วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2015, 08:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



การประพฤติธรรมในพุทธศาสนานี้เรียกว่าเราประพฤติเพื่อละความยึดมั่นถือมั่น
พระศาสดาก็ทรงสอนในทำนองนี้เหมือนกันนะ ความมุ่งหมายแห่งคำสอนของพระองค์
มันมามีอยู่ตรงนี้ตรงให้ละ "ความยึดมั่นถือมั่น" นี่ล่ะ


เริ่มตั้งแต่การให้ทานนี้ ลองพิสูจน์ดูก็ได้ การให้ทานนี้ถ้าใครยังไปยึดมั่นถือมั่น
ในวัตถุทาน เสียดายอาลัยอยู่อย่างนี้ก็ให้ทานไม่ได้เลย ถ้าใจนี้สละออกไปได้แล้ว
ไม่เสียดายไม่อาลัยมันแล้วอย่างนี้..ให้ทานได้เลย
นี่ลองสังเกตดูซิ
คำสอนของพระองค์เป็นการสอนเพื่อให้ละความถือมั่น ความยึดมั่นถือมั่นนี่น่ะ
มันพาให้เทียวเกิดเทียวตายอยู่ในโลกอันนี้ ไม่รู้จักจบจักสิ้น

ถ้าไปยึดมั่นถือมั่นอยู่ใน "บาป" บัดนี้ บาปมันก็พาไปสู่นรกอบายภูมิ
ก็พระพุทธเจ้าท่านสอนให้สังวรระวังในสัตว์ทั้งหลาย อย่าไปเบียดเบียนกันอย่างนี้
มันก็ไม่ฟัง มันก็ไปยึดเอาความพอใจในการเบียดเบียนสัตว์นั้นเป็นอารมณ์อยู่นี้นะ
ก็สร้างบาปสร้างกรรมใส่ตัวเองไม่รู้ว่ากี่เท่าไรแล้ว บาปกรรมมันสะสมไว้ในใจนั้น
เป็นอย่างนี้..โทษแห่งความยึดมั่นถือมั่นในทางชั่วอันนี้

แม้ความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องชั่วอื่นๆก็เหมือนกัน มันก็ล้วนแต่เป็นทางไปสู้ทุกข์ทั้งนั้นเลย
แต่คนเรานี้มันหากไม่ได้ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นโทษแห่งกรรมชั่วเหล่านั้น
ด้วยปัญญาของตนเองเหตุดังนั้นมันจึงละไม่ได้ มันจึงละความยึดมั่นถือมั่นนั้นไม่ได้

ผู้ที่ละได้ก็เนื่องจากว่า มาพิจารณาเห็นแจ่มแจ้งในใจของตนแท้ๆ
ถ้าขืนยึดเรื่องชั่วอย่างนี้ไว้ ตนก็จะพ้นทุกข์ไปไม่ได้เลย
บัดนี้มันก็นึกเบื่อทุกข์ภัยในสงสารนะคนมีปัญญาน่ะ
อันคนขาดปัญญาแล้วมันไม่เบื่อ ไม่รู้จักเบื่อ เพราะมันติดเหยื่อล่อ

เหยื่อล่อก็คือ ความยินดีพอใจในรูปในเสียงในกลิ่นในรสในเครื่องสัมผัสต่างๆ
อันเป็นที่น่ารักใคร่พอใจต่างๆ อันนี้แหละ มันยินดีอยู่ในรูป เป็นต้นดังกล่าวมานี้
เพราะเหตุนั้นมันจึงไม่เห็นทุกข์เห็นภัยในวัฏสงสารนี้



:b44: :b44:


ฟังพระธรรมเทศนาของ “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.fungdham.com/sound/rein-new.html


:b45: ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20708

:b45: รวมคำสอนและประมวลภาพ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 มิ.ย. 2015, 07:59 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2863


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
:b8:
:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร