ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

................. ความเป็นมาของวันพระ..................
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=82&t=53710
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ตักบาตรถามพระ [ 15 ก.ค. 2009, 00:51 ]
หัวข้อกระทู้:  ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

.......ในสมัยพุทธกาล เหล่านักบวชนอกศาสนาได้ประชุมแสดงคำสอนตามความเชื่อของตน
ทุกวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ เป็นปกติ ครั้งนั้น พระเจ้าพิมพิสาร พระราชาแห่งแคว้นมคธ


เกิดความคิดว่า น่าที่เหล่าสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจะได้กระทำเช่นนั้นบ้าง เพื่อความเลื่อมใส
ศรัทธาของเหล่าชนเฉกเช่นที่นักบวชนอกศาสนานั้นได้รับ จึงกราบทูลขอพุทธานุญาตจาก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงอนุญาตตามนั้น

การประชุมกันของเหล่าสงฆ์ตามพุทธานุญาตได้มีวิวัฒนาการขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่การมาประชุม
แล้วนั่งนิ่ง เริ่มแสดงธรรม ต่อมาทรงอนุญาตให้สวดปาฏิโมกข์ ซึ่งเป็นการทบทวนข้อปฏิบัติที่เป็นวินัยของสงฆ์ในพระพุทธศาสนาพร้อมแสดงอาบัติ คือ เปิดเผยข้อผิดพลาดในวินัยต่อผู้อื่น
ให้เป็นกิจกรรมในวันอุโบสถ คือวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ


จากที่สงฆ์ถือปฏิบัติทุกวันอุโบสถ คือ ๓ ครั้งต่อปักษ์ (สองสัปดาห์) จนกระทั่งท้ายที่สุด ทรงบัญญัติชัดเจนว่า ให้สงฆ์ประชุมกันเพื่อสวดปาฏิโมกข์เพียงปักษ์ละ ๑ ครั้ง คือ ทุก ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ เท่านั้น ซึ่งสงฆ์ได้ถือปฏิบัติมาจนกระทั่งทุกวันนี้ นั่นคือ แม้วันอุโบสถ หรือ วันพระ จะมีทั้งในวัน ๘ ค่ำ และวัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ ก็จริง แต่ก็ประชุมกันเฉพาะในวัน ๑๔ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ ตามพุทธานุญาตเท่านั้น



วันขึ้น (แรม) ๘, ๑๔ และ ๑๕ ค่ำ

กำหนดโดย ถือการเปลี่ยนแปลงของพระจันทร์ จากเดือนเต็มดวงจนถึงเดือนมืด
และกลับเป็นเดือนเต็มดวงอีกครั้ง โดยคืนพระจันทร์เต็มดวงเรียก ขึ้น ๑๕ ค่ำ พระจันทร์ค่อย ๆ
ดับนับ แรม ๑ ค่ำ ๒ ค่ำ ตามลำดับ ถึง ๑๕ ค่ำ เป็นวันพระจันทร์ดับพอดี จากนั้นเริ่มนับขึ้นจาก
วันขึ้น ๑ ค่ำ ๒ ค่ำ จนถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็นวันพระจันทร์เต็มดวงอีกครั้งหนึ่ง เป็นอันครบรอบ ๑ เดือน



ความสำคัญของวันอุโบสถ

จากพุทธานุญาตให้มีตัวแทนสงฆ์รูปหนึ่งสวดทบทวนสิกขาบท ที่ทรงบัญญัติไว้เป็นระเบียบปฏิบัติ
เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกและเพื่อความบริสุทธิ์ในเพศสมณะที่ต้องบริบูรณ์ด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา
อันเป็นทางหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงตามเส้นทางของพระพุทธศาสนา โดยมีภิกษุผู้สวดทบทวน เมื่อสวดถึง
ข้อใดแล้วมีภิกษุรูปใดรูปใดรูปหนึ่งประพฤติผิดข้อบังคับนั้น จะเปิดเผยท่ามกลางที่ประชุม หรือที่เรียกว่า
แสดงอาบัติ ซึ่งถือปฏิบัติเช่นนี้สืบต่อ ๆ กันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ก่อให้เกิดผลดังนี้ คือ

๑..เกิดความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคณะสงฆ์ ด้วยระเบียบปฏิบัติที่หมั่นทบทวน
และเตือนตนด้วยการแสดงการยอมรับในสิ่งที่ตนละเมิด เพื่อแก้ไขต่อไป ในข้อนี้มีปรากฏการณ์เด่นชัด
เมื่อครั้งพุทธกาล คือเมื่อครั้งพระภิกษุชาวเมืองโกสัมพีทะเลาะเบาะแว้งแตกความสามัคคีกัน
ภายหลังเมื่อกลับมีความสามัคคีใหม่ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ประชุมทำอุโบสถสวดพระปาฏิโมกข์
เป็นกรณีพิเศษ ที่เรียกว่า วันสามัคคีอุโบสถ

๒..การหมั่นทบทวนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้พระธรรมคำสอนไม่คลาดเคลื่อน เลือนหาย
และทำให้หมู่คณะจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบันนี้

วันอุโบสถนั้น นอกเหนือจากเป็นวันสำคัญของทางคณะสงฆ์ดังกล่าวแล้ว ยังเป็นวันประชุมฟังธรรม
ของเหล่าพุทธศาสนิกชนตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบันนี้

ในส่วนของพุทธศาสนิกชนนั้น การละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา
ผ่านการแสดงออกเป็นรูปธรรมด้วยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ก็จริง แต่ในชีวิตประจำวันแล้ว
โลกภายนอกสำหรับคฤหัสถ์ผู้ครองเรือนเต็มไปด้วยข้อจำกัดในการกระทำความดีเหล่านั้นให้
สมบูรณ์
ดังนั้น วันอุโบสถ จึงเป็นเป็นการปรารภเหตุที่จะให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้มีโอกาสหันกลับมาทบทวน
การทำดีดังกล่าว โดยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา มากขึ้นเป็นพิเศษ




ประเภทของอุโบสถ

การรักษาอุโบสถ..ถูกกำหนดขึ้นเพื่อเอื้อต่อการเลือกปฏิบัติตามความพร้อมของพุทธศาสนิ
กชน
โดยแบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคือ

๑. ปกติอุโบสถ คือ อุโบสถที่รับรักษากันตามปกติเฉพาะวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง

๒. ปฏิชาครอุโบสถ คือ อุโบสถที่รับรักษาเป็นพิเศษกว่าปกติธรรมดา คือ รักษาคราวละ ๓ วัน
จัดเป็นวันรับวันหนึ่ง วันรักษาวันหนึ่ง และวันส่งอีกวันหนึ่ง

แต่โดยเนื้อแท้แล้ว ทั้งสองประเภทก็มีขึ้นเพื่อมุ่งให้พุทธศาสนิกชนมีโอกาสรักษากาย วาจา ใจ
ให้บริสุทธิ์ ตามหัวใจของพระพุทธศาสนานั่นเอง

ศีลที่นิยมถือในวันอุโบสถ คือ ศีล ๘ อันได้แก่

๑.เว้นจากการฆ่า
๒.เว้นจากการลักขโมย
๓.เว้นจากการเสพกาม
๔.เว้นจากการพูดโกหก
๕.เว้นจากการดื่มสุราและเมรัย
๖.เว้นจากการบริโภคอาหารหลังจากเที่ยงวันแล้ว
๗.เว้นจากการตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับและของหอม และเว้นจากการดูการละเล่นต่างๆ
๘.เว้นจากการนอนที่นอนอันอ่อนนุ่มและสูงใหญ่





ข้อพึงปฏิบัติในเวลารักษาอุโบสถ
วันอุโบสถ สาธุชนจะไปวัดทำบุญที่วัดใกล้บ้าน มีการถวายภัตตาหารพระ รักษาศีลและเจริญภาวนา
ทำความสะอาดวัด นิมนต์พระเทศน์ให้ฟัง เพราะถ้าไม่มีการสอนธรรมะแล้ว ความรู้ที่แท้จริงก็จะเลือนหายไป
เนื่องจากสังคมทุกวันนี้ คนเชื่อ คิด ทำ ต่างๆ นาๆ จนมักไปทำความชั่วหรือดำเนินชีวิตที่ไม่ถูกต้อง

เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กิจกรรมในวันอุโบสถเอื้อต่อการรักษากาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ด้วยดี พุทธศาสนิกชน
จึงควรถือปฏิบัติดังนี้

- มีความสันโดษ พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
- รักษากาย วาจา ใจ ให้สงบ
- อยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วยความปรองดอง
- ตั้งใจทำกุศลกรรมยิ่งขึ้นไป
- ตั้งใจรักษาศีล
- นั่งสมาธิ



วันพระ--วันของใคร

ในอดีต วันพระมิใช่เป็นเพียงวันของพระสงฆ์เท่านั้น หากเป็นโอกาสที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะ
ได้สั่งสมบุญกุศลของตนเองให้เพิ่มยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทั้งทางราชการก็สนับสนุน โดยให้วันโกน และวันพระ เป็น
วันหยุดประจำสัปดาห์ ในครั้งนั้นพุทธศาสนิกชนจึงมีโอกาสได้ไปวัด ทำทาน รักษาศีล และฟังพระธรรมเทศนา
ที่วัดกันเป็นประจำ เพราะมีวันหยุดที่พ้องตรงกันกับวันอุโบสถกรรมซึ่งเป็นวันพิเศษของพระสงฆ์ด้วย
นับเป็นความสะดวกด้วยกันทั้งสองฝ่าย

