วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:49  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2018, 05:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


ถ้าปัญญาพิจารณาแจ่มแจ้งจนหายสงสัยแล้ว มันก็ไม่ยึดถือ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน ได้สูดกลิ่นหอมหรือกลิ่นเหม็นก็ดีก็สักแต่ว่า ลิ้นได้รับรสอาหารหร่อยหรือไม่อร่อยก็สักแต่ว่า กายได้สัมผัสเย็นร้อนอ่อนแข็งก็สักแต่ว่า ใจได้รับรู้อารมณ์ทั้งห้านั้นก็สักแต่ว่ารู้ รับรู้..รับรู้เฉยๆ แต่ไม่ยึดถือ ไม่ยินดีไม่ยินร้ายไปตามอารมณ์ต่างๆ ที่มาสัมผัสจิตใจนั้น เราฝึกจิตใจเอาให้มันหยั่งไปถึงสัจธรรมอย่างที่ว่านั้น

เมื่อจิตมันรู้จริงแล้วมันไม่ยึดถือหรอกทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมันจริงใจมีญาณความรู้ปรากฎอยู่ในใจตลอดเวลาเช่นนี้แล้วมันไม่ยึดถืออะไรแล้ว เห็นก็สักว่าแต่เห็นไปเฉยๆ อย่างนั้นแหละ มันไม่กระทบกระเทือนทางจิตใจ ความรู้สึกทางจิตใจไม่ตื่นเต้นไม่หวั่นไหว เราฝึกจิตใจเอาให้ลงถึงนั้นให้ได้ อย่าพากันย่อท้อ เพราะไหนๆ เราก็ต้องได้ฝึกจิตใจนี่อยู่นี่แหละแม้จะไปเกิดภพใดชาติใด ธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าก็เตือนใจให้ฝึกตน ให้ละอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นต่างๆ อย่างนี้นะ

ถ้าหากว่าเราไม่ทำความเพียร ไม่สอนตนให้ละอุปาทาน อย่างที่ว่านั้นมันก็เทียวเกิดเทียวตายอยู่อย่างนี้แหละ บางทีหลงไปก็ไปทำชั่ว ตายแล้วก็ไปตกนรกนั่น ไม่แน่นอนเลยชีวิตของคนธรรมดาสามัญน่ะ เว้นแต่ “พระอริยบุคคล” ตั้งแต่ชั้นพระโสดาบันขึ้นไป นั่นพระโสดาบันเมื่อท่านได้บรรลุโสดาบันแล้วก็ปิดประตูอบายภูมิทั้งสี่ได้เลย เป็น “นิยโตบุคคล” เป็นบุคคลที่เที่ยงจะหมุนไปสู่พระนิพพานโดยตรง ไม่ไปที่อื่นเลย เป็นอย่างนั้น

ไอ้คนธรรมดาสามัญนี่จิตใจยังไม่แน่นอนเลย ความเชื่อก็ยังไม่มั่นคงในพระรัตนตรัย ท่านจึงให้นามว่า “อนิยโตบุคคล” แปลว่า บุคคลที่ไม่แน่นอน หมายถึงจิตใจสามารถกลับกลอกได้ คุ้มดีคุ้มร้ายอย่างนี้นะ ก็เพราะเหตุนั้นคนธรรมดาสามัญจึงเป็นทุกข์มากนั่นแหละ ได้รับความทุกข์มาก อย่างเช่นผู้ครองเรือนทั้งหลาย การงานรัดผูกมัดรัดรึงเข้าไป เงินทองไม่พอใช้พอจ่าย ติดหนี้ติดสินเขาพะรุงพะรัง คราวนี้เอาแล้วผัวก็โทษเมีย เมียก็โทษผัวเข้าไป อย่างนี้ในที่สุดหย่าร้างกันไปก็มี บางทีก็ฆ่ากันตายก็มี นั่นมันเป็นทุกข์แหละนั่นพูดถึงความทุกข์ ความทุกข์ของจิตใจ เนื่องจากว่าใจไม่ภาวนาไม่รู้แจ้งความจริงของโลกนี้ตามเป็นจริง ถ้ารู้จริงโดยเอกเทศนี่มันก็ไม่เป็นอย่างนั้นนะ


:b46: :b46:

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“เตือนสอนจิตชีวิตใกล้ตาย”



◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” ◆◇
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

:b44: ชวนอ่านพระธรรมเทศนาเต็มกัณฑ์เทศน์ของ
“พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=53080

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร