พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก และคณะศิษยานุศิษย์
ณ วัดชูซอนจิ จังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น
บทสัมภาษณ์จากหนังสือพิมพ์คนค้นธรรม
(ฉบับวันที่ 16 มกราคม 2554)
“เราพยายามทำความรู้สึกเห็นแก่ตัวน้อยลงแล้ว ใช้ชีวิตเพื่อความสุขเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม อันนี้เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา อาจารย์ก็ถือประโยชน์นี่ เราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็มาบวช แล้วชีวิตก็ให้ประโยชน์แก่ตนเองและคนอื่น”
(จากหนังสือธรรมะพอเพียง โดยพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก)
เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2554 ผู้สัมภาษณ์ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ที่มูลนิธิมายา โคตมี สอบถามถึงการเผยแพร่ธรรมะของพระคุณเจ้า แล้วก็ถามปัญหาธรรมะ ท่านได้เขียนหนังสือมากมาย เช่น ธรรมไหลไปสู่ธรรม, ทุกข์เพราะคิดผิด, ปัญหา 108 (6 เล่ม), เราเกิดมาทำไม, ทางสายกลาง ฯลฯ ส่วนผู้สนใจที่จะปฏิบัติ “อานาปานสติภาวนา” กับพระอาจารย์มิตซูโอะ สอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิมายา โคตมี โทรศัพท์ 02-368-3991, 02-368-3575 หรือเว็บไซต์ http://www.watpahsunan.org
ผู้สัมภาษณ์ : จากการที่พระอาจารย์เป็นชาวต่างชาติ ไม่ทราบว่ามีอุปสรรคในการเผยแพร่ธรรมะไหมพระอาจารย์มิตซูโอะ : อุปสรรคในการเผยแพร่ธรรมะก็น่าจะเป็นภาษานี่แหละ เพราะอธิบายธรรมะหรือว่าบรรยายก็ต้องใช้ภาษาเทคนิคพอสมควร อย่างไรก็ตาม เราก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นต่างชาติ
ผู้สัมภาษณ์ : พระอาจารย์ก็เข้าใจภาษาไทยมากพอสมควรใช่ไหมพระอาจารย์มิตซูโอะ : ก็ถ้าเป็นภาษาธรรมะก็เข้าใจ
ผู้สัมภาษณ์ : พระอาจารย์ได้ไปเผยแพร่ธรรมะที่ประเทศญี่ปุ่นบ้างไหมพระอาจารย์มิตซูโอะ : ประเทศญี่ปุ่นก็ไม่มากเท่าที่ควร อาจารย์ไปญี่ปุ่นโดยมากก็เป็นโครงการที่ช่วยเหลือเด็ก ตั้งมูลนิธิมายา โคตมี ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในเรื่องการศึกษา แล้วก็ไปเยี่ยมชาวญี่ปุ่นที่สนับสนุนโครงการ และถือโอกาสแสดงธรรมตามโรงเรียนต่างๆ นอกจากนั้น ถ้าไปโตเกียวก็ไปสถานทูตไทยเทศน์ให้ชาวไทยเป็นหลัก
ผู้สัมภาษณ์ : ที่พระคุณเจ้าบอกว่าโรงเรียนหมายถึงว่า คนญี่ปุ่นนิมนต์พระคุณเจ้าไปใช่ไหมคะพระอาจารย์มิตซูโอะ : ก็ใช่ เราได้รับการสนับสนุนจากคนญี่ปุ่น อาจารย์ก็จัดโรงเรียนพี่น้อง โรงเรียนในเมืองไทยกับญี่ปุ่น แล้วไปโรงเรียนก็ต้องบรรยายว่า เราทำอะไรอยู่ เมืองไทยเป็นอย่างไร เราแทรกธรรมะเข้าไป พยายามจะสอนธรรมะในโอกาสที่เขาให้เราบรรยาย
ผู้สัมภาษณ์ : คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นับถือศาสนาอะไรคะพระอาจารย์มิตซูโอะ : ก็ศาสนาพุทธเป็นมหายานก็ชาวพุทธนี่เอง
ผู้สัมภาษณ์ : ขอถามในเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ เราจะควบคุมความโกรธได้อย่างไรพระอาจารย์มิตซูโอะ : ความโกรธ เราก็ต้องเข้าใจก่อนว่าธรรมชาติของความโกรธเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะถ้าเราศึกษากฎแห่งกรรม แล้วมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เรารู้สึกโกรธ มันเป็นไปตามกฎแห่งกรรม เช่น เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นตามหลักกฎแห่งกรรม ต้องเป็นอย่างนั้น
เหมือนกับอากาศที่หนาวจัด ร้อนจัด มีฝนมากไป หรือไม่มีฝน แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ห้ามไม่ได้ ถ้าเราศึกษาพุทธประวัติแล้ว ก็มีเหตุการณ์ที่ไม่น่าปราถนาเกิดขึ้นมากมาย แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ดี อริยสาวกก็ดี มันเป็นธรรมชาติ
วิบากกรรมในการกระทำของเรา ทั้งในอดีตชาติ 10 ชาติ 100 ชาติก็มี วิบากกรรมที่ปรากฏในปัจจุบันก็มีอยู่ เช่น พระโมคคัลลานะ เมื่อช่วงสุดท้าย โจร 500 คน จะฆ่าทำลายชีวิตของท่าน คือท่านเคยฆ่าพ่อแม่ ตามตำราบางเล่มไม่ถึงตาย อย่างน้อยก็เกือบจะฆ่า การกระทำของเรา 100 ชาติก่อน ก็ยังปรากฏเป็นวิบากกรรมอยู่
กรรมที่ดีที่น่าปราถนาก็มี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่น่าปราถนา เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันก็เป็นการกระทำของเรา ในอดีตชาติเป็น 10 เป็น 100 ชาติก่อน เพราะฉะนั้นถ้าเราเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก็เป็นวิบากกรรม พระพุทธเจ้าก็สอนว่าอย่าหวั่นไหว อย่ายินดี ยินร้าย ใครจะนินทา ใครจะด่า ใครจะฆ่า เราก็ไม่สมควรที่จะโกรธ เมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับเรา จริงๆ แล้วก็เป็นการกระทำของตัวเอง 100 % เราเป็นต้นเหตุหรือเราสร้างเหตุไว้ ถ้าเราเข้าใจกฎแห่งกรรมแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ทำใจเป็นกลางๆ ทำใจหนักแน่น อดทน
อย่างไรก็ตามความรู้สึกโกรธที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา เราก็พยายามสำรวมกาย วาจา และจิตใจ รู้จักคิด ความโกรธเหมือนขยะทางจิตใจ ไม่ต้องห้าม แต่ว่าไม่ยึด อย่าเก็บ อย่ายินดียินร้าย อย่าให้เป็นมโนกรรม ปล่อยวาง ให้อภัย เมื่อเราเข้าใจความโกรธ เราก็จะไม่หวั่นไหว และตั้งมั่นในศีล
ผู้สัมภาษณ์ : ทำอย่างไรที่เราจะอยู่กับทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์พระอาจารย์มิตซูโอะ : ใช้ปัญญา เริ่มต้นเข้าใจศึกษากฎแห่งกรรม มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็เป็นเช่นนั้นเอง ต้องเกิดไม่ใช่ว่าใครทำผิด จริงๆ แล้วเราก็ทำผิดไว้ เราไม่ต้องคิดน้อยใจ การปฏิบัติธรรมของเราก็เหมือน เมื่อมีทุกข์ มีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้น เช่น ความแก่ เจ็บ ตายของตัวเองหรือญาติพี่น้อง เราจำเป็นต้องดูแล เหล่านี้เป็นความจริงของวัฏสงสาร พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า เราต้องทำความสงบ เราก็สามารถทำใจได้ ถ้าปฏิบัติจริงๆ แล้วก็สามารถพ้นทุกข์ได้
ผู้สัมภาษณ์ : เคยอ่านหนังสือของพระคุณเจ้า และพระคุณเจ้าได้กล่าวว่า “การไม่ยึดมั่นถือมั่นเป็นเรื่องง่าย” แต่สำหรับฆราวาสน่าจะยาก จะทำอย่างไรให้ง่ายเหมือนที่พระคุณเจ้าได้พูดไว้พระอาจารย์มิตซูโอะ : เริ่มต้นที่หัดตายทุกวันๆๆ ถ้าเราทำได้มากเท่าไร เราก็จะมองเห็นชีวิต มันก็ค่อยๆ เปลี่ยน
ผู้สัมภาษณ์ : การที่จะมีชีวิตเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น เราจะทำอย่างไรพระอาจารย์มิตซูโอะ : เราเริ่มต้นมีเมตตากับตัวเอง ความรักเสมอด้วยความรักตนไม่มี ทำให้สบายใจ แล้วเมื่อจิตใจเกิดเมตตา ความเป็นมนุษย์ก็เกิดในใจเรา มนุษย์ก็รู้อยู่ว่าชั่ว ดี บุญ บาปเป็นอย่างไร ถ้าเราสามารถรักตัวเองได้เมื่อไหร่ เราก็รักคนอื่นเป็น เห็นอกเห็นใจคนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือว่าสามี ภรรยา เราอยู่ในองค์กร หรืออยู่ที่ไหนก็ตาม คนที่เกี่ยวข้องกับเราทุกวัน เราก็เมตตากรุณา เห็นอกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ความสุขของเขาคือความสุขของเรา ปัญญามองเห็นเมื่อไหร่ ก็ลดทิฏฐิมานะ อ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่ถือตัวถือตน ความสามัคคีกันในหมู่คณะก็เกิดขึ้น
ที่มา : หนังสือ “อีกหนึ่งมุมมอง เล่มที่ 2”
รวมบทสัมภาษณ์พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
รวมคำสอน “พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38514