แต่ในปัจจุบัน วันหยุดของทางราชการเปลี่ยนแปลงไปเป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์
หากวันสำคัญของพระสงฆ์ยังคงเป็นวันพระดังเดิม ดังนั้นความสะดวกของพุทธศาสนิกชนที่จะประพฤติปฏิบัติ
ชอบในวันดังกล่าวจึงพลอยหายไปด้วย อาจจะมีบ้างบางวัดที่ปรับเปลี่ยนวันเพื่อให้เอื้อกับความสะดวกของสาธุชน
แต่ก็ยังไม่ทั่วถึง จึงเป็นหน้าที่ของเหล่าสาธุชนเองที่จะต้องขวนขวายหาโอกาสนั้น ๆ ด้วยตนเอง

ทั้งนี้..เพื่อให้โอกาสเหล่านั้นเป็นไปอย่างสม่ำเสมอและมีเหตุจูงใจสำคัญไม่แพ้ในสมั
ยพุทธกาลที่
พระพุทธองค์ให้ความสำคัญกับวัน ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่พุทธศาสนิกชนที่ดี
จะได้ถือเอาวันดังกล่าวเป็นนิมิตหมายในการสั่งสมคุณงามความดี ระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์
ด้วยการหมั่นทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เป็นพิเศษกว่าวันปกติซึ่งเป็นสิ่งที่พึงทำหัวใจของพระพุทธศาสนา
เยี่ยงพุทธศาสนิกชนที่ดีอยู่แล้ว

และนอกจากจะได้ถือปฏิบัติด้วยตนเองแล้ว การทำหน้าที่เชิญชวนคนรอบข้างและคนในสังคมให้ร่วม
ระลึกถึงและปฏิบัติด้วยก็ยิ่งเป็นสิ่งประเสริฐ เพราะเป็นที่รู้กันอยู่ว่า สังคมไม่อาจจะดีได้ด้วยคนดีเพียงคนเดียว
การขยายเครือข่ายคนดีให้เกิดขึ้นรอบกาย รอบสังคม และรอบประเทศ รอบโลก จึงเป็นสิ่งที่ต้องการเป็นพิเศษ
ในสังคมปัจจุบันนี้

มาช่วยกันจรรโลงสังคมนี้ให้น่าอยู่ ด้วยการฟื้นฟูวันพระกันเถิด


ไฟล์แนป:
.jpg
.jpg [ 34.73 KiB | เปิดดู 6634 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 15 ก.ค. 2009, 07:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

อนุโมทนาบุญครับสาธุ วันนี้ต้องไปถวายสังฆทาน

เจ้าของ:  น้ำใส [ 15 ก.ค. 2009, 08:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

...♣...........♣................♣...

ไฟล์แนป:
คำอธิบาย: ♣............
4-4.gif
4-4.gif [ 19.41 KiB | เปิดดู 6595 ครั้ง ]
4-4.gif
4-4.gif [ 19.41 KiB | เปิดดู 6592 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 15 ก.ค. 2009, 09:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

สาธุ สาธุ สาธุ...กับความรู้เรื่องวันพระนะคะ

ธรรมะสวัสดีวันพระค่ะ

รูปภาพ

เจ้าของ:  matchima [ 15 ก.ค. 2009, 10:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ

เจ้าของ:  ตักบาตรถามพระ [ 15 ก.ค. 2009, 12:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

วันนี้ วันพระ จะไปนั่งสมาธิที่วัด ครับ

เอาบุญมาฝากทุกท่าน ก่อนเลย ครับ


อย่าลืม ละ นิวรณ์ กันนะครับ

:b8: :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  คนไร้สาระ [ 15 ก.ค. 2009, 12:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

:b8:อนุโมทนา สาธุค่ะ คุณตักบาตรถามพระ

ไฟล์แนป:
00008_1.jpg
00008_1.jpg [ 25.61 KiB | เปิดดู 6542 ครั้ง ]

เจ้าของ:  Bwitch [ 15 ก.ค. 2009, 12:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

:b23: ขออนุโมทนาสาธุค่ะ :b8:

เจ้าของ:  ตักบาตรถามพระ [ 15 ก.ค. 2009, 23:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

เอาบุญมาฝากทุกท่าน ครับ ในวันพระวันนี้

ไปทำบุญที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ วัดโบสถ์ บน บางคูเวียง

มาครับ

:b8: :b8: :b8: :b8: :b8: :b8:

ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้ทำมาในครั้งนี้

ให้ ทีมงานบอร์ด ธรรมจักรและสมาชิกบอร์ดทุกท่าน

ประสบความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ครับ

เจ้าของ:  ชิโนะซึเกะ [ 17 ก.ค. 2009, 19:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

ขอบคุณกับความรู้ดีๆครับ :b40: :b40: :b40: :b40: :b40: :b40: :b40: :b40: :b40: :b40:

เจ้าของ:  Duangtip [ 17 ก.พ. 2019, 14:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ................. ความเป็นมาของวันพระ..................

:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/