วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 00:25  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2013, 23:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

รูปภาพ
หลวงปู่ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ


สงสารชาวอังกฤษ

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
เทศน์อบรม ณ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี


:b44: ไอ้หลวงตาไปอังกฤษเที่ยวเดียวเข็ดจนกระทั่งป่านนี้ นั่งเครื่องบินจากอังกฤษมานี่ ๑๔ ชั่วโมง ตอนนั้น เราตั้งนาฬิกาไว้ตั้งแต่เริ่มนั่งปั๊บแล้วตั้งไว้ เครื่องบินออกจนกระทั่งมาถึงเมืองไทย ๑๔ ชั่วโมงกว่า เข็ดตั้งแต่นั้นเลย เขาจะมาเอาไปไหน อังกฤษนี้มานิมนต์ทุกปี เขาจะเอาไปอังกฤษ เลยบอกชัดๆ เลยว่า ไม่ไป เข็ด อย่ามานิมนต์อีกนะ จากนั้นเขาก็เลยไม่นิมนต์ เขาก็มาแต่ไม่นิมนต์ อังกฤษทั้งผู้หญิงผู้ชายเขามาที่นี่ มันเข็ด เจ็บเอว เที่ยวไปมันไม่เห็นทุกข์

เรียกว่าชั้นที่หนึ่งหรืออะไรนั่นแหละ เวลาเราไปไม่มีผู้มีคนชั้นหนึ่ง มีอยู่สองสามคนเขาก็อยู่มุมนู้น เราก็ฝรั่งสามหรั่งอยู่สนุกสบาย อยากหลับอยากนอนสบาย มันไม่เห็นทุกข์ล่ะซี บทเวลาขากลับมา ชั้นนั้นละแน่นหมดเลย ขยับเขยื้อนอะไรก็ไม่ได้ โอ้โห ได้นั่งนั้นมาเป็นเวลา ๑๔ ชั่วโมง จากนั้นมาเลยเข็ด คือเจ็บบั้นเอว แต่ก่อนเรามีเจ็บเอวอยู่ด้วย เอวนี้ระบมไปหมด ตั้งแต่นั้นมาเข็ด เขามานิมนต์ไป บอกไม่ไปเราบอกเราเข็ดนั่งเรือบินนาน

อย่างสหรัฐเขามาเอาอย่างเข้มข้นก็มี อย่างธรรมดาก็มีที่เขาจะมานิมนต์เราไป เข้มข้นคือว่าจะเอาไปด้วยเลย อย่างนั้นก็มี ไม่ไป ที่ไหนไกลๆ แล้วไม่ไป มันเข็ด อันนี้อยู่ประจำทำไมไม่เข็ด เราเข็ด เวลาไปนั้นดูเหมือนเป็น พ.ศ. ๒๕๑๗ ไปอังกฤษ ไปอยู่นั้นสองอาทิตย์กว่า เราตั้ง (ใจ) ไปดูบ้านเมืองของเขา ทัศนศึกษาเพื่อเหตุเพื่อผล ขี้เกียจขี้คร้านเท่าไรก็ต้องไป ถึงเวลากำหนดไว้ เช่นตอนเย็นบ่ายสี่โมงออก พระฝรั่งแล้วโชเฟอร์ก็เป็นคนอังกฤษ ไปดูซอกแซกซิกแซ็ก คือไปหาดูที่สำคัญๆ ไปดูหมด แม้ที่สุดโรงงานใหญ่ๆ เขาก็เข้า แต่ไม่ลงนะ เข้าไปดู

โชเฟอร์เขาเป็นลูกศิษย์ โชเฟอร์ขับรถเขาเคยมาที่นี่ เขาเคารพมากอยู่ เรื่องรถทางอังกฤษก็ไม่อด สถานทูตไทยและลูกศิษย์ในอังกฤษก็มีเยอะ รถมารอตลอด เราอยากไปคันไหนได้ทั้งนั้น แต่เราจะไปตามเวลาของเรา มาแล้วก็ถามที่ไหนบ้างๆ ไปดู คือไปดูเป็นทัศนคติ ทัศนศึกษาแล้วก็เป็นทัศนคติ ดูซอกแซกซิกแซ็กไปหมด ยิ่งจวนจะกลับเท่าไร ค่ำ ๑๘ นาฬิกา ประชุมกัน ๖ โมงเย็นประชุม เลยจากนั้นแล้วยังไปอีก ออกจากที่ประชุม เขามาฟังเต็มหมดนะ คนไทย ฝรั่งมังค่า โอ๊ย ฝรั่งนี่เพิ่มขึ้นๆ เพราะลูกศิษย์ในอังกฤษ ในกรุงลอนดอนนั้นมีมากอยู่ เขามีความเลื่อมใส แต่เขาไม่ได้มา เวลาเราไปจึงมามากมาย เพิ่มขึ้นๆ สุดท้ายเก้าอี้ที่มาตั้งไว้นั้นล้มระนาวไปเลย ฝรั่งนี้นั่งไหนนั่งได้หมดเหมือนเรานะ เขาไม่สนใจ นั่งเหมือนเราเลย เพราะมันมากต่อมาก

จึงรู้สึกเสียดาย เขาเป็นคนสุภาพ เป็นคนมีกฎมีเกณฑ์ มีวินัยมีประจำชาวบ้านเขาแล้วประเพณีของเขา เวลาได้พุทธศาสนาที่แท้จริงเข้าไปมันก็เรียบไปเลย นั่งเหมือนผ้าพับไว้ เหมือนหัวตอ ไม่ว่ารายใดเรียบตลอด ตอนเช้าก็เต็ม ตอนจังหันนู่นอาหารวาง ทั้งคนไทยทั้งอังกฤษ ตอนค่ำมากจริงๆ เต็มหมดเลย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เล็กน้อย เรารู้สึกสงสารชาวอังกฤษเหมือนกันที่เขาตั้งอกตั้งใจฟังเทศน์ แต่เสียใจที่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่อง ต้องให้ล่ามแปล มันไม่ได้จิ้มเลยๆ ถ้าจิ้มเลยนี่ โหย ร้อยเปอร์เซ็นต์ๆ


ขนาดนั้นเรายังได้เห็นพวกคนอังกฤษหัวเราะลั่นเลย เราตอบปัญหา เขาหัวเราะกันลั่นเลย พวกอังกฤษหัวเราะ เขาก็คนเหมือนเรานี่ แต่เราได้ไปเห็นอังกฤษหัวเราะ คือตอบปัญหา เวลาเทศน์จบลงแล้วตอบปัญหาเขา เวลาฉันจังหันเสร็จเรียบร้อยแล้วหนึ่ง ตอนค่ำหนึ่ง ตอบปัญหาเขา พวกนี้เรียบมาก ฝึกหัดภาวนากัน นี่เราเสียดายถ้ามีพระตั้งใจปฏิบัติ เป็นพระที่ดีทั้งภายนอกภายในแล้ว ดีไม่ดีเมืองลอนดอนจะเป็นพุทธศาสนาได้ พุทธศาสนาที่มั่นคงขึ้นได้ในนั้นนะ แต่นี้ก็เหยาะแหยะๆ ทุกแห่งเป็นอย่างงั้น ก็เพราะพระเราเหยาะๆ แหยะๆ มันไม่จริงไม่จัง เจ้าของก็โลเล แล้วจะไปสอนใครให้แน่นหนามั่นคงได้ยังไง

พระพุทธเจ้าเป็นคนโลเลที่ไหน ศาสดาองค์เอกไม่มีโลเล เทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม กราบอย่างแนบสนิท ไม่มีเทวดา อินทร์ พรหม ตนใดที่จะมาตำหนิพระพุทธเจ้าได้ ไม่ปรากฏในตำรา มีแต่นอบน้อมตลอด นี่ตัวอย่างของโลก ตัวอย่างแห่งความร่มเย็นของโลกท่านเป็นอย่างนั้น ทีนี้เวลากระจายออกมาเป็นพระสาวกก็รองพระพุทธเจ้าลงมา ตามนิสัยวาสนาของตนที่จะแนะนำสั่งสอนได้ กระจายมามีตั้งแต่เพชรน้ำหนึ่งๆ อย่างเลิศเลอๆ ออกมา ผู้ตั้งอกตั้งใจฟัง ธรรมก็ออกมาจากหัวใจเอง ไม่ได้ไปหาคว้าเอาคัมภีร์นั้นคัมภีร์นี้ เพราะคัมภีร์นั้นออกจากหัวใจ พระพุทธเจ้าแสดงไว้แล้วยังไงก็จดจากที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้แล้วไปเป็นคัมภีร์ มันก็เป็นธรรมนอก ธรรมใน

ธรรมใน คือธรรมในพระทัยพระพุทธเจ้า ธรรมในใจของพระสาวกที่ท่านรู้ท่านเห็นเต็มอยู่ในหัวใจหมดแล้ว ก็เรียกว่าจิ้มเลยๆ ๆ ทันเหตุการณ์ทุกสิ่งทุกอย่าง คือศาสดาองค์เอกเป็นตัวอย่างได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นพระอาการของพระพุทธเจ้าจึงเป็นศาสดาตลอด พระอิริยาบถทั้งสี่ ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นศาสดาเอกได้ตลอด ไม่มีบกพร่องที่ตรงไหนคือศาสดาองค์เอก จากนั้นมาก็เป็นสาวก รองศาสดาลงมา เป็นคติได้ทั้งภายนอกภายใน ท่านไปที่ไหนก็ร่มเย็นเพราะท่านร่มเย็นอยู่แล้ว ไปที่ไหนท่านสง่าอยู่แล้ว ไปไหนก็สง่าไปหมด

นี้มาหาพวกเรามันเหมือนลิงเหมือนค่าง พระก็พระลิงพระค่าง ไม่ว่าเขาว่าเราเหมือนกัน หาหลักหาเกณฑ์ก็ไม่ได้ โลเลโลกเลก ดีไม่ดีเลวกว่าประชาชนเขาไปอีก จะไปสอนใครจะให้สนิทใจลงคอ เชื่อถือและปฏิบัติตามได้ล่ะ ไม่ได้ ใครก็เหมือนกัน นี่ละเสียตรงนี้ เราไปดูชาวอังกฤษ โอ๊ สงสาร เราก็ไม่เคยเห็นอังกฤษร้องไห้เหมือนกันนะ เวลาจากไปสุดท้ายนี่ น้ำตาพังเลยเทียว น่าสงสาร เราก็สงสารจะทำไง มันเป็นขั้นๆ ประตูเขา ประตูหนึ่ง ประตูสอง ประตูสุดท้ายนั่นแหละ แหม น่าสงสาร รุมไปเลย เราไปสุดท้ายไปส่ง น้ำตาพังได้เห็นชัดต่อหน้าต่อตา เราก็สงสาร

เขาก็ขอพระท่านปัญญานี่ไว้ให้อยู่ที่อังกฤษ เราก็บอกเราไม่ขัดข้อง ให้พวกเขาคุยกันเองกับ ท่านปัญญา ท่านปัญญาก็หันมาหาเรา ทางชาวอังกฤษนี่เขานิมนต์ผมให้อยู่ที่นี่ ท่านอาจารย์จะว่าไง คือเวลาท่านอาจารย์กลับแล้วเขาจะนิมนต์ผมให้อยู่ที่นี่ต่อไป ท่านอาจารย์จะว่าไง เราก็ตอบทันทีผมไม่มีอะไรขัดข้อง ผมสอน สอนเพื่อหมู่เพื่อคณะ สอนเพื่อโลกเพื่อสงสาร ผมไม่ได้สอนเพื่อผม ผมพร้อมเสมอ ถ้าอะไรที่จะออกเป็นประโยชน์ได้แล้วพร้อมเสมอ ผมไม่ขัดข้อง สำหรับท่านล่ะขัดข้องหรือสะดวก ขัดข้องอะไร นั่นถามมาอีก ขัดข้องทั้งภายในภายนอกของการปฏิบัติธรรมของพระล่ะซี ยังขัดข้อง สุดท้ายตอนนี้ติดเรา ว่าขัดข้อง เมื่อขัดข้องแล้วใครผิดใครถูกล่ะ ผมเปิดโอกาสตลอดเวลา ถ้าท่านพร้อมแล้วให้ท่านอยู่ได้ไปได้

พอถาม ท่านว่ายังไม่พร้อม ไม่พร้อมแล้วท่านมาถามผมหาอะไร เลยดุ ทีนี้ฝรั่งก็หัวเราะล่ะซี คือท่านปัญญาพูดให้เขาฟังที่เราดุท่านปัญญา พวกอังกฤษเลยหัวเราะลั่น มีแต่ธรรมสำคัญเวลาออกสดๆ ร้อนๆ โต้ตอบกันในเวลานั้น ตกลงก็เลยไม่ได้ ถามว่าทำไมท่านไม่ไป ยังไม่พร้อม เลยอยู่นี้จนกระทั่งป่านนี้

ท่านปัญญานี่ดูเหมือนได้ ๔๐ ปี ปี ๒๕๐๖ มาอยู่ที่นี่ นี่ตอนที่เราโง่กว่าพระฝรั่ง โง่กว่าท่านปัญญามาโง่ตอนนี้ เราไม่ลืม ทีแรกพระฝรั่งมาขออยู่ในวัดป่าบ้านตาดเรา ท่านปัญญามาก่อนมาขออยู่ เราก็ยังไม่รับ โห เก่งเหมือนกันนะ ขอที่หนึ่งยังไม่รับ มาขอที่สองอีกก็ยังไม่รับ ฟาดถึง ๕ ครั้งเลย


ครั้งที่ ๕ นี่เราติด ใส่ ๕ หมัด หมัดที่ ๕ เราอยู่หมัดเลย สู้ท่านไม่ได้ พอครั้งที่ ๕ ท่านว่า ถึงไม่ให้อยู่ประจำก็ไม่เป็นไร ว่างั้นนะ ขอมาพักชั่วคราว จะให้ไปเมื่อไรก็ได้ ขอมาพักชั่วคราว นี่ละตอนนี้ตอนใส่เรา เราก็ให้อยู่ตั้งแต่ปี ๒๕๐๖ จนกระทั่งปีนี้ เป็นปี ๒๕๔๖ ใช่ไหมล่ะ ๔๐ ปี ยังชั่วคราวตลอด คงจะชั่วคราวตลอด เมื่อท่านมาอยู่แล้วดูท่านทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านเรียบๆ ตลอดเวลาก็จะไล่ท่านไปไหน เราก็หาคนดี พระดี ของดีอยู่แล้วใช่ไหม นี่แพ้ท่าน นี่ พ.ศ.๒๕๔๖ แล้วได้ ๔๐ เราแพ้ฝรั่งตรงนี้ ท่านปัญญานี่ฉลาดนะ

:b8: :b8: :b8: http://www.luangta.com

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2013, 23:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
เทศน์อบรม ณ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี


:b44: ท่านปัญญาไปตอนไหน (ไปตอนโมงกว่าครับ) ท่านไปบอกเมื่อวานนี้ พระฝรั่งสอนฝรั่ง สนิทดีกว่าคนไทยสอนฝรั่ง เพราะภาษาพื้นเพนิสัยกลมกลืนกันมาแล้วสอนกันได้ง่าย

ให้ท่านปัญญาไปแล้ววันนี้ สอนพวกพระฝรั่งซึ่งมาอยู่ในเมืองไทยเรามีเยอะ บางทีก็ไปวัดนานาชาติบ้าง อะไรบ้าง เอาพระวัดนี้แหละไปสอน ท่านปัญญาวันนี้ไปแล้วแต่เช้า ฝรั่งสนใจมาก วัดเราก็รับไม่ได้เพราะมากแล้ว ยิ่งต้องส่งพระของเราไปอบรมสั่งสอนพระฝรั่ง

ท่านปัญญาเป็นพระที่แยบคายอยู่นะในวงกรรมฐาน สำหรับพระต่างชาติท่านปัญญาเป็นพระสำคัญองค์หนึ่งอยู่ พอที่จะให้อรรถให้ธรรมแก่ชาวเมืองนอกได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นเราถึงปล่อยให้ไป วันนี้ไปแล้วออกแต่เช้า

ความที่มันเคยชินกันมาดั้งเดิม ภาษาเดียวกัน พูดกันง่ายรู้เรื่องกันเร็ว อย่างฝรั่งต่อฝรั่งสอนกันได้ง่าย เป็นอย่างงั้นนะ เรื่องสอนได้น่ะได้ น้ำหนักมันต่างกัน ภาษาก็เป็นอันเดียวกันแล้ว


:b8: :b8: :b8:

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อค่ำวันที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
เทศน์อบรม ณ สวนแสงธรรม เขตบางแค กรุงเทพมหานคร


:b44: ...เออ ท่านปัญญาวัฑโฒ ที่วัดป่าบ้านตาด ได้ละขันธ์ไปแล้วตั้งแต่เมื่อเช้านี้ ดูเหมือนตอน ๘ โมงครึ่งมัง เสียไปแล้ว พอดีตอน ๘ โมงครึ่ง เราได้สั่งเสียไว้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เพราะก่อนจะมาก็ทราบอาการแล้วจะไม่ไหว จวนเต็มที่แล้ว ทีนี้วันเวลาของเราที่จะมานี้มันก็กำหนดตายตัวไว้แล้วเคลื่อนไม่ได้ ผู้เป็นก็เป็น ผู้ตายก็ตาย จะว่าไง ทำงานคนละหน้าที่ เราก็มาหน้าที่ของเรา ท่านก็ตายตามหน้าที่ของท่าน ก็เท่านั้นเอง ทุกอย่างสั่งไว้เรียบร้อยหมดเลย

ท่านปัญญาได้ทำประโยชน์ให้วัดป่าบ้านตาดมากมายนะ เพราะเป็นช่าง เป็นช่างได้ทุกแบบท่านปัญญา ถามตรงไหนไม่มีอั้นเลย ไม่ว่าเครื่องยนต์กลไกอะไรทำเป็นหมด รถไฟ เรือเหาะเรือบิน ทำเป็นหมด จนกระทั่งจรวดดาวเทียม เราถามว่าทำได้ไหม ทำได้ท่านว่า แต่ว่าสิ่งเหล่านี้คนต้องจำนวนมากมายที่จะทำ คนเดียวทำไม่สำเร็จ ท่านก็มีทางออกของท่าน เราถามไปตรงไหนนี้ไม่มีอัดมีอั้นนะ ท่านรู้หมด เขาเรียกว่าวิศวปรมาณูหรืออะไร เพราะฉะนั้นท่านจึงเก่งทุกด้านทุกทาง แม้ที่สุดรถยนต์เข้าไปในวัด ไปตายอยู่ในวัด ท่านก็แก้ให้ รถเข้าไปในวัด ไปตายในวัดออกไม่ได้ ท่านก็แก้ได้ ไล่ออกจากวัดไป ท่านเก่งหมดเรื่องนาฬิกงนาฬิกา พวกเทปพวกวิทยุเหล่านี้ทำเป็นหมด อยู่ในวัดท่านแก้ให้ทั้งนั้น ท่านเก่งมากทุกอย่าง จึงว่าท่านทำประโยชน์ให้วัดมากมาย

แล้วก็ยังมีส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่ง คือเป็นสื่อทางอันดีงามสำหรับชาวเมืองนอก เขามาเขาก็มาอาศัยท่านปัญญาเป็นผู้คอยแนะนำสั่งสอนเป็นลำดับลำดามา ท่านปัญญาตายไปก็ขาดประโยชน์อันนี้ สำคัญอันหนึ่ง สำหรับทางวัดก็ไม่ค่อยมีอะไรแหละ มีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยท่านเป็นบางกาลเวลา ทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรแหละในวัด แต่เรื่องอุบายแนะนำสั่งสอนบรรดาพระต่างชาติที่เข้ามา จะต้องมาถึงท่านปัญญาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างท่านปัญญาละเอียดลออดี การแนะนำสั่งสอนก็ถูกต้อง

เวลาท่านดับจิตก็สงบเงียบไป ว่างั้น นี่สมชื่อสมนามกับพระปฏิบัติดูจิตของตัวเอง ท่านปัญญาก็ดีอยู่ไม่มีที่ต้องติ เวลาจะดับก็ไปด้วยความสงบเงียบเลย...พอสิ้นลมพระก็โทรมาเลย เราก็ทราบแล้วอย่างนี้ เราได้สั่งไว้หมดแล้วไม่มีปัญหาอะไร ให้จัดโดยสมบูรณ์ตามที่เราสั่งไว้แล้ว เวลาเรากลับไปก็เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่เราจะพาดำเนิน

ท่านได้หลักใจจริงๆ แหละท่านปัญญา...จากพุทธศาสนาไม่สงสัย ถึงขนาดท่านยังพูดเอง พูดแบบไม่ลำเอียงให้เราฟังต่อปากต่อคำกัน ว่าท่านเสียดาย ท่านว่าอย่างนั้นนะ ถ้าพูดถึงเรื่องทางความฉลาดแล้วยกให้ว่าฝรั่งนี้ฉลาด แต่ทางธรรมนี้ฝรั่งโง่ ว่างั้นนะ คือพุทธศาสนานี้เป็นศาสนาที่เลิศเลอ พวกฝรั่งไม่ค่อยเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงว่าดีอันหนึ่ง ก็มาเสียอันหนึ่ง แล้วท่านก็ฉลาดดีนะ อันนี้มันก็คงเป็นกรรมของสัตว์ แน่ะท่านว่า น่าฟังนะท่านพูด คือทางฉลาด ฉลาดไปทางโลกทางสงสาร ทางวัฏวนเสีย ให้ฉลาดมาทางธรรมนี้ไม่ฉลาด โง่เสียตอนนี้ จากนั้นท่านก็สรุปว่าคงเป็นกรรมของสัตว์นั้นแหละ ท่านว่า มันก็ถูกต้องหมดใช่ไหมล่ะ

เราจะถือเรื่องความฉลาดภายนอกมาวัดไม่ได้นะเรื่องธรรม ธรรมเป็นอันหนึ่ง กิเลสเป็นอันหนึ่งต่างหาก ท่านพูดเองนะ ท่านเสียดายอยากให้ฝรั่งที่ว่าฉลาดๆ หันเข้ามาปฏิบัติทางพุทธศาสนา ทางด้านจิตตภาวนาบ้าง แล้วฝรั่งจะทำประโยชน์ได้มากมายทีเดียว ว่างั้นนะ ถูกต้อง แต่นี้มันก็เป็นอย่างว่านั่นแหละ มันไม่มาสนใจเสีย โง่ไปทางหนึ่งเสีย แล้วท่านก็สรุปว่า อันนี้ก็คงเป็นกรรมของสัตว์นั้นแหละ เราก็หมดท่า ท่านพูดฉลาดดีนะ ท่านปัญญาท่านพูดฉลาดดี

ท่านสุขุมมากท่านปัญญา ไม่มีที่ต้องติ ตั้งแต่วันมาอยู่กับเราไม่เคยได้ดุเลยนะ ไม่มี เรียบ สุขุมมาโดยตลอด ฉลาดมาตลอด พวกชาวเมืองนอกมาก็อาศัยท่านชี้แนะๆ พอท่านเสียไปก็จะเสียประโยขน์ไปทางหนึ่งเหมือนกัน อายุท่าน ๗๙ เกือบ ๘๐ นะ


:b8: :b8: :b8: http://www.luangta.com

• ประมวลภาพ “หลวงปู่ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=42521

• ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=45022

• “สัทธิวิหาริก” กับ “อันเตวาสิก”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=40263

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร