ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

**สุขใจ**
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=20345
หน้า 5 จากทั้งหมด 23

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 19 พ.ค. 2009, 21:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

แก่นแท้ธรรมนำชีพสุกสว่าง
ชีวิตใสกระจ่างพ้นทุกข์เข็ญ
เพียรสำรวจตรวจตราความลำเค็ญ
จิตตรมทุกข์เน้นเน้นในเหตุใด

เพียรเฝ้าเพาะเสาะหาความว้าเหว่
เฝ้าหลงเล่กลลวงสะท้านไหว
หลงละเมอเพ้อหาน้ำตาใจ
จริงแล้วไซร้สมมุติฉุดวิญญาญ์

มัวหลงวนติดบ่วงห้วงผัสสะ
ทั้งเราท่านลดละความปรารถนา
ทิ้งเรื่องราวเขาเธอพรรณณา
ปลดอัตตาขื่นขมตรมทรวงใน

ธรรมดาสรรพสิ่งที่เปลี่ยนยุค
ธรรมารมณ์บ่มสุกจนหมองไหม้
ธรรมดาสรรพสิ่งที่เปลี่ยนไป
บัญญัติธรรมนี้ไซร้ในสมมุติ

ทั้งกายจิตเจตสิกรูปกับนาม
เป็นสื่อการรับรู้มิสิ้นสุด
กิเลสเกราะตัณหากลยุทธิ์
จึงเวียนผุดเวียนว่ายในวัฏฏะ

สรรพสิ่งทั้งหลายในสมมุติ
เป็นผู้ฉุดเราท่านหลงวัณณะ
เรียนรู้โลกสมมุติแห่งผัสสะ
เจตนาสภาวะที่เป็นจริง (ของชีวิต)

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 20 พ.ค. 2009, 12:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

๐ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ๐

๐ เกิด มาทำไม
เกิด ได้เกิดดี
เกิด เพื่อใช้หนี้
เกิด เพื่อสร้างค่า

๐ แก่ ตามวิถี
แก่ มีปัญญา
แก่ สิ้นตัณหา
แก่ ช้ากว่าวัย

๐ เจ็บ แล้วต้องจำ
เจ็บ ช้ำเพราะใคร
เจ็บ ลึกข้างใน
เจ็บ ใจแทบบ้า

๐ ตาย กันทุกคน
ตาย ตนที่พา
ตาย อย่างพระว่า
ตาย ก่อนจะตาย.

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 20 พ.ค. 2009, 23:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

เพชร....ที่แท้จริงคือ แก่นธรรม
แก่นแท้ของศาสนา
แม้คนในโลกนี้มีเพชรงามหลาย
รูปแบบ หลายศาสนา
เราคนไทยมีพระพุทธศาสนา
ที่เปรียบประดุจดังเพชรเม็ดงามเรืองรุจี...
ที่เราทุกคนโชคดีนักที่มีโอกาสเกิดมาพานพบ
และ
เลือกมา...ประดับใจของเรา...ให้มีคุณค่า
มากล้นด้วยคุณงามความดี
ด้วยน้ำใจที่ใสสะอาดราวเพชรงามน้ำดี
เพื่อส่องสว่างนำทางให้
จิตวิญญาณ สงบงาม..
และยังประโยชน์
เพื่อนำ..เส้นทางใจ
ให้แก่ผู้ที่ยังทุกข์ทน มืดบอด หาแสงสว่าง
ไม่พบเจอ....

เพชร.......ของมนุษย์เรา
นอกจากประดับที่ร่างกายแล้ว
ทุกคนจะมีเพชรส่องประกาย...ภายในใจ
ให้งามงดเฉพาะรูปเฉพาะนาม
ตามทางแห่งการระลึกรู้
ด้วยความเพียรและกุศลผลบุญที่ได้สร้างสม
บ่มเพาะ แตกต่างกันไป
แล้วแต่ใจใครจะไขว่คว้า....

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 21 พ.ค. 2009, 22:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

ในราตรีไร้จันทรา
ดอกไม้ป่าส่งกลิ่นหอม
จากพฤกษ์ไพรพนามาให้ดอม
ลบตรอมฝากชื่นค่ำคืนนี้

เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น
หลีกเร้นโลกแห่งแสงสี
หลับตาสิคนดี
เห็นชีวาชีวีภายใน

เย็นว่างสว่างพร่างพราย
ดั่งดาวรายสุกใส
เจิดจรัสรัศมีบุญล้อมดวงใจ
สิ้นเยื่อสายใยพันธนา

เพียงลำพังกับชีวิตนิดน้อย
ล่องลอยสู่แดนปรารถนา
ขวัญสรวงแห่งทิพย์เทวา
ลบลืมมายาวิบากชน...

ค้นพบจบจากที่ใจ
ไม่ใฝ่ไม่คว้าหาฝัน
ไม่ยึดสิ่งใดผูกพัน
ผ่านวันรู้โลกย์โศกธรรม

ปล่อยวางทุกสิ่งนิ่งไว้
งามให้เมตตารินร่ำ
ดั่งหยาดฝนพรมพรำ
น้ำคำน้ำใจไมตรี

แลทุกข์แลสุขธรรมดา
ปรารถนาเพียงลมหายใจนี้
สะสมสะเบียงบุญบารมี
ไม่อยากมีชีวีซ้ำวน...!

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 21 พ.ค. 2009, 23:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 23 พ.ค. 2009, 00:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

คือ……อาหารเลี้ยงกายเราเยาว์จนใหญ่

คือ……ความใคร่ของอารมณ์ห่มตัณหา

คือ……อำนาจบาตรใหญ่ใช้เงินตรา

คือ……เข่นฆ่าพร่าผลาญสังหารกัน

คือ……แสวงแต่งเติมเพิ่มบทบาท

คือ……ประกาศเกียรติยศบทกระสันต์

คือ……เร่งรัดจัดเทียบเอาเปรียบกัน

คือ……บีบคั้นเค้นขยำมุ่งทำลาย

คือ……โกรธเกลียดเหยียดหยันเย้ยเยาะหยาม

คือ……ประณามความแตกแยกสลาย

คือ……หน้าด้านกร้านทนกร้าวหนาวละอาย

คือ……แพ้พ่ายร้างหลบกลบโพยภัย

คือ……เกรงกลัวกลั้วขยาดหวาดผวา

คือ……อ่อนล้าล้อขวัญที่หวั่นไหว

คือ……แค้นเคียดเบียดทรามหนามจัญไร

คือ……ผลักไสไม่ห่วงหาเอื้ออาทร

คือ……สมัครสามัคคีมีเหตุผล

คือ……คิดค้นคำปราศรัยใช้โอนอ่อน

คือ……เมตตามารับดับนิวรณ์

คือ……สะท้อนผลของกรรมนำชั่วดี.

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 25 พ.ค. 2009, 12:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

:b8: :b8: :b8:
ภาพ สวยข้อความก็ได้สาระมากเลยค่ะ สาธุ

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 25 พ.ค. 2009, 12:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

ขอบคุณในเมตตาจิต...จากคุณคนไร้สาระ...

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 25 พ.ค. 2009, 13:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

ชีวิตเหมือนดอกไม้
ดอกไม้ที่สุมเป็นกองอยู่นี้ ช่างดอกไม้ที่ชาญฉลาด
สามารถจัดสรรมา ร้อยเป็นพวงมาลัยให้สวยสดงดงามได้ฉันใด

ชีวิตของคนเราก็เหมือนกัน
ควรร้อยเข้าเป็นมาลัยชีวิตให้สวยงามเช่นนั้น
นั่นคือทำความดีให้มากเข้าไว้

ชีวิตของท่านก็เหมือนดอกไม้
บางคนเป็นดอกหญ้าให้คนเหยียบย่ำ
บางคนอยู่ในแจกันทอง บูชาพระ
ขึ้นอยู่แต่ว่า ท่านใช้ทำอะไรต่างหาก

มีสองแขนสองขาเหมือนกัน
แต่บางแขนเป็นมือของโจร
บางแขนเป็นมือของพระผู้สร้างโลก

สุดแต่ว่าท่านจะใช้มือของท่านทำอะไร
นั่นคือท่านจะร้อยมาลัยชีวิตของท่านอย่างไร ?

หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๓๐ : ชีวิตเหมือนดอกไม้
โ ด ย : พระราชวรมุนี วัดประยูรวงศาวาส กรุงเทพ
ขอบคุณบทควจากธรรมะไทย

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 26 พ.ค. 2009, 05:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

:b8: ขอบคุณค่ะที่ฝากรูปและข้อความให้ ประทับใจมาก
และภาพนี้มอบให้ คุณปลายฟ้า ค่ะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ

ไฟล์แนป:
sh111.gif
sh111.gif [ 33.63 KiB | เปิดดู 5691 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 26 พ.ค. 2009, 12:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

วจีธรรม
การให้ธรรมเป็นทาน เป็นทานสูงสุด
ผู้ให้ให้ด้วยความเมตตา หวังบุญกุศลในธรรมทาน
หากให้ด้วยความไม่เมตตา ท่านไม่เรียกธรรมทาน

วจีสุจริต
เว้นจากการพูดเท็จ
เว้นจากการพูดส่อเสียด
เว้นจากการพูดคำหยาบ
เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อเหลวไหล

คือแม้ว่าจะเป็นความจริง
แต่หากว่าเป็นคำส่อเสียดก่อให้เกิดความแตกร้าว
เช่นนำความข้างนี้ไปบอกข้างนั้น นำความข้างนั้นมาบอกข้างนี้
เพื่อจะยุให้ทั้งสองฝ่ายแตกกัน แม้จะเป็นความจริงที่ไม่ควรพูด
เพราะทำให้เขาแตกกัน เข้าในพวกส่อเสียด หรือแม้ว่าเป็นคำหยาบ
ไม่ได้มุ่งจะหลอกลวงให้เข้าใจผิด
แต่ว่าเป็นคำหยาบคาย เช่นเป็นคำด่าว่า
เป็นสัตว์ดิรัจฉานอย่างโน้นอย่างนี้ อะไรเป็นต้น
หรือแม้วาจาอย่างอื่นซึ่งเป็นการกล่าว กดให้เลวลง

ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น
และก็ไม่ได้มุ่งที่จะหลอก แต่ว่ากล่าวด้วยความโกรธ
ด้วยความเหยียดหยาม ต้องการจะกดเขาให้เลว
ก็ไม่ควรพูด และแม้ว่าเป็นคำที่เพ้อเจ้อเหลวไหล
ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นวินัย ไม่มีขอบเขตจำกัด
หาสาระแก่นสารมิได้ หรือว่ามีสาระแก่นสารน้อยเกินไป
ก็เป็นคำไม่ควรพูด

วจีทุจริต
วาจาเช่นที่กล่าวมานี้ คือ
การพูดเท็จก็ดี
การพูดส่อเสียดก็ดี
การพูดคำหยาบก็ดี
การพูดเพ้อเจ้อเหลวไหลก็ดี

ก็นับว่าเป็น วจีทุจริต คือ การพูดที่เป็นทุจริตเสมอกัน
เพราะฉะนั้นแม้เป็นความจริง
ก็ไม่ใช่ว่าเป็นข้อที่ควรพูดเสมอไป ต้องอยู่ในขอบเขตอันสมควร

: ทศบารมีและทศพิศราชธรรม
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 26 พ.ค. 2009, 12:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

คนไร้สาระ เขียน:
:b8: ขอบคุณค่ะที่ฝากรูปและข้อความให้ ประทับใจมาก
และภาพนี้มอบให้ คุณปลายฟ้า ค่ะ
อนุโมทนาสาธุค่ะ


อนุโมทนาจิตด้วยค่ะ...

คราครั้งใดที่เจ้ารู้สึกตัวว่าเจ้าอยู่ในพระพุทธศาสนานี้ ครานั้นเจ้าคือคนของพระศาสนา
คราใดที่เจ้าเป็นคนของพระศาสนา ครานั้นเจ้าก็ต้องทำงานให้กับพระศาสนา
คราใดที่เจ้าทำงานให้กับพระศาสนา ครานั้นเจ้าก็ต้องทำความเจริญให้กับพระศาสนา
คราใดที่เจ้าทำความเจริญให้กับพระศาสนา ครานั้นเจ้าจงรู้ไว้เถิดว่า
เจ้ากำลังทำความเจริญให้กับจักรวาลและตัวเจ้าเอง

-หลวงปู่พุทธะอิสระ-

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 27 พ.ค. 2009, 05:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

:b8: สาธุ คุณปลายฟ้า..ค่ะ สุขใจจัง
ที่เข้ามาบอร์ดนี้ วันนี้เอาดอกไม้มาฝากค่ะ

ไฟล์แนป:
reply632551_005_12_roses_2500_baht.jpg
reply632551_005_12_roses_2500_baht.jpg [ 62.8 KiB | เปิดดู 5669 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 27 พ.ค. 2009, 22:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

๐ คำประพันธ์ บทพระธรรม ไม่จำเพาะ
ว่าจะต้อง ไพเราะ เพราะอักษร
หรือสัมผัส ช้อยชด แห่งบทกลอน
ที่อรชร เชิงกวี ตามนิยม

๐ ขอแต่เพียง ให้อรรถ แห่งธรรมะ
ได้แจ่มจะ ถนัดเห็น เป็นปฐม
แล้วได้รส แห่งพระธรรม ด่ำอารมณ์
ที่อาจบ่ม เบิกใจ ให้เจริญ

๐ ให้นิสัย เปลี่ยนใหม่ จากก่อนเก่า
ไม่ซึมเศร้า สุขสง่า น่าสรรเสริญ
เป็นจิตกล้า สามารถ ไม่ขาดเกิน
ขอชวนเชิญ ชมธรรมรส ทบทวี ฯ

พุทธทาส อินทฺปัญโญ

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 29 พ.ค. 2009, 08:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: **สุขใจ**

แม้เนิ่นนาน เท่าไร ยากจะเปลี่ยน
ยังหมุนเวียน การกระทำ ตามนิสัย
แต่ละคน ต่างความคิด ความเป็นไป
ต่างจิตใจ การกระทำ ต่างเวลา

ไม่ว่าเข็ม จะหมุนไป สักกี่รอบ
วันประกอบ เป็นเดือน เคลื่อนมาหา
มนุษย์ต่าง เลือกใช้ เลือกเวลา
ให้ได้มา สิ่งอยากได้ กายอยากมี

ศิลปิน ก็อยากได้ งานชิ้นเอก
คนเสี่ยงเลข ก็อยากได้ เป็นเศรษฐี
คนหางาน ก็อยากได้ งานดีดี
นักกวี ก็อยากได้ กลอนซึ้งใจ

จึงได้บอก เวลาเปลี่ยน ใช่ความคิด
คนละจิต ไม่อาจเปลี่ยน ถึงนิสัย
แม้เวลา จะเปลี่ยนไป นานเท่าไร
ถึงยังไง คงยากเปลี่ยน ความคิดคน

แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทุกคน ทนเปลี่ยนได้
ไม่เหนื่อยกาย อีกทั้งยัง ไม่สับสน
แม้เลือกเปลี่ยน ไม่ได้ ความคิดคน
แต่เปลี่ยนตน ให้เหมือนเช่น เปลี่ยนเวลา

เราสามารถ ที่จะเปลี่ยน เวลาพูด
เพื่อพิสูจน์ ว่าเรามี การศึกษา
เราต้องเปลี่ยน การกระทำ ตามเวลา
ให้ได้มา ซึ่งถึงความ สามัคคี

หากว่าเรา เปลี่ยนเวลา ใช้ชีวิต
สงบจิต สงบใจ ให้สุขขี
นิสัยเรา เป็นอย่างไร รู้ตัวดี
แต่บางที เราต้องกลับ ปรับเข้ามา

อยู่คนเดียว เราจึงทำ ตามความคิด
สมดั่งจิต สมดั่งใจ จะสรรหา
เวลาเปลี่ยน และรู้จัก เปลี่ยนเวลา
จึงเรียกว่า ผู้รู้จัก ตระหนักดี

หน้า 5 จากทั้งหมด 23 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/