ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ศิลปะแห่งการถอยหลัง โดย กระบี่ไม้ไผ่ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=33051 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ติณณาห์ [ 07 ก.ค. 2010, 12:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | ศิลปะแห่งการถอยหลัง โดย กระบี่ไม้ไผ่ |
ศิลปะแห่งการถอยหลัง โดย กระบี่ไม้ไผ่ ถ้าเรื่องยากของมือใหม่หัดขับก็คือ การถอยหลังเข้าจอด เรื่องยากของคนที่ริจะดำเนินชีวิตให้มีศิลปะก็คือ การเรียนรู้ศิลปะแห่งการถอยหลัง มีข้อแนะนำสารพัดสำหรับการบุกตะลุยไปข้างหน้าและความคิดทางวิทยาศาสตร์ก็ทำให้เรามองเวลาเป็นเส้นตรง เราจึงนำพาชีวิตโจนทะยานไปข้างหน้าราวกับม้าแข่งที่มีกระบังสายตาบังคับให้เห็นแต่ลู่ คำบอกสอนส่วนใหญ่มุ่งแต่ให้มองไปข้างหน้า การถอยหลังเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้และอ่อนแอ ฯลฯ ทั้งๆ ที่คนเราควรจะเรียนรู้ศิลปะแห่งการถอยหลังไปพร้อมๆ กับศิลปะของการเดินหน้า การถอยหลังมีคุณวิเศษอันสำคัญคือ ช่วยให้ไม่เดินหลงทาง เนื่องจากรู้ว่า อะไรเป็นของจริง อะไรเป็นของปลอม การย้อนไปสำรวจมิตรภาพระหว่างผู้คนที่มีพันธะทางใจ อาจจะช่วยให้ไม่ตื่นเต้นกับการเริ่มต้นมิตรภาพใหม่ๆ เกินไป ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ละทิ้งสิ่งดีๆ ในชีวิตจนเกินควร ปราชญ์ท่านสอนว่า มิตรภาพนั้นก็เหมือนสุรายิ่งเก่ายิ่งดี แต่ก็ไม่ใครฟัง เพราะต่างเพลิดเพลินกับความตื่นเต้น จนลืมความคงเส้นคงวา การสำรวจยอดการกระทำที่ติดค้างก็ช่วยให้เราตอบแทนได้สม ไม่ต้องสำนึกเสียใจในภายหลัง ดอกไม่ทบต้น ถึงเวลาต้องจ่ายคืนก็ไม่มีดินพอกหางหมู เป็นภาระเกินความสามารถจะจ่ายได้ ประการนี้ก็เช่นกัน เราได้ยินจนชินหูว่า โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ชีวิตต้องมีทั้งการรับมาและจ่ายไป แต่วุ่นวายอยู่กับการเรียกร้องเอา ใครเล่าจะสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการตอบแทนหรือเรื่องที่ใหญ่กว่าอย่างการสละให้ เพราะไม่จดจำว่า เราเคยได้สิ่งใดจากใครมาบ้าง เพราะไม่ตอบแทนให้สม ที่ไหนๆ ก็จึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เรียกร้องหาคนอื่นมาช่วยเติมให้ตัวเองเต็ม ทั้งที่ธรรมชาติของใจนั้นยิ่งแบ่งปันยิ่งเพิ่มพูน ละครหน้าฉากชวนฝันเพราะสวยงาม ตระการตา ดูละครแล้วไม่คิดว่าเป็นละครก็จะละเมอเพ้อพกเลื่อนเปื้อนไปจากการดำรงอยู่ ในโลกของความเป็นจริง ท่านจึงว่า ดูหน้าฉากแล้วให้ดูหลังฉาก เบื้องหลังความสวยความงามอาจจะมีความอัปลักษณ์ซ่อนอยู่ ภายใต้เรือนกายที่โดดเด่นอาจจะมีจิตใจที่คับแคบและเห็นแก่ตัว เบื้องหลังบัลลังก์แห่งเกียรติยศอาจจะมีการเอารัดเอาเปรียบและเหยียบหัวคนอื่น ภายใต้ความร่าเริงอาจจะมีความเปลี่ยวเหงาซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนด่านแรกๆ ของความรักก็มีความมืดบอด คับแคบและเห็นแก่ตัว ท่านจึงว่าให้พลิกดู ให้เห็นทุกมุม การถอยหลังไปสำรวจดูเรื่องราวต่างๆ จึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าการพุ่งไปข้างหน้า ด้วยนัยเช่นนี้ เราอาจจะไม่รู้จักเพื่อนบ้านเราดีเท่าคนเก็บขยะ ถ้าคนเก็บขยะมีเวลาจำแนกขยะจากแต่ละบ้านอย่างใช้ความสังเกต เขาอาจจะระบุได้ถึงการใช้ชีวิต รายได้ สุขภาพ คุณภาพชีวิต ฯลฯ ของคนที่อยู่ในบ้านแต่ละหลังได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร หรือแม้แต่ล่วงรู้ความลับบางประการที่ใครบางคนไม่อยากให้คนอื่นได้ล่วงรู้ เช่นเดียวกัน ขณะที่เรารังเกียจซากศพ รังเกียจโครงกระดูก แม้คิดแม้จับต้องหรือคิดจะมอง แต่พระกลับว่า ศพทั้งที่ยังดีอยู่ ศพกำลังเน่าเปื่อยผุพัง หรือโครงกระดูกนั้น เป็นดอกไม้ของพระอรหันต์ ท่านไม่รังเกียจกระดูก เพราะตัวเราก็มีกระดูกอยู่เหมือนกัน ท่านไม่กลัวผีเพราะเราเองก็เป็นผีเหมือนกัน เรามักผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งมุมที่ไม่ได้มองตกค้างอยู่จำนวนมาก ซากเดนของเรื่องราวประการต่างๆ ที่ถูกทิ้งขวางไว้ข้างหลังก็ไม่ต่างอะไรกับขยะชีวิต ซึ่งถ้ากลับไปคุ้ยเขี่ยอย่างพินิจพิเคราะห์จะช่วยให้เราอาจเดินได้ตรงขึ้นหรือรู้สึกตัวได้มากขึ้น เราหมดเปลืองเวลาและโอกาสในชีวิตไปกับเรื่องลมๆ แล้งๆ จำนวนมาก บ้างคิดเอาเองว่า รักจากใครไม่เปลี่ยนแปร บ้างอุทิศตัวให้กับบางสิ่งซึ่งถึงที่สุดแล้วอาจจะหาประโยชน์แก่นสารอะไรไม่ ได้ เพราะแท้จริงเป็นแค่การล่อลวงตนเอง การถอยหลัง ไม่ได้ทำให้พบ สิ่งดีๆ ที่ถูกลืม แต่บางครั้งก็ทำให้พบความเป็นจริงที่น่าขมขื่น แต่หวานเป็นลม ขมเป็นยา ขมขื่นอย่างไรก็ต้องดื่มกิน เพื่อหูตาจะได้สว่างขึ้น เรียนรู้ศิลปะของการถอยหลังแล้วพบว่า ความอัปลักษณ์ในความงาม พบความงามในความอัปลักษณ์ ในร้ายมีดี ในดีมีร้ายแล้ว ก็ต้องรู้จักศิลปะของการเดินหน้า รู้ว่าทั้งหมดทั้งสิ้นไม่มีอะไร รู้ว่าต้องให้อภัย ไม่เพ่งโทษว่ากล่าวโลกหรือใครอื่น รู้ว่ามุมานะต่อไป เพื่อจะได้เดินหน้ายาวไกลขึ้น จำเป็นต้องการถอยหลังกลับในบางครั้ง มันไม่ใช่เรื่องความอ่อนแอ แต่เป็นศิลปะที่ต้องเรียนรู้ ที่มา http://www.ee43.com/content/topic/184.html |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |