั้นเป็นทองเหลืองดีกว่าไม่แตกไม่หักเป็นเซรามิคมัน
ชำรุด ก็บอกเขาไปว่าอยากทำในสิ่งที่คนเขาไม่ทำกัน ทำอย่างไง
ก็ท้าทายดีนะ ก็ตั้งอกตั้งใจทำปั้นสวยเลย แล้วก็เอาไปเผาที่
เตาเผาออกมาก็สวยงามมาก พอเห็นพระสวยงามคนนั้นก็มา
ทักอีก ท่าน(ปั้น)สวยขนาดนี้ท่านไม่กลัวมันแตกหรือนี่ ยกแล้ว
ยกอีกต้องระวังตั้งสติตลอด ก็เลยบอกว่า ที่ประเทศจีนเขามี
แจกันใหญ่มากสูงเป็นเมตรสองเมตรบางเฉียบเลยเป็นเซรามิค
เหมือนกันทำไมเขาไม่กลัวแตกล่ะ เขามีวิธีการ เราก็บอกเรามี
วิธีการเหมือนกัน มันทำได้ แกก็ไม่ยอมถกกันไปถกกันมา แกก็
บอกว่าแจกันไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับพระพุทธรูป แตกแล้วก็แล้ว
ไป เราก็บอกว่าพระพุทธรูปก็เป็นรูปสมมุติ โยมคิดดูนะมีอะไรที่
เปราะบางยิ่งกว่าชีวิตไหม ชีวิตของคนนี่เปราะบางมากเลยนะ
เผลอแป๊ปเดียวตายได้ทุกวินาทีเลย ตายอยู่ในท้องก็มี ในท้อง
ของแม่ตายก็ได้ หลุดออกมาคลอดออกมาเอาแม่ตายด้วยก็มี
ตัวเองตายด้วยก็มี ตกน้ำตายก็มีตั้งแต่เล็กๆ สารพัดตาย มัน
เปราะบางมากเลย นี่ปีใหม่แค่วันเดียวนะเจ็ดวันอันตราย วัน
เดียวอุบัติเหตุ 500 ครั้ง ตาย 40 ศพวันเดียว ถ้า 7 วันจะขนาด
ไหน มันเปราะบางมากแล้วก็มาหาความเป็นสิริมงคลกับสิ่งซึ่ง
เปราะบาง มันยิ่งต้องหาความเป็นสิริมงคลให้เห็นให้ชัดเจน

ท่านทั้งหลายคงจะทราบดีว่าทุกคนที่เกิดมานั้นเกิดมา
จากความเป็นสิริมงคลใช่ไหม เกิดจากแรงอธิษฐานของพ่อของ
แม่ของญาติพี่น้องทุกคนมานั่งอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครปัญญาอ่อน ตา
บอด หูหนวกแม้แต่คนเดียว นั่นแสดงว่า พ่อแม่อธิษฐานมาดี
เบ้าหลอมดี ผลิตมาดี โรงงานดี โตมาแล้วยังอบรมบ่มเพาะปลูก
ฝังให้เป็นคนดีมีศีลธรรม เห็นไหมว่ามันแตกต่างกันนะ กับคน
อีกจำนวนมากมายมหาศาล เขาไม่มีโอกาสหาสิริมงคลให้กับ
ชีวิตเลย เช่นเกิดมาแล้วก็พิกลพิการ ถูกทอดทิ้งพ่อแม่ไม่อยู่ด้วย
การศึกษาไม่มี ดีชั่วไม่รู้จัก โยมว่าเยอะไหมคนประเภทนี้ เยอะ
มาก เพียงแต่เราไม่รู้เท่านั้นเอง เราจึงเป็นคนโชคดีที่สุดใน
โลก อย่าคิดว่าตัวเองโชคร้ายนะ ถ้าคิดว่าตัวเองโชคร้ายนี่
มันจะโชคร้ายตลอด ขอให้เราคิดว่าเรานี่เป็นคนโชคดี สิริ
มงคลก็จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา โอ.....เราโชคดีจังเลย
มนุษย์ที่โชคดีอยู่แล้วแต่คิดว่าตัวเองโชคร้าย ในที่สุดก็จะ
เป็นคนโชคร้าย ทำไมถึงบอกว่าเราเป็นคนโชคดี เพราะ
คนอีกจำนวนมากมายมหาศาลไม่มีอย่างที่เรามี ไม่มี
โอกาสอย่างที่เรามีโอกาส

