ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=31699		 หน้า 3 จากทั้งหมด 3
เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 30 พ.ค. 2010, 19:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
ningnong เขียน:
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:
cool

กถาวัตถุ สิบ (๑๐) หยิบมากล่าว
เป็นเรื่องราว ควรสนทนา น่าเลื่อมใส
ควรศึกษา ควรพิจารณา ควรใส่ใจ
เพราะถ้อยคำ มุ่งไป ในปัญญา

รูปภาพ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:

สี่.........อสงฺสคฺคกถา


ผู้ที่ชอบ คลุกคลีนั้น ธ ตรัสไว้
มิพึงได้ สุขเนกขัมม์ นั่นหรอกหนา
ความสงบ ความสงัด แห่งจินตนา
จักเกิดได้ ตัดมรรคา ความคลุกคลี

ภิกษุใด ปรารภ ใคร่พบสุข
ทำที่สุด แห่งทุกข์ อย่างเต็มที่
ย่อมปลีกอยู่ แต่ผู้เดียว อย่างเสรี
ไม่คลุกคลี ในหมู่ ศัตรูพรหมจรรย์

ทรงตรัสไว้ ผู้ได ไม่คลุกคลี
ฐานะที่ บรรลุธรรม ล้ำสุขสันต์
เจโตวิมุตติ ได้ประสบ พบโดยพลัน
เอนกอนันต์ คุณของการ ไม่คลุกคลี

และนี่คือ คำพูด คือกถา
จะน้อมนำ ปัญญา สู่จิตนี่
กล่าวในความ เรื่องไม่ เข้าคลุกคลี
อสงฺสคฺค กถา...ที่สี่ ควรพูดกัน






รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
2370745r8hgi7lkt4.gif
2370745r8hgi7lkt4.gif [ 65.65 KiB | เปิดดู 2757 ครั้ง ]
เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 02 มิ.ย. 2010, 06:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
tongue :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48:



ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ กระทู้ที่ 31699


ละ..ดิรัจฉาน......สู่กถา วัตถุสิบ
กระบี่ฯ หยิบ มาแต่งไว้ ให้สิกขา
ทุกวันวาร เขียนไว้ ได้พรรณา
เพิ่มคุณค่า บอร์ดกวีธรรม นำสุขใจ

อยากเรียนถาม ผู้ดูแล ของบ้านนี้
ว่ากระทู้ ของกระบี่ฯ ผิดตรงไหน
ทั้งหน้าหนึ่ง และสองนั้น เปิดไม่ได้
เพราะเหตุใด โปรดตอบไซร้ ให้ข้าฯ ที

มีข้อความ ที่ต้องห้าม ณ ที่ใด
หรือว่าเพราะ เหตุไฉน กระไรนี่
ขอผู้รู้ ช่วยตอบถ้อย ร้อยวจี
ให้กระบี่ฯ หายข้องใจ ไร้สงกา

เป็นจำเลย ที่ไม่รู้ ความผิดตน
ย่อมสับสน งุนงง มากเชียวหนา
ตั้งกระทู้ แต่งกวี มีเมตตา
หวังคุณค่า ให้ธัมมา ของพุทธองค์

ให้ระบือ ขจรไป กระจายทั่ว
ยิ่งที่มืด ที่สลัว ที่ใหลหลง
เพื่อให้จิต ผู้อ่าน ตั้งมั่นคง
อยู่ในดง กวีธรรม นำพ้นกาม



รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
guan-im62.jpg
guan-im62.jpg [ 18.79 KiB | เปิดดู 2779 ครั้ง ]
เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 02 มิ.ย. 2010, 06:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
tongue :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b41: :b41: :b48: :b48: :b48:


cool ถึง..คุณวรานนท์ ผู้รักษาลาน


ท่าน วรานนท์ คนรักษา ลานกวี
มากไมตรี มีน้ำใจ ให้เสมอ
ทุกครั้งที่ กระบี่ฯ โพสต์ มักได้เจอ
วรานนท์ ผู้เกลอ อนุโมทนา

ถ้าจะขอ อนุญาต มาลงใหม่
จะได้ไหม พิศให้ดี มีปุจฉา
จะได้ทราบ วลีไหน ไม่สัมมา
จะได้ล้าง เปลี่ยนเพื่อพา ให้ถูกใจ

หรือคิดว่า ถ้อยคำใด ที่จาบจ้วง
หรือคำใด เป็นบ่วง ลวง สงสัย
หรือคำใด หยาบจน ไม่น่าอภัย
หรือเหตุใด จึ่งไม่ ให้นำลง


รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
jpg.jpeg
jpg.jpeg [ 28.33 KiB | เปิดดู 2671 ครั้ง ]
เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 05 มิ.ย. 2010, 01:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
กระบี่ไร้เงา เขียน:
รูปภาพ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:

สี่.........อสงฺสคฺคกถา


ผู้ที่ชอบ คลุกคลีนั้น ธ ตรัสไว้
มิพึงได้ สุขเนกขัมม์ นั่นหรอกหนา
ความสงบ ความสงัด แห่งจินตนา
จักเกิดได้ ตัดมรรคา ความคลุกคลี

ภิกษุใด ปรารภ ใคร่พบสุข
ทำที่สุด แห่งทุกข์ อย่างเต็มที่
ย่อมปลีกอยู่ แต่ผู้เดียว อย่างเสรี
ไม่คลุกคลี ในหมู่ ศัตรูพรหมจรรย์

ทรงตรัสไว้ ผู้ได ไม่คลุกคลี
ฐานะที่ บรรลุธรรม ล้ำสุขสันต์
เจโตวิมุตติ ได้ประสบ พบโดยพลัน
เอนกอนันต์ คุณของการ ไม่คลุกคลี

และนี่คือ คำพูด คือกถา
จะน้อมนำ ปัญญา สู่จิตนี่
กล่าวในความ เรื่องไม่ เข้าคลุกคลี
อสงฺสคฺค กถา...ที่สี่ ควรพูดกัน



รูปภาพ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b48: :b48:


[๓๔๕] ดูกรอานนท์ ภิกษุผู้ชอบคลุกคลีกัน ยินดีในการคลุกคลีกัน
ประกอบเนืองๆ ซึ่งความชอบคลุกคลีกัน ชอบเป็นหมู่ ยินดีในหมู่
บันเทิงร่วมหมู่ ย่อมไม่งามเลย

ดูกรอานนท์
ข้อที่ภิกษุผู้ชอบคลุกคลีกัน ยินดีในการคลุกคลีกัน
ประกอบเนืองๆ ซึ่งความชอบคลุกคลีกัน
ชอบเป็นหมู่ ยินดีในหมู่ บันเทิงร่วมหมู่นั้นหนอ
จักเป็นผู้ได้สุขเกิดแต่เนกขัมมะ สุขเกิดแต่ความสงัด
สุขเกิดแต่ความเข้าไปสงบ สุขเกิดแต่ความตรัสรู้
ตามความปรารถนาโดยไม่ยากไม่ลำบาก นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้


ส่วนข้อที่ภิกษุเป็นผู้ผู้เดียว หลีกออกจากหมู่อยู่
พึงหวังเป็นผู้ได้สุขเกิดแต่เนกขัมมะ สุขเกิดแต่ความสงัด
สุขเกิดแต่ความเข้าไปสงบ สุขเกิดแต่ความตรัสรู้
ตามความปรารถนา โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก
นั่นเป็นฐานะที่มีได้ ฯ

ดูกรอานนท์
ข้อที่ภิกษุผู้ชอบคลุกคลีกัน ยินดีในการคลุกคลีกัน
ประกอบเนืองๆ ซึ่งความชอบคลุกคลีกัน
ชอบเป็นหมู่ ยินดีในหมู่ บันเทิงร่วมหมู่นั้นหนอ
จักบรรลุเจโตวิมุติอันปรารถนาเพียงชั่วสมัย
หรือเจโตวิมุติอันไม่กำเริบมิใช่เป็นไปชั่วสมัยอยู่
นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้

ส่วนข้อที่ภิกษุเป็นผู้ผู้เดียว หลีกออกจากหมู่อยู่
พึงหวังบรรลุเจโตวิมุติอันน่าปรารถนาเพียงชั่วสมัย
หรือเจโตวิมุติอันไม่กำเริบมิใช่เป็นไปชั่วสมัยอยู่
นั่นเป็นฐานะที่มีได้ ฯ


รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:

ไฟล์แนป:
R2267-7.gif
R2267-7.gif [ 49.45 KiB | เปิดดู 2624 ครั้ง ]
เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 12 มิ.ย. 2010, 18:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
รูปภาพ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:

ห้า ............วิริยารมฺภกถา

วิริเยน ทุกขมจ เจติ
แม้นดำริ พ้นทุกข์ไป ให้สิกขา
ทำความเพียร ให้ถึงพร้อม น้อมภาวนา
ด้วยสัทธา ตามพระดำรัส ที่ตรัสไว้

คำควรกล่าว ที่ห้า น่าเล่าเรียน
วิริยะ ความเพียร เป็นไฉน
จักประพฤติ ปฏิบัติกัน อย่างไร
เพียรนั่นไซร้ อีกชื่อได้ สัมมัปปธาน

สังวรปธาน ความเพียร ข้อที่หนึ่ง
ตรัสไว้ซึ่ง ระวังไว้ ให้ประสาน
ประคองจิตไว้ ตั้งจิตไว้ ในทุกกาล
อย่าให้มาร อกุศล พาล มากล้ำกราย

ปหานปธาน ละอกุศล ที่ยลจิต
อย่าให้สถิต ละให้สิ้น อกุศลทั้งหลาย
เพียรเลิก ละ ลด ไป ให้จางคลาย
ประคองจิตหมาย ละให้สิ้น กลิ่นบาปธรรม

ภาวนาปธาน งานหนัก ประจักษ์จิต
ปรารภเพียร ประคองจิต ชิดอุปถัมภ์
สร้างความดี เหล่าบุญ กุศล ธรรม
ให้งามล้ำ เบ่งบานไซร้ ในใจตน

สี่.. อนุรัก- ขนาปธาน งานที่หนัก
เพราะประจักษ์ ตระหนักไว้ ในกุศล
ให้เพิ่มพูน บริบูรณ์ไว้ ในจิตตน
เกิดไพบูลย์ มากล้น ในหทัย

ทั้งสี่นี้ นี่หรือ คือเพียรชอบ
พึงตรวจสอบ คำสนทนา อย่าสงสัย
จะสนทนา เอ่ยวาจา เรื่องใดใด
ควรใส่ใจ ในเรื่อง สนทนา





รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
2006_xiaolongnu_042.jpg
2006_xiaolongnu_042.jpg [ 44.39 KiB | เปิดดู 2565 ครั้ง ]
เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 14 มิ.ย. 2010, 18:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
รูปภาพ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:
Quote Tipitaka:

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ปธานคือความเพียร ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ
สังวรปธาน ๑
ปหานปธาน ๑
ภาวนาปธาน ๑
อนุรักขนาปธาน ๑

:b41: :b48: :b48: :b41: :b48: :b48: :b41: :b48: :b48: :b41: :b48: :b48: :b41: :b48: :b48:

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ สังวรปธาน เป็นไฉน
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร
ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อให้อกุศลบาปธรรมทั้งหลายที่ยังไม่เกิดมิให้เกิดขึ้น
นี้เรียกว่า สังวรปธาน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ปหานธานเป็นไฉน
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร
ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อละอกุศลบาปธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นแล้ว
นี้เรียกว่า ปหานปธาน


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็ภาวนาปธานเป็นไฉน
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมยังฉันทะให้เกิดพยายาม ปรารภความเพียร
ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อให้กุศลกรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
นี้เรียกว่า ภาวนาปธาน


ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็อนุรักขนาปธานเป็นไฉน
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมยังฉันทะให้เกิด พยายาม ปรารภความเพียร
ประคองจิต ตั้งจิตไว้ เพื่อความดำรงอยู่ เพื่อไม่หลงลืม เพื่อความเจริญยิ่งขึ้น
เพื่อความไพบูลย์ เพื่อเพิ่มพูน เพื่อความบริบูรณ์ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว
นี้เรียกว่า อนุรักขนาปธาน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปธานคือความเพียร ๔ ประการนี้แล ฯ




รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
img3.gif
img3.gif [ 47.47 KiB | เปิดดู 2544 ครั้ง ]
เจ้าของ:  กระบี่ไร้เงา [ 26 มิ.ย. 2010, 00:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ละ..ดิรัจฉานกถา.......สู่..กถาวัตถุ
รูปภาพ :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41: :b48: :b41:


:b48: คำควรกล่าว กถา สนทนากัน
ที่สร้างสรรค์ มรรคา พาสู่ศรี
ทั้งสิบเรื่อง เกี่ยวเนื่องไว้ ใส่ฤดี
ห้าอย่างนี้ นำมาเผย เอ่ยรู้กัน

:b48: อีกห้ากถา คำกล่าว ขอเล่าต่อ
คำพูดก่อ สร้างมรรคา พาสืบสันต์
ตรัสให้ทำ ให้แจ้ง ให้จิตมั่น
ห้าธรรมขันธ์ ตรัสไว้ ควรกระทำ

:b48: คือเรื่อง ศีล สมาธิ และปัญญา
สิ้นตัณหา สู่วิมุตติ หยุดถลำ
หมดสิ้นทุกข์ วิโยค โศกระกำ
กิจควรทำ สำเร็จ เสร็จด้วยญาณฯ



Quote Tipitaka:

[๔๒๐]ธรรม ๕ อย่างที่ควรทำให้แจ้งเป็นไฉน
คือธรรมขันธ์ ๕ ได้แก่
สีลขันธ์ ๑
สมาธิขันธ์ ๑
ปัญญาขันธ์ ๑
วิมุตติขันธ์ ๑
วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ ๑

ธรรม ๕ อย่างเหล่านี้ควรทำให้แจ้ง ฯ






รูปภาพ เจริญในธรรมค่ะ :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:

ไฟล์แนป:
1115378716.jpg
1115378716.jpg [ 26.37 KiB | เปิดดู 2513 ครั้ง ]
หน้า 3 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/