วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2016, 07:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


เรียกว่าคนในยุคในสมัยนี้บาปกรรมมีมากนะ เกิดมาแล้วบาปกรรมอันนั้นจึงมาสร้างโรคภัยอันร้ายแรงให้เกิดมีขึ้นในร่างกายของคนเรานี่ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย มันจะหายได้อย่างไรล่ะโรคกรรมโรคเวรน่ะ ผู้ใดเห็นเข้าไปแล้วก็ควรที่จะน้อมเข้ามาสอนใจของตนเอง สอนใจตนให้รู้ว่า บุคคลผู้ได้รับทุกข์ทนทรมานเช่นนั้นนะก็เพราะโทษที่เบียดเบียนบุคคลอื่นและสัตว์อื่นให้เขาได้รับทุกข์ทนทรมานไปจนกว่าจะตาย บาปกรรมอันนั้นแหละมันติดสอยห้อยตามมา เมื่อมันได้โอกาสเวลาใด มันก็ให้ผลเวลานั้น ไม่มีหมอยาวิเศษที่ไหนในโลกที่จะมาบำบัดโรคกรรมโรคเวรของบุคคลผู้นั้นได้ ก็ต้องได้เสวยทุกข์ทนทรมานไปจนมันหมดเขตของกรรมของเวรนั้นลงไปแล้วมันก็ตายกันเท่านั้นแหละ ตายเสียแล้วจึงแล้ว หมายความว่าอย่างนั้นแหละ

ก็มันเป็นอย่างนี้เรื่องบาปเรื่องบุญนี่ มันสลับซับซ้อนกันมากมาย ขอให้ศึกษาพิจารณาให้เข้าใจตามที่แนะนำสั่งสอนมานี่แหละ อันนี้พูดอย่างมีหลักนะ ไม่ใช่ไม่มีหลักพูด หลักที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้แล้วนั่นแหละ ที่ท่านเรียกว่า "อุปปีฬกกรรม" กรรมบีบคั้น มีชื่อของกรรมมีทั้งนั้นแหละ กรรมบีบคั้นนี่ท่านอธิบายไว้ว่า มันเป็นได้ทั้งสองทางนะ เอ้า ถ้าหากว่า บุคคลผู้มีบุญวาสนาบารมีแก่กล้ามาอย่างนี้นะ ได้สร้างบุญกุศลมามากแต่บาปก็ได้ทำมาแต่ทำไม่มากอย่างนี้ เอ้า พอบาปกรรมนั้นจะให้ผลแก่บุคคลผู้นั้นไป มันให้ผลไปได้ไม่มากเท่าไร เอ้าบุญกุศลที่มีกำลังกล้ากว่านั้นมันมาบีบคั้นเอากรรมชั่วที่มีกำลังน้อยกว่านั้นให้ระงับไปเลย นี่เรียกว่า กรรมบีบคั้นนะ

เอ้าบาดนิเมื่อบุคคลได้สร้างบาปกรรมอันนั้นไว้ในอดีตก็ดีหรือปัจจุบันนี้ก็ดี มากมายแล้วอย่างนี้ ทำบุญกุศลไว้ไม่มากอย่างนี้ พอว่าบุญกุศลนั้นเริ่มให้ผลมาอย่างนี้นะ ได้รับความสุขสบายมา เอ้าบาปกรรมที่มันมีกำลังเหนือกว่านั้นมันก็มาบีบคั้นเอาบุญกุศลอันนั้นให้เจริญไปไม่ได้ ทำให้บุญกุศลอันมีกำลังน้อยกว่านั้นมันระงับไป ผู้นั้นก็ได้เสวยทุกข์แทนความสุขต่อไป นี่เรียกว่า บาปกรรมมันมีอิทธิพลเหนือกว่าบุญ มันก็บีบคั้นเอาบุญนั้นให้สลายตัวไป
นี่เราจะเห็นได้บางคนนะ เอ้าทำการค้าการขายอะไรมาเริ่มได้กำไรงามๆเริ่มจะนำครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขเจริญด้วยลาภด้วยยศไป เอ้า กรรมชั่วที่ตัวทำมาแต่ก่อนนั้นมันมาบีบคั้นเอา ทำการค้าขายอะไรก็ขาดทุนยุบยับลงไป ไอ้ตัวเองก็เจ็บไข้ได้ป่วยลงอะไรหมู่นี้นะ บางทีก็ทำให้มีพวกโจรมาจี้มาปล้นเอาทรัพย์สินเงินทองไปหมด หมู่นี่ เนี่ยเรียกว่า "กรรมบีบคั้น" นะ ขอให้เข้าใจไว้



:b44: :b44:


ส่วนหนึ่งจากพระธรรมทเศนาหัวข้อ
“ผู้เกียจคร้านย่อมอยู่เป็นทุกข์”



◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” ◆◇
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร