วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 00:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2011, 17:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2004, 16:16
โพสต์: 114


 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้มีคำถามเรื่องของความหวังมาถามว่า
ความหวังประเภทไหนที่ทำให้ผู้ตั้งความปรารถนาต้องพบกับความผิดหวังตลอดมา?
ความหวังประเภทไหนที่ทำให้เกิดแต่ความทุกข์?
และความหวังประเภทไหนที่ไม่มีทางเป็นไปได้?

คำเฉลยก็คือ ..

ความหวังที่มีแต่ความผิดหวังก็คือ หวังให้ใครๆคิดเหมือนเราและทำได้ถูกใจเรา
ความหวังที่ทำให้พบแต่ความทุกข์ก็คือ หวังให้ใครๆคิดเหมือนเราและทำได้ถูกใจเรา
ความหวังที่ไม่มีทางเป็นไปได้ก็คือ หวังให้ใครๆคิดเหมือนเราและทำได้ถูกใจเรา

ซึ่งทั้งสามคำถามนี้หลายคนอาจมีคำตอบพร้อมเหตุผลที่แตกต่างกันอยู่ในใจ และไม่ว่าใครจะมีคำตอบเป็นอย่างใดเมื่อนำมาสรุปแล้ว ความแตกต่างกันของคำตอบและเหตุผลของแต่ละคนนี่แหละ....คือ หัวใจของคำตอบของทั้งสามคำถามข้างต้น ที่หมายถึง นานาจิตตัง นั่นเอง

เพราะความแตกต่างทางความคิดอันเนื่องมาจากภูมิหลังที่ไม่เหมือนกัน ประกอบกับอุปนิสัยที่ต่างกัน จึงทำให้แต่ละคนแสดงพฤติกรรมทางกาย วาจา และใจไม่เหมือนกันเลย แม้จะอยู่ในสถานการณ์และช่วงเวลาเดียวกัน เช่น ในการเข้าแถวออกกำลังกายที่ใช้จังหวะท่าทางเดียวกัน แต่ก็มีความต่างในรูปลักษณะที่ปรากฏ

รวมทั้งความรู้สึกในใจที่แต่ละคนมีอยู่ซึ่งไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ขณะที่อยู่ในท่านี้ ใครมีความคิดอย่างไร บางคนอาจคิดถึงงาน บางคนอาจคิดถึงอาหาร บางคนอาจคิดถึงบ้าน บางคนอาจคิดถึงคนรัก ฯลฯ

ความแตกต่างเหล่านี้หลายคนยอมรับได้ในทางทฤษฎีว่า มีความแตกต่างกันอยู่จริง แต่เมื่อใดที่เราเข้าสู่ภาคปฏิบัติเพื่อจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นแล้ว เรามักลืมเรื่องความแตกต่างเหล่านี้เสียสิ้น แต่กลับทวีความมุ่งหวัง และอำนาจบังคับให้แต่ละสิ่งเป็นไปตามที่เราปรารถนาไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด

อาจมีหลายๆคนเห็นว่า ทำดีแต่กลับไม่ได้ดี มีแต่ความทุกข์ความเจ็บช้ำขมขื่น บางทีถูกตำหนิจากบุคคลแวดล้อมก็มี แต่ต้องอดทนอดกลั้นเพื่อจะรักษาภาพของคนดีนั้นไว้

การที่เขามีความรู้สึกอย่างนี้ก็เพราะว่า เขาเหล่านั้นมีความมุ่งหวังให้ผู้อื่นยอมรับ หรือยกย่องชมเชยการกระทำของตน และหวังที่จะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า

แต่ไม่ได้พิจารณาแยกแยะว่า ผู้ทำและผู้ที่อยู่แวดล้อมล้วนมีจิตใจที่แตกต่างกัน การกระทำที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นการสร้างเหตุใหม่ ส่วนการไม่ได้รับการยอมรับนั้นเป็นผลที่เกิดมาจากเหตุเก่า ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน

อันที่จริงหากคิดได้ถูกแล้วก็จะเห็นว่า ความดีเมื่อได้กระทำแล้วก็จะได้รับผลตอบแทนทันทีคือ ความดีนั่นเอง แต่เมื่อความหวังนั้นไม่ได้รับการตอบสนอง ความผิดหวังและความทุกข์ก็ติดตามมาเป็นธรรมดา

หรืออย่างการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่น เราก็มักจะมีความหวังว่า เขาจะเข้าใจเรา ยอมรับเรา ทำในสิ่งที่ถูกใจเรา ทำตามที่เราแนะนำด้วยความเต็มใจ ซึ่งบ่อยครั้งเราก็จะพบกับความขมขื่นในสิ่งที่หวังไว้เหล่านี้ และเรามักจะมีคำถามเสมอว่า ทำไมเขาไม่เข้าใจเราเลย ทำไมเขาไม่เห็นความปรารถนาดีของเราเลย

จริงแท้แน่นอนที่ความปรารถนาดีเป็นสิ่งที่ควรมีแก่กันเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เพียงการชี้แจงให้ทราบถึงเหตุและผลในเรื่องราว..ก็เพียงพอแล้วกับสัมพันธภาพที่ดี

หากเมื่อใดที่มีการตั้งความหวังและใช้คำสั่งหรือบังคับ ความอึดอัดคับข้องใจก็จะต้องเกิดขึ้นกับแต่ละฝ่าย และก็ถึงซึ่งความเจ็บช้ำใจเพราะไม่เป็นไปตามที่หวังไว้

เหมือนดังเนื้อเพลงที่เขาเขียนไว้ว่า .....หวังสิ่งใดก็ได้แต่สิ้นหวัง สิ้นแรงพลังความหวังสูญสลาย..ก็เพราะไปหวังผิดที่นั่นเอง ไปหวังเอากับจิตมนุษย์ที่ยากแท้หยั่งถึงนั่นจะได้อย่างไรกัน

ในขณะที่ตั้งคำถามนี้เราได้ลืมเรื่องของนานาจิตตังไปเสียสนิท

ลืมว่าแต่ละคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพทางความคิดและมุมมองที่แตกต่างกัน

ลืมว่าแต่ละคนมีรสนิยมที่ไม่เหมือนกัน มีความเชื่อความชอบในสิ่งที่ต่างกันไป

ลืมว่าแต่ละคนมีเหตุของบุญและบาปที่ทำไว้ต่างกัน จึงต้องประสบกับผลที่ต่างกันและเลือกทำในสิ่งที่ต่างกันไป

นอกจากลืมประเด็นสำคัญเหล่านี้ไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
หลายคนยังพยายามฝืนความจริงของธรรมชาติในหลักของอนัตตา ที่จะพยายามบังคับบัญชาผู้อื่นให้รู้สึกนึกคิดตามที่เราต้องการ ความทุกข์จึงทวีคูณเป็นสองเท่าเพราะทำในสิ่งที่ไม่มีทางสำเร็จได้เลยถึงสองประการ

ตัวอย่างง่ายๆนี้แสดงให้เห็นถึงทางแห่งความทุกข์ที่เรามักเลือกเดินอยู่บ่อยๆโดยไม่รู้จักเปลี่ยนเส้นทาง แล้วก็ฟูมฟายร้องไห้เสียน้ำตาอยู่บนเส้นทางนั้นอย่างเดียวดาย

คนส่วนมากจึงยอมรับอย่างดุษฎีว่า การใช้ชีวิตเป็นเรื่องยากเพราะความหลากหลายของจิตที่แต่ละคนมีนั่นเอง

และในทางตรงข้าม การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายหากยอมรับได้ในความแตกต่างเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกนึกคิด หรือสถานการณ์ที่แต่ละคนต้องประสบ

หากเราต่างรู้เหตุที่ทำให้ผลเกิด โดยเฉพาะเหตุที่ทำให้เราสบายใจ ไม่ทุกข์ และเราก็รีบสร้างเหตุเพื่อได้รับผลที่เราต้องการนั้นแล้ว รับรองว่าเราไม่ต้องมาร้องเพลงครวญด้วยความผิดหวังอีกต่อไป

....พี่ดอกแก้ว....

.....................................................
เป็นประธานมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 77 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร