วันเวลาปัจจุบัน 19 มี.ค. 2024, 10:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2010, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2007, 17:21
โพสต์: 4148

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ธ ร ร ม ะ มี ทุ ก ค น
จะรู้หรือไม่รู้....
ก็มี

พระสุทธิธรรมรังสี คัมภีรเมธาจารย์ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ


ธรรมะมีทุกคน จะรู้หรือไม่รู้ก็มี
จะเรียนหรือไม่เรียนก็มี

นอกจากจะเรียนภาษาของธรรมะหรือไม่เท่านั้น

เมื่อเราเรียน สมมติ บัญญัติของธรรมะ
ก็เท่ากับเราอ่านออก เหมือนอ่านหนังสือ


:b8: :b8: :b8:

(คัดลอกบางตอนมาจาก “อานาปานานุสรณ์ ตอนต้น”
ในแนวทางปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เรียบเรียงจาก โอวาท ๔ พรรษา
ของพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีเมธาจาย์ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ,
หน้า ๒๘๐)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2010, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 พ.ค. 2010, 13:34
โพสต์: 1654

งานอดิเรก: ฟังเพลง และฟังธรรมตามกาลเวลา
สิ่งที่ชื่นชอบ: อภัยทาน
อายุ: 39
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


:b47: ธรรมะจากพระผู้รู้ - ฉบับที่ ๙๓
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

ถาม - เวลาที่พบปัญหาใหญ่ หรือต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รัก
ทำอย่างไรจะใช้ธรรมะเยียวยาได้ครับ

ธรรมมะเป็นเครื่องขัดเกลาตัวเอง ค่อยๆ ลดละความเห็นแก่ตัวไปเรื่อยๆ
เบื้องต้นก็ค่อยๆ ดูไปจนมันฉลาด
คนเห็นแก่ตัวเพราะไม่ฉลาดนะ โง่
ไม่รู้หรอกว่ายึดถือตัวตนเอาไว้แล้วทุกข์
ถ้าปล่อยตัวตนออกไปได้นะ ความทุกข์ก็ลดลงๆ
พระอรหันต์ไม่ได้เป็นมนุษย์ประหลาดอะไร
คนชอบไปวาดภาพพระอรหันต์เหมือนคนพิการ
กระดุกกระดิกก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้ ผิดปกติไปหมดเลย
ฮอร์โมนก็ผิดปกติ อะไรๆ ก็ผิดปกติ มันชอบคิดอย่างนี้นะ
ที่จริงก็คือในทางร่างกายนี่ปกติ เหมือนคนธรรมดาเลย
แต่จิตที่ฝึกดีแล้ว จิตที่มันฉลาดละ
มันเห็นความจริงของกายของใจซ้ำแล้วซ้ำอีก
มันรู้เลยกายนี้ใจนี้เป็นตัวทุกข์
พอมันรู้ความจริงอย่างนี้แล้ว มันจะไม่ยึดถือกายยึดถือใจ
เมื่อไม่ยึดกายยึดใจก็ไม่มีภาระที่จะต้องเดือดร้อนกับกายกับใจ
ร่างกายจะแก่ จะเจ็บ จะตาย ก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะไม่ได้ยึดถือกาย
จิตใจนะจะกระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

กระทบอารมณ์ที่ดีบ้าง กระทบอารมณ์ไม่ดีบ้าง
จิตใจก็ไม่กระเพื่อมหวั่นไหว ไม่ยินดีไม่ยินร้าย จิตใจก็เป็นอิสระ
จิตใจของคนที่ยังฝึกไม่พอนะ ไม่มีอิสรภาพ
พอถูกกระทบอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แล้วยินดีบ้างยินร้ายบ้าง
พอยินดีนะก็ดิ้นรนแสวงหา ดิ้นรนรักษา
ยินร้ายก็ดิ้นรนขจัดปัดเป่า ดิ้นรนต่อต้านขัดขืน

อย่างความทุกข์ในชีวิตเรา ปัญหาในชีวิตเราผ่านเข้ามาเนี่ย
เราไม่พอใจ อยากให้หายไป ต้องดิ้นรน
แต่ถ้าเห็นว่ามันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติกันทั้งนั้นนะ
ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
กระทั่งชีวิตเราเอง สิ่งที่เรียกว่าตัวเราเอง อยู่ชั่วคราวนะ
แล้วก็ผ่านไปเหมือนกัน ไม่มีถาวร ไม่มี
ถ้าเห็นอย่างนี้นะ ไม่ว่าจะเจออะไร จิตใจก็ไม่หวั่นไหว
จะพลัดพรากจากสิ่งที่รักก็ไม่หวั่นไหวนะ จะเจอสิ่งที่ไม่รักก็ไม่หวั่นไหว
จะสมปรารถนา จะไม่สมปรารถนานะ
ใจก็ไม่หวั่นไหว ไม่กระเพื่อมขึ้นกระเพื่อม
เห็นทุกอย่างเป็นปรากฏการณ์ที่ไหลผ่านไปเรื่อยๆ
ทุกอย่างเหมือนสิ่งที่ว่างเปล่า เป็นปรากฏการณ์ที่ว่างเปล่าเท่านั้นเอง
เพราะมันมีมาชั่วคราวแล้วมันก็หายไปหมดเลย
มันไม่มีหรอกสิ่งที่จริงจังที่สุดในชีวิต

อย่างบางทีเวลาเราเผชิญปัญหา
เรารู้สึกสิ่งนี้สำคัญที่สุดเลย ชีวิตเราขาดสิ่งนี้ไม่ได้
อย่างเวลามีความรักนะ รู้สึกคนนี้เป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้
คนๆนี้ ถ้าเราขาดแล้วเราไม่มีความสุขเลย
วันนึงขาดเข้าจริงๆ ก็อยู่ได้นะ ไม่ตายหรอก
บางคนก็มีตำแหน่งหน้าที่ใช่ไหม เคยใหญ่
พอถึงตุลา เกษียณนะ นี่วันนี้ ๓๑ ตุลา มีคนเกษียณมาหนึ่งเดือน
คงมีคนตายไปบ้างแล้ว เฉาตาย เคยใหญ่
รู้สึกตำแหน่งหน้าที่นั้นเป็นของสำคัญ ขาดไม่ได้
ความจริงขาดได้ ทุกอย่างนะไม่ใช่สำคัญที่สุดหรอก
ทุกอย่างมันมาแล้วไปทั้งหมดเลย ไม่มีอะไรหรอกที่เราขาดมันไม่ได้
อย่างพระเยซูสอนดีนะ บอกว่าอย่างบางคนต้องการเสื้อผ้าใช่ไหม
เห็นว่าเสื้อผ้าสำคัญ ท่านสอนร่างกายสำคัญกว่าเสื้อผ้า
ชีวิตสำคัญกว่าอาหาร อะไรแบบนี้ สอนดี
นักปราชญ์ทั้งหลายก็มองคล้ายๆ กันแบบนี้แหละ
ทีนี้ไม่ยึดกระทั่งร่างกาย ไม่ยึดกระทั่งจิตใจนะ
โอ้โห มันมีอิสระจริงๆ นะ
อะไรเกิดขึ้น แม้โลกจะแตกต่อหน้าต่อตานะ
ใจก็ไม่หวั่นไหวหรอก มีความสุข

ที่มา :: ธรรมะใกล้ตัว
ธรรมะจากพระผู้รู้ - ฉบับที่ ๙๓
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช

กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ tongue tongue tongue

.....................................................
ธรรมอำนวยพร
ขอให้.....มีจิตที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน (พุทธะ)
ขอให้.....ทำการงานด้วยความสุข (อิทธิบาทสี่)
ขอให้.....ขจัดทุกข์ได้ด้วยปัญญา (อริยสัจสี่)
ขอให้.....มีดวงตาที่เห็นความจริง (ไตรลักษณ์)
ขอให้.....เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร