วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 06:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ส.ค. 2013, 14:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b46: ความรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อ :b46:
พระเจ้าพิมพิสารกับพระเจ้าอชาตศัตรู


ในช่วงพรรษาที่ ๑๗
พระพุทธองค์ทรงเสด็จมาประทับที่พระเวฬุวันวิหาร กรุงราชคฤห์
อันเป็นพระอารามแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ซึ่งถวายไว้โดยพระเจ้าพิมพิสารนั้นเอง
เป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์นำไปสู่ปิตุฆาตของพระเจ้าอชาตศัตรู


รูปภาพ
พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายเวฬุวันวิหาร
ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระศาสนาแด่พระพุทธเจ้า



:b47: เพราะความรักและเมตตา ราชสมบัติก็ให้ได้

ในระหว่างนี้ ฝ่ายพระเทวทัตได้ยุยงเจ้าชายอชาตศัตรูผู้เป็นพระโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร
ให้รีบหาทางครองราชย์เสียแต่บัดนี้ โดยถวายการยุยงเนืองๆ
เป็นทำนองว่า เพราะปัจจุบันคนเราอายุสั้น
เจ้าชายอชาตศัตรูอาจสิ้นพระชนม์ก่อนจะได้ขึ้นครองราชสมบัติก็เป็นได้
จึงควรที่เจ้าชายจักปลงพระชนม์ชีพของสมเด็จพระบิดา
คือ พระเจ้าพิมพิสารนั้น แล้วขึ้นครองราชย์เสียเอง

แล้วพระเทวทัตก็คิดวางแผนจะปลงพระชนม์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าในอีกทางหนึ่ง
โดยปรารถนาจะปกครองหมู่พระสงฆ์ เป็นสังฆราชา

รูปภาพ
พระเทวทัตแสดงฤทธิ์
เพื่อโน้มน้าวศรัทธาของเจ้าชายอชาตศัตรู



ด้วยเหตุว่า เจ้าชายอชาตศัตรูนั้น แม้จะหลงเชื่อคำทูลยุยงของพระเทวทัตมากเพียงใด
แต่ความหวาดกลัวในพระราชบิดาก็มีมากอยู่ จึงทรงประหวั่นพระทัยเมื่อคิดจะทำการใดๆ
ในที่สุดก็ทรงส่อพิรุธว่าจะคิดทำการปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร

เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบความประสงค์ของเจ้าชายอชาตศัตรู
ผู้เป็นพระโอรส ว่าต้องการจะครองราชสมบัติ ก็ทรงสละให้เจ้าชายโดยเต็มพระทัย
จะทรงพิโรธหรือโกรธแค้นต่อเจ้าชายที่คิดลอบปลงพระชนม์พระองค์นั้นก็ไม่มีเลย


:b44:

:b47: กว่าจะซึ้งในรักของพ่อ

หลังจากเจ้าชายอชาตศัตรูได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอชาตศัตรูแล้ว
แต่พระเทวทัตก็ยังคงทูลยุยงว่า การที่พระเจ้าอชาตศัตรูปล่อยให้พระเจ้าพิมพิสาร
ยังคงมีชีวิตอยู่นั้น จะเป็นภัยแก่ราชสมบัติได้ในอนาคต ควรจะปลงพระชนม์เสีย

พระเจ้าอชาตศัตรูไม่ได้ประหารพระบิดาด้วยอาวุธในทันที
หากทรงส่งพระบิดา ไปคุมขังไว้ในห้องขัง รมด้วยควันไฟ อีกทั้งให้อดพระกระยาหาร
ในเบื้องต้นพระเจ้าอชาตศัตรูอนุญาตให้พระมารดาเข้าเยี่ยมพระบิดาได้
แต่พระมารดาแอบลักลอบถวายพระกระยาหารแด่พระบิดา คือ พระเจ้าพิมพิสาร
ด้วยวิธีการต่างๆนานาล้วนแต่น่าสังเวชสลดใจทั้งสิ้น
เช่น ทำอาหารให้ละเอียดที่สุดแล้วทาที่พระวรกายของพระนาง
เมื่อเข้าไปเยี่ยม ก็ถวายพระกระยาหารโดยให้พระเจ้าพิมพิสารเลียอาหารจากพระวรกาย เป็นต้น
ด้วยวิธีการต่างๆ เหล่านี้ พระเจ้าพิมพิสาร ก็ยังคงทรงพระชนม์ชีพได้

ในเวลาถัดมา พระเจ้าอชาตศัตรูก็สั่งพระมารดาไม่ให้เยี่ยมพระบิดาอีกต่อไป
พระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งทรงเป็นพระโสดาบันบุคคล
ก็ยังคงดำรงพระชนม์ชีพได้ด้วยปีติสุขอันเป็นความสุขประกอบด้วยมรรคผลจากการเดินจงกรม
อีกทั้งพระองค์ยังสามารถมองเห็นพระคันธกุฎีที่พระพุทธองค์ทรงประทับบนยอดเขาคิชชกูฎ
พระเจ้าพิมพิสารจึงยังคงอยู่ได้แม้ไม่ได้เสวยพระกระยาหาร
อีกทั้งปีติสุขยังทำให้พระวรกายกระปรี้กระเปร่า เปล่งปลั่งอีกด้วย

เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูทรงทราบเรื่อง จึงรับสั่งให้ช่างตัดผม
เอามีดโกนกรีดฝ่าพระบาททั้งสองข้างของพระเจ้าพิมพิสารเอาน้ำมันผสมเกลือทา
แล้วย่างด้วยถ่านไม้ตะเคียนที่กำลังคุแดงอีกต่อหนึ่ง
พระเจ้าพิมพิสารทรงเกิดทุกขเวทนาอย่างแรงกล้าไม่นานนักก็สวรรคต

ในวันที่พระเจ้าพิมพิสารสวรรคต พระโอรสของพระเจ้าอชาตศัตรูก็ประสูติพอดี
เมื่อได้ทรงทราบข่าวการประสูติของพระโอรสจากอำมาตย์
พระเจ้าอชาตศัตรูทรงบังเกิดความรักพระโอรสอย่างลึกซึ้ง
ทั้งทรงตระหนักในพระทัยว่า พระราชบิดาของพระองค์
ก็ทรงมีความรักต่อพระองค์ไม่แตกต่างกับที่พระองค์ทรงมีต่อพระโอรส

พระเจ้าอชาศัตรูทรงสำนึกในทันทีว่า พระองค์ได้ทำความผิดอย่างใหญ่หลวง
จึงมีรับสั่งให้ปล่อยพระราชบิดา
แต่อำมาตย์ได้ถวายรายงานว่า พระเจ้าพิมพิสารสวรรคต เสียแล้ว
ข่าวนี้ทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงทุกข์โทมนัสอย่างสุดซึ้ง

เมื่อทรงทราบความเป็นไปดังนั้น พระเจ้าอชาตศัตรูทรงกันแสง
เสด็จไปเฝ้าพระมารดา ทูลว่า

“ข้าแต่เสด็จแม่ เมื่อหม่อมฉันเกิด
พระบิดาของหม่อมฉันเกิดความรักหม่อมฉันหรือไม่ ?”


พระนางเวเทหิ ผู้เป็นพระมารดามีรับสั่งว่า

“เจ้าลูกโง่ เจ้าพูดอะไร เวลาที่ลูกยังเล็กอยู่ เกิดเป็นฝีที่นิ้วมือ
ครั้งนั้นพวกแม่นมทั้งหลายไม่สามารถทําให้ลูกซึ่งกําลังร้องไห้หยุดร้องได้
จึงพาลูกไปเฝ้าเสด็จพ่อของลูกซึ่งประทับนั่งอยู่ในโรงศาล
เสด็จพ่อของลูกได้อมนิ้วมือของลูกจนฝีแตกในพระโอษฐ์นั้นเอง
เสด็จพ่อของลูกมิได้เสด็จลุกจากที่ประทับ
แต่ทรงกลืนพระบุพโพปนพระโลหิตนั้นด้วยความรักลูก
เสด็จพ่อของลูกมีความรักลูกถึงปานนี้”


(พระเจ้าพิมพิสารทรงกลืนพระโลหิตของเจ้าชาย
ด้วยทรงเกรงพระโอรสจะตกพระทัยเมื่อเห็นพระโลหิต)

แม้พระเจ้าอชาตศัตรูจะสำนึกผิดเพียงไร
แต่กรรมได้สำเร็จลุล่วงลงไปแล้ว อีกทั้งเป็นอนันตริยกรรม คือ ปิตุฆาต
ผลแห่งกรรมนั้นทำให้พระองค์ร้อนพระทัยและหวาดระแวง
กลัวต่อกรรมของตัวเองอย่างยิ่ง จนไม่สามารถอยู่เป็นสุขได้
หากแต่ได้พระมหากรุณาของพระพุทธเจ้า
โปรดให้พระเจ้าอชาตศัตรูได้ทำมหากุศลต่างๆ ตลอดพระชนม์ชีพ
ก็ยังพอช่วยบรรเทาความรุนแรงของวิบากกรรมไปได้บ้าง
ถึงกระนั้น ผลแห่งอนันตริยกรรมก็ห้ามมรรคผลใดๆ


:b44:

:b46:ความรักและเมตตาต่อบุตรตั้งแต่แรกครรภ์

ย้อนหลังไปถึงสมัยที่พระมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร พระมารดาของพระเจ้าอชาตศัตรู
คือ พระนางเวเทหิทรงพระครรภ์ พระนางทรงแพ้ท้อง
เกิดมีพระอาการอยากเสวยพระโลหิตของพระสวามี

ด้วยความรักพระมเหสีและบุตรในครรภ์
พระองค์จึงรองพระโลหิตของพระองค์ไปให้พระมเหสีเสวย (ทรงกรีดเลือดพระองค์เอง)

ทางด้านโหราจารย์ทำนายว่า ราชกุมารในครรภ์จะเป็นปิตุฆาต (ฆ่าพ่อ)
ด้วยความภักดีในพระสวามี พระนางจึงพยายามทำแท้งแต่ไม่สำเร็จ
แต่พระเจ้าพิมพิสารเมื่อทรงทราบก็ห้าม
ทั้งนี้ ด้วยน้ำพระทัยแห่งความเป็นบิดา
ไม่ทรงเห็นแก่ชีวิตพระองค์เองและราชสมบัติยิ่งไปกว่าชีวิตพระโอรสเลย
ซึ่งพระเมตตานี้มีให้แก่พระโอรสนับตั้งแต่พระเจ้าอชาตศัตรูอยู่ในพระครรภ์ด้วยซ้ำ

ครั้นพระโอรสประสูติ ทรงขนานพระนามว่า “อชาตศัตรู” (แปลว่า ผู้ที่ไม่เป็นศัตรู)


:b44:

ความรักและเมตตาของพระเจ้าพิมพิสารที่มีต่อพระโอรสนั้น
สามารถสรุปได้ดังนี้


๑.) นับตั้งแต่พระเทวีทรงพระครรภ์ เมื่อปรารถนาเสวยพระโลหิตของพระองค์
ก็ทรงสละให้ทั้งนี้ด้วยความรักในพระเทวีและบุตรโดยไม่มีข้อแม้

๒.) แม้โหราจารย์จักทูลทำนายว่า บุตรที่จะเกิดมานั้นในอนาคตจะทำปิตุฆาต
คือ ปลงพระชนม์ของพระองค์ ก็ไม่ทรงคิดปลิดชีพพระโอรสเสียแต่ในครรภ์เลย
แม้พระเทวีจะยอมทำร้ายครรภ์เสียเองก็ทรงห้าม
ไม่ทรงหวาดหวั่นอันตรายต่อพระชนม์ชีพตัวเองไปกว่าเห็นแก่ชีวิตพระโอรสเลย

๓.) เมื่อพระโอรสปรารถนาราชสมบัติ ก็ทรงสละให้ได้ทันที

๔.) แม้ทรงโดนทรมานทั้งพระวรกายและทรมานน้ำพระทัยอย่างที่สุด
ก็ไม่ทรงโกรธแค้นต่อพระโอรสเลย ทรงยินยอมทุกอย่างโดยดี

๕.) จากการศึกษาเรื่องราวของพระเจ้าพิมพิสารนี้
ทำให้ตระหนักถึงคุณค่าแห่งการเป็นผู้มีคุณธรรมได้อย่างดี
คือ ผู้มีคุณธรรมตั้งมั่นดี ไม่หวั่นไหวแล้ว
ย่อมไม่สร้างอกุศลกรรมใดๆ ด้วยเห็นภัยจากการก่ออกุศลกรรมทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ไม่เสียดายอาลัยในชีวิตยิ่งกว่าการรักษาคุณธรรม


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระเจ้าพิมพิสาร คลิกที่นี่
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7263

:b44: :b44:

น้ำใจที่พ่อมีต่อลูกนั้น แสดงออกด้วยการคุ้มครองครอบครัว
ด้วยการป้องกันภัยจากคน สัตว์ ฯลฯ ที่จะมาทำร้ายครอบครัวก็ดี
ด้วยการประกอบอาชีพ เหน็ดเหนื่อยเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวก็มี
บางคนหลงผิด ทำบาปกรรมทำเข็ญด้วยความรักในครอบครัวก็มี ล้วนแต่น่าเห็นใจ

ควรอย่างยิ่งที่เราทุกคนจะสำนึกในน้ำใจของคุณพ่อที่มี
รวมถึงการให้อภัยต่อท่าน หากท่านทำสิ่งที่ขัดเคืองใจเรา

ท่านที่คุณพ่อยังชีวิตอยู่..อย่าลืมระลึกถึงคุณท่าน ดูแลท่านตามกำลังที่มี
ท่านที่คุณพ่อได้ล่วงลับไปแล้ว..ก็สนองคุณของท่านด้วยการอุทิศส่วนกุศลแด่ท่าน
เป็นบุญกุศล เป็นมงคลแก่ตัวเราดียิ่งนัก



:b39: :b39:


รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูลจาก
๑) http://www.bloggang.com/viewblog.php?id ... 4&gblog=20
๒) http://www.dmycenter.com/site/index.php ... 6-47/176-4
๓) http://www.kunkroo.com/catalog.php?idp=99
๔) http://th.wikipedia.org/wiki/

:b46: พระเจ้าพิมพิสาร
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7263
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=46223

:b46: อุบาสก ในสมัยพุทธกาล
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=71&t=46457

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร