วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2015, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รูปภาพ
ในงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ “หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ”
ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม
บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร


----------------------------

เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์

โครงสร้างของ “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” ทั้งหมดยึดถือตามแบบโบราณ นับตั้งแต่สะพานเชื่อมไปยังตัวปราสาท เพื่อใช้เคลื่อนย้ายโลงแก้วที่บรรจุสรีระสังขาร ทำด้วยไม้ไผ่แบบโบราณโดยใช้วิธีการขัดสานเป็นรูปร่าง

ลักษณะพิเศษของ “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” มีรูปร่างโครงสร้างส่วนหัวและลำตัวทำจากโครงไม้ ตกแต่งด้วยกระดาษตะกั่วหลากสีสัน ทำลวดลายเป็นเกล็ด บริเวณส่วนหัวช้างมีความพิเศษคือสามารถขยับเคลื่อนไหวไปมาได้ โดยชิ้นส่วนคอและหัวต้องเคลื่อนไหวหมุนไปมา ใบหูสามารถพับกระพือไปมาได้ ดวงตาทั้ง ๒ ข้างต้องมีลักษณะกลมมน ขอบตาสีแดง ขนตายาวงอนสวยงาม และกะพริบได้ตลอดเวลาเสมือนมีชีวิตจริงๆ ในส่วนของปีกสามารถขยับขึ้นลงได้เหมือนจังหวะการบินของนก บริเวณส่วนหางทำจากเสื่อไม้ไผ่ ตัดเป็นรูปให้มีลักษณะเหมือนหางหงส์ มีลวดลายสวยงาม ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยสวยงามเมื่อได้พบเห็น นอกจากนั้นบริเวณงวงยังยืดหดได้ โดยทำจากผ้าเย็บเป็นทรงกระบอกเลียนแบบงวงช้าง มีเชือกร้อยอยู่ด้านในสำหรับดึงเคลื่อนไหวได้ โดยส่วนนี้จะติดตั้งคนละส่วนกับลำตัว มีกลไกใช้เชือกชักให้เคลื่อนไหวได้ ด้านหน้ามีขันเล็กๆ บรรจุข้าวตอกไว้เพื่อโปรย ลักษณะเหมือนช้างใช้งวงโปรยข้าวตอกเพื่อความเป็นสิริมงคล หลังการจุดไฟประชุมเพลิงเผาศพปราสาทแล้ว ศรัทธาญาติโยมรวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพ จะรอแย่งผ้าเพดานซึ่งเป็นผ้าสังฆาฏิที่ขาดปลิวลงมาถึงพื้น เพื่อเก็บเป็นเครื่องบูชาสักการะหรือเป็นวัตถุมงคลไว้ติดตัว ส่วนท้องจะติดกับพื้นดินตามธรรมชาติของนกในป่า ขณะที่ส่วนยอดจะสร้างปราสาทตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามครอบบนตัวนกอีกชั้นหนึ่ง

บริเวณส่วนยอดมียอดปราสาทฉัตร ๙ ชั้น ซึ่งถือเป็นเครื่องประดับตามสมณศักดิ์ของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพตามความเชื่อของชาวล้านนา โดย ๓ ชั้นแรก หมายถึง พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ อีก ๕ ชั้นต่อมา หมายถึง พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ได้แก่ พระกกุสันโธสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโกนาคมโนสัมมาสัมพุทธเจ้า พระกัสสโปสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโคตโมสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอาริยเมตไตรโยสัมมาสัมพุทธเจ้า และชั้นที่ ๙ หมายถึง พระนวโลกุตรธรรมเจ้าเก้าประการ ได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ และนิพพาน ๑

ทั้งนี้ โดยรอบเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ทั้ง ๔ ทิศ จะมีเพดานที่ทำจากเสาไม้ไผ่สูง และขึงด้วยผ้าสังฆาฏิ (ผ้าพาดบ่าของพระภิกษุสงฆ์) โดยเสาไม้ไผ่ทั้ง ๔ ต้นดังกล่าวเปรียบแทน “สีลวิสุทธิ” ซึ่งเป็นศีลของพระภิกษุสงฆ์ที่เรียกว่า “จตุปริสุทธิศีล” กล่าวคือ ศีลเป็นเหตุให้บริสุทธิ์ ๔ ประการ ได้แก่

๑. ปาฏิโมกขสังวรศีล การสำรวมระวังในพระปาฏิโมกข์
๒. อินทรียสังวรศีล การสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ
๓. อาชีวปาริสุทธิศีล การเลี้ยงชีพในทางที่ชอบธรรม
๔. ปัจจัยสันนิสิตศีล การบริโภคปัจจัยด้วยการพิจารณา


ส่วนผ้าสังฆาฏิที่ขึงอยู่กับเสาไม้ไผ่ทั้ง ๔ ต้น ลอยกระพือโบกสะบัดอยู่เหนือยอดปราสาทนั้น เปรียบผ้ากาสาวพัสตร์เป็นดั่งธงชัยแห่งพระอรหันต์ที่อยู่เหนือโลก เหนือวัฏฏสงสารการเวียนว่ายตายเกิด


สำหรับฟืนที่จะใช้ในงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารนั้น ได้เลือกไม้มงคล ๗ ชนิดมาประกอบพิธีตามหลักพระอภิธรรม ได้แก่ ๑. ไม้ดอกแก้ว ๒. ไม้ขนุน ๓. ไม้จำปา ๔. ไม้จำปี ๕. ไม้ตุ้มคำ (ไม้มงคลท้องถิ่น) ๖. ไม้จันทน์ และ ๗. ไม้กฤษณา ซึ่งไม้บางชนิดหาได้ยากมาก ในวันงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารจะมีประชาชนเหล่าพุทธบริษัทเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากชาวล้านนาเชื่อกันว่าการได้มาร่วมงานศพของพระสงฆ์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ เป็นสิริมงคลยิ่ง จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองทั้งกายและใจ

นกหัสดีลิงค์ เป็นนกใหญ่ตัวโตเท่าช้าง เรียกชื่อตามเจ้าของภาษาว่า “หัตถิลิงคะสะกุโณ” เรียกตามภาษาของเราว่า “นกหัสดีลิงค์” ตามประวัติศาสตร์ล้านนาเล่าขานสืบต่อกันมาว่า พญานกหัสดีลิงค์ เป็นหนึ่งในสัตว์ในเทวคติของชาวล้านนา อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ มีความพิเศษคือมีเพศเพียงดั่งช้าง เป็นนกที่มีหัวเป็นช้าง มีหางเป็นหงส์ มีพละกำลังดั่งช้างเอราวัณ ๓-๕ เชือกรวมกัน ซึ่งเป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตรา เจ้าเมืองผู้มีอำนาจบารมีสูง เชื่อกันว่าพญานกหัสดีลิงค์จะคาบเอาสังขารร่างของผู้วายชนม์เข้าไปยังดินแดนแห่งสรวงสวรรค์แห่งป่าหิมพานต์ ด้วยความเชื่อดังกล่าว ชาวล้านนาโบราณจึงนำมาเกี่ยวข้องกับพิธีศพ มีการสร้าง “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” ขึ้นในพิธีศพ โดยเชื่อกันว่าพญานกหัสดีลิงค์ซึ่งมีพละกำลังมีความแข็งแรงมากจะเป็น “พาหนะ” นำส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์ไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้าได้โดยสะดวก

ความเชื่อของชาวล้านนาแต่อดีตกาลนิยมสร้าง “เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์” เพื่อบรรจุศพของกษัตริย์เจ้านายฝ่ายเหนือที่สิ้นชีพตักษัย รวมถึง พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพ เพื่อให้พิธีศพสง่างาม สมฐานะบารมี และเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่ชาติสรวงสวรรค์ชั้นพรหมโลก เทวโลก แต่ในปัจจุบัน เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์นิยมสร้างเพื่อใช้ในพิธีศพของพระเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น

ในอดีตเมื่อเจ้านายฝ่ายเหนือสิ้นชีพตักษัย การจัดประเพณีศพของเจ้านายสมัยนั้นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และสมเกียรติ ด้วยการสร้างบุษบกสวมทับพระโกศตั้งบนหลังพญานกหัสดีลิงค์ ฉุดลากด้วยช้าง และให้ชาวบ้านชาวเมืองเดินตามขบวนแห่ไปยังสุสาน ปัจจุบันพิธีศพเช่นนี้นำมาใช้กับพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ด้วย ทั้งนี้ มีพงศาวดารโยนกตอนหนึ่ง จุลศักราช ๙๔๐ ปีขาล สัมฤทธิศก เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ ความว่า “นางพระญาวิสุทธิเทวี ต๋นนั่งเมืองนครพิงค์ ถึงสวรรคต พระญาแสนหลวงจึงแต่งการพระศพ ทำเป๋นวิมานบุษบกตั้งอยู่บนหลังนกหัสดินทร์ตั๋วใหญ่ แล้วฉุดลากไปด้วยแฮงจ๊างคชสาร จาวบ้าน จาวเมืองเดินตวยก้น เจาะก๋ำแปงเมืองออกไปตางต่งวัดโลกโมฬี และทำก๋ารถวายพระเพลิง ณ ตี้นั้น เผาตึงฮูปนกหัสฯ และวิมานบุษบกนั้นตวย”

การสร้างเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ ไม่ได้มีแต่ในอาณาจักรล้านนาตามที่หลายคนเข้าใจ แต่ยังมีความเชื่อเดียวกันนี้ในเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า แต่รูปลักษณะตามจินตานาการจะแตกต่างกับทางล้านนา


เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ที่ว่านี้ สร้างขึ้นเพื่อถวายเกียรติให้สมฐานะบารมีแก่พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถึงแก่มรณภาพ ซึ่งเป็นที่เคารพรักยิ่งแก่มวลหมู่มนุษย์และเทพเทวา ไฟพระราชทานเพลิงศพนั้นเป็นพระเมตตาของพระมหากษัตริย์ที่ทรงแสดงความเคารพรัก ความศรัทธา และเชิดชูเกียรติแก่พระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่นั้นๆ พญานกหัสดีลิงค์ก็เท่ากับว่าเป็นพานรองรับไฟพระราชทานเพลิงศพของพระมหากษัตริย์นั่นเอง ดอกไม้มีพานเป็นภาชนะรองรับฉันใด พญานกหัสดีลิงค์ก็ใช้เป็นที่รองรับสรีระสังขารของพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ผู้เป็นที่เคารพรักฉันนั้น

ก่อนหน้างานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ บนเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ ณ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม จ.มุกดาหาร เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ได้มีงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ บนเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์มาก่อน อาทิเช่น พระครูการุณยธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ) ณ วัดสามัคคีบุญญาราม (วัดคีรีสุบรรพต) จ.ลำปาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๔๘ และพระพุทธพจนวราภรณ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสโล) ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๓ ซึ่งทั้ง ๓ งานดังกล่าวนี้ได้รับการดูแล และให้คำปรึกษาโดยพระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) แห่งวัดอนาลโยทิพยาราม จ.พะเยา หากสงสัยว่าทำไมหลวงปู่จามซึ่งเป็นพระทางอีสานจึงใช้ประเพณีแบบล้านนา ก็ขอตอบว่า ท่านเคยไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่รุกขมูลที่เมืองเหนือมากกว่าครึ่งชีวิตขององค์ท่าน ดังนั้น หลวงปู่จามท่านจึงได้รับการยกย่องบูชาเทียบเท่ากับพระฝ่ายเหนือ

นอกจากนี้ยังมีพระทางอีสานบางรูปได้มีงานพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารบนเมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ ประเพณีแบบล้านนา เช่น พระครูสิริธรรมากร (หลวงพ่อบุดดา สุภทฺโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโพธิ์ชัย จ.อุบลราชธานี และอดีตเจ้าคณะอำเภอตระการพืชผล ซึ่งมีการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ ณ วัดศรีตระการ จ.อุบลราชธานี (อันเป็นวัดที่หลวงพ่อท่านได้ลงมือก่อสร้างด้วยตัวเอง) เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕


รูปภาพ
ในงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ “หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ”
ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดสามัคคีบุญญาราม
(วัดคีรีสุบรรพต) บ้านทุ่งสามัคคี ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง


รูปภาพ

รูปภาพ
ในงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ “หลวงปู่จันทร์ กุสโล”
ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
ถ.พระปกเกล้า ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่


รูปภาพ
ในงานพิธีพระราชทานเพลิงฯ “หลวงพ่อบุดดา สุภทฺโท”
ณ เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ วัดศรีตระการ
ต.ขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี


รูปภาพ
เมรุปราสาทพญานกหัสดีลิงค์ ในครั้งอดีต

----------------------------

:b44: :: ที่มา :: :b8:
หลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ละสังขารแล้ว
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44376

= หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เป็น “พระนิยตโพธิสัตว์”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=48339

:b50: :b49: :b50:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ธ.ค. 2015, 14:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2758


 ข้อมูลส่วนตัว






ปริศนาธรรมจากเมรุ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=36698

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของงานที่ทุกคนไม่อยากเป็นเจ้าภาพ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=28134

:b50: :b49: :b50:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร