วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 18:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มี.ค. 2011, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2010, 13:16
โพสต์: 279

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บุพกรรมของท่านพระอุคคเสน ที่พูดล้อพระอรหันต์

บุพกรรมของท่านสันตติมหาอำมาตย์ ที่กล่าวสรรเสริญคุณของพระรัตนไตย


ในอดีตกาลสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ในครั้งนั้น พระอุคคเสนและภรรยา เป็นกุลบุตรกุลธิดาชาวพระนครพาราณสี บรรทุกข้าวปลาอาหารและสัมภาระเป็นอันมากในเกวียนหลายเล่ม กำลังไปสู่ที่ก่อสร้างพระเจดีย์

ในระหว่างทางพบพระเถระองค์หนึ่ง กำลังเข้าไปสู่หมู่บ้านเพื่อบิณฑบาต กุลธิดาซึ่งเป็นภรรยาของท่านแลเห็นพระเถระแล้ว จึงกล่าวกะสามีว่า พี่ พระมาบิณฑบาต อาหารของเราก็มีมาก พี่ช่วยไปรับบาตรของท่านมาให้ฉันหน่อยซิ เราจะได้ถวายอาหารบิณฑบาตด้วยกัน สามีจึงลงจากเกวียนไปขอรับบาตรมาจากพระเถระ

ส่วนภรรยาเมื่อได้บาตรมาจากสามีแล้ว ก็ได้บรรจุบาตรด้วยอาหารต่างๆ จนเต็ม แล้วก็ยื่นให้สามีนำไปถวายในมือของพระเถระ แล้วก็ได้ตั้งความปรารถนาว่า ขอให้เราทั้งสองคนพึงได้บรรลุธรรมอย่างท่านด้วยเถิด พระเถระรูปนั้น ท่านเป็นพระอรหันต์ เมื่อท่านได้ตรวจดูไปในอนาคตแล้ว ก็รู้ว่าความปรารถนาของเขาทั้งสองนั้นจะสำเร็จ จึงได้ยิ้มออกมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ผู้เป็นภรรยาเห็นพระเถระแสดงอาการยิ้มแย้มเช่นนั้น จึงพูดกะสามีว่า พี่ พระคุณเจ้าท่านทำท่าทำทางยิ้มแย้มอย่างกับเด็กนักฟ้อน ฝ่ายสามีก็ตอบนางไปว่า ก็คงจะเป็นอย่างนั้น ด้วยอำนาจบุญและบาป ทำให้เขาทั้งสองนั้น

มาในสมัยพุทธกาลนี้ ผู้เป็นสามีได้มาเกิดเป็นบุตรเศรษฐีชื่อ อุคคเสน ส่วนภรรยามาเกิดเป็นธิดาของตระกูลนักฟ้อนรำ ที่ท่องเที่ยวแสดงกายกรรมผาดโผนไปยังเมืองต่างๆ อุคคเสนบุตรเศรษฐีได้พบกับธิดานักฟ้อนรำซึ่งมาแสดงกายกรรมยังเมืองของตน ก็เกิดหลงรักนางขึ้นมา จึงได้ขอนางมาเป็นภรรยา และได้มาอยู่กับคณะของนาง

ต่อมาก็ได้ฝึกเป็นนักแสดง ได้ร่วมแสดงกายกรรมผาดโผนไปกับนางด้วย เพราะวิบากที่พลอยเออออไปกับนางด้วยในชาตินั้น ครั้งหนึ่ง อุคคเสนและภรรยาได้มาเปิดการแสดงที่กรุงราชคฤห์

ขณะที่เขากำลังจะทำการแสดงนั้นเอง พระบรมศาสดาได้เสด็จบิณฑบาตมาถึงพร้อมด้วยพระเถระทั้งหลาย ทำให้มหาชนละสายตาจากอุคคเสนหันมาทำความเคารพพระบรมศาสดากันทั้งหมด จึงทำให้อุคคเสนเสียใจว่า การแสดงของเราคราวนี้คงหมดความหมายเสียแล้ว พระบรมศาสดาทรงทราบอัธยาศัยของเขา จึงตรัสบอกพระมหาโมคคัลลานะให้ไปบอกอุคคเสนว่าจงแสดงศิลปะของตนต่อไปเถิด

อุคคเสนดีใจว่าพระศาสดาจะทรงดูการแสดงของตน จึงได้กระโดดจากแผ่นกระดานที่สูง 60 ศอกขึ้นไปตีลังกาในอากาศถึง 14 รอบ แล้วลงมายืนที่พื้นแสดงความเคารพต่อพระบรมศาสดา จากนั้นก็ได้ฟังธรรมจากพระองค์แล้วได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ได้ขอบวชกับพระบรมศาสดา ส่วนภรรยาเมื่อเห็นสามีได้ออกบวชแล้ว จึงได้ออกบวชตาม ภายหลัง นางก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์เถรี ด้วยบุญที่ได้ถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระเถระในครั้งนั้น บุคคลทำกรรมเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น การพูดก็เช่นเดียวกัน เพียงการพูดเพ้อเจ้อ ล้อเล่น ล้อเลียนกับพระเถระเพียงแค่นั้น ก็ยังส่งผลให้เป็นไปตามที่ตนพูด จากการเป็นลูกเศรษฐีอยู่ดีๆ ก็ต้องกลายมาเป็นนักแสดงกายกรรมผาดโผนไปได้

คนเราควรพูดถ้อยคำที่เป็นปิยวาจา พูดไพเราะ พูดเป็นอรรถเป็นธรรม เป็นเรื่องจริง มีประโยชน์ และพูดถูกกาลสมัยให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ฟัง เพราะการพูดดีนั้นมีอานิสงส์ ย่อมทำผู้พูดนั้นให้เป็นที่รัก เป็นที่เคารพเลื่อมใสของมหาชน ทั้งให้ได้สมบัติทั้ง 3 คือมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติ ตัวอย่างฝ่ายดีก็มี

อย่างเช่นอดีตชาติของสันตติมหาอมาตย์ ที่ท่านเคยได้เที่ยวป่าวประกาศคุณของพระรัตนตรัย และชักชวนให้มหาชนลุกขึ้นแต่เช้า เพื่อหุงหาอาหารใส่บาตรพระ ชักชวนผู้คนไปวัดเพื่อฟังธรรมและปฏิบัติธรรม

ส่งผลให้ท่านได้มนุษย์สมบัติ คือได้รับม้า รถเทียมม้า ได้ช้างซึ่งประดับประดาเป็นอย่างดี และได้สมบัติเป็นอันมากจากพระราชา ในชาตินั้น ท่านกล่าวสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยจนกระทั่งกลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากตัว กลิ่นดอกบัวฟุ้งออกจากปาก

ด้วยผลบุญนั้น ส่งผลให้ท่านได้ท่องเที่ยวอยู่ในสวรรค์นานถึง 91 กัป มาในชาตินี้ท่านได้มาเกิดเป็นมหาอมาตย์ของพระราชา ได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงครั้งแรก ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์อย่างง่ายดาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 09:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8: :b20:

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2011, 12:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 มี.ค. 2011, 13:32
โพสต์: 245


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณค๊าบบ :b1:

.....................................................
"องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน ตัดมูลเกลศมาร บ มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคี บ พันพัว สุวคนธกำจร"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร