ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

จ.เออ - เจอ ... เจอใจ เจอธรรม
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=41182
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  eragon_joe [ 17 ก.พ. 2012, 15:40 ]
หัวข้อกระทู้:  จ.เออ - เจอ ... เจอใจ เจอธรรม

:b48: เจอใจ เจอธรรม :b48:

ท่านเล่าว่า จิตท่านทรงอริยธรรมขั้น 3 อย่างเต็มภูมิมานานแล้ว
แต่ไม่มีเวลาเร่งความเพียรตามใจชอบ เพราะภารกิจเกี่ยวกับหมู่คณะมีมากตลอดมา
พอได้โอกาสคราวไปพักที่เชียงใหม่ จึงได้เร่งความเพียรเต็มเม็ดเต็มหน่วย
และก็ได้อย่างใจหมายไปทุกระยะ สถานที่บรรยากาศก็อำนวย
พื้นเพของจิตที่เป็นมาดั่งเดิมก็อยู่ในขั้นเตรียมพร้อม สุขภาพทางร่างกายก็สมบูรณ์
ควรแก่ความเพียรทุก ๆ อิริยาบถ ความหวังในธรรมขั้นสุดยอด ถ้าเป็นตะวันก้กำลังทอแสงอยู่แล้วทุกขณะจิต
ว่าแดนพ้นทุกข์กับเราคงเจอกันในไม่ช้านี้ท่านเทียบจิตกับธรรมและกิเลส
ขั้นนี้เหมือนสุนัขไล่เนื้อ ตัวอ่อนกำลังเต็มที่แล้วเข้าสู่ที่จนมุม
รอคอยแต่วะระสุดท้ายของเนื้อจะตกเข้าสู่ปากและบดเคียวให้แหลกละเอียดอยู่เท่านั้น
ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น เพราะเป็นจิตที่สัมปยุตด้วยมหาสติมหาปัญญา ไม่มีเวลาพลั้งเผลอตัว
แม้ไม่ตั้งใจระวังรักษา เนื่องจากเป็นสติปัญญาอัตโนมัติหมุนกับเหตุการณ์ต่าง ๆ
ไม่ต้องมีการบังคับบัญชาเหมือนขั้นเริ่มแรกปฏิบัติ
ว่าต้องพิจารณาสิ่งนั้นต้องปฏิบัติต่อสิ่งนี้ อย่าเผลอตัวดังนี้
แต่เป็นสติปัญญาที่มีเหตุมีผลอยู่กับตัวอย่างพร้อมมูลแล้ว
ไม่จำต้องหาเหตุหาผลหรืออุบายต่าง ๆ มาพร่ำสอนสติปัญญาขั้นนี้
ให้ออกทำงานเพราะในอิริยาบถทั้งสี่เว้นแต่หลับเท่านั้น
เป็นเวลาทำงานของสติปัญญาขั้นนี้ตลอดไป ไม่ขาดวรรคขาดตอน
เหมือนน้ำซับน้ำซึมที่ไหลรินอยู่ตลอดหน้าแล้งหน้าฝน
โดยถือเอาอารมณ์ที่คิดปรุงจากจิตเป็นเป้าหมายแห่งการพิจารณาเพื่อหามูลความจริงจากความคิดปรุงนั้น ๆ
ขันธ์สี่คือนามขันธ์ ได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
นี่แลคือสนามรบของสติปัญญาขั้นนี้ ส่วนรูปขันธ์เริ่มหมดปัญหา
มาแต่ปัญญาชั้นกลางที่ทำหน้าที่เพื่ออริยธรรมขั้น 3 คือ
อนาคามีธรรมนั้นแล้ว อริยธรรมขั้น 3 นี้ ต้องถือรูปขันธ์เป็นเป้าหมายแห่ง
การพิจารณาอย่างเต็มที่ และละเอียดถี่ถ้วนจดหมดทางสงสัยแล้วผ่านไปอย่างหายห่วง
เมื่อถึงขั้นสุดท้ายนามขันธ์เป็นธรรมจำเป็นที่ต้องพิจารณา ให้รู้แจ้งเห็นจิรงทั้งที่ปรากฏขึ้นดั้งอยู่และดับไป
โดยมีอนัตตาธรรมเป็นที่รวมลง คือพิจารณาลงในความว่างเปล่าจากสัตว์
บุคคล หญิง ชาย เรา เขา ไม่มีคำว่าสัตว์ บุคคล เป็นต้น
เข้าไปแทรกสิงอยู่ในนามธรรมเหล่านั้นเลย
การเห็นธรรมเหล่านี้ต้องเห็นด้วยปัญญาหยั่งทราบตามหลักความจริงจริงๆ
ไม่เพียงเห็นด้วยความคาดหมายหรือคาดคะเนเดาเอาตามนิสัยของมนุษย์ที่ชอบด้นเดา
มาประจำสันดาน ความเห็นตามสัญญากับความเห็นด้วยปัญญา
ต่างกันอยู่ราวฟ้ากับดิน ความเห็นด้วยสัญญาพาให้ผู้เห็นมีอารมณ์มาก
มักเสกสรรตัวว่ามีความรู้มากทั้งที่กำลังหลงมาก จึงมีทิฐิมานะมากไม่ยอมลงใครง่าย ๆ
เราพอทราบได้เวลาสนทนาธรรมกันในวงนักศึกษาที่ต่างรู้ด้วยความจดจำด้วยกัน
สภาธรรมมักจะกลายเป็นสภามวยฝีปากกันอยู่เสมอ โดยไม่จำกัดชาติชั้นวรรณะ
และเพศวัยเลย เพราะความสำคัญตนพาให้เป็นไป จนลืมมรรยาทความเคารพอันดีงาม
ต่อกันตามประเพณีของมนุษย์ผู้มีธรรม ส่วนความเห็นด้วยปัญญา
เป็นความเห็นซึ่งพร้อมที่จะถอดถอนความสำคัญมั่นหมายต่าง ๆ
อันเป็นตัวกิเลสทิฎฐิมานะน้อยใหญ่ออกไปโดยลำดับที่ปัญญาหยั่งถึง
ถ้าปัญญาหยั่งลงโดยทั่วถึงจริง ๆ กิเลสทั้งมวลก็พังทลายไปหมด
ไม่มีกิเลสชนิดใดจะทดต่อสติปัญญาชั้นยอดเยี่ยมไปได้
ฉะนั้น สติปัญญาจึงเป็นอาวุธชั้นนำของธรรมที่กิเลสทั้งมวลไม่อาจสู้ได้
แต่ไหนแต่ไรมาพระศาสดาได้เป้นพระพุทธเจ้าก็เพราะสติปัญญา
พระสาวกได้บรรลุถึงพระอรหันต์ก็เพราะสติปัญญาความรู้จริงเห็นจริง
มิได้ถอดถอนกิเลสด้วยสัญญาความคาดหมายหรือเดาเอาเฉย ๆเลย
นอกจากนำมาใช้พอเป็นแนวทางในขั้นเริ่มแรกเท่านั้น
แม้เช่นนั้นก็จำต้องระวังสัญญาจะแอบแฝงตัวขึ้นมาเป็นความจริงให้หลงตามอยู่ทุกระยะ
มิได้นิ่งนอนใจ การประกาศพระศาสนาเพื่อความจริงแก่โลก
ทั้งพระพุทธเจ้าและพระสาวกทรงประกาศด้วยปัญญาความรู้จริงเห็นจริงทั้งนั้น
ดังนั้นผู้ปฏิบัติทางจิตตภาวนาจึงควรระวังเจ้าสัญญาจะแอบเข้าทำหน้าที่แทนปัญญา
โดยรู้เอาหมายเองเฉย ๆ แต่กิเลสแม้ตัวเดียวก็ไม่ถอดออกจากใจบ้างเลย
และอาจกลายเป็นทำนองว่า “ความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด” ก็ได้
ธรรมขั้นรู้เห็นด้วยปัญญานี่แลที่พระพุทธเจ้าแสดงแก่กาลามชนว่า
ไม่ให้เชื่อแบบสุ่มเดา แบบคาดคะเน ไม่ให้เชื่อตาม ๆ กันมา
ไม่ให้เชื่อตามครูอาจารย์ที่ควรเชื่อได้เป็นต้น แต่ให้เชื่อด้วยปัญญา
ที่หยั่งลงสู่หลักความจริงด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นความรู้ที่แน่ใจอย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้าและสาวกอรหันต์ท่านมิได้มีคนประกันรับรองว่า
ท่านได้บรรลุธรรมจริงอย่างนั้น ไม่จริงอย่างนี้ แต่สันทิฏฐิโกมีอยู่กันทุกคน
ถ้าปฏิบัติตามธรรมที่แสดงไว้โดยสมควรแก่ธรรมท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า
ปฏิบัติมาถึงขั้นนี้ มีความเพลิดเพลินจนลืมเวล่ำเวลา ลืมวันลืมคืน
ลืมพักผ่อนหลับนอน ลืมความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จิตตั้งท่าแต่จะสู้
กิเลสทุกประเภทด้วยความเพียร เพื่อถอดถอนมันพร้อมทั้งราก
โดยไม่มีความสะทกสะท้านหวั่นเกรงอะไรเลย นับแต่ออกจากวัดเจดีย์หลวง
ไปบำเพ็ญโดยลำพังองค์เดียวด้วยเวลาเป็นของตนทุก ๆ ระยะ ไม่ปล่อยให้
วันคืนผ่านไปเปล่า ไม่นานนักเลยก็ถึงบึงใหญ่ชื่อ “หนองอ้อ” และ
“อ้อนี่เอง” คือนับแต่ขณะปลีกออกไปจิตท่านเริ่มแสดงตัวอย่างผาดโผน
เหมือนม้าอาชาไนยตัวองอาจทั้งจะเหาะเหินเดินฟ้า ทั้งจะดำดินและ
บินขึ้นบนอากาศ ทั้งจะออกรู้สิ่งต่าง ๆ ไม่มีประมาณบรรดามีอยู่ในโลกธาตุ
ทั้งจะขุดค้นรื้อ ถอนกิเลสภายในใจให้หมดสิ้นไป ประหนึ่งในอึดใจเดียว
เพราะความสามารถอาจหาญของสติปัญญาที่ถูกกักขังบังคับไว้ด้วยภาระ
เกี่ยวกับหมู่คณะเป็นเวลานาน มิได้ออกแล่นในห้วงมหาสมมุติมหานิยม
เพื่อชมและเลือกเฟ้นกลั่นกรอง ให้สุดสติปัญญาที่แสนอยากรู้มานาน
คราวนั้นจึงสบโอกาสวาสนาอำนวย สติปัญญาจึงแผลงฤทธิ์ทะยานออกล่องหนค้นดูไตรโลกธาตุ
ทั้งภายในภายนอก วิ่งออกวิ่งเข้า แหวกว่ายผุดขึ้นดำลง ทั้งปลดทั้งปลง
ทั้งปล่อยทั้งวาง ทั้งตัดทั้งฟัน ทั้งขยี้ทำลาย สิ่งจอมปลอมทั้งหลายอย่างสุดกำลัง
เหมือนปลาใหญ่สนุกแหวกว่ายหัวหางกลางลำตัว ในทะเลหลวงฉะนั้นจิตมองคืนไปข้างหลัง
ที่ผ่านมาแล้ว เห็นแต่ความตีบันมืดมิด และเต็มไปด้วยภัยนานาชนิดสุดที่จะรั้งรออยู่ได้
ใจสั่นริก ๆ เพื่อหาทางรอดพ้น มองไปข้างหน้าเห็นมีแต่ความสง่าผ่าเผยเวิ้งว้างสว่างไสว
สุดความรู้ความเห็นที่จะพรรณนาให้จบสิ้นลงได้ และยากที่จะนำมาเขียนลงเพื่อท่านได้อ่านอย่างสมใจ
จึงขออภัยไว้ด้วยในตอนที่ไม่สามารถจะนำมาลงซึ่งมีอยู่มากมายตามที่ท่านเล่า


:b54: :b48: :b48: :b54:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 17 ก.พ. 2012, 15:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จ.เออ - เจอ ... เจอใจ เจอธรรม

จากหนังสือ
ประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
โดย
พระธรรมวิทุทธิมงคล

เจ้าของ:  วิริยะ [ 17 ก.พ. 2012, 18:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จ.เออ - เจอ ... เจอใจ เจอธรรม

eragon_joe เขียน:
:b48: เจอใจ เจอธรรม :b48:
การเห็นธรรมเหล่านี้ต้องเห็นด้วยปัญญาหยั่งทราบตามหลักความจริงจริงๆ
ไม่เพียงเห็นด้วยความคาดหมายหรือคาดคะเนเดาเอาตามนิสัยของมนุษย์ที่ชอบด้นเดา
มาประจำสันดาน ความเห็นตามสัญญากับความเห็นด้วยปัญญา
ต่างกันอยู่ราวฟ้ากับดิน ความเห็นด้วยสัญญาพาให้ผู้เห็นมีอารมณ์มาก
มักเสกสรรตัวว่ามีความรู้มากทั้งที่กำลังหลงมาก จึงมีทิฐิมานะมากไม่ยอมลงใครง่าย ๆ

:b54: :b48: :b48: :b54:

ขอ ม.โอ โม โมทนา สาธุ .. :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 19 ก.พ. 2012, 10:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จ.เออ - เจอ ... เจอใจ เจอธรรม

จ.อะ - จะทะยอยพิมพ์ลง น๊ะจ๊ะ

:b4: :b4: :b4:

(แม้จะเมื่อยชิ๊-... :b13: :b13: )

เจ้าของ:  วิริยะ [ 19 ก.พ. 2012, 15:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จ.เออ - เจอ ... เจอใจ เจอธรรม

มาเอาใจช่วยอ่ะ :b20: :b13:

เจ้าของ:  สาวิกาน้อย [ 29 ก.พ. 2012, 11:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: จ.เออ - เจอ ... เจอใจ เจอธรรม

:b8: :b8: :b8: :b20: คุณ eragon_joe สบายดีนะค่ะ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/