วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2019, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย



เพราะว่าบุคคลเมื่อสั่งสมบุญมากๆ เข้าไปแล้วนะ บุญกุศลนั้นก็ดลบันดาลให้มีปัญญาเกิดขึ้น มองเห็นอัตภาพของร่างกายนี้ล้วนแต่ไม่ยั่งไม่ยืนไม่เป็นแก่นเป็นสารอะไรเลย ไม่สวยไม่งามเลย แล้วก็มองดูนอกร่างกายนี้ออกไปก็เหมือนกัน มีสภาวะเหมือนกันหมดเป็นอย่างนี้นะ ผู้ใดมีความรู้สึกนึกคิดได้อย่างนี้แสดงว่าผู้นั้นมีบุญมากสมควรนะ ให้เข้าใจนี้แหละบุญนะ มันย่อมหนุนบุคคลให้ถอนตัวออกจากทุกข์ไปโดยลำดับๆไป เป็นอย่างนั้น

เมื่อผู้ใดใครมีความรู้สึกนึกคิดขึ้นอย่างนั้นแล้วก็อย่างว่า พุทธศาสนานี้มันก็มีขั้นตอน ก็มีนักบวชผู้ที่มีบุญหลายมาดลใจในการครองเรือน เห็นว่าการครองเรือนนี้มันลำบากมากแล้วก็มันชักจะเว้นจากบาปจากกรรมได้ยากเหลือเกิน ก็เราหนีไปบวชเสียดีกว่า เราจะได้สำรวมกายวาจาใจ ไม่ทำบาป ไม่เบียดเบียนบุคคลอื่นและสัตว์อื่นอย่างนี้นะ แล้วก็มีโอกาสได้ภาวนา ได้ฝึกฝนจิตใจให้สงบระงับ มีโอกาสได้ฟังธรรมบ่อยๆ อันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา มีโอกาสที่จะละอาสวกิเลสให้น้อยเบาบางออกไปจากจิตใจได้ ผู้ใดคิดเห็นได้อย่างนี้ก็มาบวชก็อย่างที่บวชกันอยู่นี่

สตรีก็ต้องบวชเป็นชี นุ่งขาวห่มขาว โกนผมโกนคิ้ว เพราะระเบียบนางภิกษุณีนั้นหมดสูญไปจากโลกนี้แล้ว จะไปบวชเป็นพระภิกษุณีสงฆ์ไมได้แล้วผู้หญิงก็จึงต้องบวชชีบวชขาว รักษาศีลแปดเป็นนิจศีลไป บำเพ็ญข้อวัตรปฏิบัติไป ผู้เป็นผู้ชายบาดนิเป็นผู้มีบุญวาสนาบารมีแก่กล้ามันก็ดลใจให้เบื่อหน่ายกับความเป็นอยู่ในโลกอย่างที่ว่านั้นแหละ มองไปไหนก็เห็นแต่ทุกข์ มองไปไหนก็เห็นแต่ความไม่เที่ยง เห็นแต่ความวุ่นวาย หาความสงบระงับได้ยากอย่างนี้นะ มองเห็นแต่วัดวาอารามนี่แหละเป็นที่สงบสงัดไม่วุ่นวาย

ผู้เข้ามาบวชอยู่ในวัดวาศาสนานี่ก็ล้วนแต่เป็นผู้เห็นทุกข์เห็นโทษภัยเหมือนกัน เหตุนั้นบวชเข้ามาแล้วจึงไม่กระทบกระทั่งกัน ไม่ทะเลาะวิวาทกัน ต่างคนต่างก็สำรวมกายวาจาใจของตนให้ตรงต่อธรรมต่อวินัยเรื่อยไป อย่างนี้แล้วการอยู่ร่วมกันมันก็ไม่เดือดร้อนนะบาดนินะ มันก็อยู่ด้วยความสงบสุขทั้งร่างกายและจิตใจ นี่ลองพิจารณาดูให้ดี นี่อานุภาพแห่งบุญกุศลทั้งนั้นแหละอันหมู่นี้น่ะ หากคนบุญน้อยน่ะก็มาอย่างนี้ไม่ได้ มาทำอย่างนี้ไม่ได้เลย ไม่มีความสามารถ ไอ้คนที่บุญน้อยน่ะมีเยอะในโลกนี้น่ะ คนที่มีบุญมากมีจำนวนน้อยเต็มทน

เพราะฉะนั้นเมื่อพุทธบริษัทได้สดับตรับฟังแล้วก็ขอให้พิจารณาดูตัวของเราเองว่าพิจารณาดูความประสงค์ของตนเองให้รู้ให้เข้าใจ ครั้นเมื่อบุญของตนมีมากจริงมันก็ดลบันดาลให้คิดเบื่อหน่ายในการอยู่ครองเรือนอย่างที่กล่าวมาแล้วนั้น ถ้าบุญของตนยังไม่มากพอมันก็ทำให้ยินดีในการครองเรือนอยู่อย่างนั้น แต่ไม่ทำบาป หาทางเว้นจากบาปจากโทษทั้งหลายให้ได้แล้วอย่างนี้ ก็เป็นหนทางพ้นทุกข์ภัยในสงสารตามคำสอนของพระพุทธเจ้าได้จริงๆ ดังแสดงมา




:b44: :b44:

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“ความประเสริฐสุดของพระพุทธศาสนา”


◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” ◆◇
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

:b44: ชวนอ่านพระธรรมเทศนาเต็มกัณฑ์เทศน์
ของ “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=53080

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร