วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 22:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2018, 07:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินฺธโร
วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร
แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ

วันนี้จะเล่าเรื่องให้ฟังสักเรื่องหนึ่ง แต่ก่อนที่จะเล่าเรื่องก็จะบอกคาถากันเปรต ไอ้ที่มันจะหลอกคนนี่มีผีกับเปรต เปรตนี่เวลามันจะหลอกนี่ตัวมันจะสูงแล้วก็ปากมันเนี่ยเท่ารูเข็ม มันก็กินอาหารหมดชีวิตมันก็ไม่อิ่ม คือ เปรต และถ้าผีนี่มันจะวิ่งมาข้างหลังเราวูบวับๆ เขาเรียกว่า สัมภเวสี แต่ทีนี้พวกนี้มัน้ชอบเข้ามาหา มาขอบุญน่ะแต่ทีนี้เราก็พากันกลัวเราก็เลยหนี

เรื่องมีอยู่ว่า มีเศรษฐีสี่ตระกูลเขาเป็นเพื่อนกัน มีเงินก็นับไม่ถ้วนก็เลยมาคิดว่าต่างคนต่างมีลูกชายคนละคน ต่างคนก็มาคิดว่า ลูกชายเราเนี่ย ไม่ต้องเรียนอะไรหรอกเงินเยอะแยะกินหมดชีวิตก็ไม่หมด เลยไม่ต้องให้ลูกชายนี่ได้รับการศึกษา ในที่สุดพ่อทั้งหมดก็ตายไปยังเหลือแต่ลูกที่ดูแลสมบัติ ทีนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะไปทำเพราะว่าเขาไม่ได้ศึกษา ก็มาปรึกษากันว่าสี่คนก็มาเป็นเพื่อนกันอีก พ่อเป็นเพื่อนแล้วลูกก็มาเป็นเพื่อนกันอีกเพื่อนกัน

แล้วก็ปรึกษากันว่าเราจะทำยังไงดีชีวิตของเรานี่จะเดินไปทางไหนก็ไม่มีอะไรจะพูด คนนึงบอกว่า สร้างบ้านใหญ่ๆ หรูๆ ร้อยล้านพันล้านนอนให้สบาย เออ เขาก็ว่าดีเหมือนกัน แต่อีกคนบอกว่าเราไปเที่ยวดีกว่า เที่ยวบ้านนี้เมืองโน้น ก็ดีเหมือนกัน อีกคนนึงก็บอกว่า เรากินเหล้าเมายาให้มันสนุกไปเลยไม่ดีกว่าหรอ ก็ดีเหมือนกัน อีกคนนึงเสนอคนสุดท้ายบอกว่า ถ้าเมียใครสวยๆ เราก็เอาเงินไปจ้างเลยตกลงเอาตามคนที่สี่ ในตลอดชีวิตที่เขามีอยู่นี่แปดสิบปีเขาก็ทำแต่ไอ้ที่ไปเอาเมียคนอื่น นี่เขาเรียกว่า ปรทารกกรรม (ปะ-ระ-ทา-ระ-กะ-กำ) ในภาษาบาลีเขาเรียกว่า ปรทารกกรรม เป็นกรรมที่หนัก ต่างคนก็เรียกว่าต่างคนก็ต่างตายในคราวนั้น พระเจ้าแผ่นดินชื่อ ปเสนทิโกศล ก็ไปเห็นเมียเขาว่าสวยก็ไปจับเอามา ทหารไปจับ ทีนี้ทางผัวเขาก็ตามหา ในที่สุดพระเจ้าแผ่นดินจะลงโทษให้ผัวเขานี่ให้ตายไปซะและจะได้เอาเมียมัน และก็หาวิธีการต่างๆ

ในค่ำคืนวันหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลได้มีนิมิตหรือฝันว่า มีเปรตสี่ตัวมาถึง ตัวหนึ่งก็ร้องว่า “ทุ” ตัวหนึ่งก็ร้องว่า “สะ” ตัวหนึ่งก็ร้องว่า “นะ” ตัวหนึ่งก็ร้องว่า “โส” เรียกว่า “ทุ สะ นะ โส” ทุสะนะโสนี่เขาเลยเอามาเป็นคาถากันเปรตทุสะนะโส แต่ว่าเรื่องว่า พวกเปรตทั้งสี่ตัวนี่ไปตกอยู่ในโลหกุมภีนรก โลหกุมภีนรกก็คือ นรกที่เขามีหม้อกระทะใหญ่ๆ โยนคนลงไปในน้ำนั่นเขาเรียกว่า โลหกุมภี ไปตกนรกอยู่นั่นหลายแสนปีแล้ว เมื่อมาเห็นพระเจ้าปเสนทิโกศลนี่ก็เลื่อมใสพระพุทธเจ้าแล้วทำไมจะมาทำอย่างเรา ก็เลยออกมาจากนรกขึ้นไปหาพระเจ้าปเสนไปหลอก ตัวหนึ่งก็หลอกว่าทุ ตัวหนึ่งก็หลอกว่าสะ ตัวหนึ่งก็หลอกว่านะ ตัวหนึ่งก็หลอกว่าโส พระเจ้าแผ่นดินก็จดไว้เอาให้หมอโหรดู หมอโหรก็บอกว่าพระราชบัลลังก์จะวินาศแล้ว แล้วจะทำยังไง เอาคนมา เอาช้างเอาม้าเอาวัวเอาควายมาฆ่าอย่างละห้าร้อย จับมากองไว้เต็มหมดเลย มเหสีของพระเจ้าปเสนก็บอกว่า เอ๊ะ เขาทำไมกัน ก็ไปถามเขาบอกว่าเพื่อพระราชบัลลังก์เอาพวกนี้มาฆ่าเพื่อที่จะเอาเลือดในลำคอบูชายัญ บูชาพระเจ้า พระเหสีบอกว่า อ้าว พระพุทธเจ้าอยู่แท้ๆ ไปถามท่านสิดีกว่า ทำอย่างนี้ไม่ไหวแล้วกี่ร้อยกี่พันชีวิตบาปแน่ พระเจ้าปเสนก็ได้สติไปหาพระพุทธเจ้า เล่าเรื่องให้ฟัง

พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า ไอ้เปรตสี่ตัวนี้กำลังจะมาเตือนพระองค์ ไอ้ตัวนึงบอกว่า “ทุ” มันจะพูดว่า “ทุชฺชีวิตมชีวมฺหา” ข้าพเจ้ามีความทุกข์จริงๆ เวลานี้ข้าพเจ้าอยู่ในเมืองนรกมีความทุกข์จริงๆ บอกให้หมดมันบอกไม่ทัน ได้แต่ทุตัวเดียวมันตกลงไปนรกแล้ว แล้อีกตัวนึงก็บอก “สะ” สะนั้นมันบอกว่า มันจะพูดว่า “สฏฺฐี วสฺสสหสฺสานิ ปริปุณฺณานิ สพฺพโส” สฏฺฐี วสฺสสหสฺ หกแสนปี เขามาอยู่ที่นี่หกแสนปีแล้วไม่รู้เวลาไหนจะเกิด แล้วทีนี้ตัวที่สามบอกว่า “นะ” นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ ไอ้ครั้นจะพูดอย่างนี้มันพูดไม่ได้ ได้คำว่านะตัวเดียว นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต น อนฺโต ชีวิตของเรานี่มันไปจบตรงไหนยังไม่รู้เลย ยังไม่รู้ว่าอีกกี่กัปป์อีกเมื่อไรมันจึงจะหมดไปได้ ทีนี้ไอตัวที่สี่ก็เรียกร้องว่า “โส” โสก็คำเต็มเขาบอกว่า “โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา โยนึ ลทฺธาน มานุสึ วทญฺญู สีลสมฺปนฺโน ทีปนฺนากมฺห อตฺตโน” มันจะพูดอย่างนี้มันพูดไม่ทัน มันพูดได้แต่โสแล้วมันก็ตกนรกไป พระพุทธเจ้าก็เลยเฉลยให้ โสแปลว่าอะไร โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา โยนึ ลทฺธาน มานุสึ วทญฺญู สีลสมฺปนฺโน ทีปนฺนากมฺห อตฺตโน โอ๊ยถ้าข้าพเจ้าไปเกิดเป็นมนุษย์ข้าพเจ้าจะทำบุญรักษาศีล แต่ไม่ได้มาแล้วก็มันยังไม่หมดกรรม เพราะฉะนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลเลยสั่งเลิก ไม่ให้ฆ่าคนไม่ให้ฆ่าสัตว์ ไม่งั้นคนก็ต้องตายไปอีกหลายพันคน ยกเลิก ไปเอาเมียเขานี่ก็ยกเลิกแล้ว เออก็เป็นอันว่า เทศนาของพระพุทธเจ้าได้ไม่ให้พระเจ้าปเสนทิโกศลไปทำบาปกรรม

เพราะฉะนั้นเราท่านทั้งหลาย บุญกับบาปเนี่ยมันอยู่ด้วยกัน ถ้าหากว่าเราทำบุญนี่บุญมันก็มา ถ้าหากว่าเราทำบาปบาปมันก็มา มามันก็มาให้เราได้เสวยสุขเสวยทุกข์ตามที่พระพุทธเจ้าแนะนำ ดังนั้น “อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด สวัสดี


:b46: :b46:

ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ :
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พาลวรรคที่ ๕

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=15&p=1

:b44: :b44:

ถอดความจาก ธรรมะฟ้าสาง ๐๖/๐๒/๕๘
หัวข้อ “อับปะมาเทนะ สำปาเทถะ จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม”

https://www.youtube.com/watch?v=KhjPNkxSrNM

:: รวมคำสอน “หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43841

:: ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=20338

.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร