วันเวลาปัจจุบัน 18 เม.ย. 2024, 19:44  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.พ. 2023, 17:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.พ. 2007, 20:39
โพสต์: 174


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ประสบการณ์บรรลุธรรม
แม่ชีอุไร

ลูกศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล


:b44: :b44:

การที่เราพยายามปล่อยวาง ไม่ให้มีตัวมีตนเกิดขึ้นในจิตในใจ ถ้าเราสามารถทำได้มากเท่าไร เราจะชนะใจตนเองมากเท่านั้น ผลที่พยายามไม่ยึดถือในตัวตนนี่เอง คือจุดหลุดพ้น!

สภาพร่างกายในขณะนี้ ถึงแม้จะถูกเวทนามันรุมเร้าเอาอย่างมากก็ตาม แต่เมื่อเราทำความเข้าใจในสภาพที่แท้จริงแล้ว มันจะกลับเป็นประโยชน์และเป็นตัวปัญญาให้เราคิดแก้ไขเอาชนะสิ่งนั้นให้ได้ในที่สุด

ได้มาพิจารณาถึงความเจ็บปวดในขณะที่เดินจงกรม ใช้สติตามรู้อยู่ตลอดว่ามันปวดที่ส้นเท้าและข้อเท้ามาก แต่รู้เฉยๆ ไม่ปรุงมัน ดูมันไป จนกลายเป็นสภาพที่ มีตัวรู้ เด่นอยู่เหนือความเจ็บปวดทั้งมวล

แต่ในสิ่งที่กำลังรู้อยู่นี้ มิใช่ว่าอาการเจ็บปวดนั้นจะอันตรธานไป หรือลดน้อยถอยไป มันยังแสดงปฏิกิริยาของมันอย่างปกติ แต่สิ่งที่เรียกว่า รู้ นั้น ก็ยังรู้อยู่ แต่แยกกันไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่มีอาการตอบสนอง หรือปรุงแต่งต่อเนื่องแต่อย่างใด เพียงแต่รับรู้ไว้เท่านั้น

นี่คือผลที่เรา ไม่นำเอาตัวตนของเรา เข้าไปร่วมในเหตุการณ์นั้น เมื่อมันขาดผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ มันมีเพียง กิริยา อย่างเดียว มันจึงเป็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อไม่สมบูรณ์ การปรุงแต่งต่อไป จึงไม่มี และขาดกันตรงนี้เอง และอาการเช่นนี้ ถ้าเราสามารถทำจิตได้ต่อเนื่องตลอดทุกลมหายใจเข้าออก จนกลายเป็นมีสติรอบเป็นวงแหวน มันก็หมดการเกิดดับตรงนี้เองเช่นกัน!

เมื่อสิ่งที่รู้นั้น ไม่แสดงปฏิกิริยาปรุงแต่ง เพียงแต่มีสติ รู้อยู่เฉย ๆ นี่เอง จึงทำให้เกิดปัญญาต่อไปว่า สิ่งที่รู้นี้ มันไม่ใช่ตัวที่เราเรียกว่าจิตหรอก มันไม่ใช่ทั้งกายและจิต แต่มันเป็นตัวรู้ ที่ธรรมชาติให้มา หรืออีกนัยหนึ่ง เรียกว่าตัวรู้นี้คือธรรมชาติ หรือธรรมชาติคือตัวรู้นี้ ตัวรู้หรือสิ่งที่รู้นี้ จะมีอยู่ทั้งในคนและสัตว์ แต่สิ่งที่เรียกว่า รู้ นี้ มันลึกลับ! ที่เวไนยสัตว์จะหยั่งเข้าไปถึง

เราจะต้องหยุดการเคลื่อนไหวของจิต ในรูปที่ไม่คิดปรุงแต่งทั้งหลายให้หมด เหลือไว้เพียงแต่ “รู้” เด่นอยู่เฉยๆ เท่านั้น แล้วสิ่งที่ปรากฏออกมาตามสภาพที่แท้จริงจึงปรากฏขึ้น การรู้นี้จะทะลุหมดทั้งสามโลก เพราะตัวรู้ที่ว่านี้ มันเป็นธรรมชาติเดิมแท้ และเดินทางกลับสู่สภาพเดิม จึงรู้แจ้งแทงตลอดหมด ไม่มีสิ่งอื่นเคลือบแฝง สามารถดับความคิดปรุงแต่งทั้งมวล ดับกิเลสตัณหาอุปาทานทั้งหลาย ในจิตในใจให้หมดไป

“รู้” นี้มันอยู่เหนือคำพูดที่จะพรรณาเป็นตัวอักษรได้ รู้ นี้ ที่แท้แล้วมันเป็นธรรมชาติเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปค้นหาที่ไหน มันอยู่ในจิตในใจเรานั่นเอง แต่เวไนยสัตว์หลงติดอยู่กับของปลอม จึงยากที่จะเข้าถึงตัวรู้นี้ได้

สิ่งที่รู้นี้แปลก! จะไม่เจือปนด้วยอะไรทั้งสิ้น ความสุขหรือทุกข์ ความกลัวหรือความกล้า ก็ไม่มีอยู่ในสิ่งรู้นั้น มันขาดจากสิ่งแปลกปลอมทั้งหลายจะเข้าไปอยู่ในขณะนั้น มันโพร่งเด่นตระหง่านอยู่กลางจิตกลางใจ ไม่มีอาการปวดเมื่อยในการเดินหรือเกิดเวทนาใด ๆ เลย ซึ่งการใช้เวลาเดินตั้งเกือบสามชั่วโมง มันเสมือนเราเดินกลับเข้าสู่สภาพธรรมชาติเดิมที่แท้ ที่มีอยู่แล้วในตัวเราและเรากำลังเดินเข้าสู่ธรรมชาติของเดิมนั่นทีเดียว

มันเป็นสิ่งเดียวกันกับที่ปู่พูดไว้ไม่มีผิด คือ จิตของเรากับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งแวดล้อมเราอยู่นั้น มันเป็นสิ่ง ๆ เดียวกัน จากคำพูดของปู่ที่ว่า จิตของเราเหนือกว่ามนุษย์หรืออมนุษย์ ทำอะไรเราไม่ได้ มันไม่ใช่คุณธรรมที่เรามีเหนือกว่าสิ่งทั้งหลายพวกนี้หรอกจึงทำอะไรเราไม่ได้ แต่ที่แท้จริงแล้ว มันเป็นเพราะจิตเดิมแท้หรือ รู้ นี่ต่างหาก ที่มันกลับไปสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติที่เขามีอยู่แล้ว คือ “ความว่าง”

เมื่อมันกลับเข้าสู่สภาพจิตเดิมแท้ อภิธรรมชาติทั้งหลายจึงทำอะไรเราไม่ได้ ไม่ใช่คุณธรรมในแง่ใดทั้งนั้น เมื่อของเดิมเป็นเช่นนี้ และเราสามารถยกปัจจุบันจิต ให้เข้าสู่สภาพ ระดับเดิมเดียวกัน จนเป็นผืนเดียวกันอย่างปู่ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในจิตในใจก็ดับหมด! อยู่ตรงนี้นั่นเอง มันไม่ไกลเกินไปจริงๆ ทีเดียว

จริงอย่างปู่ว่า “จิต ตัวมันเอก็ไม่ใช่จิต ถ้าเราทำความสงบเงียบอยู่จริง ๆ เว้นขาดจากการนึกคิด ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของจิตแม้แต่น้อยที่สุดเสียให้ได้จริง ๆ ตัวแท้ของมันก็จะปรากฏออกมาเป็นความว่าง” ตรงดังที่ปู่พูดทุกแง่ทุกมุม และเข้าใจตลอดในขั้นตอนที่ผ่านมา เมื่อนำหนังสือ จิตคือพุทธะ ของปู่มาอ่านทวนจากสิ่งที่เกิดในวันนี้ ซึ่งเป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้อ่านหนังสืออันมีค่าเหนือชีวิตเล่มนี้.

.....................................................
เมื่อเจ้าจักเห็น จงเห็นฉับพลัน พอตั้งต้นคิด หนทางปิดตัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร