วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2022, 21:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 มิ.ย. 2007, 13:49
โพสต์: 1012


 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ท่านพ่อลี ธัมมธโร
วัดอโศการาม
อ.เมือง จ.สมุทรปราการ


:b49: :b40: :b49:

อีกอย่างหนึ่งเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานครบ ๗ วันแล้ว
เมื่อเวลาที่พวกมัลลกษัตริย์ได้เชิญพระพุทธสรีระไปถวายพระเพลิงนั้น
รู้สึกว่า "พระเกสา" (ผม) ของพระองค์สักเส้นหนึ่ง
หรือ "พระโลมา" (ขน) ของพระองค์สักเส้นหนึ่งก็ดี
ซึ่งกำลังถูกไฟเผาอยู่นั้น
มิได้มีรอยไหม้เกรียมหรือเศร้าหมองไปจากเดิมเลย
"พระนขา" (เล็บ) ของพระองค์ก็ยังขาวสะอาดสดใส
ไม่แสดงความเหี่ยวแห้งอะไรสักอย่างเดียว
ตลอดจนพระสรีระส่วนอื่นๆ บางส่วน
เช่น กระดูกก็กลายเป็น "แร่ธาตุอันศักดิ์สิทธิ์"
ซ้ำยิ่งสะอาดบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเก่าเสียอีก
และยังสามารถทรงตัวมาได้ถึง ๒,๔๙๙ ปี
*
โดยยังมี "พระบรมสารีริกธาตุ" ปรากฏอยู่จนทุกวันนี้
"พระเขี้ยวแก้ว" ของพระองค์นั้นถึงกับเทวดาเสด็จลงมา
เก็บเอาไปประดิษฐานไว้ในดาวดึงส์ก็มีองค์หนึ่ง
ส่วนที่เหลือนอกนั้น พวกกษัตริย์ในแคว้นต่างๆ ก็มาขอ
แบ่งตวงไปด้วยทะนานทองถึง ๑๖ ทะนาน


นี่แหละ.."อำนาจของสมาธิ" เป็นอย่างนี้
"พระอัฏฐิ" ของพระองค์ก็เป็นของวิเศษ
แม้แต่เทวดาก็ไม่รังเกียจ มนุษย์ก็มีแต่จะแย่งกัน

ถ้าในครั้งนั้นไม่มีคนคอยปกปักรักษาแล้วก็คงจะแย่งกัน
ถึงรบราฆ่าฟันเป็นแน่ เมื่อคนมาก่อนได้แย่งส่วนที่ดีๆ ไปหมดแล้ว
ส่วนคนที่มาไม่ทันก็โกยเอาขี้เถ้าซึ่งเรียกว่า "พระอังคารธาตุ" ไปบูชาก็มี

นี่แหละ..ธรรมดาของ "มนุษย์ที่ดีแล้ว" ก็ย่อมเป็นอย่างนี้
ไม่ว่าอะไรๆ ใครๆ ก็อยากได้ แล้วก็น่าจะคิดว่า
"คนดีๆ อย่างนี้นั้นมาจากไหน?" ถ้าจะตอบ..
ก็ตอบว่า "ก็มาจากการปฏิบัตินี่เอง"
เพราะท่านได้ซักฟอกธาตุขันธ์อายตนะของพระองค์
ให้ดีขึ้นด้วย "ศีล สมาธิ ปัญญา" จนบริสุทธิ์แล้ว
ธาตุของพระองค์จึงกลายเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์
ดวงจิตก็บริสุทธิ์ มีคนอยากได้ไปกราบไหว้บูชา


ส่วนคนเราที่ไม่มีคุณงามความดี ไม่ได้ทำบุญกุศล
ไว้แจกจ่ายให้ใครๆ เลยนั้น พอตายหมดลมหายใจ
ก็อ้าปากค้างแห้ง ไม่มีใครเหลียวแล ทั้งพากันเกลียดกลัว
ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นคนที่มีความชั่วร้ายมากๆ แล้ว
เขาก็แทบจะให้เอาศพลงจากเรือนไม่ทันเสียอีก


* พระธรรมเทศนานี้แสดงในปี พ.ศ. ๒๔๙๙

:b44: :b44:

หนังสือแนวทางปฏิบัติ วิปัสสนา-กัมมัฏฐาน เล่ม ๒
พระอาจารย์ลี ธัมมธโร
. มกราคม, ๒๕๕๓. หน้า ๒๗๐-๒๗๒

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=51360

:b47: รวมคำสอน “ท่านพ่อลี ธัมมธโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=38679

:b47: ตำนาน “พระบรมสารีริกธาตุ” (Buddha Relics)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=22328

:b47: เหตุที่อัฐิกลายเป็นพระธาตุ มีช้ามีเร็วต่างกัน !?!
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=33571

:b47: พระบรมสารีริกธาตุ จัดเป็น “พระธาตุเจดีย์”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=43001

:b47: “พระสมเด็จนางพระยา” เสด็จมาที่ “ตำหนักคอยท่าปราโมช”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=22&t=52046

.....................................................
ทำความดีทุกๆ วัน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร