วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 23:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2020, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

กิเลสมันสู้ความเข้มแข็งไม่ได้ สู้สติสู้ปัญญาไม่ได้ มันเป็นศาสตราวุธที่ทันสมัยที่สุดตั้งแต่สมัยใดมาไม่ว่าพระพุทธเจ้าองค์ใดล้วนแล้วแต่ใช้สติใช้ปัญญานี้ทั้งนั้นเป็นเครื่องปราบปรามกิเลส อาศัยความพากเพียรความอุตส่าห์พยายามเป็นเครื่องหนุนหลัง แล้วกิเลสก็ตายไปด้วยอุบายอันนี้ด้วยวิธีการอันนี้

เราจะเอาวิธีการอันใดมาใช้ถ้าไม่ใช้ด้วยวิธีการอันนี้...ยาก ก็เป็นวิธีการที่จะชนะกิเลส เป็นวิธีการที่จะเอาชนะกับกิเลสเป็นวิธีการที่จะปราบกิเลสให้อยู่ในเงื้อมมือของเรา ยากก็เอาก็ปราบ ง่ายก็ปราบไม่ถอย จนกระทั่งเสือร้ายที่อยู่ภายในจิตใจมันหายตายไปหมดแล้วเราอยู่สบาย นั่นแหละชัยชนะเหนือภายในจิตใจเพราะกิเลสตายไปหมด ไม่มีอะไรมายุ่งมากวน ไม่มีอะไรมากัดมาฉีกมายุแหย่ทำลาย แสนสบายอยู่ไหนก็สบาย สบาย สุขัง วะตะ สุขัง วะตะ* ดั่งท่านมหากปิน** ท่านออกอุทาน

แต่ก่อนท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดินยุ่งยาก โอ๊ย...จนไม่มีเวลาจะบรรทม นี่พอเสด็จออกมาทรงผนวชได้บรรลุธรรมถึงขั้นพระอรหันต์แล้วอยู่ที่ไหนก็...“สุขัง วะตะ สุขัง วะตะ สุขหนอ สุขหนอ” ก็สุขน่ะซี่..ไม่มีอะไรมาบังคับ ไม่มีอะไรมากดขี่ ไม่มีอะไรมากัดมาฉีกมายุแหย่ก่อกวนจิตใจ โล่งไปด้วยอรรถด้วยธรรม โล่งไปด้วยความบริสุทธิ์ ว่างเปล่าไปหมดโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรมายุ่งกวนจิตใจเลย ว่างไปหมดนี่แหละว่างจากกิเลสตัณหาอาสวะ เหลือแต่ใจที่บริสุทธิ์ล้วนๆ เลยกลายเป็นใจที่ว่างไปหมด

ว่างทุกข์ ว่างความโศกเศร้าโศกาลัย ว่างสิ่งที่เป็นเสนียดจัญไรภายในจิตใจ ไม่มีเลย นั่นว่างอย่างนี้ นี่แสนสบาย นี่คือชัยชนะ นี่คือผลแห่งการรบ นี่คือผลแห่งการกระทำที่จะเป็นความลำบากยากเย็นเข็ญใจแค่ไหนก็ตาม ผลเป็นที่ยอมรับกันว่าประเสริฐอย่างนี้

-------

*สุขํ วต น โหติ กิญฺจิ สุขัง วะตะ นะ โหติ กิญจิ ผู้ไม่มีความกังวล ย่อมมีแต่ความสุข (พุทธศาสนสุภาษิต)

**“พระมหากัปปินเถระ” เอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างให้โอวาทแก่ภิกษุบริษัท อดีตท่านเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ในเมืองกุกุฏวดี เมื่อพระราชบิดาทิวงคตแล้ว ได้เสวยราชย์เป็น “พระเจ้ามหากัปปินะ” แต่ทรงมีพระราชหฤทัยใฝ่ในการบรรพชา ทรงส่งราชบุรุษออกแสวงหาข่าวของพระรัตนตรัยอยู่เสมอ เมื่อทรงทราบว่ามีพระพุทธเจ้าอุบัติแล้วในโลกก็ทรงสละราชสมบัติพร้อมด้วยข้าราชบริพารเสด็จออกบรรพชาทันที เมื่อท่านเสวยรสแห่งธรรมแล้วท่านได้อุทาน สุขหนอ สุขหนอ เป็นเหตุให้มีผู้ไปกราบบังคมทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ท่านพระมหากปินนเถระรำพึงถึงสุขในอดีตเมื่อครั้งเสวยราชบัลลังก์กระมัง


อ่านเพิ่มเติม “พระมหากัปปินเถระ”
เอตทัคคะในทางผู้ให้โอวาทแก่ภิกษุ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7543

:b45: :b45:

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์”


:b50: ประวัติและปฏิปทา “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=24738

:b50: รวมคำสอน “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38517

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 22 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร