ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
“วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก” หรือ “วันพระเจ้าเปิดโลก” http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=83&t=57084 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 02 ก.พ. 2016, 11:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | “วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก” หรือ “วันพระเจ้าเปิดโลก” |
วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก หรือ วันพระเจ้าเปิดโลก หลังจากวันออกพรรษาแล้ว ๑ วัน ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พระพุทธองค์ทรงเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาสู่ยังโลกมนุษย์ ณ ประตูเมืองสังกัสสะ แคว้นปัญจาละ (แคว้นปัญจาบ) ชมพูทวีป หลังจากเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อโปรดพระพุทธมารดา เมื่อพระพุทธองค์เสด็จประทับพระบาทยังพื้นดินเท่านั้น ก็ทรงแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลก “โลกรวิวรรณ” โดยแสดงกิริยาพระหัตถ์เปิดโลก เนรมิตให้เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ได้มองเห็นกันและกันตลอดทั้ง ๓ โลก เพื่อให้ชนเหล่านั้นตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ศรัทธาในพระรัตนตรัย ชาวพุทธจึงเรียกวันนี้กันว่า “วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก” หรือ “วันพระเจ้าเปิดโลก” ประเพณีตักบาตรเทโวฯ ซึ่งย่อมาจาก “เทโวโรหณะ” หมายถึง การเสด็จลงมาจากดาวดึงส์เทวโลกมาสู่ยังมนุษย์โลกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณและเสด็จไปประกาศพระศาสนาในแคว้นต่างๆ ทั่วชมพูทวีปแล้ว ในพรรษาที่ ๗ ทรงรำลึกถึง “พระนางสิริมหามายา” ซึ่งได้สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่พระองค์ประสูติได้ ๗ วัน จึงทรงดำริที่จะสนองคุณของพระพุทธมารดา ดังนั้น จึงได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษา ณ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาอภิธรรม ๗ คัมภีร์ (พระสัตตปกรณาภิธรรม) โปรด “สันดุสิตเทพบุตร” เทพบุตรพระพุทธมารดา (ซึ่งประทับอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต แต่ลงมาฟังพระธรรมเทศนาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์) และหมู่ทวยเทพเทวดาทั้งหลายอยู่ ๑ พรรษา ครั้นถึงวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือหลังจากวันออกพรรษาแล้ว ๑ พระมหาโมคคัลลานะแสดงปาฏิหาริย์เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ณ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทูลถามว่าพระองค์จะเสด็จมาสู่มนุษย์โลก ณ ที่ใด พระพุทธองค์ตรัสถามว่า พระสารีบุตรและเธอจำพรรษาที่ใด เมื่อทราบคำกราบทูลว่า ท่านทั้งสองจำพรรษาอยู่ที่เมืองสังกัสสะ แคว้นปัญจาละ (แคว้นปัญจาบ) ชมพูทวีป พระพุทธองค์จึงทรงตกลงพระทัยเสด็จลงสู่มนุษย์โลกตรงประตูเมืองสังกัสสะ ท่ามกลางหมู่ทวยเทพเทวดาพรหมซึ่งแวดล้อมเป็นบริวาร พระบาทแรกที่ทรงเหยียบพื้นมนุษย์โลกนั้นต่อมาได้กลายเป็นสถานที่ระลึกเรียกว่า “อจลเจดีย์” เรียกอย่างไทยเราก็ว่า “รอยพระพุทธบาท” ตามตำนานว่าที่นี่เป็นที่แห่งหนึ่งซึ่งมีรอยพระพุทธบาทปรากฏอยู่ ประชาชนต่างพากันไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อทำบุญตักบาตรกันอย่างเนืองแน่น ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธจึงถือเอาวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากดาวดึงส์เทวโลกมาสู่มนุษย์โลก จึงนิยมตักบาตรกันเป็นพิเศษ และทำสืบต่อกันมาเป็นประเพณีที่เรียกว่า “พิธีตักบาตรเทโวฯ” ตราบเท่าจนทุกวันนี้ วันตักบาตรเทโวฯ หรือ วันตักบาตรเทโวโรหณะ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก” ด้วยว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มาสู่ยังโลกมนุษย์ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือหลังจากวันออกพรรษาแล้ว ๑ วันนั้น เล่ากันว่า ท้าวสักกเทวราช พร้อมด้วยเหล่าทวยเทพเทวดาบริวารจำนวนมากได้ตามส่งเสด็จทางบันไดสวรรค์จนถึงขั้นพิภพอย่างสมพระเกียรติ เมื่อพระพุทธองค์เสด็จประทับพระบาทยังพื้นดินเท่านั้น ก็ทรงแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลก “โลกรวิวรรณ” โดยแสดงกิริยาพระหัตถ์เปิดโลก เนรมิตให้เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ได้มองเห็นกันและกันตลอดทั้ง ๓ โลก คือ เทวโลก มนุษย์โลก และยมโลก เสมือนนั่งอยู่พร้อมหน้ากันเป็นที่อัศจรรย์ เพื่อให้ชนเหล่านั้นตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ศรัทธาในพระรัตนตรัย ทำให้ผู้ที่ไม่เลื่อมใสได้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ผู้ที่เลื่อมใสอยู่แล้วยิ่งเลื่อมใสยิ่งขึ้น กล่าวคือ ญาติที่เสียชีวิตถ้าอยู่บนสวรรค์ก็สามารถเห็นญาติในเมืองมนุษย์ได้ ญาติที่ตกนรกอยู่ก็สามารถเห็นญาติในเมืองมนุษย์ได้ ส่วนมนุษย์ก็สามารถเห็นญาติของตนทั้งในนรกและบนสวรรค์ได้เช่นกัน อีกทั้งในวันนี้การลงโทษในเมืองนรกได้ยุติลงชั่วคราว ชาวพุทธจึงเรียกวันนี้กันว่า “วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก” หรือ “วันพระเจ้าเปิดโลก” สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หมายถึง สวรรค์ชั้นที่ ๒ แห่งสวรรค์ทั้งหมด ๖ ชั้น ซึ่งมีท้าวสักกะหรือพระอินทร์เป็นจอมเทพผู้ปกครอง สวรรค์ทั้งหมด ๖ ชั้นดังกล่าว เรียกว่า “กามภพ” หมายถึง ภพที่ท่องเที่ยวไปในกาม แบ่งออกเป็น ชั้นจาตุมหาราช เป็นที่อยู่ของท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔, ชั้นดาวดึงส์ เป็นเมืองของท้าวสักกะหรือพระอินทร์, ชั้นยามา เป็นเมืองของพระสยามเทวาธิราช, ชั้นดุสิต (ดุสิต แปลว่า บันเทิง) มีท้าวสันดุสิตเทวราชเป็นใหญ่, ชั้นนิมมานนรดี (อ่านว่า นิม-มาน-นอ-ระ-ดี) หมายถึง ผู้ยินดีในการเนรมิต มีท้าวสุนิมมิตเทวราชเป็นใหญ่ และ ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี (อ่านว่า ปอ-ระ-นิม-มิด-ตะ-วะ-สะ-วัด-ดี) มีพระยามาราธิราชเป็นใหญ่ ของทำบุญที่นิยมกันเป็นพิเศษในประเพณีตักบาตรเทโวฯ คือ ข้าวต้มลูกโยน โดยจะเอาข้าวเหนียวมาห่อด้วยใบมะพร้าวไว้หางยาว กล่าวกันว่าที่นิยมทำข้าวต้มลูกโยนคงเป็นเพราะเมื่อพระพุทธองค์เสด็จลงมาจากดาวดึงส์เทวโลก พระบรมศาสดาถูกห้อมล้อมด้วยมนุษย์และเทวดาเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่เข้าไม่ถึง คิดวิธีใส่บาตรโดยโยนเข้าไป และที่ไว้หางยาวก็เพื่อให้โยนได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งการโยนลักษณะนี้คงเกิดขึ้นภายหลังมิใช่สมัยพระพุทธองค์จริงๆ และทำให้เป็นนัยยะมากกว่า เพราะปัจจุบันจะใช้การแห่พระพุทธรูปแทนองค์พระพุทธเจ้า • อ่านต่อจากที่นี่นะคะ...พิธีตักบาตรเทโว (วันพระเจ้าเปิดโลก) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=35189 เมืองสังกัสสะ สถานที่ทรงเสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=44853 บันไดขึ้นสู่ยอดเขาสะแกกรัง (เขาแก้ว) ๔๔๙ ขั้น ณ วัดสังกัสรัตนคีรี สถานที่จัดงานประเพณีตักบาตรเทโวฯ ที่เลื่องชื่อที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือหลังจากวันออกพรรษาแล้ว ๑ วัน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19278 วันออกพรรษา และประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวันออกพรรษา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=39799 |
เจ้าของ: | Duangtip [ 09 ก.พ. 2016, 16:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | “วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก” หรือ “วันพระเจ้าเปิดโลก” |
ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |