ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ยอดของมิตร : อ.แสง จันทร์งาม
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=33108
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 11 ก.ค. 2010, 14:25 ]
หัวข้อกระทู้:  ยอดของมิตร : อ.แสง จันทร์งาม

รูปภาพ

ยอดของมิตร

ปัญหา (เทวดาทูลถาม)
อะไรหนอเป็นมิตรของคนเดินทาง
อะไรหนอเป็นมิตรในเรือนของตน
อะไรเป็นมิตรของคนมีธุระเกิดขึ้น
อะไรเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า ?


พุทธดำรัสตอบ
“พวกเกวียน พวกโคต่างเป็นมิตรของคนเดินทาง
มารดาเป็นมิตรในเรือนของตน
สหายเป็นมิตรของผู้มีธุระเกิดขึ้นเนือง ๆ
บุญที่ตนทำเองเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า”



มิตรสูตรที่ ๓ ส.สํ. (๑๖๓)
ตบ. ๑๕ : ๕๐-๕๑ ตท. ๑๕ : ๕๐
ตอ. K.S. I : ๕๑-๕๒


ที่มา...เนื้อหานำมาจากหนังสือ พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์
โดย รองศาสตราจารย์แสง จันทร์งาม
http://www.84000.org


:b48: :b8: :b48:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 11 ก.ค. 2010, 16:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ยอดของมิตร

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ smiley smiley smiley


:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 11 ก.ค. 2010, 18:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ยอดของมิตร

รูปภาพ

:b8: อนุโมทนา..สาธุ..จร้า..น้องลูกโป่ง :b8:

เจ้าของ:  บัวไฉน [ 12 ก.ค. 2010, 09:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ยอดของมิตร

" บุญที่ตนทำเองเป็นมิตรติดตามไปถึงภพหน้า "

:b39: ยอดของมิตร จริงๆ ท่านลูกโป่ง
(ยิ่งกว่ามิตรไหนๆ ) เจริญในธรรมนะจ๊ะ
:b39:

เจ้าของ:  ฟ้าใสใส [ 17 ก.ค. 2010, 15:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ยอดของมิตร

นิทานชาดก : มิตรแท้
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้า ประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภมิตรของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีชื่อกาฬกรรณี เรื่องมีอยู่ว่า…

ทราบว่า มิตรของท่านเศรษฐีผู้นี้ เคยเป็นสหายร่วมเล่นฝุ่นและร่วมสำนักเรียนอาจารย์คนเดียวกัน ต่อมาเขาตกทุกข์ได้ยาก จึงมาหาเศรษฐีช่วยทำกิจการงานต่าง ๆ ที่จะทำได้ แต่ชื่อของเขาได้สร้างความไม่สบายใจแก่หมู่ญาติของท่านเศรษฐี พวกเขาจึงเข้าไปพบท่านเศรษฐีและขอร้องให้ส่งนายกาฬกรรณีหนีไปเสีย

ท่านเศรษฐีจึงบอกว่า ” หมู่บัณฑิต มิได้ถือชื่อเป็นประมาณ เราไม่อาจอาศัยเหตุเพียงชื่อแล้วทิ้งเพื่อนผู้เล่นฝุ่นมาด้วยกันได้ ”

วันหนึ่ง อนาถบิณฑิกเศรษฐีไปบ้านส่วยของตน ได้มอบหมายให้นายกาฬกรรณีเป็นผู้แลรักษาเคหะสถาน (รปภ.) พวกโจรคบคิดกันว่า ” เศรษฐีไม่อยู่ พวกเราจะปล้นบ้านของเขา ”

ต่างพากันถืออาวุธไปล้อมเรือนของเศรษฐีไว้ในเวลากลางคืน ฝ่ายนายกาฬกรรณี ระแวงอยู่ว่าโจรจะปล้น จึงนั่งเฝ้าไม่ยอมหลับนอน ครั้นเห็นว่าพวกโจรจะมา ก็ปลุกผู้คนด้วยการให้ประโคมดนตรีเหมือนมีมหรสพโรงใหญ่ บรรเลงตลอดทั้งคืน จนรุ่งแจ้งพวกโจรไม่มีโอกาสเข้าปล้นจึงทิ้งอาวุธไว้แล้วหลบหนีไป

รุ่งขึ้น ผู้คนเห็นก้อนดินและไม้พลองเป็นต้น จึงได้ทราบเหตุการณ์ ต่างพากันยอมรับในความสามารถของนายกาฬกรรณี พอเศรษฐีกลับมาก็บอกเรื่องนั้นให้ฟังทุกประการ

เศรษฐีได้ทีจึงพูดว่า ” เห็นไหม ถ้าเราไล่เพื่อนของเราตามคำของพวกท่าน ทรัพย์สินของเราคงสูญสิ้นไปมิใช่น้อยในวันนี้ ธรรมดาชื่อไม่เป็นประมาณ จิตที่เกื้อกูลเท่านั้นเป็นประมาณ ”

แล้วให้ทุนทรัพย์แก่มิตรเพิ่มขึ้นอีก ได้ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า แล้วได้กล่าวคาถานี้ว่า
” บุคคลชื่อว่าเป็นมิตร ด้วยการเดินร่วมกัน ๗ ก้าว ชื่อว่าเป็นสหาย ด้วยการเดินร่วมกัน
๑๒ ก้าว และชื่อว่าเป็นญาติ ด้วยการอยู่ร่วมกันเดือนหนึ่งหรือครึ่งเดือน ส่วนผู้ชื่อว่า
มีตนเสมอกัน ก็ด้วยการอยู่ร่วมกันยิ่งกว่านั้น เราจะละทิ้งมิตรชื่อว่ากาฬกัณณี
ผู้ชอบพอกันมานาน เพราะความสุขส่วนตัวได้อย่างไร ”


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คบคนอย่าคบเพียงชื่อ จิตใจสำคัญที่สุด

อนุโมทนาสาธุ tongue tongue tongue

ไฟล์แนป:
.gif
.gif [ 25.62 KiB | เปิดดู 2739 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/