เคยเล่าให้ใครต่อใครฟังว่า มีอยู่คนหนึ่งเป็นนักธุรกิจ
แต่ขาดทุนอยู่ 200 ล้านบาท เยอะมาก วันหนึ่งก็เลยกลุ้มใจขับ
รถไปเที่ยวริมแม่น้ำโขงจะไปไหว้พระ ไหว้หลวงปู่เทสก์ แกก็ขับ
รถไป ลงเนินไปช่วงนั้นประมาณห้าโมงเย็นพระอาทิตย์ก็ส่องมา
ที่น้ำ แกตกใจเพราะว่าลำน้ำมันเป็นทองคำเนื่องจากแสงพระ
อาทิตย์ ลำน้ำโขงนี่เหลืองอร่ามงามมากเป็นสีทองทั้งลำเลย
แสงอาทิตย์ส่อง แกตกใจแกจอดรถขอดูให้เต็มตาหน่อยเถอะ
มันตัดกับทุ่งนาสีเขียว ภูเขา มันสวยงามมากเลย แกก็เลยจอดดู
นอนพักผ่อนอยู่ในรถริมถนนแล้วก็ได้ยินเสียงของคนเลี้ยงวัว
เลี้ยงควายชาวนาคนหนึ่ง แกก็เป่าแคนอยู่ริมโขงเลยแหละ เป่า
อยู่นั่นแหละ เสียงแคนมันแว่วมาแกก็มีความรู้สึกดีใจมาก เอ่อ
ทำไมมีความสุขผิดปกติ มันผิดปกติ ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มา
ก่อนเลย มองดูท้องฟ้า มองดูท้องน้ำ มองดูป่า ดูเขา ดูทุ่งนาสี
เขียว มีดนตรีธรรมชาติแกก็ดีใจพระอาทิตย์ก็ค่ำแล้วก็ตกลงไป
แกมองเห็นคนที่เป่าแคนก็บอกว่า คนนี้มีแหละมีความสุขที่สุด
ในโลกแล้วล่ะ ทำไมเราโชคร้ายอย่างนี้ แกพูดกับตัวเอง ไปก่อ
หนี้ก่อสินตั้ง 200ล้านบาท จะไปหาเงินจากไหนสู้ลุงคนนั้นไม่ได้
มีแคนลำเดียว เป่าแคนก็มีความสุขแล้ว อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
อย่างนี้ ทำไร่ ทำนา เลี้ยงวัว เลี้ยงควายไปตามธรรมชาติ ตาม
ประสาก็ดีแล้ว ทำไมคนนั้นมีความสุขจังเลย ฝ่ายชาวนาคนนั้น
เขาก็คิดนะ เขาบอกว่าใครนะ ทำไมถึงได้นอนอยู่ในรถอย่างมี
ความสุขขนาดนี้ เรานี่ทำไมมันโชคร้ายจังเลย ต้องนอนเฝ้า
กระต๊อบอยู่กลางทุ่งนา กลางวันต้องแดดเผา กลางคืนก็หนาว
เหน็บ หน้าน้ำมาก็ท่วมต้องดูแล อยู่กับวัวกับควายไม่กี่ตัว จะ
ไปไหนก็ไม่ได้ไป ทำไมเรามันโชคร้ายขนาดนี้ ถ้าเราเป็นคนคน
นั้นเราจะขับรถเที่ยวรอบโลกเลย ไปให้สุดลูกหูลูกตาเลย นี่ต้อง
มานั่งเฝ้าสมบัติไม่กี่ชิ้น อยากจะดูหนังดูละครก็ไม่ได้ดู ต้องซื้อ
แคนมาเป่าเอง เฮ้อ... ทำไมเราโชคร้ายขนาดนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายต่าง
เป็นคนโชคร้ายด้วยกันทั้งคู่เลยนะ เพราะอะไรโยมว่าเพราะ
อะไร เพราะต่างฝ่ายต่างมองใช่ไหม มองไปว่าคนโน้นดีกว่าฉัน
ฉันนี้แย่มากเลย เนื่องจากว่าเราคิดว่า ทำไมคนอื่นจึงมีแต่สิ่งดีๆ
งามๆทำไมตัวเองจึงไม่มี หาไม่เจอเลย ในที่สุดโชคร้ายของ
มนุษย์ก็เกิดขึ้น โชคร้ายของมนุษย์คือไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี
โชคร้ายของมนุษย์เกิดขึ้นทันทีที่มนุษย์ไม่รู้ว่า ตัวเองโชคดี
เพียงใดเกิดมาเป็นมนุษย์ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว ศิริมงคลมันก็
จะเกิดขึ้นแล้ว

เล่าต่ออีกนิดหนึ่งว่า นักธุรกิจคนนี้ พอเย็นๆหน่อยแกก็
ไปนอนที่วัด ตื่นเช้าขึ้นมาก็ไปกราบหลวงปู่ ขณะที่ไปกราบ
หลวงปู่ มันเป็นเรื่องที่แปลกมากเลยนะ มันมีคนแก่อยู่คนหนึ่ง
มาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เดือนหนึ่ง ไปขอสตางค์หลวงปู่ค่ารถ
กลับสุรินทร์ 200 บาท นั่งรออยู่ หลวงปู่ก็จะให้สตางค์นั่นแหละ
แต่นั่งรออยู่ รู้จักกัน นักธุรกิจคนนี้ก็ไปกราบหลวงปู่ คุยปัญหา
ของตัวเองให้ฟังบอกว่าเป็นหนี้เท่านั้นเท่านี้ 200 ล้าน หลวงปู่
ขอความเป็นสิริมงคลให้ผมหน่อยครับ มาพรมน้ำมนต์ พูดง่ายๆ
ให้หลวงปู่เป่ากระหม่อม หลวงปู่ฟังแล้วก็รู้สึกเออ..คนนี้ยังไม่
ค่อยเข้าใจสิริมงคลนะนี่ ลุงคนนั้นนั่งฟังอยู่ก็งง บอกว่าโอ้โห
ทำไมเป็นหนี้เยอะขนาดนี้ เกิดมาไม่เคยเจอ หลวงปู่ก็บอกว่า มา
..จะสะเดาะเคราะห์ให้แล้วเอาสตางค์ 200 บาทให้ลุง เกิดอะไร
ขึ้นรู้ไหม ลุงรีบคุกเข่าเลย แล้วบอกว่า หลวงปู่ครับผมรับไม่ได้
หรอกเขาจนกว่าผมครับ นักธุรกิจคนนี้ตกใจ ตอนแรกนี่ว่าลุง
จนกว่า ที่แท้จนกว่าลุง นี่ขนาดนั่งรถเบนซ์มานะ ยังจนกว่าลุง
อีก หลวงปู่ถามทำไมลุงว่าอย่างนั้นล่ะ อ้าวก็ผมต้องการแค่ 200
บาทแต่เขายังขาดตั้ง 200 ล้านครับ เท่านั้นแหละสติกลับมา
เลยนะ พอสติกลับมาความเป็นสิริมงคลเกิดขึ้นทันที เห็นไหมว่า
สิริมงคลมันสำคัญมากที่สติที่วิธีคิด ไม่ใช่ที่น้ำมนต์ของพระ
หรอกไม่ใช่

ต่อตอนสองครับ

หลวงปู่ของอาตมา อายุ 99 ปี ปีนี้ อยู่ที่วัดโพธิสมพร
จ.อุดร ใครก็เข้าไปขอน้ำมนต์จากหลวงปู่ แขนเคล็ดเลย หลวง
ปู่เล่นแขนเคล็ด หลวงปู่กินหมาก กินไป พรมน้ำมนต์ไปบ้วนน้ำ
หมากไป เอากระโถนน้ำหมากตั้งเอาไว้กับขันน้ำมนต์ หลวงปู่ก็
จุ่มไป จุ่มผิดมั้ง ถูกกระโถนน้ำหมากอ้าวปาไป จุ่มไปเสร็จแล้วก็
ไปเรื่อยๆ สีขาวก็มี สีแดงก็มี บางคนก็ก้มให้พรมน้ำมนต์ก็หลัง
แดง บางคนก็แหงนหน้าขึ้นหลวงปู่เอาหน่อยนะ แหงนหน้าขึ้น
หลวงปู่ก็จิ้มลงกระโถนน้ำหมากก็เปรี้ยงเข้าไปอีก ปู่ก็ไม่รู้ว่าปู่จิ้ม
อะไร เพราะว่าแล้วแต่จะจิ้มถูก ลูกศิษย์ก็สลับกระโถนน้ำหมาก
กระโถนน้ำมนต์ให้ปรากฏว่า แดงฉานซะทุกคน หน้าตาที่ซีด
เซียวก็มีน้ำมีนวลขึ้นมาก็ดีอกดีใจเป็นสิริมงคล ปรากฏว่ากลับ
บ้านแล้วถูกหวยก็มี ถูกเบอร์ก็มี ได้เลื่อนตำแหน่งก็มี กลับมาอีก
บอกหลวงปู่ครับขอไม่เอาน้ำมนต์ขอเอาเฉพาะน้ำหมากครับ
หนักเข้าไปอีก ปู่ต้องไปกินหมากอีก กินหมากทั้งวันทั้งคืน
เพื่อที่จะให้ได้เป็นน้ำหมาก เป็นน้ำมนต์ โอ้มนุษย์เอย...สารพัดที่
จะทำ นี่ยังไม่ได้พูดถึงหลวงพ่อคูณนะ สารพัดเห็นไหมมนุษย์ไม่
รู้จักความเป็นสิริมงคลว่ามันอยู่ตรงไหน

คนเรานั้นต้องการ (ความ) เป็นสิริมงคล
นะ ก็เพราะต้องการให้เกิดเหตุ 4 ประการในชีวิต เคยได้ยินไหม
อายุ วรรณะ สุขะ พละ เคยได้ยินไหม อ้าวอายุยืน วรรณะผิว
พันธุ์ผุดผ่อง สุขะมีความสุข พละมีกำลัง คนจะอายุยืนทำ
อย่างไร คนจะอายุยืนทำอย่างไร ไม่ต้องถึงหมื่นปีนะ
สุขลักษณะเขาก็บอก 1. ต้องออกกำลังกาย ใช่ไหม 2.
ต้องรับประทานอาหารดี เคี้ยวให้ละเอียดมันถึงจะย่อยได้
ง่าย (ทาน)ให้ครบหมวดหมู่ 3. ขับถ่ายดี 4. อารมณ์ดี
อายุยืนหมดทุกคนเลย 4 อ.นี่อายุยืนหมดเลย ง่ายไหม?
เกี่ยวกับน้ำมนต์หลวงปู่ไหม? ไม่เกี่ยว อาหารเราก็ต้องดูว่า
อาหารมันถูกจริตเราหรือไม่? เห็นหรือยังง่ายๆ วรรณะ ผิวพันธุ์
ผุดผ่อง อยากจะให้ผิวพันธุ์ดีทำอย่างไร? ประแป้งหรือหมด
กระปุกยังไม่ผ่องเลย อาตมาเคยนะ วันสงกรานต์โยมก็ไปสรง
พระ มีการกลั่นแกล้งพระด้วย เทน้ำราดมาจากข้างหลังเลยโยม
โอ้โฮ...หนาวเลย แล้วใส่น้ำแข็งด้วยนะ คนที่ 2 มาเทราดอีกใส่
น้ำอุ่น คนที่ 3 ราดต่ออีกใส่น้ำแข็งสลับกัน หลวงพ่อหนาวสั่น ก็
ขอเอาคืนบ้างดีไหมนี่ แต่งตัวสวยมาเลยโยม จะไปงาน ก็ขอสรง
น้ำ เอ้า...สรงก็สรง พระขอสรงด้วยนะ แล้วก็ใส่เลย กำหญ้าคา
ขนาดนี้แหละ จุ่มลงไปทำธรรมดาๆ ทรงผมยุบฮะ อ้าวก็ไป
เล็กๆน้อยๆทำไมทรงผมยุบล่ะ หายไปเลยแบนแต็ดแต๋เลย เดิม
ทีตั้งมาอย่างกับขบวนช้าง แกก็ก้มมา โอ้โห..ท่านเสียหาย ไป
งานไม่ทันหรอก แล้วก็ลูบ อ้าวเงยหน้าขึ้นมาคิ้วหายไปอีกข้าง
แสดงว่าไม่ได้เขียนถาวร เออคิ้วหายไปอีกข้างหนึ่ง นี่เห็นไหมสิริ
มงคล ปรากฏว่าแป้งที่โป๊ะเอาไว้หายเรียบร้อยเลยเหลืออยู่ครึ่ง
เดียว ก็ซีกขวาก็เรียบร้อยหมดเลย อาตมากินมาซีกหนึ่ง อ้าว ไม่
เป็นไร โยมก็พอดีพองามแหละ สงกรานต์อโหสิกรรมให้กัน ผิว
พันธุ์ผุดผ่อง นี่มันออกมาจากข้างใน.

อยากผิวพรรณดีต้องทำสมาธินะ เด็กๆอยากผิวพรรณ
ดีต้องนั่งสมาธิ เพราะนั่งสมาธิแล้วมันไปแก้ไขข้างใน มันไม่ได้
แก้ไขข้างนอก แก้ไขข้างใน อารมณ์ดี จิตใจดี อาหารดี ทุกอย่าง
ดีหมดแล้วนี่ ต้องไปแก้ไขข้างใน เช่น สิ่งที่เรากินเข้าไปข้างใน
เป็นอาหารนี่ บางทีกินถูกสุขลักษณะก็จริง แต่สารพิษมันเยอะ
สารพยาบาทก็เยอะ เด็กตัวเล็กๆชอบกินหมู ปิ้งหมู ปิ้งไก่ ปิ้ง
ปลา สารพัด สเต็กวัว โอ้โห หารู้ไม่ก่อนที่เขาจะฆ่าวัวเอามีด
เสียบที่คอมันนี่ มันยืนร้องไห้อยู่ 3 วัน 3 คืน แล้วอดอาหารเลย
แหละ มีดเสียบเข้าไปที่คอ ปาดที่คอ เลือดกระฉูดออกมา แล้ว
เราก็บอกว่าเลือดหมูอร่อย ต้มเลือดหมูอันนี้อร่อยมากเลยนะ
ไปกินหมูหัน เคยเห็นไหม เคยเห็นหมูหันไหม แบะอ้าปากนะ
หันหลังให้เรานะ เราก็บอกว่าอร่อยมากเลยเรากินเข้าไป เรากิน
คำสาปแช่งของเขาเข้าไปด้วยนะ เป็นสิริมงคลไหมนี่ แท้ที่จริง
แล้ว เรากำลังกินศพหมู ศพปลา ศพไก่ ศพวัว ศพเป็ด ถ้าคิด
อย่างนี้ปั๊ป จิตมันจะทอน จิตจะให้อภัย มันจะเกิดขึ้นให้อภัย
มันจะวางใจแล้ว เขาตายเพราะถูกฆ่า แล้วก็มาเป็นอาหารเรา
นะ ต้องให้อภัยกัน ต้องเมตตากัน และก็อย่าก่อโรคภัยไข้เจ็บให้
ฉันนะ คิดในใจอย่างนี้ คืนนี้กลับไปนะต้องชวนกันใหม่ แทนที่
เราบอกว่าวันนี้ไปกินไก่ย่าง เราก็บอกว่าวันนี้เราไปกินศพไก่กัน
หน่อยดีไหม? อะไรอย่างนี้ วันนี้เราไปกินศพหมูกันหน่อย
ไหม? ศพหมูหัน อืม อาหารบนโต๊ะนี่ศพหมดเลยจริงไหม?
เป็นศพหมดเลยเขาตัดคอออกหมดเลย ศพปลาทู ศพปลาสลิด
ศพ ทุกอย่างเป็นศพหมดเลย อย่างปลาดุกอย่างนี้ อ้าปากอยู่
จริงไหม? ปลาช่อนอ้าปากรอเราอยู่ เราก็คิดไหม เราก็บอกว่า
ศพปลาช่อนอร่อยดีนะ ศพปลาดุกพอใช้ได้ ให้มันมีคำว่า ศพ
ศพ ศพ เข้ามาหน่อยหนึ่ง จิตมันจะได้คิดกลับขึ้นมา โอ้ เราต้อง
คิดใหม่แล้ว แต่ถ้าไม่คิดอย่างนี้นะ จะประมาทเพราะประมาท
เสร็จจิตไม่มีเมตตา เพราะจิตไม่มีเมตตา สิ่งที่กินเข้ามามันเป็น
พิษ จิตก็เป็นพิษ เขาผู้ตายก็เป็นพิษ พอเป็นพิษเสร็จร่างกายเรา
เกิดโรค พอเกิดโรคก็ไม่ผ่องใสแล้ว หน้าตา ผ่องใสได้เฉพาะ
เวลาประแป้ง นอกนั้นไม่ผ่องใสจากข้างใน อยากมีวรรณะผุด
ผ่องต้องออกกำลังใจ ไม่ใช่ออกกำลังกายนะ ออกกำลังใจ
ทำสมาธิ สวดมนต์ทุกวัน นั่งสมาธิทุกวัน ทำให้เม็ดเลือด
ของเรา โมเลกุลมันละเอียดลง ละเอียดลง ละเอียดลง
เหมือนกับเราเอาน้ำ 2 แก้ว แก้วหนึ่งเราด่ามันทุกวันให้
คนด่า อีกแก้วหนึ่งเราสวดมนต์ ผลึกของน้ำ 2 แก้วนี่
ต่างกันสิ้นเชิงเลยนะ ลองดูซิ เขามีเครื่องทดลองง่ายๆ
ผลึกของน้ำ 2 แก้วต่างกันสิ้นเชิงเลย ไอ้แก้วนี่นะหยาบ
แก้วนี้ละเอียด ในร่างกายมนุษย์มันก็มีน้ำ คือเลือด น้ำ
หนอง น้ำลาย น้ำอุจจาระ น้ำปัสสาวะ มีหมดเลยของเสีย
ทั้งนั้นมีน้ำอยู่ในร่างกาย เพราะฉะนั้นเวลาที่เราอยากให้
วรรณะของเราผุดผ่อง เราต้องทำสมาธิ ต้องสวดมนต์

มาถึงข้อสุขะที่แปลว่าความสุข อายุ วรรณะ สุขะ เรา
ทั้งหลายที่อยากมีความสุข ไม่มีใครที่อยากมีความทุกข์หรอก
ทุกคนอยากมีความสุขทั้งสิ้น คนที่อยากมีความสุข ประการ
แรก ก็คือ จะต้องนึกถึงความสุขทางใจก่อน อย่านึกถึง
ความสุขทางกาย เพราะถ้านึกถึงความสุขทางกาย จะสุข
ยาก ส่วนใหญ่มันจะทุกข์ตามมาวินาทีสุดท้ายมันจะทุกข์
หมดเลย แต่ถ้าสุขทางใจแล้วนี่เราจะสุขได้ยาวนาน และ
เป็นความสุขที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขใดๆ จากคนอื่น แต่ถ้า
ความสุขทางกายปั๊บ มีเงื่อนไขต้องเสียสตางค์ ต้องมีอื่น บุคคล
ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ต้องมีการเดินทาง ต้องมีการลากสังขาร แต่
พอสุขทางใจปั๊ปอยู่กับที่เลย เห็นไหมว่าสุขทางกาย สุขทางใจ
ต่างกันไหม ต่างกัน ถ้าสุขทางใจปั๊ปเงื่อนไขน้อย สุขทางกาย
เงื่อนไขเยอะมาก หาได้ไหมสุขทางใจ ที่บ้านหาได้ไหม? เช่นพูด
เพราะให้กัน ก็สุขทางใจ ยิ้มให้กัน ก็สุขทางใจ ช่วยเหลือกันก็สุข
ทางใจ ถามสุขทุกข์ก็สุขทางใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็สุขทางใจ ให้
ของขวัญเล็กๆ น้อยๆก็สุขทางใจ เงื่อนไขมันไม่เยอะเลยนะ แต่
ถ้าสุขทางกาย เงื่อนไขเยอะมากเลย ต้องพาไปเที่ยว
ต่างประเทศ เป็นยังไง เสียสตางค์ไหม? มีการเดินทาง ถ่อ
สังขาร ต้องพาไปเที่ยวต่างจังหวัด ต้องพาไปเที่ยวนั่น เที่ยวนี่
พาไปเที่ยวห้างสรรพสินค้า ไปหมดเลยสุขทางกาย ถ้าเอาใจ
ล้วนๆปั๊ป ค่าใช้จ่ายไม่มี ลดฮวบลงไปเลย ฉะนั้นเวลาต้องการ
ความสุขให้เรานึกถึงเงื่อนไขก่อนว่า เออเราจะเอาสุขทางไหน
ล่ะ? ให้กายสะดวกสบาย หรือว่าจะเอาแค่ใจ บางทีถ้าใจสบาย
ใจเรามีความสุขนะ เอาล่ะถึงจะอยู่กระต๊อบก็มีความสุขนะ มี
ความสุขเหมือนกัน ฟังเพลงได้เหมือนกัน ร้องเพลงได้
เหมือนกัน

มีบ้านหลังหนึ่งอยู่ที่ปากช่องนี่ เวลาที่เขานิมนต์ไป
บรรยายธรรม เวลาบรรยายธรรมอยู่จะได้ยินเสียงดนตรีข้าง
บ้านแว่วมา เขาจะมีดนตรีอย่างนี้ตลอดประจำเลย เจ้าของบ้าน
เขาก็จะมีความสุขมาก เพราะเดือนหงาย เขาเดินจงกรม นั่ง
สมาธิ ภาวนา มันก็จะมีเสียง กระต๊อบนี่อยู่ข้างล่าง เล่นดนตรี
เบาๆ พิณนะ ดีดพิณ วันหนึ่งก็เลยอยากจะสงเคราะห์ สงสาร
อยากจะเอาสตางค์ไปให้ ให้ปลูกบ้านให้มันดีขึ้นมาหน่อย อ้าว
พอได้สตางค์ปรากฏว่าเสียงพิณหายเลย เสียงพิณหาย หาย
เงียบเลย เพราะว่าลุงคนนี้ แกก็มัวแต่นอนกอดสตางค์ โอ้จะเอา
ไปไว้ที่ไหน กลัวคนขโมยสตางค์ เพราะบ้านไม่มี จะไปไหนก็
หอบสตางค์ไปด้วย วันหนึ่งญาติรู้ ญาติเยอะมากเลย พอรู้ว่ามี
สตางค์นี่ ก็มาขอ มาขอแล้วก็ทะเลาะกัน ก็เกิดความขัดแย้งอยู่
ในใจ เอ๊ะเอาอย่างไรดี จะเอาสตางค์หรือไม่เอาสตางค์ วันหนึ่ง
แกตัดสินใจเลย ส่งคืน ห่อเงินนี่ส่งคืนเลย เปิดดูแล้วไม่หยิบ
แม้แต่บาทเดียว บอกท่านครับผมเอาความทุกข์มาส่งคืนท่าน
ดีกว่าครับ ผมมีความทุกข์เหลือเกินครับตั้งแต่ผมได้สตางค์มา
ห่อนี่มันห่อความทุกข์จริงๆเลยครับ ก็ส่งคืนไปเลย คนนั้นตกใจ
เจ้าของบ้านหลังใหญ่ตกใจบอก เป็นไปได้อย่างไร?ทุกคน
ปรารถนาเงินทั้งนั้น แต่คนๆนี้ไม่ปรารถนาเงินเลย พอส่งห่อเงิน
คืน ตกกลางคืนดึกๆ ลุงแกดีดพิณต่อแล้ว โอ้แกมีความสุข
เหลือเกิน เห็นไหมว่าบางทีความสุขมันไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งของ มัน
เกี่ยวกับใจ สำคัญมากคือใจ โยมไปรักษาใจ หาใจของตัวเองให้
เจอ

ข้อสุดท้ายคือพละ คือพละกำลังของมนุษย์มี 2 เรื่อง
ด้วยกัน คือ กำลังกาย กับกำลังใจ มนุษย์ของเราส่วนใหญ่เติม
กำลังกายแต่ไม่เติมกำลังใจให้กัน เราไปออกกำลังกาย
พละกำลังดีมากเลยแต่เราก็ใส่ร้ายกัน นินทากันว่าร้ายกัน ให้
เสียกำลังใจ ไปทะเลาะกันที่ตรงออกกำลังกายก็มีใช่ไหม? เยอะ
มากเลย ทะเลาะเบาะแว้งกัน เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันทั้งหมด
ในโลกนี้ล้วนทำมนุษย์กำลังใจตก ทำไมมนุษย์สร้างอาวุธ
เพราะมนุษย์กำลังใจตก คิดว่าสันติภาพจะต้องพิทักษ์รักษา
ด้วยการสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ เห็นหรือยังว่ามันต่างกัน
พละกำลังทั้งหมดขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ กำลัง
สติ กำลังปัญญา ก็เป็นของสำคัญ เพราะอะไร เพราะสิ่งเหล่านี้
มันเป็นพละกำลังที่ยิ่งใหญ่มาก ถ้าเราไม่เข้าใจแล้ว เราก็จะ
เสียศูนย์ ที่พระให้พรว่าอายุวรรณโณ สุขขังพลัง ก็ไม่ได้
หมายความว่าให้ มีร่างกายแข็งแรงอย่างเดียว แต่ถึงว่าให้มี
กำลังใจ ให้มีกำลังสติ ให้มีกำลังปัญญา ที่จะเอาตัวรอด ที่จะ
รักษาคนอื่น อย่าท้อแท้อ่อนแอ อย่าหมดหวังสิ้นหวัง เมื่อเรา
ทราบอย่างนี้แล้วก็สรุปสั้นๆ 4 ข้อ อายุ วรรณ สุขะ พละ ให้ญาติ
โยมทั้งหลายได้ฟังว่า มันเป็นสิ่งที่อยู่ที่เราใกล้ตัวเรา

ต่อตอนสาม ตอนจบครับ

แต่มันมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งเราทั้งหลาย ก็ปรารถนาอ้อนวอน
กัน ไปไหนมาไหน แคล้วคลาดปลอดภัย ขอให้แคล้วคลาด
ปลอดภัย ตำรวจก็อธิษฐานขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย โจรที่ถูก
ตำรวจไล่ก็อธิษฐานว่าขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย ไล่กันไปถึง
หลวงพ่อโสธร โจรก็วิ่งเข้าไปหาหลวงพ่อก่อน หลวงพ่อครับ พูด
กับหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโสธรก็พูด เป็นไงลูก ตำรวจกำลังไล่
จับผมครับ ช่วยผมด้วย เออขอให้แคล้วคลาด ปลอดภัยนะ
แล้วก็กราบมับๆๆๆ วิ่งออกไป นาทีต่อมาตำรวจวิ่งมาอย่าง
รวดเร็วเลย หลวงพ่อครับ อ้าวว่ายังไงลูกถ้าผมจับโจรไม่ได้นาย
ย้ายผมแน่เลยครับ ขอให้จับโจรได้นะ แล้วก็กราบหมับๆๆๆ โจร
เข้าห้องน้ำ ตำรวจก็เข้าห้องน้ำ จ๊ะเอ๊กันหน้าห้องน้ำ ยิงกันสนั่น
หวั่นไหว ล้มทั้งคู่ ชันสูตรดูแล้ว แขวนหลวงพ่อองค์เดียวกัน รุ่น
เดียวกันอีกต่างหาก ทั้งตำรวจทั้งโจร หลวงพ่องงไม่รู้จะช่วยใคร
หลวงพ่อโสธรก็ให้ศีลให้พรเหมือนกัน ต่างคนต่างเข้ามาขอ
หลวงพ่อให้เหมือนกัน ตกลงสิริมงคลอยู่ไหน แคล้วคลาด
ปลอดภัยอยู่ไหน อยู่ที่พฤติกรรมของคน ไม่ได้อยู่ที่พระเดช
พระคุณหลวงปู่หลวงพ่อ ไม่เกี่ยวกันเลย ถ้าวันไหนโจรไม่ขโมย
โจรก็ปลอดภัย ไม่ถูกตาม ตำรวจก็ไม่ต้องตาม โจรมีสติไหม?
โจรมีปัญญาไหม? มี สติดีกว่าตำรวจนะ ปัญญาดีกว่าตำรวจ
นะ แต่เป็นมิจฉาสติ มิจฉาปัญญา มีอาชีพไหมโจร มี แต่เป็น
มิจฉาชีพ มีหมดเลยในอริยมรรคมีองค์ 8 โจรมีหมดเลย ทั้ง 8
ข้อ แต่เป็นมิจฉามิใช่สัมมา เห็นหรือยัง มิจฉาแปลว่าผิด สัมมา
แปลว่าชอบ มิจฉาชีพก็อาชีพที่ผิด สัมมาชีพก็อาชีพที่ชอบ นี่ไง
มันถึงไม่แคล้วคลาดปลอดภัย กินเหล้าแล้วเมา ถามว่า
ปลอดภัยไหม? ขับรถนะ เมื่อวานนี้อาตมาไปพรมน้ำมนต์ให้กับ
บริษัทที่ยามาฮ่าที่โรงงานมี 3,000 คน นี่แขนเคล็ดยังไม่หายเลย
ไม่รู้ที่นี่จะให้พรมน้ำมนต์อีกหรือเปล่า? ไม่รู้ ที่นี่ 2,000 คน อีก
หลังหนึ่งก็จะ 2,000 -3,000 อาจจะถึงหมื่นคน โรงงานที่
ผลิตมอเตอร์ไซค์นะ เจ้าของเป็นญี่ปุ่น บริษัทยามาฮ่า เจ้าของ
ชื่อ ซูซูกิ แล้วมันยังไงกันไม่ไปทำงานที่บริษัท ซูซูกิ ท่านก็บอกว่า
ผมทำงานที่นี่มานานแล้วครับ เป็นพาร์ทเนอร์กัน เป็นเพื่อนกัน
ครับ ทำงานเกี่ยวเนื่องกันเป็นแค่ชื่อเฉยๆครับ อาตมาก็บอกว่า
คุณรู้ไหมบริษัทของคุณฆ่าคนตายเยอะเลย ท่านงง ฆ่ายังไง
ครับ ก็ยามาฮ่ารถของคุณเนี่ย ความเร็วสูงขนาดนี้ขับไปชนกัน
ตาย ปีใหม่ สงกรานต์ ยามาฮ่าพาไปตายเยอะเลย อ๋อ ไม่ใช่
หรอกครับ คนพายามาฮ่าไปครับ เออญี่ปุ่นนี่ก็ฉลาดนะ ยา
มาฮ่าอยู่เฉยครับมีแต่คนพาไป คนขับยามาฮ่าก็อย่าเมานะครับ
อย่าเมา ยามาฮ่าปกติไม่เมาครับ แล้วความเร็วขึ้นอยู่กับคนบิด
ครับ เราก็บอกว่าลดความเร็วได้ไหม? มันจะได้แคล้วคลาด
ปลอดภัย ลดได้ครับขึ้นอยู่กับคนขับรถว่าจะรอดหรือไม่รอด
สรุปแล้วสิริมงคลขึ้นอยู่ที่รถหรืออยู่ที่คน อยู่ที่คนนะ

เพราะฉะนั้นอยู่ที่ใจแล้วทีนี้ ใจของเราเป็นอย่างนั้นแหละ ใจไม่
เป็นสิริมงคลก็จบเลย จะแคล้วคลาดปลอดภัยอยู่ที่ใจเราเอง ที่
บอกว่าเมาแล้วขับถูกจับแน่นอน แล้วมีใครจับไหม? มีคนไปรอ
จับไหม? ต้องไปทำโฆษณาใหม่? เขียนว่ายังไง เขียนว่า เมา
แล้วขับ ยมบาลรอรับแน่ ถ้าเขียนอย่างนี้ตำรวจเบาแรงไหม?
เบาแรงเพราะยมบาลมาช่วย ตำรวจก็บอกว่า ผมจะขึ้นป้ายหรือ
ครับ ถือว่าผมละเลยการปฏิบัติหน้าที่นะนี่ ไม่เป็นไร มันชัดเจน
ถ้าบอกว่าเมาแล้วขับ ยมบาลมารอรับแน่นิ มันกระตุกไหม? มัน
กระตุกคนขับทันทีเลย สิริมงคลมันเกิดขึ้นเลย เดี๋ยวนี้ขี่
มอเตอร์ไซค์ มือซ้ายถือโทรศัพท์ มือขวาบิด บิด โอ้โห อาตมา
บอกว่าทำไมเด็กไทยมันเก่งขนาดนี้ แล้วซ้อนท้ายด้วยนะ ซ้อน
ท้าย ซ้อนท้ายนี่สุดยอดมากเลย ผู้หญิงก็นั่งกระโปรงสั้น แล้วก็
โยมเคยเห็นซ้อนท้ายใช่ไหม? เคยซ้อนไหม? อาตมาก็ไปต่อว่า
พวกวินมอเตอร์ไซค์ ทำไมโยมให้เขานั่งอย่างนั้น ผมก็บอกแล้ว
ครับ ให้นั่งกอดเอวผมเลย แต่เขาไม่ทำ ถ้านั่งกอดเอวผมมัน
ปลอดภัย ผมก็บอกเขาแล้วแต่ไม่มีใครทำเลยครับ วินมอเตอร์
ไซค์เขาบอกแบบนั้นนะ อันตรายมากไหม จับอยู่ข้างหลัง แล้ว
กระเป๋าอีกต่างหาก หิ้วแล้วก็ให้มันห่างจากคนขับมอเตอร์ไซค์

อาตมาไปบ้าน ไปต่างจังหวัด ไปถึงปากทางมืดฝนจะ
ตก มีแต่มอเตอร์ไซค์จะเข้าบ้านเท่านั้น รถเล็กไม่มี เหลือ
มอเตอร์ไซค์อยู่คันหนึ่งเท่านั้น เหลือเป็นผู้หญิง บอกชีวิตนี้ทำไม
มันต้องใช้ปัญญาบารมีมากขนาดนี้ เธอบอกว่าหลวงพี่รีบขึ้น
ฝนจะตกแล้วจะไปหรือไม่ไป ให้ตัดสินใจ ก็เลยถามว่าถ้าจะไป
หมู่บ้านนี้ต้องผ่านกี่หมู่บ้าน เธอบอก 4 หมู่บ้าน คืออาตมา
กำลังนั่งนึกว่าถ้าผ่านหมู่บ้านเดียว ก็จะซ้อนท้ายแล้วก็จะลง
ก่อนถึงหมู่บ้าน แต่มันต้องผ่าน 4 หมู่บ้าน ผ่านกลางหมู่บ้าน
ชาวบ้านก็ต้องนึกว่าหลวงพี่องค์นี้ทำไมดุเดือดขนาดนี้ ก็เลยมา
นั่งนึกเอ๊ะตัดสินใจเอายังไงดี โยมเอาอย่างนี้ ยังไงก็เหลือเรา 2
คน โยมช่วยออกอุบายหน่อย พระก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็น โยมมี
กล่องกระดาษไหม? เขาบอกว่ามีหาได้ มีกล่องกระดาษ เออ
โยมขี่มอเตอร์ไซค์นะ แล้วก็เอากล่องกระดาษวางไว้ แล้วให้พระ
นั่งสุดท้าย ก็เอากล่องกระดาษมาวาง ปรากฏว่าเหลืออานอยู่ 4
นิ้ว กระเด้งทีเดียวก็หลุดแล้ว เออน่าไม่เป็นไร เป็นยังไงเป็นกัน
ยังไงก็ต้องกล่องกระดาษ ท่านแน่ใจนะ แน่ใจ เอากล่องกระดาษ
นี่แหละ อาตมาก็เห็นแต่หลวงพ่อโก๊ะ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปบวชนาค
ทีนี่ฝนก็จะตกหนัก ก็บอกว่าเอาอย่างนี้ไปถึงท้ายบ้านแล้วจอด
ให้เดิน เราก็จะเดินข้ามหมู่บ้าน แล้วโยมไปรอรับปลายหมู่บ้านก็
แล้วกัน พระก็นั่งกอดกล่องกระดาษนะ ไม่ให้ถูกตัวผู้หญิง
กอดกล่องกระดาษเพราะว่าอันนี้มันเป็นเมตตา พรหมวิหารนะ
เอ้าไป บอกให้จอดพอถึงชายบ้าน โอ้โฮแกเร่งความเร็วผ่าน
กลางหมู่บ้านเลยนะ ท่านอย่าเลยเร่งความเร็วดีกว่าไม่มีใคร
มองเห็นหรอกมันมืดแล้ว โอ้โอไปถึงหมู่บ้านที่ 4 ใจหายใจคว่ำ
ค่อยยังชั่ว หมู่บ้านที่ 4 มีแต่ญาติพี่น้องเข้าใจกันได้ วันนั้นต้อง
สะเดาะเคราะห์ อาตมาต้องไปรดน้ำมนต์ โอ๊ยเจอวีรกรรมดี
จริงๆเลย ที่เล่าให้ฟังนี่บางทีเราอาจมองไม่เห็นว่าเงื่อนไขชีวิตที่
จะทำให้เกิดสิริมงคล มันอยู่ที่ใจ เหมือนกับนิทานเล่าว่า พระ
หลวงตากับพระหนุ่ม เดินข้ามสะพานไปเจอผู้หญิงตกน้ำ พระ
หนุ่มก็กลัวอาบัติ พระแก่กระโดดลงไปช่วย อุ้มขึ้นมา อุ้มกอด
แน่นเลย เป็นยังไงล่ะ แล้วก็วางช่วยให้หายใจ แล้วก็รอด ไปถึง
วัดพระหนุ่มไปพูดกับคนโน้นคนนี้ว่าหลวงตานี่ไปอุ้มผู้หญิง พูด
อยู่หลายวัน พระหนุ่มก็ถูกเรียกไป ถามมันเป็นยังไงนะ แล้วก็มี
การประชุมสงฆ์ พระแก่ก็เล่าให้ฟัง เหตุเกิดเป็นอย่างนี้ ท่านก็
บอกว่า ความจริงนี่ผมก็ไม่อยากทำหรอกนะ แต่มันเป็นเหตุ
สุดวิสัย ถ้าเราไม่ช่วยเขานี่ มันจะขาดเมตตาธรรม เพราะมัน
เป็นเรื่องของชีวิต เป็นเรื่องของชีวิตถ้าเป็นเรื่องอื่นไม่เป็นไร ชีวิต
ต้องมาก่อน เห็นอยู่ตำตาแต่ไม่ช่วยนี่ ขาด ขาดแน่นอน ศีลก็
ขาด ศีลข้อเมตตาธรรมขาดแน่นอน ผมวางแล้วแต่ทำไมท่านยัง
แบกยังอุ้มผู้หญิงอยู่ ผมนี่วางไว้แล้ว แต่พระหนุ่มยังอุ้มอยู่ ได้
สติขึ้นมา ก็ทำให้นึกถึงว่าเออสิริมงคลนี่ บางทีมันมาจากการให้
สติกันนะ คลายเลยหลวงพี่หลวงองค์หนุ่มนี่คลายเลย

อาตมาก็เคยนะแบกแหม่มน้ำหนัก 80 กิโล ล้มฟุบ
สะดุดขาตัวเองบนเนินถนน เราก็มีพระ 2 รูป ช่วยกันหามหัว
กับหามขา ก็ไม่รู้จะจับตรงไหน จับหัว อีกคน จับขา ก็มาวางไว้
ที่ขอบทาง พอหามออกมาปั๊บ รถ 10 ล้อ วิ่งปื้ดผ่านเลยทันที ถ้า
ไม่หามนะ อันตรายมาก เราก็รู้สึกดีใจได้ประกาศนียบัตรการ
เป็นพลเมืองดี พระ 2 รูปได้ประกาศนียบัตรการเป็นพลเมืองดี
เห็นไหม?สิริมงคลมันก็เกิดขึ้น เพราะจิตของเรามีธรรมะ มี
เมตตา เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

พระมหายานกับพระเถรวาทเคร่งมาก พระเถรวาทนี่
เคร่ง ไปเที่ยวหิมาลัยด้วยกัน อันนี้เรื่องจริงไม่ใส่รองเท้า ขึ้น
ภูเขาหิมาลัย ไม่ใส่รองเท้า พระมหายานก็บอกหลวงพี่เป็นเพื่อน
กัน ใส่รองเท้าหน่อยซิ ไม่เป็นไรผมเคร่ง เดินไปซักพักหนึ่งไม่ไหว
พระมหายานก็เลยโยนถุงเท้าให้ แล้วก็โยนรองเท้าให้ ก็ใส่ เดิน
ไปสักพักหนึ่งก็บอกหลวงพี่ หลวงพี่ต้องห่มผ้าหนาต้องใส่เสื้อ
กันหนาวนะ บอกไม่เป็นไรผมแข็งแรง เดินไปสักพักหนึ่งไม่ไหว
หนาวมาก ขอเสื้อเอาเสื้อมาห่อ ไว้ข้างในแล้วก็เอาเสื้อจีวรออก
สักพักหนึ่งเดินไป เขาก็แนะนำบอกผ้าพันคอ แกก็บอกว่าไม่
เป็นไรผมเคร่ง พอไปถึงสักพักหนึ่งขอผ้าพันคอ เดินขึ้นไปอีกไกล
พอสมควรแล้ว เย็นเจี๊ยบเลย ศีรษะนี่เย็นเจี๊ยบเลย หิมะเริ่มจะ
ลงแล้ว พระมหายานก็บอกหลวงพ่อเอาหมวกไหม? เลยพระ
มหายานแกก็เตรียมอย่างดีเลยนะ เตรียมเอาไว้หมดเลย เพราะ
ยังไงก็ไปไม่รอด เป็นเพื่อนรักกัน เพื่อนรักกัน แกล้งกัน เสร็จ
แล้วก็เอาหมวก ผมขอเอาหมวกหน่อยได้ไหม? แกบอกได้เอาไป
เลย ผมเตรียมไว้ให้ท่านอยู่แล้ว ผมทดลองว่าท่านจะรอดไหม?
ก็เอาหมวกถวาย ระหว่างที่จะใส่หมวกนี่พระเถรวาทก็เอามือ
มาลูบที่ศีรษะ ลูบที่ศีรษะ ลูบมาที่หู หูหักเปาะเลย เพราะมัน
แข็งมากเลย มันแข็งมาหลายชั่วโมงหูหักเลย พระมหายานก็
บอกว่า เห็นไหมหลวงพี่ เคร่งหนักมักจะหูหักนะ ท่านแกล้งกัน
สิริมงคลมันก็เลยต้องเกิดขึ้นที่พละกำลังของใจ ถ้าใจของเรามี
พละกำลังดี มีเมตตาต่อกัน เป็นสิริมงคลทุกแห่ง แล้วก็แคล้ว
คลาดปลอดภัย

เพราะฉะนั้นปีใหม่วันนี้ ปีเก่าจะจากไป ปีใหม่จะ
ตามมา พรมน้ำมนต์ที่ชีวิต อย่าพรมน้ำมนต์ที่ศรีษะ ที่หลังแต่
เพียงอย่างเดียว สวดมนต์ภาวนาให้เมตตา ให้ชีวิตของเรา
แม้แต่เราอาบน้ำเราก็ทำน้ำมนต์ใส่ก๊อกน้ำเลย พรมน้ำมนต์ใส่
ก๊อกน้ำเลยโยม เป็นสิริมงคลเหมือนกันเราสวดมนต์ใส่ก๊อกน้ำ
เลย ในห้องนอนของเราเป็นสิริมงคล สวดมนต์ ภาวนาให้เป็นสิริ
มงคลแก่ชีวิตของเรา อายุ วรรณะ สุข พละ แคล้วคลาด
ปลอดภัย มีอยู่ 6 คำ อายุ วรรณะ สุข พละ แคล้วคลาด
ปลอดภัย เอาแค่นี้ ถ้าได้ 6 คำนี้ เป็นสมบัติของเราแล้วนี่ ปี
ไหนก็เป็นปีใหม่ แต่ถ้า 6 คำไม่เกิดขึ้น ปีไหนก็เป็นปีเก่า ปีเศร้า
ปีแห่งการสูญเสียทั้งสิ้น สงสารมากก็คือว่าคนที่เขาไม่เข้าใจ สิริ
มงคลนี่ เขาต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขาภายใน
พริบตาเดียวเพราะสติไม่พอ กำลังสติ กำลังปัญญาไม่พอ
นั่นเอง เพราะฉะนั้นวันนี้ก็อยากจะมาเชิญชวน ท่านศรัทธา
สาธุชนทั้งหลาย ที่ได้มีโอกาสมาร่วมบุญกันที่นี่แล้ว ให้หาความ
เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของเรา เป็นสิริมงคลตั้งแต่วันนี้ข้ามปีใหม่
ไปแล้ว ต้องอยู่ให้ถึง 31 ธันวา 53 อยู่ให้ถึงนะ อยู่ให้ถึง มั่นใจ
ว่าอยู่ให้ถึง แล้วก็ให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตทุก
ขั้นตอน รักษาศีล สมาธิ ภาวนา เพราะศีลนั้นมันเป็น
กรมธรรม์ชีวิตไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกัน รักษาศีล รักษาไว้
อย่าเที่ยวเตร่ เด็กๆก็เรียนหนังสือ ขยัน หมั่นเพียร อย่า
นอนดึกมาก คนแก่คนเฒ่าก็เข้าห้องน้ำระมัดระวัง ไม่ให้
หกล้มสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก จึงอยากจะให้
ทุกท่านนำไปขบคิด สร้างบ้านทำบ้านให้เป็นสิริมงคลให้
สะอาด ให้งดงาม แล้วชีวิตของเราก็จะปลอดภัย
เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ขออนุโมทนาบุญ ขอกราบอาราธนาคุณพระ
ศรีรัตนตรัย บุญกุศลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระบารมีธรรมในองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
พระบารมีธรรมของท่านพระเดชพระคุณ
พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
ตลอดจนถึงบุญบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คือพระแก้วมรกต
องค์ประธานของแผ่นดินไทย พระสยามเทวาธิราช พระบรม
สารีริกธาตุที่สถิตอยู่ ณ พระธาตุต่างๆ ทุกภูมิภาคของประเทศ
ขอบุญบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ จงมาอภิบาลประทานพรปกปัก
รักษาท่านทั้งหลายให้แคล้วคลาดปลอดภัย จากทุกข์ภัยโรค
ศัตรู อุปอันตรายทั้งหลายทั้งปวง จงทุกประการเทอญ......สาธุ

------------------------------------------------

สาธุ ขออนุโมทนากับพระอาจารย์ ทีมคณะทำงานยุวพุทธฯ ทุกท่าน
และท่านเจ้าภาพงานบรรยายธรรมนี้

และขออนุโมทนากับทุกท่านที่สนใจศึกษาและปฏิบัติธรรมครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 20 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร