ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
อริยทรัพย์ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=27060 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 18 พ.ย. 2009, 22:50 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | อริยทรัพย์ | ||
![]() เจ็ดสิ่งให้--สั่งสม--อบรมมั่น เป็นทรัพย์ที่--บัณฑิต--สั่งสมกัน แม้ตัวฉัน--ก็สั่งสม--อบรมตาม ![]() บริสุทธิ์--รัตนตรัย--ในแก้วสาม มีสัมมา--ทิฏฐิ--ปฏิบัติตาม นำคนข้าม--วัฏฏะ--จะพ้นภัย ![]() คุ้มกายจิต--ไร้เวร--เป็นนิสัย สู่สุคติ--โลกสวรรค์--อันปัจจัย พ้นทุกข์ภัย--ใหญ่น้อย--ในวัฏฏา ![]() สี่พึงทราบ--โอตตัปปะ--กลัวบาปกล้า ทั้งละอาย--เกรงกลัวบาป--ถือธัมมา สองสิ่งพา--สู่สุข--ทุกข์มลาย ![]() ฟังแล้วจับ--ใจความ--ตามมุ่งหมาย มีประโยชน์--ไร้ประโยชน์--โทษอันตราย รู้แยบคาย--ในธรรม--นำสุขจริง ![]() มีแล้วหมั่น--เอื้อเฟื้อ--เผื่อแผ่ยิ่ง ให้ความรู้--ให้ทรัพย์สิน--ให้ใจจริง คนก็ยิ่ง--เมตตา--รักษาเรา ![]() ต้องเร่งรีบ--ฝึกฝน--อดทนเข้า ความรู้โลก--ความรู้ธรรม--กอบโกยเอา นำตัวเรา--รอดพ้นทุกข์--สุขสำราญ ![]() อย่าประมาท--สั่งสมไว้--ในตัวท่าน ไม่เข็ญใจ--ชาตินี้หน้า--จนนิพพาน สุขสำราญ--แม้ท่านอยู่--ผู้เดียวดาย เจริญในธรรมครับ
|
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 19 พ.ย. 2009, 05:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
![]() ![]() ![]() อนุโมทนาสาธุด้วยครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | หนอนน้อย [ 19 พ.ย. 2009, 09:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
อนุโมทนาครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 26 พ.ย. 2009, 23:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
[๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า ขอเราพึงได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารเถิด ดังนี้ ภิกษุนั้น พึงกระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. [๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราบริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารของเทวดาหรือมนุษย์เหล่าใด สักการะเหล่านั้นของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้นพึงมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงกระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. [๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า ญาติและสาโลหิตของเราเหล่าใด ล่วงลับ ทำกาละไปแล้ว มีจิตเลื่อมใส ระลึกถึงอยู่ ความระลึกถึงด้วยจิตอันเลื่อมใส ของญาติและสาโลหิตเหล่านั้น พึงมีผลใหญ่ มีอานิสงส์ใหญ่เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงกระทำให้บริบูรณ์ในศีลหมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | กระบี่ไร้เงา [ 26 พ.ย. 2009, 23:37 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ | ||
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 29 พ.ย. 2009, 21:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
[๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็นผู้ข่มความไม่ยินดีและความยินดีได้ อนึ่ง ความไม่ยินดีอย่าพึงครอบงำเราได้เลย เราพึงครอบงำย่ำยี ความไม่ยินดีอันเกิดขึ้นแล้วได้อยู่เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. [๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุพึงหวังว่า เราพึงเป็นผู้ข่มความกลัวและความขลาดได้ อนึ่ง ความกลัวและความขลาด อย่าพึงครอบงำเราได้เลย เราพึงครอบงำ ย่ำยี ความกลัวและความขลาดที่เกิดขึ้นแล้วได้อยู่เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. [๘๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็นผู้ได้ฌานทั้ง ๔ อันเกิดขึ้นเพราะจิตยิ่ง เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม ตามความปรารถนาพึงได้ไม่ยาก ไม่ลำบากเถิดดังนี้ ภิกษุนั้น พึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 29 พ.ย. 2009, 21:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
[๘๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงถูกต้องด้วยกายซึ่งวิโมกข์อันก้าวล่วงรูปาวจรฌานแล้ว เป็นธรรมไม่มีรูปสงบระงับอยู่เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้น พึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. [๘๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็นโสดาบันเพราะความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ ๓ พึงเป็นผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงมีอันตรัสรู้เป็นเบื้องหน้าเถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. [๘๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็นพระสกทาคามี เพราะความสิ้นไปแห่งสังโยชน์ ๓ [และ] เพราะราคะ โทสะ โมหะ เป็นสภาพเบาบาง พึงมาสู่โลกนี้เพียงครั้งเดียว แล้วพึงทำที่สุดทุกข์ได้เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 29 พ.ย. 2009, 21:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
[๘๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็นอุปปาติกสัตว์ เพราะความสิ้นไปแห่งโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕ พึงปรินิพพานในพรหมโลกนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดาเถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร. เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 29 พ.ย. 2009, 21:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
[๘๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงเป็นอุปปาติกสัตว์ เพราะความสิ้นไปแห่งโอรัมภาคิยสังโยชน์ ๕ พึงปรินิพพานในพรหมโลกนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดาเถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร [๘๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงบรรลุอิทธิวิธีหลายประการ คือ คนเดียวพึงเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนพึงเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้หายไปก็ได้ ทะลุฝากำแพง ภูเขาไปได้ไม่ติดขัด เหมือนไปในที่ว่างก็ได้ พึงผุดขึ้น ดำลง แม้ในแผ่นดิน เหมือนในน้ำก็ได้ พึงเดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดินก็ได้ เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์พระอาทิตย์ ซึ่งมีฤทธิ์ มีอานุภาพมากด้วยฝ่ามือก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร [๘๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงได้ยินเสียงทั้ง ๒ ชนิด คือเสียงทิพย์และเสียงมนุษย์ ทั้งที่อยู่ไกลและใกล้ ด้วยทิพยโสตอันบริสุทธิ์ ล่วงโสตของมนุษย์เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร [๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วยใจ คือ จิตมีราคะ ก็รู้ว่าจิตมีราคะ หรือจิตปราศจากราคะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ จิตมีโทสะ ก็รู้ว่าจิตมีโทสะ หรือจิตปราศจากโทสะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากโทสะ จิตมีโมหะ ก็รู้ว่าจิตมีโมหะ หรือจิตปราศจากโมหะ ก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ จิตหดหู่ ก็รู้ว่าจิตหดหู่ หรือจิตฟุ้งซ่าน ก็รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน จิตเป็นมหรคต ก็รู้ว่าจิตเป็นมหรคต หรือจิตไม่เป็นมหรคต ก็รู้ว่า จิตไม่เป็นมหรคต จิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตมีจิตอื่นยิ่งกว่า หรือจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า ก็รู้ว่าจิตไม่มีจิตอื่นยิ่งกว่า จิตเป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ หรือจิตไม่เป็นสมาธิ ก็รู้ว่าจิตไม่เป็นสมาธิ จิตหลุดพ้น ก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น หรือจิตไม่หลุดพ้น ก็รู้ว่าจิตไม่หลุดพ้นเถิด ดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร [๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือ พึงระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง สามชาติบ้าง สี่ชาติบ้าง ห้าชาติบ้าง สิบชาติบ้าง ยี่สิบชาติบ้าง สามสิบชาติบ้าง สี่สิบชาติบ้าง ห้าสิบชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง ตลอดสังวัฏกัปเป็นอันมากบ้าง ตลอดวิวัฏกัปเป็นอันมากบ้าง ตลอดสังวัฏวิวัฏกัปเป็นอันมากบ้างว่า ในภพโน้น เรามีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้วได้ไปเกิดในภพโน้น แม้ในภพนั้น เราก็ได้มีชื่ออย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น มีอาหารอย่างนั้น เสวยสุขเสวยทุกข์อย่างนั้นๆ มีกำหนดอายุเพียงเท่านั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้ว ได้มาเกิดในภพนี้ เราพึงระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการพร้อมทั้งอุเทศ ด้วยประการฉะนี้เถิด ดังนี้ ภิกษุนั้น พึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 29 พ.ย. 2009, 21:49 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
[๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าภิกษุจะพึงหวังว่า เราพึงทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติอันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่เถิดดังนี้ ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้กระทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบธรรมเครื่องระงับจิตของตน " ไม่ทำฌานให้เหินห่าง " ประกอบด้วย " วิปัสสนา " พอกพูนสุญญาคาร คำใด ที่เรากล่าวแล้วว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีศีลอันถึงพร้อม มีปาติโมกข์อันถึงพร้อมแล้วอยู่เถิด เธอทั้งหลายจงเป็นผู้สำรวมด้วยความสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจรอยู่เถิด เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีปกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลายเถิด ดังนี้ คำนั้น อันเราอาศัยอำนาจประโยชน์นี้ จึงได้กล่าวแล้ว ฉะนี้แล. เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | กระบี่ไร้เงา [ 30 พ.ย. 2009, 19:54 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ | ||
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() มีค่า ยิ่งคณานับ ![]() ![]() ![]() ด้วยปัญญา ที่สดับ ![]() ![]() บัณฑิตคบบัณฑิตไซร้ ![]() Quote Tipitaka: นิธีนํว ปวตฺตารํ ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ นิคฺคยฺหวาทึ เมธาวึ ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช ตาทิสํ ภชมานสฺส เสยฺโย โหติ น ปาปิโย. ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() บุคคลพึงเห็นผู้มีปัญญาใด ซึ่งเป็นผู้กล่าวนิคคหะ ชี้โทษว่าเป็นเหมือนผู้บอกขุมทรัพย์ให้ พึงคบผู้มีปัญญาเช่นนั้นซึ่งเป็นบัณฑิต, เพราะเมื่อคบท่านผู้เช่นนั้น มีแต่คุณอย่างประเสริฐ ไม่มีโทษที่ลามก ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 02 ธ.ค. 2009, 23:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
สหสฺสมปิ เจ วาจา อนตฺถปทสญฺหิตา เอกํ อตฺถปทํ เสยฺโย ยํ สุตฺวา อุปสมฺมติ หากว่าวาจาแม้ตั้งพัน ประกอบด้วยบทอันไม่เป็นประโยชน์ไซร้ บทอันเป็นประโยชน์บทหนึ่ง ที่บุคคลฟังแล้วย่อมสงบ ประเสริฐกว่า เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 14 ธ.ค. 2009, 20:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
ความทุกข์โศก--ใจกาย--ทั้งหลายนี้ ย่อมไม่มี--แก่บัณฑิต--ที่จิตมั่น ไม่ประมาท--คุ้มครองจิต--ติดผูกพัน กับธรรมนั้น--แนบแน่น--เป็นหนึ่งเดียว เป็นมุนี--ที่ศึกษา--มโนปฏิบัติ มุ่งกำจัด--อกุศล--ตนแน่นเหนียว คุ้มครองจิต--ให้คงที่--มีญาณเชี่ยว ใจหนึ่งเดียว--ยินดีธรรม--สุขสำราญ ทำจิตนี้--เป็นจิตที่--สงบระงับ โลภโกรธดับ--พร้อมโมหะ--ละสังขาร มีสติ--ดีทุกเมื่อ--เพื่อการงาน มีนิพพาน--จดจ่อ--ต่ออารมณ์ ความสดุ้ง--ในจิตท่าน--นั้นละลด เพราะธรรมบท--ในจิต--สถิตสม ธรรมรักษา--ผู้มีธรรม--นำอารมณ์ เชิญชื่นชม--ธรรมเทศนา--พระภูมี เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | มหาราชันย์ [ 01 ม.ค. 2010, 21:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ |
ผู้หลุดพ้นจากเครื่องเครื่องจองจำที่มั่นคงเสียได้ ![]() ![]() ![]() จักแน่นหนา ![]() ![]() ไม่แข็งแรง ![]() ![]() บุคคลนั้น ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() จิตพอใจ ![]() ![]() รักสามี ![]() ![]() เป็นบ่วงร้าย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ตัดเครื่องทำ ![]() ![]() ออกจากเรือน ![]() ![]() ละกามหลง ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() บรรลุธรรม ![]() ![]() ตบะมั่น ![]() ![]() เป็นมนุนี ![]() ![]() ![]() ไม่ได้กล่าวเครื่องจองจำที่ทำด้วยเหล็ก ทำด้วยไม้และเชือกว่าเป็นเครื่องจองจำที่มั่นคง ![]() กล่าวความพอใจรักใคร่ในทรัพย์สมบัติแก้วมณีและกุณฑล กล่าวความห่วงอาลัยในบุตรธิดา และในสามีภรรยาทั้งหลาย ว่าเป็นเครื่องจองจำที่มั่นคง พาให้ตกต่ำ เป็นเครื่องจองจำที่หย่อน ๆ แต่ปลดเปลี้องได้ยาก ![]() ตัดเครื่องจองจำแม้มั่นคงเช่นนั้นออกบวชเสียได้ เป็นผู้ไม่มีความห่วงอาลัย ละกามสุขเสียได้ในโลก เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 01 ม.ค. 2010, 21:49 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: อริยทรัพย์ | ||
![]() ![]() ![]() อนุโมทนาสาธุด้วยครับท่านมหาฯ ![]() ![]() ![]()
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |