ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

นกจิกกระจก
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=29220
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  สิริมงคล [ 31 ม.ค. 2010, 19:16 ]
หัวข้อกระทู้:  นกจิกกระจก

นกจิกกระจก

สำรวจหน้าต่างบางบาน
มองเห็นร่มลาน
พิกุลคุ้นใบไหวโอน

ใต้พุ่มมีรังนกโหน
กระจาบยาบโยน
สร้างรังประณีตบรรจง

มองผ่านม่านขวางอย่างงง
ใครหนอเคาะส่ง
ก๊อกก๊อกอยู่ได้เช้าเย็น

พอสายเสียงหายหน่ายเร้น
พอเช้าพอเย็น
เสียงเคาะก๊อกก๊อกตอกเติม

หน้าต่างบางบานสั่นเทิ้ม
เหมือนมีใครเติม
เย้าหยอกหลอกให้ขลาดกลัว

สังเกตสงสัยไล่ทั่ว
รวมไล่ความกลัว
บางครั้งนั่งหวาดสะทก

อ๋อกระจาบบินจิกกระจก
สะท้อนสะทก
จึงคล้ายใครเคาะเกราะไม้

กระจาบกระจอกบอกใจ
เหมือนผู้ใดใคร
ข้ามถิ่นข้ามไทใจเบา

ยึดมั่นถือมั่นปั้นเป้า
เป็นเขาเป็นเรา
มิอาจแยกแยะและรู้

เช้าตื่นโจมตีแต่ตรู่
จนแดดแผดสู้
เงาจึงเลือนลางจางไป

เย็นยามแดดอ่อนย้อนใหม่
กระจกบางใบ
สะท้อนเสียงนกชกตี

กระจกไม่รู้ไม่ชี้
กระจาบอวดดี
เขาใครใยหยามนามตน

โมหะห่อหุ้มสับสน
อัตตาอับจน
ไร้รู้เราเขาเล่าใคร

ปากฉีกปีกอาบเลือดไหล
ความมืดโลมไล้
จึงได้นอนรังยั้งเรือน

วงจรโมหะนกเถื่อน
เช้าค่ำย้ำเตือน
จึงเห็นนกตกตายดิน

มดรุมสุมซากลากกิน
นกใจคนบิน
ไปหลงจิกกระจกบานใด

สิริมงคล ๓๑/๐๑/๕๓


ไฟล์แนป:
คำอธิบาย: ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
weaver_baya_nest2[1].jpg
weaver_baya_nest2[1].jpg [ 48.95 KiB | เปิดดู 8782 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สิริมงคล [ 04 ก.พ. 2010, 19:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

พฤติกรรมนี้นก ไม่เข้าใจในกระจกเพราะกระบวน
การคิดมีน้อยและพฤติกรรมนี้ ก็ หาดูได้ยาก ถึงยากมาก
แต่สิ่งที่หาดูได้ง่ายกว่า คือ คนหลงจิกกระจก คนมีกระบวน
การคิดที่หลากหลายกว่า แต่หลงจิกกระจกได้มากกว่านก
เพราะความยึดมั่นถือมั่น ของคนนั่นเอง อะไร ที่คนทำลงไปแล้ว
เกิดโทษแก่ตัวเอง เช่น การหมกมุ่นอยู่กับการดูบอลด้วยการพนันบอล
ความหลงไหนในการเล่นเกมคอมพิวเตอร์(พนันออนไลน์) ฯ ล ฯ
แต่ หรือเรื่องบางเรื่อง ที่ก่อโทษอื่น ๆ คนก็ยัง ทำซ้ำ ๆอยู่
จนบางครั้งตัวตายเพราะพฤติกรรมนั้น ๆ ของตน
นั่นแหละ คือ คนหลง(จิก)กระจกขนานแท้


สิริมงคล

เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 05 ก.พ. 2010, 22:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

รูปภาพ :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48:


:b48: ท่านสิริมงคล กล่าวมา ข้าฯ อายยิ่ง
เพราะความจริง กระบี่ฯ ก็เฝ้า ไม่ห่ีางหาย
ทั้งการงาน ที่ทำอยู่ เคียงคู่กาย
ไม่ห่างหาย จากจอคอม ดุจมอมเมา

:b48: เลิกจากงาน ก็เปิดเว็ป ลานธรรมจักร
แหล่งพำนัก ผู้ใฝ่ธรรม นำห่างเขลา
จากลานธรรม สู่ลานกวี ฝีปากเบา
เพื่อขัดเกลา กวีธรรม ล้ำธรรมา

:b48: ออกจากเว็ป ลานธรรมจักร สู่ไตรปิฎก
ที่หยิบยก เป็นเว็ปไซด์ ให้ศึกษา
ทุกทุกวัน อีกทั้งวัน ไม่ร้างลา
อยู่ตรงหน้า คอมฯ กระจกด้วย ให้ขวยจริง




รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
0439.jpg
0439.jpg [ 45.39 KiB | เปิดดู 7485 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สิริมงคล [ 06 ก.พ. 2010, 06:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

เจริญธรรม เช่นกัน :b8: :b8:
พฤติกรรรมใดที่มีสาระ และไม่หมกมุ่น
มอมเมา ไม่ทำลายตน นั่นคือการใช้ประโยชน์
จากกระจก อย่างมีสติ เพราะกระจกก็มีคุณค่า
อยู่ในตัวของมัน นั่นคือการไม่ยึดมั่นถือมั่นใน
สิ่งใด ๆ นอกจากการสะท้อนเงาตามความเป็น
จริง(แต่กลับด้านเท่านั้น)ฝนตกในกระจก ๆ
ไม่เปียก ไฟไหม้ในกระจก ๆ ไม่ร้อน วัตถุผ่าน
หน้ากระจก ๆ บันทึก พอวัตถุผ่าน กระจกไร้รอย
บันทึกนั้น กระจกจึงไม่เป็นทุกข์ใด ๆ กับใคร

เจริญธรรม ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น

เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 06 ก.พ. 2010, 13:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

รูปภาพ :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48:


:b48: เหตุกระจก ไม่เกิดทุกข์ เพราะไร้จิต
ความสถิต แห่งตัณหา ที่พาเขลา
จึงไม่เกิด ขึ้นกับ กระจกเงา
แต่ความเขลา เกิดจากใจ ไร้ร่องรอย

:b48: เพราะอายตนะ นอกใน ก่อกำเินิด
จิดจึงเกิด ผัสสะได้ ไม่เสื่อมถอย
เวทนา มิรู้จัก คำว่าคอย
ได้ใช้สอย ผัสสะนั้น นั่นปัจจัย

:b48: เวทนา ทั้งสาม ลามเผาจิต
ให้สนิท เสน่หา หรือผลักไส
แม้มิทุกข์ มิสุข เกิดแล้วไซร้
ล้วนเป็นเหตุ ปัจจัยเกิด ผลตามมา

:b48: ก่อให้เกิด กำเนิดแหล่ง แห่งกิเลส
ก่ออาเพท ฉาบจิตไว้ ในตัณหา
ให้ติดข้อง แห่งบ่วง ของมารา
กามคุณห้า ที่เหนียวนัก ยากหลุดไป

:b48: มิได้ค้าน คำกล่าว ท่านกล่าวมา
ใช่ปุจฉา วิสัชนากลาย คลายสงสัย
จิตมนุษย์ กับกระจก นั้นห่างไกล
เทียบไม่ได้ กระจกไร้ ซึ่งวิญญาณ

:b48: จึงใคร่กล่าว ทำการใด ใช้ปัญญา
ให้กุสลา ในจิตต่อ ก่อประสาน
สตินั้นมี ในกุศลจิต ทุกทุกกาล
จึงควรสาน กุศลไว้ ในจิตตน

:b48: แต่เมื่อใด จิตครอง อกุสลา
สติมา มิได้เกิด กำเนิดผล
สติผล เกิดเพราะเหตุ เจตน์กมล
จะเกิดผล ต้องทำเหตุ สังเกตการณ์

:b48: กระจกนั้น มันไม่มี ที่ขันธ์ห้า
มวลตัณหา กิเลสทราม งามผสาน
จึงไม่เกิด ขึ้นได้ เพราะไร้มาน
อุปาทาน จึงไม่มี ยามที่ยล



:b48: แต่มนุษย์ นั้นมี จินตนา
มากกิเลส มากตัณหา พาสับสน
อุปาทาน ยึดขันธ์ห้า ว่าตัวตน
สุดท้ายผล ทุกข์สุดทน วนในวัฏฏ์




Quote Tipitaka:

จิตตุปปาทกัณฑ์ กุศลธรรม กามาวจรมหากุศลจิต ๘ จิตดวงที่ ๑ บทภาชนีย์

[๑๖] ธรรมเป็นกุศล เป็นไฉน

กามาวจรกุศลจิต สหรคตด้วยโสมนัส สัมปยุตด้วยญาณ
มีรูปเป็นอารมณ์ หรือ มีเสียงเป็นอารมณ์ มีกลิ่นเป็นอารมณ์ มีรสเป็นอารมณ์
มีโผฏฐัพพะเป็นอารมณ์ มีธรรมเป็นอารมณ์ หรือปรารภอารมณ์ใดๆ เกิดขึ้นในสมัยใด

ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา จิต วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์
สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ มนินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ ชีวิตินทรีย์ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัทธาพละ วิริยพละ สติพละ สมาธิพละ ปัญญาพละ
หิริพละ โอตตัปปพละ อโลภ อโทสะ อโมหะ อนภิชฌา อัพยาปาทะ (สัมมาทิฏฐิ หิริ โอตตัปปะ)
กายปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ กายลหุตา จิตตลหุตา กายมุทุตา จิตตมุทุตา กายกัมมัญญตา
จิตตกัมมัญญตา กายปาคุญญตา จิตตปาคุญญตา กายุชุกตา จิตตุชุกตา สติ สัมปชัญญะ
สมถะ วิปัสสนา ปัคคาหะ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น
หรือนามธรรมที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด มีอยู่ในสมัยนั้น.





รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
l15.jpg
l15.jpg [ 22.04 KiB | เปิดดู 7435 ครั้ง ]

เจ้าของ:  สิริมงคล [ 07 ก.พ. 2010, 07:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

กระบี่เขียน

แต่มนุษย์ นั้นมี จินตนา
มากกิเลส มากตัณหา พาสับสน
อุปาทาน ยึดขันธ์ห้า ว่าตัวตน
สุดท้ายผล ทุกข์สุดทน วนในวัฏฏ์

สาธุ :b8: :b8:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 08 ก.พ. 2010, 12:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

สองบัณฑิต สะกิดธรรม นำกุศล
สิริมงคล ยลกระจก เฉกเช่นจิต
กระบี่น้อย ร่ายกล กลอนชวนคิด
กระจก-จิต อุปมา ต่างโดยนัย

ความงดงาม ธรรมนัย แจ่มประจักษ์
ธรรมลักษณ์ กระจ่างแล้ว มิสงสัย
เจตนากรรม นำเหตุ และปัจจัย
กระจกไซร้ เป็นวิบาก สะท้อนกรรม

อัพยกต ผล-วิบาก ทั้งดีชั่ว
ปรากฏทั่ว แก่สัตว์ ผู้ถลำ
สาธุชน พินิจทั่ว นัยแห่งธรรม
เพียรน้อมนำ จิตตั้ง ในกุศลา

โยนิโส อนุโลม โจมในจิต
ดำริชิด เนกขัมม์ กันเถิดหนา
ปลีกกาย-จิต พร้อมมรรค ปฏิปทา
วิราคา นิพพานะ เป็นโคจร

เป็นผู้ย่าง ออกจาก วัฏฏ์สงสาร
ด้วยฌาน-ญาณ สำเร็จ เหตุอดิศร
ด้วยจิตมั่น สงัดแล้ว จากนิวรณ์
วิชชาธร วิมุตติแล้ว จากเภทภัย

เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 08 ก.พ. 2010, 20:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

รูปภาพ :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48: :b41: :b41: :b48:

เช่นนั้น เขียน:
สองบัณฑิต สะกิดธรรม นำกุศล
สิริมงคล ยลกระจก เฉกเช่นจิต
กระบี่น้อย ร่ายกล กลอนชวนคิด
กระจก-จิต อุปมา ต่างโดยนัย

ความงดงาม ธรรมนัย แจ่มประจักษ์
ธรรมลักษณ์ กระจ่างแล้ว มิสงสัย
เจตนากรรม นำเหตุ และปัจจัย
กระจกไซร้ เป็นวิบาก สะท้อนกรรม

อัพยกต ผล-วิบาก ทั้งดีชั่ว
ปรากฏทั่ว แก่สัตว์ ผู้ถลำ
สาธุชน พินิจทั่ว นัยแห่งธรรม
เพียรน้อมนำ จิตตั้ง ในกุศลา

โยนิโส อนุโลม โจมในจิต
ดำริชิด เนกขัมม์ กันเถิดหนา
ปลีกกาย-จิต พร้อมมรรค ปฏิปทา
วิราคา นิพพานะ เป็นโคจร

เป็นผู้ย่าง ออกจาก วัฏฏ์สงสาร
ด้วยฌาน-ญาณ สำเร็จ เหตุอดิศร
ด้วยจิตมั่น สงัดแล้ว จากนิวรณ์
วิชชาธร วิมุตติแล้ว จากเภทภัย



:b48: สาธุธรรม งามสะพรั่ง ทั้งอรรถธรรม
ปฏิสัม ภิทาครบ จบสมัย
ทั้งนิรุตติ ปฏิภาณ ทั้งนอกใน
"เช่นนั้น" กล่าว เห็นชัดได้ ในกวี

:b48: นัยอรรถ ธรรม เห็นครบ จบกระบวน
สิ้นกำสรวล โศกสลด สู่สิ่งศรี
คือทางเดิน ของพระ มหามุนี
เริ่มจากที่ ดำริชอบ กอปร์สัมมา

:b48: แม้ยังอยู่ ในกลกาม แห่งคามเขต
ใยจักตัด ซึ่งกิเลส และตัณหา
อันก่อภพ ให้เกิดชาติ สู่ชรา
มรณา ตามมาใน สังสารวัฏฏ์

:b48: ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า ปลงสังขาร
รับอาราธนา ของมาร ผู้กำจัด
ด้วยความกล้า เพราะตัดห่วง บ่วงแห่งวัฏฏ์
ดุจนักรบ ที่กำจัด เกราะของตน

:b48: ไม่มีทาง ใดที่เลิศ ประเสริฐแล้ว
ไม่มีทางใด ให้หลุดแร้ว ได้มรรคผล
ทรงมอบมัชฌิมาปฏิปทาให้ บัณฑิตชน
ที่เปี่ยมล้น ด้วยสัทธา พร้อมเดินตาม



Quote Tipitaka:

มุนีปลงเสียได้แล้ว
ซึ่งกรรมที่ชั่งได้ และกรรมที่ชั่งไม่ได้
อันเป็นเหตุสมภพ
เป็นเครื่องปรุงแต่งภพ
และได้ยินดีในภายใน มีจิตตั้งมั่น
ทำลายกิเลสที่เกิดในตนเสีย
เหมือนนักรบทำลายเกราะฉะนั้น ฯ





รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
068c5d35e682bca2a71e1231.jpg
068c5d35e682bca2a71e1231.jpg [ 26.11 KiB | เปิดดู 7350 ครั้ง ]

เจ้าของ:  เอรากอน [ 09 ก.พ. 2010, 18:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

:b1: :b16: :b1:

:b8: :b8: :b8:

:b27: :b27: :b27:

เจ้าของ:  ningnong [ 10 ก.พ. 2010, 00:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

เมื่อโลกนี้ มีสองแพร่ง แย้งกันอยู่
หนีหรือสู้ คดหรือซื่อ ร้อนหรือหนาว
ไหวหรือนิ่ง จริงหรือฝัน สั้นหรือยาว
ดำหรือขาว ดีหรือเลว เร็วหรือนาน

ท่านสิริมงคล เช่นนั้น ช่วยชี้แนะ
ช่วยแยกแยะ ความพอดี ที่ไขขาน
เจริญมรรค ให้แนบชิด จิตสราญ
ปัญญาญาณ อยู่เหนือกาล เรียกพอดี

ท่านกระบี่ฯ มีไมตรี ที่เป็นหนึ่ง
ทำให้ตึง ทำให้หย่อน ไม่ถูกที่
มัชฌิมา ปฏิปทา ทางพอดี
คำสอนที่ เป็นกลาง ทางมรรคธรรม

เป็นแนวทาง ที่พุทธองค์ ทรงแสดง
เหนือขัดแย้ง แก่นความจริง มีค่าล้ำ
ทางสายกลาง ความพอดี ที่ควรจำ
และน้อมนำ ปฏิบัติบูชา คารวะ คุณ


อ้างอิงพระไตรปิฎก:
ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
ปฐมเทศนา

[๑๓] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะพระปัญจวัคคีย์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ที่สุดสองอย่างนี้อันบรรพชิตไม่ควรเสพ คือ
การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุขในกามทั้งหลาย เป็นธรรมอันเลว เป็นของชาวบ้าน เป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ๑
การประกอบความเหน็ดเหนื่อยแก่ตน เป็นความลำบาก ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปฏิปทาสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ที่สุดสองอย่างนั้นนั่น ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิปทาสายกลางที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพานนั้น เป็นไฉน?
ปฏิปทาสายกลางนั้น ได้แก่อริยมรรค มีองค์ ๘ นี้แหละ
คือปัญญาอันเห็นชอบ ๑ ความดำริชอบ ๑ เจรจาชอบ ๑ การงานชอบ ๑ เลี้ยงชีวิตชอบ ๑ พยายามชอบ ๑ ระลึกชอบ ๑ ตั้งจิตชอบ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลคือปฏิปทาสายกลางนั้น ที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้ว ด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน.


:b42: :b38: :b38: :b42: :b36: :b36: :b43: :b43: :b46: :b46: :b48: :b48:

เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

ไฟล์แนป:
.jpg
.jpg [ 26.78 KiB | เปิดดู 7272 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ทักทาย [ 10 ก.พ. 2010, 05:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

อนุโมทนา สาธุค่ะ :b8:

เจ้าของ:  สิริมงคล [ 10 ก.พ. 2010, 18:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นกจิกกระจก

นกจิกกระจกกระจ่าง
มองเห็นความว่าง
วางเร้นอยู่คู่กระจก

สุญตาธรรมะสาธก
ผ่านพฤติกรรมนก
สู่มนุษย์ผู้อหังการ์

ยึดมั่นถือมั่นโมหา
ครอบงำอัตตา
เย้อหยิ่งยิ่งใหญ่ไตรภพ

สะอาดสว่างสงบ
บรรเจิดบรรจบ
เคารพพระไตรรัตนา

นอบน้อมธรรมอันล้ำค่า
ของพระศาสดา
สุญตาว่า “สาธุ”

สิริมงคล
เจริญธรรม ท่านทักทาย ท่านหนิงหน่อง ท่านเอรากอน
ขอบคุณที่เข้ามาทักทาย จ้า

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/