ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=23343
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 28 มิ.ย. 2009, 19:47 ]
หัวข้อกระทู้:  ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

ตัดอาลัย....ในวัฏฏะ /กวีนิรนาม

:b47: ตัดอาลัย หลงในความยึดติด
ห่างความคิดสู่ความว่างอย่างฉงน
ออกจากใจที่ฟุ้งซ่านงานทุกข์ทน
ไม่มีตน ..ที่ดี..ไม่ดี..ไม่มีใคร…


:b47: เพียรทำใจให้ออกห่างสร้างทุกข์-สุข
ความสนุกจากกิเลสเวียนเผาไหม้
ให้ได้เห็นความจริงยิ่งห่างไกล
ให้เห็นใจใสสะอาดปราศหมองมัว


:b47: ลมหายใจ ออก - เข้า เฝ้าสังเกต
ให้เห็นเหตุ เกิด-ดับ สลับสาย
ทุกก้าวย่างให้รู้ทันอย่างสบาย
ใจผ่อนคลายพอเพียงไล่เรียงดู


:b47: เพราะพอใจข้องติดใน “ปฏิบัติ”
หาทางจัดแปรเปลี่ยนเวียนจนวุ่น
ใจปกติกลับกลายเปลี่ยนเป็นร้อนรุม
จิตหมกหมุ่นหมุนวนจนทุกข์ครอง


:b47: จิตปกติเคยสบายกลายเป็นหนัก
เพราะแรงผลักของของกิเลสด้วยเจตน์มุ่ง
ตั้งใจทำ ตั้งใจอยาก จนทึบทึม
คอยแต่เอา เข้าจนมึน ฝืนทนไป


:b47: ธรรมะที่มีอยู่มิรู้แจ้ง
ต่างแสดงเหตุเกิด - ดับไม่ห่างหาย
เปรียบเสมือนสิ่งหนึ่งซึ่งง่ายดาย
แต่กลับกลายมองไม่เห็นประเด็นเดิม



:b47: อีก ทาน ศีล ภาวนา นำมาปฏิบัติ
เพื่อขจัดละอัตตามานะชั่ว
อนุสัยนอนในใจหมองมัว
กิเลสกลั้วเกลือกกลิ้งทั้งหญิงชาย


:b47: “กุศล” ที่ตั้งใจได้กระทำ
กลับถลำกิเลสพอกด้วยตัณหา
ให้อยากทำ อยากให้ได้ซึ่งธรรมมา
ท้ายใจล้าเกิดแรงเบื่อเหลือทนทาน


:b47: “อกุศล” คือผลแห่งใจที่เป็นทุกข์
คิดว่าปลูกกุศลกรรมนำใจใส
แท้จริงแล้ว กุศลนี้มีง่ายดาย
อยู่รอบกายเหมือนอากาศประกาศตัว


:b47: ธรรมะที่แท้จริงนี้หรือคือกายใจ
กระเพื่อมไหววาบหวามตามผัสสะ
แรงกระพือของตัณหาและมานะ
ปฏิฆะ-ราคะ ปรุงแต่งจิตคิดแสร้งมา


:b47: ด้วยอัตตาแรงกล้ามาสอนสั่ง
คอยระวังคิดระแวงแสดงเหตุ
แสดงธรรมแสดงฤทธิ์ผิดอาเพศ
เฉลยเหตุอาการจิตคิดเหนือชน


:b47: ด้วยปุถุชน นั่นเล่ายังเขลานัก
ต้องฝึกหนักพัฒนาใจไปตามขั้น
ช้าหรือเร็วอาการจิตเลิกติดพัน
เลิกยึดมั่นอุปาทาน .... มารแห่งใจ



:b47: ผู้ถึง ”ธรรม” นั้นแท้จริงนิ่งเป็นใบ้
จะกล่าวใยมีสิ่งใดให้สนอง
รู้ยินยลรู้ผลนั้นตามครรลอง
ไม่มีสองเพียงหนึ่งนั้นจบกันเอย


:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:

ไฟล์แนป:
sang_18.jpg
sang_18.jpg [ 11.82 KiB | เปิดดู 11900 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ariyachon [ 28 มิ.ย. 2009, 22:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

โมทนาครับ

:b48: :b41: :b48:

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 28 มิ.ย. 2009, 22:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

สาธุ..ค่ะ..สาธุ..

ไฟล์แนป:
01038_8.jpg
01038_8.jpg [ 34.67 KiB | เปิดดู 11770 ครั้ง ]

เจ้าของ:  อมิตาพุทธ [ 29 มิ.ย. 2009, 09:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

อนุโมทนา สาธุครับ :b8:

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 08 ก.ค. 2009, 22:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: beijing dream Satellite TV Installation(www.bjsatv.com)

:b8: :b8: :b8:

hijk224 เขียน:
beijing Satellite TV Installation http://www.bjsatv.com

13911168302 /010-87170055 MSN:H81679353@YAHOO.COM.CN

1:Dream satellite TV (English) 146.0°E(southeast) 0.5m 4000RMB

HBO ,Cinemax,CNN,BBC,ABC Asia, CRIME & INVESTIGATION, AXN ,

Star Movie,Net 25,DW-TV ,ETC,Hallmark, BIOGRAPHY,TCM ,QTV11,

Living Asia, NOW TV,TV5, Arirang,Star World, MTV ,Discovery,

Discovery T&L , Nat Geo,TV Maria, Animax ,Nickelodeon,GOD TV

Nickelodeon, Cartoon Network, TBN Church ,JCTV,Studio 23,

MTV,Australia ABC, BBC ,NHK, Ariang 2 TVBS,TVBS-N,TVBS-ASIA,TVBS-N


ยอมรับครับว่าบอดสนิทจริง ๆ

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 09 ก.ค. 2009, 20:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

:b43: เวียนว่าย.... :b43:

โลกใบนี้มีอะไรไม่เที่ยงแท้ :b43: ความเกิดแก่เจ็บตายวายอาสัญ

วัฏสงสารผ่านชีวิตลิขิตนั้น :b43: ทุกสิ่งอันย่อมผันไปในกฎเกณฑ์

ความเป็นคนไม่สนใจใครทั้งนั้น :b43: ช่างหัวมันไม่รับรู้แม้ดูเห็น

อยุติธรรมนำมนุษย์เฉกดั่งเดน :b43: มีความสุขบนทุกข์เข็ญเห็นแก่ตัว

โลกใบนี้มีวาระแห่งความเปลี่ยน :b43: คอยวนเวียนเปลี่ยนวิถีที่เกลือกกลั้ว

อีกอบายขายเพื่อนมิตรจิตหมองมัว :b43: ไร้ดีชั่วมัวเพราะเขลาเบาปัญญา

รอเพียงวันผันมาถึงซึ่งกฎโลก :b43: วิปโยคให้โศกสิ้นดิ้นดับค่า

ความสัตย์จริงสิ่งมั่นในโลกา :b43: ทนทรมาเพราะผลกรรมที่ทำไป

ยากจะหนีลี้หลบผลที่ตนสร้าง :b43: ยากจะห่างเลือนรางหายสลายได้

ต้องแบกรับนับผลด้วยจนใจ :b43: สำนึกได้ในเมื่อสายเสียดายกาล

จนสุดท้ายว่ายเวียนเปลี่ยนไม่สิ้น :b43: ในแผ่นดินมีเลือดเนื้อมหาศาล

เกิดและดับนับไม่ได้ไปแสนนาน :b43: ทุกข์ชั่วกาลผ่านเกิดตายชดใช้กรรม

เพชรพรรณราย :b53: :b52:


ไฟล์แนป:
.jpg
.jpg [ 53.9 KiB | เปิดดู 11571 ครั้ง ]

เจ้าของ:  Bwitch [ 09 ก.ค. 2009, 20:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

:b8: อนุโมทนาสาธุค่ะ ทั้งบทกวี และภาพ ไม่มีที่ติเลยค่ะ :b27:

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 10 ก.ค. 2009, 21:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

ท่องแดนแห่งนิรยะ...

ไร้สุริยันจันทรามาเกลือกกลั้ว แสงสลัวมัวหมอกมิจางสลาย
ดูเวิ้งว้างรายรอบเป็นขอบกระจาย รอบเรียงรายถึงเวลามาเดินทาง

ขุมที่ห้านามว่ามหาโรรุวะ หมู่สัตว์จะร้องหวนชวนครวญคราง
เปี่ยมสำเนียงเสียงเจ็บปวดสรรพางค์ เป็นแนวกว้างพาหิรชนคนบาปหนา

ขุมที่หกแดนตาปนะนรก แปลว่าโลกร้อนเป็นไฟไร้กังขา
ทั้งแผ่นดินถิ่นภูเขาไฟโชนมา ถูกตรึงตราหลาวเหล็กนั่งเสียบจม

นัยหนึ่งพึงสู่อยู่ห้องเหล็กร้อน แดงสะท้อนโชติช่วงไฟไล้สะสม
นำสัตว์เป็นเสียบย่างสร้างรอยปม ด้วยอารมณ์สมใจในทรมาน

ขุมที่เจ็ดเรียกว่าปตาปนะ ใช้ชำระสัตว์ไว้ด้วยไฟประสาน
ด้วยหอกสามง่ามไฟให้วายปราณ เหตุระรานผลาญศาสนาว่าไม่จริง

ขุมที่แปดไม่เว้นว่างอเวจีมหานรก เปลวไฟปกคลุมทั่วไปในทุกสิ่ง
ให้ร้อนแรงแฝงทรมานจนสุดอิง ไม่อยู่นิ่งสิ่งทุรนทุรายใช้กรรมเวร

เหตุจากด่าทุบตีมีพ่อแม่ พุทธเจ้าแม้แต่รอยจนมองเห็น
ผู้มีคุณหนุนเนื่องจนลำเค็ญ ส่งผลเป็นจนให้ได้มหาอเวจี

ทั้งแปดขุมลุ่มลึกผนึกเอาไว้ เพื่อจะได้เตือนสติมิเป็นศรี
ตามคำภีร์สังกิจจชาดกว่าไว้มี เรื่องเช่นนี้กฏกรรมนำไปตรอง

สิ้นขุมใหญ่อีกขุมเล็กชุมนุมหลาย รอบเรียงรายร้อยยี่สิบแปดแผดสยอง
ใครอยากอยู่เลือกได้ตามใจปอง โดยไม่ต้องเสียเงินทองหม่นหมองเลย.

๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙


ไฟล์แนป:
33_2005.jpg
33_2005.jpg [ 82.59 KiB | เปิดดู 11517 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 12 ก.ค. 2009, 02:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

ความเศร้าหมองเป็นจุดเชื่อมโยงความคิดแปลกๆ
และมัก​จะคิดถึงเรื่อง​​ความตายกันอยู่บ่อย ๆ​ ​
มักจะคิดว่า ตายแล้ว​​ไปไหน? ​
ถ้ามีบุญ​ได้เกิดใหม่​จะเกิด​เป็นตัวอะไร​?
เกิดใหม่แล้ว​​จะจำ​เพื่อน ๆ​ ​ที่เจอกันในชาตินี้​ได้ไหม?
คิดจนไม่อยากตาย ​เพราะกลัวว่าตายแล้ว​​จะโดดเดี่ยวเดียวดาย

พอคิด​ไป คิดมา ​
ความตายก็​เป็นสิ่ง​ที่หลีกหนีไม่​ได้
แล้ว​ทำไมเราถึงกลัว​ความตายล่ะ?
คำตอบแสนง่าย ​ ​ก็คนเราไม่​ได้ตายทุกวันนิ...​ เลย​กลัว
กลัวว่าตายแล้ว​​จะไม่สบายใจ...​ ​
แต่ยังไงก็​ต้องเจอ​กับมันอยู่​ดีนั่นแหล่ะ
กลัว​ไปก็เท่านั้น​ หนีก็หนีไม่พ้น คิด​ได้แบบนี้ก็สบายใจ​ไป​ได้พักหนึ่ง...​
แล้ว​ก็หวนกลับมาคิดใหม่ แฮ่...​

ท่านพุทธทาสรำพึงไว้ว่า

"คนสมัยก่อน​เป็นอย่างไร.....เรายังได้รู้ได้เห็นในตอนนี้

และโลกในวันหน้า​ที่เรา​จะไม่มีโอกาส​ได้เห็นในตอนนี้​จะ​เป็นอย่างไรหนอ?
สักวันเราก็ต้องพบ..ต้องเจอ..สักวันถ้ายังไม่ตาย

แต่ก็นั่นแหละ​..เพียงนั่งคิด​..จินตนาการถึงสิ่งเหล่านั้น
โดยไม่มีโอกาส​ได้รู้ได้เห็น​ความ​เป็นจริง​แม้​แต่น้อย...เช่นเดิม​


ไฟล์แนป:
100_49888.jpg
100_49888.jpg [ 187.29 KiB | เปิดดู 11880 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 13 ก.ค. 2009, 17:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

ของจริงที่แท้มีอยู่ ๕ ประการ

๑. เกิดจริง
๒. แก่จริง
๓. เจ็บจริง
๔. ตายจริง
๕. พลัดพรากจากกันจริง ไม่มีกลับมาอีกแล้ว

ท่านทั้งหลายอย่าได้ประมาท
เพราะความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย
บางคนที่จะรู้ว่าจะตายเมื่อไร นั้นอยากมาก
ถ้าเรามีสติครบ เราจะเดินทางไปสู่สัมปรายภพ
จะได้พบความสงบเยือกเย็น และเดินทางต่อด้วยความดีอันนี้
จะไม่ดีกว่าหรือ....จะเอาความชั่วติดตัวไปไปเหยียบโคลน

เขาเรียกว่าสะเทือนน้ำสะเทือนบกไม่เรียบร้อย
ลงไปเรือก็เกยตื้น...ขึ้นไปรถก็ติดหล่ม....เป็นอย่างนี้แหละหนอ
อะไรจะสะดวกสบายเท่ากับ ปัจจัยเราที่สร้างความดีไว้ให้กับตัวเราเอง
ความจริงทุกข์อยู่ของมันเอง....ความสุขก็อยู่ของมัน
แต่เราไปเอาทุกข์มาไว้ในใจ....แล้วจะเกิดความสุขได้อย่างไร
ความสุขก็หนีไปหมด ความทุกข์ก็เข้ามาแทนที่ จะสร้างความดีได้อย่างไร


ไฟล์แนป:
43201.jpg
43201.jpg [ 40.21 KiB | เปิดดู 11461 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 24 ก.ค. 2009, 02:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

ใครก็ตามที่ได้ปฏิบัติย่อมสามารถเข้าถึง การรู้อย่างฉับพลัน
การใช้ชีวิตใหม่ เหมือนกับการตื่นนอน ล้างหน้า แปรงฟัน กินอาหาร อาบน้ำ
อันเป็นกิจวัตรสามัญประจำวันของคนเรา
ดำเนินไปตามครรลองที่มันควรจะเป็นเท่านั้นเอง

กายใจให้สดชื่นนั้น คือ ถึงเวลาหิวก็กินข้าว ถึงเวลาอ่อนเพลียก็นอน
ซึ่งเป็นท่วงทำนองของธรรมชาติ ที่ตัวตนจะดำรงอยู่ ณ ที่นี้อย่างแท้จริงอยู่เสมอ

ไม่มีอะไรจะต้องลุถึง เพียงแต่ลืมตาตื่นเท่านั้นสิ่งๆ นั้นก็จะปรากฏแก่เธอ
การลืมตาตื่นเพื่อเห็นสิ่งที่เต็มบริบูรณ์อยู่แล้วตรงหน้านั้น
ไม่ได้หมายถึงการเริ่มลอกกิเลสเป็นชั้นๆ จนลอกหมดแล้วจึงตื่น
แต่จิตนั้นเอง คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ทันทีที่มีสติสัมปชัญญะ
ไม่หลง ไม่เผลอ จิตปราศจากการครองคลุมของโมหะ
เมื่อนั้นคือการตื่น หรือการรู้ ที่เราพูดถึงกันบ่อยๆ นั่นเอง

จิตที่ปราศจากโมหะ มีความรู้ตัว จะเห็นประจักษ์ธรรมต่อหน้าต่อตา
เริ่มจากธรรมในฝ่ายที่เกิดดับ หรือสังขตธรรม จนปัญญาแก่รอบ
สามารถปล่อยวางธรรมในฝ่ายที่เกิดดับได้
ก็จะเข้าไปรู้จักธรรมในฝ่ายที่ไม่เกิดไม่ดับ

ดังนั้น ทันทีที่รู้ ก็คือทันทีที่ตื่น พ้นจากภาวะหลับฝันทั้งที่ลืมตา
และทันทีที่ตื่น จิตก็ถึงความเบิกบาน อันเป็นคุณสมบัติของจิตเอง
ไม่ใช่รู้แล้วลอกกิเลสเป็นชั้นๆ ไปจนหมด
จึงตื่น จิตรู้ หรือจิตตื่น มีความเบิกบานในตัวเอง
ปลอดภัยอยู่ท่ามกลางความแปรปรวนและไฟกิเลส
เหมือนลิ้นงู ในปากงู เหมือนดอกบัว ที่ไม่เปื้อนด้วยโคลนตม


ไฟล์แนป:
Kue63S977766-02.jpg
Kue63S977766-02.jpg [ 19.69 KiB | เปิดดู 11407 ครั้ง ]

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 24 ก.ค. 2009, 04:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

:b47: คิดถึงความตายสบายนัก
มันหักรักหักหลงในสงสาร
บรรเทามืดโมหันต์ในสันดาน
ทำให้หาญหายสะดุ้งไม่ยุ่งใจ




:b8: อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณน้อง มีความรู้สึก
ว่ากระทู้นี้ คนไร้สาระเป็นคนปลูก แต่คุณน้องคอยรดน้ำพรวนดิน
เจริญงอกงามเชียวค่ะ น่ารักจริง ๆ :b4:

ไฟล์แนป:
post-16237-1222244970.jpg
post-16237-1222244970.jpg [ 28.66 KiB | เปิดดู 11379 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 24 ก.ค. 2009, 12:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

"เที่ยงแล้ว...อย่าลืมพักทานอาหารก่อนนะค่ะ"

คนไร้สาระ เขียน:
:b8: อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณน้อง
มีความรู้สึกว่ากระทู้นี้ คนไร้สาระเป็นคนปลูก
แต่คุณน้องคอยรดน้ำพรวนดิน เจริญงอกงามเชียวค่ะ น่ารักจริง ๆ :b4:


สาธุ...ค่ะ...สาธุ

หวัดดีค่ะ...คุณคนไร้สาระ...
เข้าใจเปรียบน่ะค่ะ....ชอบค่ะ :b32:
น้องชอบชื่อกระทู้นี้ค่ะ....ก็เลยอยากจะเติมเต็มไปเรื่อยๆ.. :b31: น่ะค่ะ
แต่ก่อนอื่นก็ต้องขอพิจารณาท่านเจ้าบ้านก่อนว่าใจดี :b27: น่ารักมั้ย ... :
แล้วค่อยดูชื่อกระทู้...ถ้าชอบใจ :b4: ก็จะเข้าไปร่วมแจม แต่งเติมไปเรื่อยๆ ค่ะ


ไฟล์แนป:
m113073.jpg
m113073.jpg [ 97.74 KiB | เปิดดู 11359 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ปลายฟ้า...ค่ะ [ 27 ก.ค. 2009, 05:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

แก้วประเสริฐ.

อันรูปกายนี้หนอใครรู้บ้าง
ที่มุ่งสร้างจัดแต่งแหล่งสังขาร
ทั้งสวยงามหมดจดราวจักรวาล
จนตลึงลานผู้พบประสบเห็น

รูปนี้หรือคือธาตุของทั้งห้า
รวมกันมาปรุงแต่งแบ่งสรรค์เช่น
จัดการจูงช่วยเหลือตามประเด็น
หน้าที่เข็นชักนำของนามธรรม

รูปคือลักษณ์อาการเข้ากำหนด
ก่อตัวกฎเวรกรรมนำผูกซ้ำ
เข้าสืบต่อทรุดโทรมน้อมนำ
มุ่งกระทำปรวนแปรแตกสลาย

รูปจัดสรรอาการแปลงแปลกพิเศษ
แบ่งเป็นเขตเบาสลวยด้วยความหมาย
ควรแก่การใช้งานได้มากมาย
ทั้งอ่อนไหวหนักเบาตามทำนอง

การเคลื่อนไหวของรูปรู้ความหมาย
โดยใช้กายเป็นสื่อเข้าสนอง
แทนวาจากล่าวได้ตามครรลอง
เสียงมิต้องก็เข้าใจในภาษา

รูปนี้หนอกำหนดเทศะสภาวะ
ช่องว่างจะกำหนดเข้ารวมหา
เข้าสรรค์สร้างทดแทนสิ่งเข้ามา
เพื่อนำพามูลเหตุส่งเขตนาม

รูปเป็นประสาทสำหรับปรับอารมณ์
ตามจิตบ่มค้นคว้ามิเกรงขาม
ที่ผ่านเข้าตาหูจมูกลิ้นกายชั่วงาม
ส่งเข้าตามจิตเจตสิกรู้อินทรีย์

เข้าเป็นรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ
สัมผัสกายะวิวิธตามแห่งที่
ของมหาภูตสร้างไว้เท่าได้มี
แบ่งฉิมพลีอินทรีย์ความเป็นไป

จัดเป็นรูปสภาวะแบ่งแห่งเพศ
ตามขอบเขตหญิงชายมิผลักไส
ด้วยหมายรูปกายใจตั้งเอาไว้
รูปหทัยเป็นเหตุส่งอินทรีย์

อันอินทรีย์นี้หรือคือชีวิต
ที่ผูกติดกับรูปของอาหาร
เข้าเสวยหนักเบาตามต้องการ
ด้วยจัดผ่านวัตถุและอารมณ์

จนวนเวียนเกาะกุมหนุนตามรูป
เวรกรรมยุบพองเบาเข้าเสพสม
อุปาทานใหญ่เล็กแสดงชม
ดีชั่วข่มบ่มสร้างเป็นรูปธรรม

นี่แหละหนอคือเหตุแห่งกายรูป
ที่น้อมผูกจัดสรรผันเลิศล้ำ
สู่วัฏฏะสังขารตามเวรกรรม
ร้อยเงื่อนงำนำสู่รูปกายา.

มหาภูต คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และ อากาศธาตุ (รวมถึงวิญญาณธาตุ)
รูปลักษณะใหญ่มี อยู่ 2 ประการด้วยกันคือ
1. รูปธรรม คือ สภาวะอันเป็นรูป สิ่งที่มีรูป ได้แก่รูปขันธ์ทั้งหมด
2. อรูปธรรม คือ สภาวะมิใช่รูป สิ่งที่ไม่มีรูป ได้แก่นามขันธ์ 4
(ได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ) และ นิพพาน

ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมานั้น เป็นเพียงรูปกายเนื้อที่สัมผัสได้เท่านั้น
แต่ได้สอดแทรกนามขันธ์บางส่วนไว้ประกอบด้วยกัน
ขออำนาจ "พุทธานุสติ" จงมีแด่ผู้อ่านทุกท่านเทอญ.
พุทธงฺ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมงฺ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆงฺ สรณํ คจฺฉามิ
นิพพาณงฺ ปจฺจโยโหตุ.


ไฟล์แนป:
human22.gif
human22.gif [ 32.66 KiB | เปิดดู 11323 ครั้ง ]

เจ้าของ:  vini [ 27 ก.ค. 2009, 06:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ตัดอาลัย...ในวัฏฏะ

อนุโมทนาครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/