วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ก.ค. 2020, 06:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2010, 15:28
โพสต์: 2638

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ท่านพ่อลี ธัมมธโร.jpg
ท่านพ่อลี ธัมมธโร.jpg [ 122.92 KiB | เปิดดู 1876 ครั้ง ]
.
"ไตรสรณคมน์เสื่อมเศร้าหมอง"

"เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส นเต คมิสฺสนฺติ อปายภูมํ
ปหาย เมนุสํ เทหํ เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตีติ"

" .. แปลความว่า "นรชนทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่งถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะที่พึ่ง (ภายในใจ) ชนทั้งหลายเหล่านั้นจักไม่ได้ไปเกิดในอบายสี่" คือ นรก เปรต อสูรกาย และสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อละกายเป็นของมนุษย์แล้ว จักได้ยังกายทิพย์ให้บริบูรณ์ ดังนี้

"ถ้าเราเชื่อมั่นแล้ว ไม่ควรไปเชื่อถือของศักดิ์สิทธิ์ที่สมมติกันขึ้นภายนอก" โดยหาเหตุผลมิได้ เห็นคนอื่นเขาพาทำมา ก็หลับตาทำไปโดย อาการต่าง ๆ แล้ว "อาจทำให้พระไตรสรณาคมน์เสี่อมและเศร้าหมองไป" ใจเราก็จะหมดหลักฐานที่พึ่งอาศัย ก็จะเกิดความสงสัย ฟุ้งซ่าน "ไปนับถือนอกรีตนอกรอย" พลอยลุ่มหลงไปต่าง ๆ

"ลักษณะของผู้มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งแล้ว" ย่อมมีกายอ่อนน้อม มีวาจาอ่อนน้อม "ย่อมปรารภเสมอพร้อมทั้งนํ้าใจ ประกอบด้วยปัญญา" พิจารณารู้เห็นความจริงของตนว่า "เราเกิดมานี้เพราะกรรม เราเป็นอยู่นี้เพราะกรรม เราตายไปนี้เพราะกรรม เราท่าดีได้ดี เราท่าชั่วได้ชั่ว" ด้งนี้

"ใคร ๆ จะช่วยความเป็นตายให้เราได้" เมื่อมีความเชื่อมั่นหมั่นระลึกศึกษาภาวนาอยู่เป็นนิตย์แล้ว "เท่ากับสาธยายมนต์ทิพย์อันประเสริฐ" นับเป็นหลักทางใจในทางพุทธศาสนาส่วนหนึ่ง .. "

"จิตตวิชา"
ท่านพ่อลี ธัมมธโร


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
.. สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ ..
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร