ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
นิทานเซ็น (คำกลอน) http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=8&t=37186 |
หน้า 5 จากทั้งหมด 5 |
เจ้าของ: | กระบี่ใบไม้ [ 12 มี.ค. 2011, 15:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) |
รู้จักถนอมสิ่งของ
พระภิกษุสามรูปไปโปรดสัตว์ ขณะเลือกจะจำวัดหมู่บ้านไหน มองเห็นผักลอยตามน้ำมาหนึ่งใบ พระรูปแรกจึงทักให้ช่วยกันดู พระรูปสองบอกว่า “ผักยังสดใส ปล่อยมันลอยทิ้งน้ำไปเสียดายอยู่” พระรูปสามหยิบเศษผักขึ้นมาชู “หมู่บ้านนี้ไม่ควรคู่การโปรดเลย ไม่ถนอมสิ่งเล็กน้อยเพียงแค่นี้ ต่อให้สอนสั่งทั้งปีก็คงเฉย สิ่งเล็กเล็กสะท้อนถึงสิ่งคุ้นเคย...” ขณะที่คิดผ่านเลย...ก็หยุดลง ชายคนหนึ่งวิ่งร้องตามไถ่ถามว่า “ข้าทำผักลอยน้ำมาด้วยลืมหลง พระคุณเจ้าอาจมองเห็นเป็นมั่นคง ขอท่านจงโปรดหยิบยื่นคืนกลับมา” พระทั้งสามจึงเปลี่ยนใจไม่เดินผ่าน พร้อมโปรดบ้านผู้รู้สิ่งที่มีค่า รักถนอมในทุกสิ่งไม่ผ่านตา ย่อมควรรับสิ่งดีกว่าที่มาเยือน |
เจ้าของ: | กระบี่ใบไม้ [ 12 มี.ค. 2011, 15:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) |
ลีลาวดี
คล้ายลีลาวดีคือลีลา สะท้อนภาพที่ผ่านมาว่าหลากหลาย เริ่มต้น-คงอยู่-และล้มตาย งดงามแห่งต้นไม้ไม่ยั่งยืน ทายทักแสงแดดอ่อนเมื่อยามเช้า กลีบขาวพร่างพรายและสดชื่น เมื่อเย็นย่ำถึงห้วงร่วงสู่พื้น งดงามก็กลับคืนสู่ผืนดิน ................................................ คล้ายลีลาวดีคือลีลา สะท้อนภาพที่ผ่านมาไม่จบสิ้น งามใดจักอยู่เป็นอาจินต์ เคียงคู่กับธรณินทร์ไม่เปลี่ยนแปลง ................................................ ลีลาวดีดอกหนึ่งวาง-ข้างพระประธานใหญ่ บอกเวลาผันผ่านไปไม่อับแสง คือลีลาแห่งความดีที่สำแดง เติมและแต่งแต้มโลกนี้ด้วยดีงาม |
เจ้าของ: | กระบี่ใบไม้ [ 15 มี.ค. 2011, 22:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) |
โคมไฟกับคนตาบอด
ชายตาบอดคนหนึ่งออกเดินทาง ไปเยี่ยมเพื่อนบ้านอยู่ห่างที่ปลายถนน กลางค่ำคืนไร้แสงจันทร์อันมืดมน บอกกับเพื่อน“ฉันขอตน...ต้องจากลา” เพื่อนบอกควร“เอาโคมไฟติดไปด้วย” “...ตาฉันป่วยถึงถือไปก็ไร้ค่า...” “ที่ให้ท่านถือโคมไฟติดมือมา ไม่ใช่เหตุอันใดหนาป้องกันตัว แม้นท่านอาจไม่ต้องการแสงไฟนี้ เพื่อส่องทางหว่างวิถีที่มืดสลัว แต่ในท่ามกลางความมืดที่หมองมัว น่าหวั่นกลัวผู้มาชนบนหนทาง” ชายตาบอดดุ่มเดินไปในท้องถนน กุมโคมไฟไว้มั่นจนทุกก้าวย่าง เสียงดัง“โครม”ก่อนล้มกลิ้งร้องครวญคราง “ฉันมีไฟไม่เห็นบ้างเดินมาชน!!!” ผู้เดินชนว่า“มีไฟไหนวานบอก ท่านกระแทกฉันจนออกที่ริมถนน โคมที่ท่านถือมั่นไว้,ไร้กังวล ดับเพลิงไฟไร้โภคผล...ไปนานแล้ว” |
เจ้าของ: | กระบี่ใบไม้ [ 13 เม.ย. 2011, 08:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | รู้แจ้ง...สะท้อนแสงจันทร์ |
รู้แจ้ง...สะท้อนแสงจันทร์ การรู้แจ้งเปรียบเหมือนจันทร์บนผิวน้ำ น้ำไม่ถูกคุกคาม,จันทร์ไม่ถูกสายน้ำไหล ...กลางค่ำคืน...สาดแสงจันทร์...อันอำไพ... สะท้อนผิวน้ำกว้างใหญ่เพียงนิ้วเดียว ...จันทร์แขวน...ที่แผ่นฟ้า... ปรากฏอยู่บนยอดหญ้าลู่ใบเขียว สะท้อนแสงแห่งจันทราได้กลมเกลียว แค่น้ำค้างเพียงหยดเดียว...ก็ใหญ่พอ ดัดแปลงจากบทกวีของ เอเฮ โดเก็น (ผู้วางรากฐานแห่ง โซโตเซ็น ในญี่ปุ่น) |
เจ้าของ: | สุดปลายฟ้า [ 13 เม.ย. 2011, 16:54 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) | ||
เยี่ยมจริงๆ
|
เจ้าของ: | กระบี่ใบไม้ [ 14 เม.ย. 2011, 16:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | เซ็นเนื้อเซ็นกระดูก |
เซ็นเนื้อเซ็นกระดูก พระโพธิธรรมเรียกศิษย์ไปไต่ถาม จงบอกความเนื้อธรรมให้รู้ว่า “สิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้แต่ก่อนมา สรุปเป็นคำพูดจา...แก่ข้าที” ศิษย์ ‘เต้าฝู’ ผู้กล่าวธรรมเป็นคนแรก “ธรรมใดที่ได้แจงแจกในวิถี มิเคยถูกครอบงำโดยวลี มิเคยแยกถ้อยคำนี้จากถ้อยคำ” โพธิธรรมบอก “เจ้าได้ ‘หนัง’ข้าแล้ว สมกับตั้งใจแน่แน่วทุกเช้าค่ำ” แม่ชีนาม ‘ซ่งฉี’ เอื้อนเอ่ยธรรม โดยถ้อยความสุดลึกล้ำและตรึงตรา *** “...อักโษภยาพุทธเจ้า...เห็นคราวใด อลังการสว่างไสวแสนเจิดจ้า เพียงแค่ได้มองเห็นเป็นครั้งครา ธรรมมะเดียวสว่างกล้า...ซึ้งเกินพอ” “เจ้าได้ ‘เนื้อ’ ของข้าอาจารย์เจ้า” ลูกศิษย์นาม ‘เต้าหยู’ เอื้อนเอ่ยต่อ “ธาตุทั้งสี่ล้วนว่างเปล่าไร้ภาพทอ ส่วนขันธ์ห้าเหล่านั้นหนอไร้ตัวตน” พระอาจารย์บอก “เจ้าได้ ‘กระดูก’ ข้า โดยเนื้อธรรมที่แจ่มจ้าและเปี่ยมผล” สุดท้ายเหลือศิษย์ ‘ฮุ่ยเข่อ’ อีกหนึ่งคน จะฉุกคิดพินิจบนเงื่อนไขใด ‘ฮุ่ยเข่อ’ ก้าวมายืนอยู่ที่ตรงหน้า คำนับท่านอาจารย์ชราแล้วนิ่งไว้ ‘ธรรม’ ที่แท้ไร้คำพูดพิสูจน์ใย “เจ้าได้ ‘ไขกระดูก’ แล้ว...พบแนวทาง!!!” *** พระพุทธองค์องค์หนึ่งในนิกายมหายาน หลังจากนั้นพระโพธิธรรมก็ได้ส่งมอบบาตร จีวร สังฆาฏิของพระพุทธองค์ที่สืบทอดต่อๆ กันมาให้ ‘ฮุ่ยเข่อ’ เพื่อรับตำแหน่งสังฆปรินายกองค์ที่ 2 ของจีนต่อไป |
เจ้าของ: | ariyachon [ 14 เม.ย. 2011, 16:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) |
ขอบคุณครับ |
เจ้าของ: | กระบี่ใบไม้ [ 22 มิ.ย. 2011, 14:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | ได้บุญหรือไม่ |
ได้บุญหรือไม่ พระเจ้าเหลียงอู่ตี่ขึ้นครองราชย์ ชุ่มด้วยหยาดโลหิตาแต่ภูมิหลัง ใช้ศาตราเป็นรายทางสร้างบัลลังก์ จึงคิดหวังสร้างกุศลต่อผลบุญ วันหนึ่งพบพระโพธิธรรมจึงถามไถ่ “เรานั้นมีดวงใจช่วยอุดหนุน ดำเนินการสร้างวัดวาเกื้อการุนย์ ผลของการช่วยเจือจุน...ใหญ่เพียงไร” “ข้าแต่องค์ราชามหาบพิตร บุญของท่านเลยสักนิดหามีไม่” “เราทำบุญไม่ได้บุญด้วยเหตุใด” “ก็เพราะเจตนาไซร้ท่านไม่ดี” “แล้วอะไรเล่าคือบุญที่เที่ยงแท้” “คือรู้แจ้งความผันแปรทุกถิ่นที่ เข้าใจความหมายว่างเปล่า และเป็น-มี สร้างความรักแลภักดีด้วยเมตตา” “อะไรหรือคือความจริงอันศักดิ์สิทธิ์” “หากหัวใจไม่ยึดติด...ย่อมแจ่มจ้า” “ยืนอยู่หน้าข้าคือใครช่วยตอบมา” พระโพธิธรรมกล่าวตอบว่า “...ข้าไม่รู้...” ภายหลังจากที่พระเจ้าเหลียงอู่ตี่ฮ่องเต้ทรงทราบว่าภิกษุที่ผมเผ้ารุงรัง นุ่งห่มด้วยจีวรเปื่อยขาดที่ทูลลาจากไปนั้นคือสังฆปรินายกองค์ที่28ของอินเดีย(และเป็นองค์แรกของจีน) ก็ทรงเสียดายมากที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ธรรมกับท่านได้ |
เจ้าของ: | saovapa [ 22 ก.ย. 2011, 15:31 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) | ||
|
เจ้าของ: | เด็กสมบูรณ์ [ 22 เม.ย. 2012, 13:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) |
ขอบคุณค่ะ ค่อยๆนั่งไล่อ่านไปทีละ 2-3 เรื่อง |
เจ้าของ: | Duangtip [ 01 พ.ย. 2015, 17:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น(คำกลอน) |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
เจ้าของ: | AAAA [ 20 ม.ค. 2019, 19:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานเซ็น (คำกลอน) |
4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ |
หน้า 5 จากทั้งหมด 5 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |