ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

วันเข้าพรรษา
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=84&t=53775
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลูกโป่ง [ 25 ก.ค. 2010, 11:08 ]
หัวข้อกระทู้:  วันเข้าพรรษา

รูปภาพ

วันเข้าพรรษา

"เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ
ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล
มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์
และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่างๆ
ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน
ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย
พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษา
ให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด ๓ เดือน ในฤดูฝน
คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ของทุกปี
ถ้าปีใดมีเดือน ๘ สองครั้ง
ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม ๑ ค่ำ เดือนแปดหลัง
และออกพรรษาในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
เว้นแต่มีกิจธุระเจ้าเป็นซึ่งเมื่อเดินทางไปแล้ว
ไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้
คราวหนึ่งไม่เกิน ๗ คืนเรียกว่า สัตตาหะ
หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์ แห่งการจำพรรษา
จัดว่าพรรษาขาด ระหว่างเดินทางก่อนหยุดเข้าพรรษา
หากพระภิกษุสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมือง
ก็พอจะหาที่พักพิงได้ตามสมควร
แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม
ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้
จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน
รวมกันหลายๆ องค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า "วิหาร" แปลว่าที่อยู่สงฆ์
เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริกตามกิจของท่าน
ครั้งถึงหน้าฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีกเพราะสะดวกดี
แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใส
ในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบ
ไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า "อาราม"
ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้


โดยปรกติเครื่องใช้สอยของพระ ตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น
มีเพียงอัฏฐบริขารอันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด
หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้
บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา
ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าจำนำพรรษา
หรือผ้าอาบน้ำฝนสำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน
และถวายของจำเป็นแก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษในเข้าพรรษา
นับเป็นเหตุให้มีประเพณีทำบุญเนื่องในวันนี้สืบมา
การที่พระภิกษุสงฆ์ท่านโปรดสัตว์อยู่ประจำเป็นที่เช่นนี้
เป็นการดีสำหรับสาธุชนหลายประการ
กล่าวคือ ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามพระพุทธบัญญัติก็นิยมบวชพระ
ส่วนผู้ที่อายุยังไม่ครบบวชผู้ปกครองก็นำไปฝากพระ
โดยบวชเป็นเณรบ้าง ถวายเป็นลูกศิษย์รับใช้ท่านบ้าง
ท่านก็สั่งสอนธรรม และความรู้ให้
และโดยทั่วไปพุทธศาสนิกชนนิยมตักบาตร
หรือไปทำบุญที่วัด นับว่าเป็นประโยชน์


การปฏิบัติตน ในวันนี้หรือก่อนวันนี้หนึ่งวัน
พุทธศาสนิกชนมักจะจัดเครื่องสักการะเช่น ดอกไม้ ธูปเทียน
เครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น มาถวายพระภิกษุสามเณร
ที่ตนเคารพนับถือ ที่สำคัญคือ มีประเพณีหล่อเทียนขนาดใหญ่
เพื่อให้จุดบูชาพระประธานในโบสถ์อยู่ได้ตลอด ๓ เดือน
มีการประกวดเทียนพรรษา โดยจัดเป็นขบวนแห่ทั้งทางบกและทางน้ำ


แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชน
ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ ทำบุญรักษาศีลและชำระจิตใจให้ผ่องใส
ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ
ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่นๆ พอถึง วันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร
ฟังเทศน์ ฟังธรรมและรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด บางคนอาจตั้งใจงดเว้น
อบายมุขต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น
อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลานของตน
โดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับอานิสงส์อย่างสูง


กิจกรรมสำหรับพุทธศาสนิกชนในวันเข้าพรรษา

๑. ร่วมกิจกรรมทำเทียนจำนำพรรษา

๒. ร่วมกิจกรรมถวายผ้าอาบน้ำฝน และจตุปัจจัย แก่ภิกษุสามเณร

๓. ร่วมทำบุญตักบาตร ฟังธรรมเทศนา รักษาอุโบสถศีล

๔. อธิษฐานงดเว้นอบายมุขต่างๆ



ความสำคัญและประโยชน์ของการเข้าพรรษา

๑. ช่วงเข้าพรรษานั้นเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านประกอบอาชีพทำไร่นา
ดังนั้นการกำหนดให้ภิกษุสงฆ์หยุดการเดินทางจาริกไปในสถานที่ต่างๆ
ก็จะช่วยให้พันธุ์พืชของต้นกล้า หรือสัตว์เล็กสัตว์น้อย
ไม่ได้รับความเสียหายจากการเดินธุดงค์


๒. หลังจากเดินทางจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา
มาเป็นเวลา ๘-๙ เดือน ช่วงเข้าพรรษา
เป็นช่วงที่ให้พระภิกษุสงฆ์ได้หยุดพักผ่อน
เป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะได้ประพฤติปฏิบัติธรรมสำหรับตนเอง
และศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตลอดจนเตรียมการสั่งสอน
ให้กับประชาชนเมื่อถึงวันออกพรรษา


๓. เพื่อจะได้มีโอกาสอบรมสั่งสอนและบวชให้กับกุลบุตรผู้มีอายุครบบวช
อันเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อไป


๔. เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสบำเพ็ญกุศลเป็นการพิเศษ
เช่น การทำบุญตักบาตร หล่อเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน
รักษาศีล เจริญภาวนา ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม งดเว้นอบายมุข
และมีโอกาสได้ฟังพระธรรมเทศนาตลอดเวลาเข้าพรรษา


ที่มา... http://www.learntripitaka.com/History/In.html
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7% ... 9%E0%B8%B2

:b48: :b8: :b48:

รวมกระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ “วันเข้าพรรษา”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=23&t=45498

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 25 ก.ค. 2010, 20:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วันเข้าพรรษา

:b8: :b8: :b8:

อนุโมทนาสาธุ..ด้วยครับ tongue tongue tongue


:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 25 ก.ค. 2010, 21:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วันเข้าพรรษา

อนุโมทนาค่ะ :b8:

เจ้าของ:  ธรรมบุตร [ 26 ก.ค. 2010, 04:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: วันเข้าพรรษา

รูปภาพ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/