วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 01:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=8



กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2007, 21:52
โพสต์: 348

ที่อยู่: บุรีรัมย์

 ข้อมูลส่วนตัว


กัฏฐหริยราชา

อดีตกาลนานมา มีพระราชา
นามว่าพระพรหมทัต
ทรงครองสิริสมบัติ เศวตฉัตร
เมืองนามพาราณสี
วันหนึ่งทรงจรลี พร้อมหมู่เสนีย์
ประพาสพระอุทยาน
พระองค์ทรงเพลินสำราญ ชมดอกไม้บาน
ผีเสื้อเอื้อเฟื้อวนา
แว่วเสียงเพลงเพลินเดินป่า ลอยล่องลมมา
เสาะหาต้นเสียงเรียงใจ
เที่ยวเดินเพลินหาคว้าไขว่ ลึกเข้าชัฏไพร
ต้นเสียงกำลังเก็บฟืน
ก้มตัดก้มเก็บเงยยืน ร้องเพลงระรื่น
โดยไม่ทุกข์ร้อนใดใด
พระองค์ทรงเข้าไปใกล้ ตะลึงทรามวัย
งดงามราวเทพธิดา
ความรักความเสน่หา จัดสรรกามา
ไม่เลือกวรรณะชั้นชน

ผันผ่านโลกียผล นางรู้สึกตน
จักได้เป็นมิ่งมารดา
จึงกราบทูลราชาว่า สมมุติเทวา
หม่อมฉันกำลังตั้งครรภ์
ฝ่ายพรหมทัตราชันย์ เอ่ยโอษฐ์จำนัล
พร้อมยื่นพระธำมรงค์
เออนี่แม่นาฏอนงค์ ฟังพระประสงค์
นี่คือสมบัติแห่งเรา
ถ้าเป็นโอรสนำเฝ้า ที่ตำหนักเรา
พร้อมด้วยธำมรงค์วงนี้
ถ้าหากว่าเป็นบุตรี ให้เลี้ยงชีวี
ขายธำมรงค์มาอภิบาล
บัดนี้สมควรแก่กาล ขอลาน้องท่าน
คืนสู่พระนครา
จำเนียรล่วงกาลต่อมา หญิงชาวบ้านป่า
ได้ให้กำเนิดบุตรชาย
ดูแลเลี้ยงดูขวนขวาย หาบฟืนเร่ขาย
จนลูกเติบใหญ่วัยซน
ยามเล่นกับเพื่อนทุกคน โดนล้อว่าตน
ไฉนไม่มีบิดา

เพื่อนเพื่อนพากันรุมว่า ไอ้อนาถา
แม่แกเป็นคนไม่ดี
ลูกพ่อไม่มีจึงมี เป็นเจ้าวันนี้
ทำให้กุมารอับอาย
จึงถามสืบค้นต้นสาย มารดาข้างกาย
พ่อฉันอยู่ไหนใครหรือ
มารดาตอบว่าพ่อคือ ผู้สูงสุดยื้อ
ท่านเป็นถึงพระราชา
ปกครองผู้คนไพร่ฟ้า นามนครา
พาราณสีนคร
พ่อสั่งก่อนที่จะจร กลับสู่นคร
บอกว่าหากลูกเป็นหญิง
ให้แม่เลี้ยงดูอุ่นอิง ขายของบางสิ่ง
เป็นเงินเลี้ยงดูวันวัย
ส่วนถ้าเป็นลูกชายไซร้ ให้น้อมนำไป
แสดงตนต่อจอมราชา
พร้อมของบางสิ่งที่ว่า แหวนวัชรา
ที่มอบไว้เป็นหลักฐาน
กุมารน้อยก้มลงกราบกราน ออดอ้อนอ่อนหวาน
ชวนมารดาเข้าแสดงตน

มารดาจำนนเหตุผล จึงยอมน้อมตน
อุ้มบุตรดั้นด้นมรรคา
พอถึงประตูนครา อ้อนวอนเสนา
ข้าขอเข้าเฝ้าราชันย์
แม่ลูกต่างถูกกีดกัน ถกเถียงสนั่น
ได้ยินถึงจอมพารา
เสนารายงานไปว่า มีหญิงบ้านป่า
พร้อมบุตรขอเฝ้ายุคล
ราชาทราบในบัดดล มิอาจหลีกผล
กรรมเก่าเฝ้าติดตามมา
จึงตรัสรับสั่งไปว่า ให้นำสองรา
เข้ามาให้วินิจฉัย
นางนำโอรสเข้าไป แล้วหมอบนอบไหว้
กุมารนี้คือพระโอรส
พระองค์เคยเอ่ยบอกบท พอถึงกำหนด
ให้เฝ้าพร้อมธำมรงค์
ราชาได้ยินทำงง อับอายวานวงศ์
แสร้งถามว่าโอรสใคร
ส่วนแหวนฉันจำไม่ได้ ทำตกที่ไหน
และอาจมิใช่แหวนเรา

แม่หญิงหาบฟืนรุกเร้า เรื่องของสองเรา
พระองค์อย่ากล่าวมุสา
หม่อมฉันมิสามารถหา บุคคลอื่นมา
เป็นพยานสำหรับการนี้
ขออ้างสัจจะวาที บุญบารมี
หม่อมฉันได้เคยบำเพ็ญ
จะขอพิสูจน์ให้เห็น เสี่ยงความตายเป็น
โดยโยนกุมารนี้ทิ้ง
หากเป็นโอรสท่านจริง ให้ลอยนิ่งนิ่ง
นั่งเล่นบนอากาศนั้น
หากแม้นเป็นความเท็จพลัน บุตรพร้อมหม่อมฉัน
ยอมตายแทบบาทพระองค์
พอแจ้งให้ทราบประสงค์ นางจับบาทบงก์
โอรสเหวี่ยงขึ้นสู่ฟ้า
ด้วยเดชโพธิสัตตา องค์กุมารา
ลอยเด่นบนอากาศคว้าง
แล้วตรัสสัจจะกระจ่าง นี่มิใช่สร้าง
เรื่องอัศจรรย์ใดใด
ข้าแต่พระผู้เป็นใหญ่ ตัวข้า ฯ นี้ไซร้
เป็นมิ่งโอรสพระองค์

ข้าแต่ท่านประมุขวงศ์ อย่าลืมจำนง
แห่งความเป็นประมุขแคว้น
ท่านต้องเลี้ยงคนทั่วแดน มิให้แร้นแค้น
บ้านเมืองจึงวัฒนา
ข้าแต่พระผู้คู่ฟ้า ปิ่นนครา
บิดาพระผู้ทรงธรรม์
ท่านเลี้ยงคนอื่นหมื่นพัน บุตรคือหม่อมฉัน
ทรงเลี้ยงมิได้หรือไร
เสนาอำมาตย์น้อยใหญ่ ได้ฟังคำไข
ไพเราะของพระกุมาร
ต่างแซ่ซร้องสาธุการ ถือเป็นบรรหาร
ฟังแล้วลึกซึ้งกินใจ
ฝ่ายพระราชายิ่งใหญ่ ยื่นพระหัตถ์ไป
รองรับเอาพระโอรส
เอ่ยคำขานไขปรากฏ ลงมาโอรส
มาสู่อ้อมกอดแห่งเรา
โอรสประทับพระเพลา น้อมหัตถ์ไหว้เกล้า
บังคมเทิดพระบิดา
ในขณะที่เหล่าเสนา เอื้อมมือไขว้คว้า
หวังเลี้ยงโอรสเช่นกัน

ทุกคนเห็นความจริงนั้น ต่างมองตากัน
ด้วยอึ้งในพระบุญญา
ต่อมาองค์พระราชา ตั้งผู้มารดา
เป็นอัครมเหสี
ส่วนพระโอรสโสภี เพื่อสมศักดิ์ศรี
ตั้งเป็นอุปราชา
ครั้นกาลล่วงเลยต่อมา องค์พระราชา
ถึงคราต้องสวรรคต
เสนาอำมาตย์ทั้งหมด ตั้งพระโอรส
ขึ้นเป็นองค์พระราชา
ครองราชย์ต่อจากบิดา ขนานนามว่า
กัฏฐวาหนราชันย์
มารดาผู้หาบฟืนนั้น กลับชาติพลิกผัน
เป็นนางสิริมหามายา
องค์พรหมทัตราชา ได้กลับชาติมา
เป็นพระเจ้าสุทโทธนะ
พระกัฏฐวาริหะ โพธิสัตวะ
กลับชาติเป็นเราตอนนี้
จบธรรมสุนทรวาที พุทธองค์ชี้
แก่ปเสนทิราชา

พระองค์จึงเข้าใจว่า โคตรฝ่ายบิดา
สำคัญกว่าฝ่ายมารดร
พระองค์ได้อุทาหรณ์ จึงน้อมรับพร
ตามพุทธองค์ขานไข
นั้นคือคืนความเป็นใหญ่ มเหศักดิ์ให้
นางวาสภขัตติยา
พร้อมด้วยองค์โอรสา วิฑูฑภา
ให้กลับสู่ตำแหน่งเดิม

.................................
สิริมงคล ๒๑/๐๙/๕๓


แก้ไขล่าสุดโดย สิริมงคล เมื่อ 23 ก.ย. 2010, 22:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2010, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ม.ค. 2007, 21:52
โพสต์: 348

ที่อยู่: บุรีรัมย์

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นบางตอนของบทกวีของ สิริมงคล
ที่พยายามเรียบเรียง จากธรรมบท
ในพระไตรปิฎก เรื่อง วิฑูฑภะราชา
เป็นกาพย์ฉบัง ๑๖ ซึ่งเขียนไว้ยาวมาก
เกรงใจสำหรับการนำมาลงตรงนี้
จึงนำตอน กัฏฐหริยชาดก มาให้อ่านเล่นจ้า
มีความคิดเห็นประการใด ติติงด้วย
จะเป็นพระคุณยิ่ง

สิริมงคล ๒๓ กันยายน ๒๕๕๓


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ต.ค. 2010, 09:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2010, 19:58
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


ชอบครับ tongue


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร