ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=78&t=37018 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 01 มี.ค. 2011, 16:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) |
ส ม า ธิ เ ป็ น เ ค รื่ อ ง ห นุ น ปั ญ ญ า พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ปัญญานั้นหมายถึงการถอดการถอน การคลี่คลายดูสิ่งต่างๆ ให้เห็นตามความเป็นจริง แล้วถอนไปโดยลำดับลำดาตั้งแต่กิเลสขั้นหยาบๆ จนกระทั่งถึงขั้นละเอียดสุด หลุดพ้น ท่านเรียกว่าปัญญาทั้งนั้น แต่เป็นขั้นๆ ของปัญญา สมาธิเป็นเพียงทำจิตให้สงบเพื่อจะได้พิจารณาง่ายลงไป ผิดกับการพิจารณาทั้งที่จิตพื้นฐานแห่งความสงบไม่ได้อยู่เป็นมาก เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้บำเพ็ญทางสมาธิ ท่านเรียกว่าสมาธิอบรมปัญญา ดังที่กล่าวไว้ในอนุศาสน์ สมาธิปริภาวิตา ปญฺญา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา ให้พิจารณาสิ่งทั้งหลายที่รู้ได้แจ่มแจ้งชัดเจนโดยลำดับลำดา ปญฺญาปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ ปัญญาเมื่อสมาธิได้อบรมแล้วย่อมมีความคล่องตัว คือได้รับการอบรม ได้รับความหนุนมาจากสมาธิแล้ว ย่อมมีความคล่องตัวในการพิจารณาแยกแยะอารมณ์ต่างๆ จนถึงกับตัดขาดได้ หลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ นั่นท่านว่า สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ คือหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ นี่หลักธรรมที่ท่านแสดงเป็นพื้นฐานอันตายตัวไว้เป็นจุดศูนย์กลางโดยแท้จริง ท่านจึงสอนให้อบรมสมาธิเพื่อเป็นบาทเป็นฐาน เพื่อจิตได้มีความสงบตัว มีความอิ่มตัวในอารมณ์ทั้งหลาย อยู่ด้วยความสงบเย็นใจ เมื่อจิตมีความสงบเย็นใจแล้ว ย่อมพาพิจารณาอะไรเป็นการเป็นงานได้ดีกว่า การใช้จิตพิจารณาทั้งที่จิตหาความเป็นสมาธิไม่ได้ แลกำลังหิวโหยในอารมณ์เป็นไหนๆ การพิจารณาจิตที่ไม่เคยมีความสงบเลยให้เป็นปัญญา มักจะเป็นสัญญาเถลไถลออกนอกลู่นอกทางอยู่เสมอๆ ไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราวอะไร จนถึงกับว่าไม่ได้เรื่อง ท่านจึงสอนสมาธิเป็นบาทเป็นฐาน เป็นเครื่องยืนยันว่าจะได้ผลในการพิจารณาทางด้านปัญญา เมื่อสมาธิมีอยู่ภายในจิตใจแล้ว ใจไม่หิวโหย ใจไม่รวนเร ใจไม่กระวนกระวาย ย่อมทำหน้าที่การงานของตนไปโดยลำดับตามสติที่บังคับให้ทำ จนถึงกับได้ปรากฏผลขึ้นมาเป็นปัญญาโดยลำดับลดา จนถึงขั้นปัญญาที่เห็นเหตุเห็นผลแล้ว และหมุนตัวไปเองโดยไม่ต้องถูกบังคับ เหมือนตั้งแต่ก่อนที่เคยบังคับนั่นเลย นี่เป็นอย่างนี้ (คัดลอกบางตอนมาจาก : หลักเกณฑ์การปฏิบัติ สมาธิ-ปัญญา โดยท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๙, หน้า ๙-๑๑) |
เจ้าของ: | student [ 02 มี.ค. 2011, 17:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา : หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน |
อนุโมทนาครับผม |
เจ้าของ: | narapan [ 17 เม.ย. 2011, 21:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา : หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน |
อนุโมทนาครับ |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 17 เม.ย. 2011, 22:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา : หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ ธรรมรักษานะคะ |
เจ้าของ: | Mama [ 06 มิ.ย. 2011, 18:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา : หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน |
อนุโมทนาบุญค่ะ ความสุขใดเสมอด้วยความสงบไม่มี ปล่อยวางไม่ยึดทุกข์ไม่ยึดสุขทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้ววันข้างหน้าจะดีเอง |
เจ้าของ: | Duangtip [ 13 ธ.ค. 2019, 20:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สมาธิเป็นเครื่องหนุนปัญญา (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |