ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

อาหารของเทวดา (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=61883
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Hanako [ 07 เม.ย. 2022, 13:24 ]
หัวข้อกระทู้:  อาหารของเทวดา (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)

รูปภาพ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


:b39:

บุคคลผู้ไม่รู้แจ้งอย่างนี้น่ะไปเที่ยวถือผีถือสางไปไหว้เทวดาให้ช่วยรักษาชีวิตของตัว หูย...เข้าใจผิดถนัดเลยน่าขัน จริงอยู่คนเราเนี่ยเทวดานั้นไม่ทราบอยู่ที่ไหนอ้อนวอนหาอยู่อย่างนั้นแหละ บัดทีบุญกุศลความดีที่ตนทำมาโดยลำดับไม่นึกถึงเด๊ะ...ไม่ ไปนึกถึงเทวดานู่น ไปนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในสากลโลกตามความนิยมสมมติที่พูดกันมา

ไม่พูดเปล่าๆ แล้ ยกหอ ยอฮ้าน ยอหิ้งขึ้นไป แล้วบัดนี้ก็มีข้าวต้มหนมหวาน เนื้อสัตว์อะไร บวงสรวงเข้าไป อ้อนวอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทวดาทั้งหลาย ภุมเทวดา รุกขเทวดาหมู่นี้ขอได้มาปกปักรักษาลูกหลานอย่าให้มีภัยอันตราย แต่แท้ที่จริงน่ะเทวดานั้นมีอยู่แต่เราจะไปเอาอาหารของมนุษย์ไปให้เทวดากินน่ะไม่มีทางหรอก มันอย่าไปเข้าใจผิดอย่างนั้น อาหารของเทวดาเพิ่นก็มีอย่างหนึ่งต่างหากนิ อาหารของเทวดาปราณีตกว่าของมนุษย์ กายของเทวดาละเอียดกว่ารูปกายของมนุษย์ มันจะไปกินอาหารร่วมกันได้ยังไง ดูตั้งแต่คนไทยเรานี่นะเที่ยวไปกินอาหารของอินเดียอย่างนี้นะกินไม่ได้กลืนไม่ลง เออ เป็นอย่างนั้น เป็นมนุษย์เหมือนกันแท้ๆ นะยังกินอาหารร่วมกันไม่ได้ คิดดูนี่แหละ

บัดทางที่แท้จริงแล้วนะ พระศาสดาทรงสอนให้คนเราทำบุญกุศลแล้วอุทิศส่วนบุญกุศลนั้นไปให้แก่รุกขเทวดาภุมเทวดาอากาศเทวดาบ่ หรือว่าไปให้พวกภูตผีปีศาจ เปรต พวกอมนุษย์ทั้งหลายที่ยังข้องอยู่ในโลกสันนิวาสอันนี้ เปรตมีตั้ง ๓๒ จำพวกนู่น นั่นแหละเราทำบุญกุศลแล้วอุทิศไป ถ้าจิตวิญญาณดวงใดตั้งอยู่ในฐานะที่จะได้รับอนุโมทนาส่วนบุญกุศล บุญกุศลนี้ก็จะไปกระตุ้นเตือนจิตดวงนั้นให้รู้ได้ให้ระลึกได้ โอ๋ นี่มีคนอุทิศกุศลมาให้แล้วก็กล่าวคำอนุโมทนาบุญกุศลที่เขาอุทิศไปนั้น เป็นอันว่าสัตว์ตนนั้นก็ได้รับอนุโมทนาส่วนบุญกุศล แล้วก็มีก็ถ้าอาหารของเขาไม่มีก็บันดาลให้เขาให้กินได้บริโภคอาหารอันนั้นเรียกว่า บุญไปตกแต่งให้อีกทีหนึ่งจึงได้กินได้พวกรุกขเทวดาภุมเทวดาภูตผีปีศาจ เมื่อผู้ใดเข้าใจถูกต้องแล้วอย่างนี้ก็จะไม่งมงายจัดแจงอาหารการบริโภคต่างๆ ไปวางไว้ตามภูมิสถานหมู่นั้นน่ะ จะไม่ทำเป็นเด็ดขาดเลย มองเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไร ทำแล้วพวกภูตผีเหล่านั้นเขาก็ไม่ได้กินอะไร

เหมือนอย่าเคยเล่าเรื่องลูกของครอบครัวหนึ่งครั้งพระพุทธเจ้าเมื่อตายลงแล้ว แม่ทำอาหารให้คนใช้เอาไปวางบนหลุมฝังศพ ได้เจ็ดวัน วันที่เจ็ดนี่ลูกจึงไปเข้าฝันแม่ เอ้า แม่ไม่รักลูกเหรอ เอ้ารักสิลูก แม่ก็รักลูกแล้ รักลูกทำไมล่ะจึงปล่อยให้ลูกอดอาหารอยู่ถึงเจ็ดวัน ไม่ได้รับประทานเลย เอ้าพอแม่นอนตื่นขึ้นมาถามคนใช้ ในเมื่อวานนี้เธอเอาอาหารไปให้ลูกของเราเอาไปไว้ที่ไหน ลูกนั้นเพิ่งได้กินอาหารในวันนั้น คนใช้จึงบอกว่า ได้เอาอาหารไปใส่บาตรให้พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ เพราะเดินตามทางไปแล้วฝนตก แม่จึงรู้ได้ว่า โอ๋...การทำบุญแล้วอุทิศไปให้นี้นั่นผู้ที่ตายวายชนม์ไปแล้วถึงได้รับถึงได้อยู่ได้กิน บุญกุศลนั้นไปตกแต่งอาหารของผีของเทวดาเหล่านั้นให้กินโดยเฉพาะ เอาอาหารของมนุษย์ไปวางบนหลุมฝังศพไม่มีประโยชน์อะไร กินไม่ได้ ขอให้เข้าใจ

เมื่อผู้ใดเข้าใจอย่างนี้แล้วก็จะต้องคิดอีกทีหนึ่งว่า ไอ้เรานั้นไม่จำเป็นที่จะต้องให้เขาคอยเขาทำบุญอุทิศให้เมื่อเวลาเราตายไปแล้ว ไม่ต้องคิดอย่างนั้น สอนตัวเองเข้าไป เวลาเรายังมีชีวิตอยู่นี่เราจะต้องทำบุญกุศลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เราจะสั่งสมบุญกุศลไว้


:b44: :b44:

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“ใจที่สงบเป็นบ่อเกิดแห่งบุญ”


◇◆ ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” ◆◇
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689

:b47: ชวนอ่านพระธรรมเทศนาเต็มกัณฑ์เทศน์
ของ “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=75&t=53080

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/