ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

เสียงธรรมจากพระโอษฐ์
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=20871
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  ningnong [ 03 มี.ค. 2009, 00:05 ]
หัวข้อกระทู้:  เสียงธรรมจากพระโอษฐ์

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ผมอ่านหนังสือเสียงธรรมจากพระโอษฐ์ เห็นว่าไพเราะขอยกมาร่วมครับ

น เตน ปณฺฑิโต โหติ
ยาวตา พหุ ภาสติ
เขมี อเวรี อภโย
ปณฺฑิโตติ ปวุจฺจติฯ

คนมิได้ชื่อว่า บัณฑิต
เพียงเพราะพูดมาก
คนที่เกษมปลอดจากเวรภัย
นั่นต่างหากเราเรียกว่า บัณฑิต


จะพูดมากเพียงใดก็ไร้ค่า
แม้วาจาถ้อยคำล้ำสมัย
พูดได้ดีแหลมคมเที่ยวข่มใคร
ยิ่งมิใช่บัณฑิตน่าชิดชม

คนเกษมปลอดภัยในทุกที่
ห่างเวรีหายทุกข์อยู่สุขสม
นั่นบัณฑิตทรงสิริน่านิยม
เขาอุดมคุณค่าอย่าดูแคลนฯ


:b41: :b41: :b41: เจริญในธรรมครับ :b41: :b41: :b41:

เจ้าของ:  ningnong [ 03 มี.ค. 2009, 19:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

กุหา ถทฺธา ลปา สิงฺคี
อุนฺนฬา จาสมาหิตา
น เต ธมฺเม วิรูหนฺติ
สมฺมาสมฺพุทฺธเทสิเตฯ
(องฺ. จ. ๒๑/๒๖/๓๔)


คนใด ล่อลวง กระด้าง ประจบ
วางท่า มานะดุจไม้อ้อ และไม่ตั้งมั่น
คนนั้นย่อมไม่งอกงามในธรรม
ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง



บุคคลใดล่อลวงล่วงต่ำช้า
กายวาจากระด้างอวดอ้างยิ่ง
วางท่าทางเกรงขามเกินความจริง
ทั้งเย่อหยิ่งลำพองมองคนทราม

บุคคลนั้นห่างธรรมตกต่ำแล้ว
ความเพริศแพร้วจากไกลเกินไถ่ถาม
อยู่ในศาสนาหมดความงดงาม
ท่านเอ่ยห้ามบอกว่าอย่าสัมพันธ์ฯ

เจริญในธรรมครับ


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
a05.jpg
a05.jpg [ 17.36 KiB | เปิดดู 20194 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ningnong [ 05 มี.ค. 2009, 21:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

น ภเช ปาปเก มิตฺเต
น ภเช ปุริสาธเม
ภเชถ มิตฺเต กลฺยาเณ
ภเชถ ปุริสุตฺตเมฯ


ไม่ควรคบมิตรชั่ว
ไม่ควรคบบุรุษต่ำทราม
ควรคบมิตรดี
ควรคบบุรุษสูงสุด


ชื่อว่ามิตรชั่วช้าอย่าคบคุ้น
ประเดี๋ยวคุณความดีจะหนีหาย
มิตรต่ำทรามห่างไกลอย่าใกล้กราย
ความเลวร้ายจะตามมาช่างน่ากลัว

มิตรดีดีเห็นไหมคบไว้เถิด
เพราะก่อเกิดความดีทุกที่ทั่ว
คนประเสริฐควรประชิดตามติดตัว
นี่คือหัวใจพบการคบคนฯ

เจริญในธรรมครับ


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
1.jpg
1.jpg [ 11.84 KiB | เปิดดู 10642 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ningnong [ 09 มี.ค. 2009, 23:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

:b41: :b41: :b41: :b42: :b41: :b41: :b41:

ยสฺส ชิโต กามกณฺฏโก
อกฺโกโส จ วโธ จ พนฺธนญฺจ
ปพฺพโต วิย โส ฐิโต อเนโช
สุขทุกฺเขสุ น เวธตี ส ภิกฺขุฯ
ขุ. อุ. ๒๕/๗๕/๑๑๒

ภิกษุใดชนะหนามแห่งกาม ชนะการด่า
การฆ่า และความผูกพันได้แล้ว
ภิกษุนั้นมั่นคงไม่หวั่นไหวดุจภูเขา
เธอย่อมไม่หวั่นไหวในเพราะสุขและทุกข์

ชนะหนามแห่งกามงดงามนัก
ผู้ใดหักห้ามด่าน่าสรรเสริญ
การฆ่าฟันพันผูกถูกปล่อยเชิญ
ผู้นั้นเหินห่างไกลจากภัยพาล

ภิกษุนั้นคงมั่นมิหวั่นไหว
สุขทุกข์ไหนตัดขาดอยู่อาจหาญ
เหมือนบรรพตงดงามทุกยามกาล
ตั้งตระหง่านคงมั่นมิหวั่นเลย ฯ

เจริญในธรรมครับ


:b41: :b41: :b41: :b42: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
R6073-1.jpg
R6073-1.jpg [ 15.21 KiB | เปิดดู 10592 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ningnong [ 15 มี.ค. 2009, 22:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ทีฆา ชาครโต รตฺติ
ทีฆัง สนฺตสฺส โยชนัง
ทีโฆ พาลาน สังสาโร
สทฺธมฺมัง อวิชานตัง ฯ
(ขุ. ธ. ๒๕/๑๒/๒๓)


ราตรียาวนานแก่คนตื่น
โยชน์ยาวไกลแก่คนเหนื่อยล้า
สังสารยืดยาวแก่คนพาล
ผู้ไม่รู้แจ้งพระสัทธรรม.


คนที่นอนไม่หลับกลับตาตื่น
ยามกลางคืนยาวนานยากขานไข
ทางที่เดินนั่นเล่าช่างยาวไกล
คนเหนื่อยล้าอ่อนใจไหนสุดทาง

การเวียนว่ายตายเกิดกำเนิดก่อ
ยาวนานหนอหากเพลินมัวเหินห่าง
จากพระธรรมคลาดเคลื่อนรู้เลือนราง
คนพาลพลางผันผกเดินวกวน ฯ

เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
056.jpg
056.jpg [ 11.3 KiB | เปิดดู 10520 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ningnong [ 17 มี.ค. 2009, 12:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

......... ความไม่ประมาทคือ "หัวใจธรรมะ" ที่ก่อให้เกิดกุศลธรรมทุกอย่าง เป็น"อมตธรรม" เป็นมรดกล้ำค่า คนที่ศึกษาธรรมมามากต่อมาก ถ้าตั้งอยู่ในความประมาทก็รู้ธรรมขาดทุนเปล่า ๆ ส่วนผู้ที่ศึกษาธรรมเพียงเล็กน้อย แต่ซาบซึ้งความไม่ประมาทก็รู้ธรรมเข้าถึง จะรอบคอบกับการดำเนินชีวิต ไม่ปล่อยให้ใหลลงสู่ที่ต่ำ และยิ่งจะก้าวขึ้นสู่ที่สูงเรื่อย ๆ เรามาท่องคาถา "อัปปมาทธรรม" ทุกขณะลมหายใจยิ่งดี ปุถุชนยามทุกข์นึกถึงธรรม แต่ยามสุขทิ้งธรรม หมากรุกจะเดินยังต้องคิด หมากชีวิตจะเดินอย่างประมาทหรือ???

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

อปฺปมาทรตา โหถ
สจิตฺตมนุรกฺขถ
ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตานัง
ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร ฯ

ขุ. ธ. ๒๕/๓๓/๕๘


เธอทั้งหลายจงยินดีในความไม่ประมาท
รักษาจิตของตน ถอนตนขึ้นเสีย
จากหล่มเลนคือกิเลสที่ถอนขึ้นยาก
ดุจกุญชรจมลงในเปลือกตมถอนตัวขึ้น


ความไม่ประมาทนี้ช่างดีเหมาะ
จงเกี่ยวเกาะกันเถิดจะเกิดผล
หมั่นพิทักษ์รักษาจิตของตน
อย่าระคนด้วยกิเลสห่างเภทภัย

จงถอนตนขึ้นมาอย่าหวาดหวั่น
พ้นโศกศัลย์เศร้าหมองอยู่ผ่องใส
เหมือนกุญชรตกหล่มจมลงไป
ถอนตัวไวขึ้นจากตมได้สมปอง ฯ


เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
31x298.jpg
31x298.jpg [ 13.3 KiB | เปิดดู 10473 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ariyachon [ 18 มี.ค. 2009, 10:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

ขออนุญาตคัดลอกบทกวี ไปเผยแพร่นะครับ

:b8:

เจ้าของ:  ningnong [ 18 มี.ค. 2009, 17:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

สวัสดีครับ ท่านอริยชน

บทกวีที่นำมาลงนี้ ผมได้นำมาจากหนังสือชื่อ "เสียงธรรมจากพระโอษฐ์ ๑๐๘ คาถา อมตพจนาจากพระไตรปิฏก" โดยพระมหาอุเทน ปัญญาปริทัตต์ พิมพ์จำหน่ายครั้งแรก เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ จำนวน ๒,๐๐๐ เล่ม และเป็นธรรมทาน จำนวน ๑๕,๐๐๐ เล่ม โดย บริษัท สร้างสรรค์บุ๊คส์ จำกัด
ที่ผมได้รับเป็นฉบับที่จำหน่าย ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมือนกับฉบับพิมพ์เป็นธรรมทาน การคัดลอกบทกวีเพื่อ
นำไปเผยแพร่ ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ขออนุโมทนาครับ


:b41: :b41: :b41: :b8: :b8: :b8: :b41: :b41: :b41:

ททโต ปุญฺญัง ปวฑฺฒติ
สังยมโต เวรัง น วียติ
กุสโล ว ชหาติ ปาปกัง
ราคโทสโมหกฺขยา นิพฺพุโต ฯ

:b42: :b42: :b42:

บุญเจริญแก่ผู้ให้
เวรไม่ก่อแก่ผู้สำรวม
คนฉลาดละกรรมชั่ว
เขาดับแล้ว เพราะสิ้นราคะ โทสะ โมหะ

:b42: :b42: :b42:

กุศลผลบุญช่วยอุ่นเอื้อ
ตามก่อเกื้อแก่ผู้ให้ไม่หวังผล
ผลิแย้มบานอยู่ภายในดวงกมล
พาผ่านพ้นทุกข์ภัยในทุกทาง

เวรระงับดับลงอย่าสงสัย
หากจิตไม่เกาะเกี่ยวเที่ยวบาดหมาง
บาปอกุศลนิดหน่อยก็ปล่อยวาง
ย่อมเริศร้างจากกิเลสหมดเภทภัย ฯ

:b42: :b42: :b42:

เจริญในธรรมครับ

:b41: :b41: :b41: :b8: :b8: :b8: :b41: :b41: :b41:


ไฟล์แนป:
buddha.jpg
buddha.jpg [ 21.14 KiB | เปิดดู 10892 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ariyachon [ 19 มี.ค. 2009, 11:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

สหสฺสมปิ เจ วาจา อนตฺถปทสญฺหิตา
เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ.

หากวาจาแม้ตั้งพัน ไม่ประกอบด้วยบทที่เป็นประโยชน์ไซร้
บทที่เป็นประโยชน์บทเดียว ซึ่งบุคคลฟังแล้วสงบระงับได้ ประเสริฐกว่า

อนุโมทนาด้วยนะครับ

:b8: :b8:

เจ้าของ:  ningnong [ 20 มี.ค. 2009, 17:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

ธรรมคือสภาพทรงความจริง (ธาเรตีติ ธมฺโม) เห็นความจริงก็เท่ากับเห็นธรรม ทว่า น้อยคนนักที่จะเห็น
ทั้งนี้ เพราะสายตาของมนุษย์ถูกม่านอวิชชาปิด จึงตกหลุมพรางติดกับดักของโลกสมมติ หลงโลกบัญญัติกันอยู่เสมอ ไม่สามารถพบเห็นความจริงของโลกปรมัตถ์ แท้ที่จริงโลกปรมัตถ์หรือโลกความจริงนั้นก็อยู่กับโลกสมมติ โลกบัญญัตินี่เอง แต่ถูกปกปิดด้วยม่านอวิชชา การเห็นธรรมมิใช่เรื่องเหนือวิสัย เพียงเพียรมองโลกสมมติ โลกบัญญัติด้วยสายตาวิปัสสนา เมื่อม่านอวิชชาค่อย ๆ คลี่ออก โลกปรมัตถ์ในมุมมองใหม่ก็แจ่มชัดขึ้นเอง อย่างไรก็ตาม คนที่ประจักษ์แจ้งโลกปรมัตถ์ก็ยังคงอยู่ร่วมกับโลกสมมติโลกบัญญัติเหมือนเดิม เพียงแต่ "ทรรศนะ" เปลี่ยนไป (เซน เรียกว่า "ซาโตริ") มองโลกสมมติ โลกบัญญัติ ด้วยสายตาสงบนิ่งเยือกเย็น ไม่รุ่มร้อนวุ่นวายเหมือนแต่ก่อน คนเช่นนี้แหละไม่ถูกเกี่ยวด้วย"เหยื่อล่อคืออามิส" และ "สายน้ำโลกธรรม" คือลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ สุข ทุกข์ นินทา สรรเสริญ ก็ไม่สามารถพัดขึ้นพัดลง เขาย่อมตั้งมั่นอยู่อย่างสงบสุข ปลอดภัยจากการบีบคั้นของทุกข์และภัยอันตรายต่าง ๆ เหมือนลิ้นอยู่ในปากอสรพิษร้าย คนที่อยู่กับโลกร้อนด้วยความสงบเยือกเย็นอย่างนี้ นอกจากท่านจะเรียกว่า "ผู้สงบ" แล้ว ยังเรียกว่า "คนเหนือโลก".........

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

สนฺตกาโย สนฺตวาโจ
สนฺตมโน สุสมาหิโต
วนฺตโลกามิโส ภิกฺขุ
อุปสนฺโตติ วุจฺจติ ฯ

:b43: :b43: :b43:

ภิกษุที่กายวาจาใจสงบ
ตั้งมั่นดี มีอามิสในโลกคืนคาย
เราเรียกว่าผู้สงบระงับ

:b43: :b43: :b43:

ภิกษุกายวาจาใจผ่องใสนิ่ง
ไม่สุงสิงสุขสงบพานพบเห็น
ยืนเดินนั่งอภิรมย์อยู่ร่มเย็น
ช่างผ่องเพ็ญยิ่งนักประจักษ์ตา

เธอเป็นคนตั้งมั่นมิหวั่นหนอ
อามิสก็คายคืนตื่นหรรษา
อยู่เหนือสิ่งสมมุติผุดโสภา
เราเรียกว่าผู้สงบพบเห็นธรรม ฯ

:b43: :b43: :b43:

เจริญในธรรมครับ


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:


ไฟล์แนป:
10729-2.jpg
10729-2.jpg [ 28.96 KiB | เปิดดู 10353 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ningnong [ 26 มี.ค. 2009, 14:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ขุ. ธ. ๒๕/๒๙/๔๙

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

..............ธรรมชาติของจิตคือคิด คิดเรื่องโน้น เรื่องนี้ ออกจากอารมณ์นี้ ไปหาอารมณ์โน้น ดิ้นรนกวัดแกว่งยิ่งกว่าลูกตุ้มนาฬิกา แล่นลงหาอดีต เลยขึ้นหาอนาคต หอบหิ้วเอาของฝากคือทุกข์ พะรุงพะรังมาเยี่ยม ขยะมูลฝอยย่อยสลายได้ง่าย แต่ความคิดนี่ย่อยสลายได้ยาก เราจะหยุดหรือดับความคิดนั้นได้ยังไง ทางเดียวที่จะรอดคือการสำรวมจิต โดยอาศัยสติระลึกรู้ ถ้ารู้จักเจริญสติและคอยสำรวมระวัง ความทุกข์ก็ยากจะกล้ำกราย เราเรียนรู้เท่าทันคนอื่น แต่เรียนรู้เท่าทันจิตตนเองบ้างไหม ???.........

:b43: :b43: :b43:

ทูรงฺคมัง เอกจรัง
อสรีรัง คุหาสยัง
เย จิตฺตัง สญฺญเมสฺสนฺติ
โมกฺขนฺติ มารพนฺธนา ฯ

ขุ. ธ. ๒๕/๑๒/๑๙

:b43: :b43: :b43:

ทูรังคมัง
เที่ยวไปไกล
เอกจรัง เที่ยวไปดวงเดียว
อสรีรัง ไม่มีรูปร่าง
คุหาสยัง มีถ้ำคือร่างกายเป็นที่อยู่อาศัย

มารคือกิเลส วางบ่วงดักจิตมนุษย์ไว้ เราต้องรู้ว่ามารใช้อะไรเป็นบ่วง ใช้อะไรเป็นเหยื่อล่อดักจิตของเรา และดักจิตของเราไว้อย่างไร ผู้ใดสามารถสำรวมจิตหรือฝึกจิตของตนได้ ผู้นั้นจะพ้นจากบ่วงของมาร

เจริญในธรรมครับ

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

คนเหล่าใดสำรวมจิต
ซึ่งไปในที่ไกล ดวงเดียวเที่ยวไป
หาตัวตนมิได้ อาศัยถ้ำอยู่
คนเหล่านั้นจะพ้นจากเครื่องผูกของมาร

:b43: :b43: :b43:

จิตดวงเดียวเที่ยวไปแสนไกลนัก
ประเดี๋ยวจักกลิ้งกลอกออกนอกหนี
ชอบแวบมาแวบไปไม่อยู่ดี
อาศัยที่ถ้ำประจำทุกค่ำคืน

หากคนใดระวังสังวรจิต
หมั่นพินิจคอยปรามห้ามฝ่าฝืน
มารหรืออาจจองจำให้กล้ำกลืน
คนนั้นตื่นพ้นล่วงจากบ่วงมาร ฯ


:b43: :b43: :b43:

:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
2.jpg
2.jpg [ 22.22 KiB | เปิดดู 10296 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ningnong [ 15 ก.ย. 2010, 23:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงธรรมจากพระโอษฐ์

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

ขันธ์ ๕ ถือเป็นภาระหนัก ทว่าปล่อยวางได้ ทุกคนล้วนรับภาระขันธ์ ๕ ที่คอยดูแล บำรุง รักษา เปรียบเป็นก้อนหินโตวางอยู่บนบ่า จะรู้สึกหนักมาก ๆ หากยึดถือว่าเป็น “ของเรา” เอาใจแบก แต่หากไม่ยึดถือวางใจ มันก็ไม่หนักสักเท่าไร ไม่ต้องถึงวันปลดภาระสิ้นชีวิตจริง ๆ วันนี้ ขอเพียงเราคลายความยึดมั่นถือมั่นว่า “มิใช่เรา มิใช่ของเรา” มันจะเบาลงมากทีเดียว

ภารา หเว ปญฺจกฺขนฺธา
ภารหาโร จ ปุคฺคโล
ภาราทานํ ทุกฺขํ โลเก
ภารนิกฺเขปนํ สุขํ ฯ
(ข. มู. ๑๗/๕๓/๓๒)

ขันธ์ ๕ แล ชื่อว่าภาระ
และผู้แบกภาระคือบุคคล
การถือมั่นภาระเป็นทุกข์
การวางภาระเป็นสุข



ขึ้นชื่อเป็นขันธ์ห้าภาระหนัก
เหน็ดเหนื่อยนักทุกวันต้องขวนขวาย
แบกหามไว้อย่างนั้นจนวันตาย
ชีพวางวายจึงพรากลาจากไป

ยิ่งยึดมั่นกันไว้ไม่หน่ายหนี
ยิ่งทวีทุกข์มากยากรับไหว
ปลงปลดวางขันธ์ห้าลงคราใด
สุขสดใสก็เกิดพลันในทันที


:b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43:

เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
๕.jpg
๕.jpg [ 41.16 KiB | เปิดดู 9821 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ningnong [ 21 ก.ย. 2010, 01:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงธรรมจากพระโอษฐ์

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

บัณฑิต...จะเปิดใจฟังธรรม น้อมรับด้วยธรรมานุสารคล้อยตามธรรม ยินดีให้ธรรมธาราไหลเข้าสู่จิต จิตของบัณฑิตจึงเกิดแต่ความผ่องใส ความจริง...ธรรมธาราก็ไม่ต่างจากชลธารที่ใสสะอาด หลั่งไหลสู่ที่ใดก็มอบความชุ่มชื่นให้ที่นั่น... ... ...

:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:


ยถาปิ รหโท คมฺภีโร
วิปฺปสนฺโน อนาวิโล
เอวํ ธมฺมานิ สุตฺวาน
วิปฺปสีทนฺติ ปณฺฑิตา ฯ

ขุ.ธ. ๒๕/๑๒/๒๕

ห้วงน้ำลึกใสไม่ขุ่นมัว ฉันใด
บัณฑิตทั้งหลายฟังธรรมก็ผ่องใส ฉันนั้น


:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:

แหล่งน้ำลึกไหลเรียบดูเงียบเฉย
ไม่ขุ่นเลยเขียวครามสายน้ำใส
ฝูงมัจฉาแหวกว่ายอยู่ภายใน
มองทีไรก็ระรื่นแช่มชื่นตา

เหมือนธรรมเพราะเหมาะฟังหากตั้งจิต
หมู่บัณฑิตร่วมสดับตรับหรรษา
เกิดปีติอิ่มเอมเปรมปรีดา
ดูดวงหน้างามวิไลผ่องใสจริงฯ


:b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43:

เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
water01.jpg
water01.jpg [ 16.36 KiB | เปิดดู 9847 ครั้ง ]

เจ้าของ:  เอรากอน [ 21 ก.ย. 2010, 06:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงธรรมจากพระโอษฐ์

smiley smiley smiley

:b8: :b8: :b8:

:b16: :b16: :b16:

เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 21 ก.ย. 2010, 20:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เสียงธรรมจากพระโอษฐ์

รูปภาพ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:


ขออนุญาต ท่าน ningnong ทักทาย สหายก่อน
เอรากอน สบายดี หรือไฉน
ไม่คิดถึง กระบี่ฯ บ้างหรือไร
ตัวห่างไกล แต่ใจ ไม่ห่างธรรม

วันนี้เข้า มาเห็น น่าทายทัก
ส่ง smiley น่ารัก และน่าขำ
ดูจริงใจ ไม่น้อยกว่า แสดงคำ
ดังจะย้ำ ว่าเยี่ยม เปี่ยมโมทนา


tongue
Quote Tipitaka:

[๓๖๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัตว์ทั้งหลายย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันโดยธาตุเทียว คือ
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี

แม้ในอดีตกาล สัตว์ทั้งหลายก็ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว โดยธาตุเทียว คือ
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลวได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ได้คบค้ากันแล้ว ได้สมาคมกันแล้ว กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี

แม้ในอนาคตกาล สัตว์ทั้งหลายก็จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือ
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี จักคบค้ากัน จักสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี

แม้ในปัจจุบันกาล สัตว์ทั้งหลายก็ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน โดยธาตุเทียว คือ
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกัน กับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยเลว
สัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ย่อมคบค้ากัน ย่อมสมาคมกันกับสัตว์จำพวกที่มีอัธยาศัยดี ฯ



รูปภาพ เจริญในธรรมเจ้าค่ะ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
1115378716.jpg
1115378716.jpg [ 26.37 KiB | เปิดดู 9660 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/