วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 18:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 20:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


เชิญประชาสัมพันธ์สถานที่ปฏิบัติ โดยการลงชื่อ-ที่อยู่ กำหนดการ-ระเบียบการ และเว็บไซต์ (ถ้ามี)
ของสถานที่ปฏิบัติธรรม จังหวัดตาก ได้เลยครับ


เว็บไซต์จังหวัดตาก
http://tak.ect.go.th

.......

สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่กระดานสนทนา
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=1


:b8:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ต.ค. 2008, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
ป้ายชื่อตรงปากทางเข้าวัดโพธิคุณ
............................................................................



วัดโพธิคุณ (วัดห้วยเตย)
เลขที่ 64/1 หมู่ 6 บ้านห้วยเตย
ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 63110
โทรศัพท์ 055-500-092, 081-886-9846


หลวงพ่อพระมหาวิบูลย์ พุทฺธญาโณ อดีตเจ้าอาวาส

รูปภาพ
อุโบสถ วัดโพธิคุณ
............................................................................



โพธิคุณารามุปฺปตฺติ (การอุบัติของวัดโพธิคุณ)

วัดโพธิคุณ (วัดห้วยเตย) ตั้งอยู่ใกล้ถนนสายเอเซียตาก-แม่สอด หลักกิโลเมตรที่ 69 อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สอด 11 กิโลเมตรพอดี ห่างจากเนินพิศวงประมาณ 500 เมตร ตั้งอยู่เลขที่ 64/1 หมู่ที่ 6 บ้านห้วยเตย ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 63110 แต่ละปีมีพระภิกษุ-สามเณรอยู่จำพรรษาไม่แน่นอน แต่ก็ไม่เคยต่ำกว่า 20 รูป

ทั้งนี้ วัดโพธิคุณ (วัดห้วยเตย) เป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี ซึ่งมีกฎระเบียบอยู่ว่าพระภิกษุ-สามเณรต้องนำพาธุระทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน กล่าวคือ

1. คันถะธุระ ได้แก่ การศึกษาเล่าเรียนทั้งนักธรรมและบาลีอันเป็นพุทธพจน์
2. วิปัสสนาธุระ ได้แก่ การปฏิบัติภาวนาทั้งสมถะภาวนาและวิปัสสนาภาวนา

ทั้งสองธุระนี้เป็นหน้าที่ของผู้บวชเข้ามาในพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จะละเลยมิได้ ต้องศึกษาเรียนรู้แล้วปฏิบัติให้ดีงามตามสมควร

การก่อสร้างวัดโพธิคุณนั้นได้รัตนบุรุษสองท่านคือ ท่านหนึ่งหาทุนเพื่อการดำเนินการ และอีกท่านหนึ่งนั้นสละทั้งชีวิตและจิตใจทุ่มเทถวายตัวเป็นพุทธบูชา โดยไม่ยอมรับค่าตอบแทนใดๆ จากทางวัดเลย สร้างอุโบสถและศาลาการเปรียญเป็นสถาปัตยกรรมซึ่งมีศิลปะงดงาม พร้อมทั้งจัดอาณาบริเวณอันเป็นพุทธสถานไว้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ เป็นดังการเนรมิตของพระวิษณุ ฉะนั้น

สถานที่ตั้งวัดโพธิคุณก่อนปีพุทธศักราช 2523 ยังเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม่เคยมีที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ หรือวัดมาก่อนเลย มีประชาชนในตัวอำเภอแม่สอดมาจับจองแผ้วถางทำไร่พืชผักผลไม้อยู่ 5 เจ้าของด้วยกัน ประชาชนหมู่ที่ 6 ตำบลแม่ปะเป็นชาวพุทธทั้งสิ้น เพราะมีร่องรอยที่จะทำเป็นที่พักสงฆ์อยู่ทั้งที่บ้านห้วยหินฝนและบ้านห้วยเตย (เรื่องชื่อบ้านนั้นเอาไว้เล่าในเรื่องสันติเกนิทาน ) แต่ไม่มีพระภิกษุ-สามเณรมาพำนักอยู่ประจำ ทั้งนี้ทั้งนั้นยากแก่การสันนิษฐาน แต่พออนุมานได้ว่า อาจเป็นเพราะสถานที่ตรงนี้ขณะนั้นยังมีไข้ป่า เช่น ไข้มาลาเรีย ชุกชุมก็เป็นได้ และชาวบ้านโดยรวมมีความเป็นอยู่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์นัก ส่วนมากมีอาชีพรับจ้างและหาของป่ายังชีพกันตามมีตามได้ และความเป็นอยู่ก็กระจัดกระจายเปลี่ยนแปลงโยกย้ายกันอยู่ตามที่ที่จับจองห่างๆ กัน ไฟฟ้าไม่มีใช้ น้ำกินน้ำใช้ก็อาศัยน้ำตามลำธาร ยังไม่มีระบบการบริหารและจัดการให้เป็นองค์รวมอย่างมีกฎเกณฑ์เหมือนอย่างเป็นหมู่บ้านแล้วในปัจจุบันนี้

รูปภาพ
พระทศพลญาณ (พระผู้มีญาณเป็นกำลัง 10 ประการ)
พระประธานในอุโบสถ ชั้นที่ 2 วัดโพธิคุณ

............................................................................



ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2523 มีพระเที่ยวกัมมัฏฐานสายปฏิบัติของ พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี สองรูปด้วยกันคือ พระอาจารย์วิจิตรและพระอาจารย์ถาวร ได้มาปักกลดบำเพ็ญสมณธรรมอยู่บริเวณบ้านห้วยเตย ประชาชนในหมู่บ้านนอกจากจะถวายอาหารบิณฑบาตกับท่านแล้ว ยังมีโอกาสสนทนาธรรมกับท่านและได้นิมนต์ให้ท่านอยู่นานๆ และได้พาขึ้นมาดูที่ตรงที่สร้างวัดในปัจจุบันนี้ เมื่อท่านทั้งสองรูปมาเห็นที่แล้วก็พอใจ และได้ปักกลดบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ใต้ต้นขนุนใกล้ลำธารน้ำ ประชาชนในหมู่บ้านทั้งบ้านห้วยเตยและบ้านห้วยหินฝน โดยการนำของ คุณครูประสิทธิ์ สิทธิสงคราม คุณโยมประภาส บินทวิหค และคุณโยมชัย กันเกตุ ตกลงที่จะสร้างวัดขึ้น และได้ติดต่อเจ้าของที่ทั้ง 5 เจ้าของนั้น เจ้าของที่บางรายเมื่อทราบว่าชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต้องการจะสร้างวัด บางเจ้าของได้ถวายที่ให้โดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ แต่บางรายขอค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย เมื่อปัญหาเรื่องที่จากเจ้าของที่จับจองไม่มีปัญหาแล้ว เรื่องที่จะต้องดำเนินการต่อไปคือเรื่องทางราชการบ้านเมือง คือกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ประจวบกับเวลานั้น อาตมาภาพ พุทฺธญาณภิกฺขุ ซึ่งมีสังกัดอยู่วัดอินทารามวรวิหาร ตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร กลับจากไปจำพรรษาที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย ในพรรษาปี พ.ศ. 2522 ครั้นเมื่อเดินทางถึงวัดอินทารามวรวิหาร เกิดลางสังหรณ์ในใจอยู่ว่า เราคงหมดที่พึ่งแล้วกระมัง เพราะ พระเดชพระคุณหลวงพ่อวิเชียรมุนี ซึ่งเป็นอธิบดีสงฆ์ คือเป็นเจ้าอาวาสและเป็นพระนิสยาจารย์ของอาตมาภาพ ได้มรณภาพจากไปก่อนหน้าอาตมาภาพเดินทางกลับมาถึง แต่วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2522 และในระหว่างที่ร่วมบุญในงานศพของพระเดชพระคุณท่านนั่นเอง ก็ได้รับหนังสือบอกลงไปจากคุณโยมสิงห์น้อย ชาพรม บ้านแม่ตาว ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า สหธรรมิกของอาตมาภาพทั้งสองรูปดังกล่าวแล้ว ได้มาพักบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ยังที่ตั้งวัดในปัจจุบันนี้ และในหนังสือยังเน้นไปด้วยว่า สหธรรมิกทั้งสองรูปต้องการพบเป็นพิเศษ ขอให้ขึ้นมาพบกับท่านด้วย เมื่อทราบงานพระราชทานเพลิงศพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระวิเชียรมุนีเป็นที่ชัดเจนแล้ว ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2523 เตรียมบริขารเดินทางขึ้นมา ในระยะนั้นทางขึ้นมายังที่ตั้งวัดเป็นป่ารกทึบด้วยป่าไผ่และวัชพืช ต่ำลงไปก็เป็นป่าพงที่หนาทึบมาก

รูปภาพ
บริเวณภายในอุโบสถ ชั้นที่ 2
............................................................................



เมื่อเดินทางโดยการนำของคุณโยมสิงห์น้อย ชาพรม ก็ได้พบพระอาจารย์วิจิตรและพระอาจารย์ถาวร ท่านทั้งสองเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว หลังผ่านการถามทุกข์-สุขของกันและกันพอสมควรแล้ว ท่านทั้งสองได้ปรารภให้ฟังว่า ประชาชนในหมู่บ้านต้องการจะให้สร้างเป็นวัดขึ้นในที่ดังกล่าวนี้ อาตมาภาพพิจารณาดูอาณาบริเวณแล้ว ก็บอกกับท่านทั้งสองว่า ถ้าทำได้ก็จะดีมากเพราะป่าเขาลำธารน้ำอุดมสมบูรณ์ดีอย่างยิ่ง เป็นเหมือนมีขอบเขตที่แบ่งไว้เป็นการเฉพาะ เนื่องจากมีภูเขาเป็นเหมือนเขตที่ชัดเจน และอยู่ห่างจากชุมชนดีมาก สงบสงัดปราศจากสิ่งรบกวน เหมาะสมที่จะเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี (วัดป่า) สำหรับบำเพ็ญสมณธรรมของผู้ใฝ่ความสงบทางจิตวิญญาณ เมื่อท่านพร้อมที่จะอยู่เพื่อให้ประชาชนเขาสร้างวัดก็สมควร และสำหรับผมเองมีอะไรจะช่วยเหลือได้ก็จะช่วยตามกำลังความสามารถ

จากการสนทนาเป็นที่เข้าใจกันดีแล้ว ท่านทั้งสองก็ได้นำพาอาตมาภาพขึ้นไปพักที่กุฏิหญ้าคาเชิงดอยที่สร้างเสร็จแล้ว กุฏิหลังดังกล่าวยังอนุรักษ์ไว้เป็นอนุสรณ์หลังหนึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ และท่านทั้งสองก็ได้กลับลงไปพักที่บริเวณต้นน้ำซึ่งท่านแขวนกลดพักอยู่ใต้ต้นขนุน ในช่วงตอนต้นของค่ำคืนนั้น หลังจากสวดมนต์ไหว้พระเจริญสมณธรรมตามปกติแล้ว ได้พิจารณาพระธรรมวินัยที่ประพฤติปฏิบัติอยู่และดูความรู้สึกในจิตใจของตน ก็นึกแปลกใจอยู่อย่างว่า ทำไม ? จิตใจของเราพอมาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว เหมือนกับมีความอบอุ่นอะไรบางอย่างเกิดขึ้นอย่างประหลาด ทำให้นึกถึงคำเตือนของครูบาอาจารย์ฝ่ายปฏิบัติที่ท่านเคยเตือนอยู่ว่า “ถ้าไปถึงที่ใด แล้วมีความรู้สึกว่าเหมือนกับสถานที่เหล่านั้นเป็นที่อยู่ของตน ตรงนั้นจะต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติธรรมที่เราจะต้องดำเนินต่อไปให้ดีที่สุดก็ได้”

และก็เผลอหลับไป ในการหลับไปของคืนแรกเป็นเรื่องแปลกมาก ฝันเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนอย่างกับเป็นเรื่องจริงๆ ที่เจอ และพบเห็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็น จนเวลาใกล้อรุณพอรู้สึกตัวตื่นขึ้นพยายามทบทวนความฝันก็ยังนึกแปลกใจว่า ทำไม ? ฝันยืดยาวเป็นเรื่องเป็นราวอย่างนี้ ฝันอย่างใดนั้นเอาไว้เล่าในการเขียนนิทานเกิดวัดโพธิคุณก็แล้วกัน เพราะในที่นี้เพียงต้องการให้รู้ประวัติวัดโดยย่อๆ เท่านั้น พอได้อรุณก็พากันเที่ยวโคจรบิณฑบาต เพราะบ้านประชาชนในระยะนั้นอยู่กระจัดกระจายห่างออกไปไกลมาก บางแห่งถึงสามกิโลเมตรก็มี และได้อยู่บำเพ็ญสมณธรรมกับสหธรรมิกจวนเวลาใกล้งานพระราชทานเพลิงศพพระเดชพระคุณพระวิเชียรมุนี ต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2523 จึงได้ลาท่านทั้งสองเดินทางลงกรุงเทพฯ กลับไปวัดอินทารามวรวิหาร

รูปภาพ
พระตรีโลกเชษฐ์ (พระผู้ประเสริฐที่สุดในโลกทั้ง 3)
พระประธานในอุโบสถ ชั้นที่ 3 วัดโพธิคุณ

............................................................................



และเมื่องานพระราชทานเพลิงศพของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระวิเชียรมุนีผ่านไปแล้ว แต่กลางเดือนเมษายน พ.ศ. 2523 ก็ยังไม่ได้เดินทางไปไหน เพราะพระเดชพระคุณพระราชธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ขอร้องให้อยู่ช่วยกันก่อน เพราะอาตมาภาพมาอยู่ในนิสสัยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระวิเชียรมุนี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ได้ทั้งคันถะธุระและแนวทางวิปัสสนาธุระเริ่มต้นจากที่นี่ จึงตั้งใจว่าจะอยู่ช่วยเป็นธุระให้กับทางวัดสักระยะหนึ่ง

แต่แล้วทุกอย่างที่ว่าเป็นลางสังหรณ์ก็เริ่มปรากฏเป็นความจริงขึ้น เมื่อเวลาใกล้พรรษาในปีดังกล่าว ก็ได้รับหนังสือบอกลงไปจากคุณโยมครูประสิทธิ์ สิทธิสงคราม ว่าขอนิมนต์ขึ้นมาอยู่จำพรรษา ณ ที่พักสงฆ์ด้วย เพราะไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา และบอกไปด้วยว่าสหธรรมิกทั้งสองรูปของอาตมาภาพ คือพระอาจารย์ถาวรและพระอาจารย์วิจิตร ได้เดินทางกลับไปวัดหนองป่าพงแล้ว เมื่อทราบจากหนังสือก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่า ทำไม ? ท่านทั้งสองจึงจากไปเสียทั้งที่บอกว่าจะอยู่เพื่อให้ประชาชนเขาสร้างวัด และก็น่าจะส่งข่าวให้ทราบบ้างก็ไม่ส่งข่าวอะไรเลย แต่เมื่อญาติโยมเขานิมนต์แล้วก็ต้องไป จึงลาผู้รักษาการเจ้าอาวาสเดินทางขึ้นไป ท่านผู้รักษาการได้ให้พระบวชใหม่เป็นพระอนุจรติดตามขึ้นไปสองรูป และในพรรษาแรกเป็นที่พักสงฆ์มีพระอยู่จำพรรษาร่วมกัน 4 รูป เพราะก่อนเข้าพรรษาไม่กี่วันมีพระภิกษุเดินทางมาจากอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี มาอยู่จำพรรษาด้วยอีกหนึ่งรูป ก็อยู่จำพรรษากันมาด้วยความเรียบร้อยตลอดไตรมาส

ออกพรรษาไม่นาน มีหลายๆ อย่างเป็นเรื่องท้าทายทั้งคนและภูมิอันลึกลับ ซึ่งทำให้ทิฐิที่เขาว่านั่นแหละทิฐิพระ ได้ตัดสินใจทันทีว่าจะต้องทำให้ได้ถ้ายังไม่ตายเสียก่อน และก็เป็นคำสั่งของครูบาอาจารย์ฝ่ายปฏิบัติได้สั่งด้วยว่า “ท่านควรเอาความตายเป็นธงชัยปักไว้บนดอยให้เขาได้ดูสักองค์หนึ่ง ในฐานะพระเที่ยวกัมมัฏฐานอย่างพวกเรา” ในระยะดังกล่าวนั้นก็ได้ให้นามที่พักสงฆ์ว่า “ที่พักสงฆ์สวนโพธิญาณอรัญวาสี” เพื่อเป็นการถวายเกียรติแก่พระสายกัมมัฏฐาน คือ พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท) ด้วย เรื่องรายละเอียดนั้นเอาไว้เล่าในนิทานเกิดวัดโพธิคุณ

จากนั้นอาตมาภาพเดินทางลงกรุงเทพฯ คือวัดอินทารามวรวิหาร และได้บอกความตั้งใจที่จะสร้างวัดขึ้นให้อดีตท่านรองอธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง คือคุณอุทัย มนธาตุผลิน ทราบ และเดินทางกลับขึ้นมาที่พักสงฆ์ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 ปรากฏว่า น.อ. พิเศษ อาวุธ สะมะพันธ์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผบ. นพค. 33 กรป. กลาง ได้นำเครื่องมือจักรกลของหน่วยมาตัดถนนขึ้นไปยังที่พักสงฆ์ และปรับที่บริเวณที่สร้างอุโบสถในปัจจุบันให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีคุณโยมครูประสิทธ์ เป็นผู้ดูแลบอกเขตให้ ทุกอย่างเหมือนกับเป็นเรื่องที่ถอยไม่ได้แล้ว จึงได้ดำเนินการต่อไป โดยสร้างกุฏิทรงไทยถาวรขึ้น ประชาชนชาวอำเภอแม่สอดหลายๆ ท่านก็ได้ให้การสนับสนุนตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงทุกวันนี้

รูปภาพ
เสมาเอก อยู่ชั้นใต้ดิน (หรือชั้นที่ ๑) ตรงบริเวณกลางอุโบสถ
............................................................................



และปลายปี พ.ศ. 2524 คุณอุทัย มนธาตุผลิน พร้อมด้วยคุณบุญมี คุ้มชาติ คุณสมศักดิ์ กิจชูศรี คุณรัญจวน กสินธุ์ศรี และคุณทวี สุพรรณฮี เพราะขณะนั้นคุณอุทัยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองกษาปณ์ ได้จัดกฐินสามัคคีพร้อมด้วยชาวคณะจังหวัดพิจิตร นำโดยคุณบุญธรรม พิทักษ์ ประถมศึกษาจังหวัดพิจิตร ร่วมทอดกฐินพร้อมด้วยชาวอำเภอแม่สอด ทอดกฐินได้ปัจจัยเป็นทุนครั้งแรก 400,000 บาทเศษ และก็ดำเนินการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้

การดำเนินเรื่องทางกรมป่าไม้ กระทรวงเกษรและสหกรณ์ ได้รับอนุญาตที่ให้สร้างวัดได้เป็นจำนวน 15 ไร่ ตามหนังสือเล่มที่ 112 ฉบับที่ 08 ที่ทำการศาลากลางจังหวัด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 อนุญาตให้กรมการศาสนา (โดยศึกษาธิการอำเภอแม่สอด) เมื่อได้รับอนุญาตเรื่องที่แล้ว กรรมการจึงทำเรื่องขออนุญาตสร้างวัดไปทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับหนังสืออนุญาตให้สร้างวัดได้เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2528 จากนั้นจึงทำเรื่องขอตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ทางกระทรวงศึกษาธิการประกาศตั้งเป็นวัดชื่อ “วัดโพธิคุณ”

ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ตามที่นายสีมูล เพิ่มพูล ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด ณ หมู่บ้านที่ 6 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก นั้น บัดนี้ผู้รับอนุญาตได้สร้างเสนาสนะขึ้นสมควรเป็นที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ได้แล้วอาศัยความตามข้อ 4 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2507) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม กระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนา มีนามว่า “โพธิคุณ” ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอให้วัดโพธิคุณ สถิตสถาพรตลอดกาลนาน
ประกาศ ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2529
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ


เมื่อเป็นวัดถูกต้องตามกฎระเบียบแล้ว ทางการปกครองคณะสงฆ์โดยเจ้าคณะจังหวัดตาก ได้แต่งตั้งพระมหาวิบูลย์ พุทฺธญาโณ ป.ธ. 4 น.ธ. เอก วิชาครูพิเศษมูล เป็นเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 ทางเจ้าอาวาสปรึกษาตกลงกับคณะกรรมการทำเรื่องขอพระราชทานวิสุงคามสีมา และได้รับประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2532 โดยมีเนื้อที่พระราชทานวิสุงคามสีมา กว้าง 30 เมตร ยาว 50 เมตร เมื่อได้รับพระราชทานแล้ว ทางวัดได้ดำเนินการฝังลูกนิมิตและผูกพัทธสีมาตามหลักพระวินัย ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2536 และทางเจ้าอาวาสได้แต่งตั้งคุณอุทัย มนธาตุผลิน เป็นไวยาวัจกรของวัดโพธิคุณ ตามระเบียบพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ทุกประการแล้ว

รูปภาพ
อุโบสถ วัดโพธิคุณ
............................................................................



เนื่องจากวัดโพธิคุณเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี ซึ่งมีป่าสงวนแห่งชาติติดเนื้อที่ของวัดทั้งทางทิศตะวันออก ทิศใต้ และทิศเหนือ ทางวัดจึงดำเนินการทำเรื่องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดทำเป็นพุทธอุทยาน และก็ได้รับอนุญาตให้เช่าได้ตามหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เล่มที่ 90 ฉบับที่ 78 ที่ทำการศาลากลางจังหวัดตาก เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2538 เป็นเนื้อที่ 250 ไร่ จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ความเป็นมาของวัดโพธิคุณ จากเป็นที่พักสงฆ์และเป็นวัดแม้จะยังไม่สมบูรณ์เต็มรูปแบบทุกอย่าง แต่ก็อยู่ในขั้นตอนที่เป็นวัดถูกต้องตามกฎระเบียบตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์แล้ว แต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันที่บันทึกประวัติวัดเป็นเวลา 21 ปี ทางวัดโดยการนำพาของประธานสงฆ์ก็ได้พยายามดำเนินตามธุระที่พระภิกษุผู้บวชเข้ามาในพระธรรมวินัย จำเป็นจะต้องธำรงรักษาไว้นั่นคือ “คันถะธุระ” การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ทั้งฝ่ายนักธรรมและบาลีอันเป็นพุทธพจน์ ธุระส่วนนี้พระภิกษุ-สามเณรที่จบการศึกษาในส่วนนักธรรมชั้นตรี-โท-เอก นั้นมากรูป และที่เป็นมหาเปรียญธรรมไปแล้วประมาณ 10 กว่ารูป และ “วิปัสสนาธุระ” การปฏิบัติภาวนาทั้งสมถะภาวนาและวิปัสสนาภาวนา และบำเพ็ญธุดงควัตร ก็ไม่เคยทอดธุระ เพราะเป็นธุระที่นักบวชผู้เข้ามาสู่พระธรรมวินัยนี้จะต้องทรงไว้เป็นหน้าที่โดยตรง

ส่วนเรื่องการหาทุนเพื่อสร้างเสนาสนะต่างๆ นั้น ถือว่าเป็นหน้าที่ของไวยาวัจกรและคณะกรรมการวัดเป็นผู้จัดการและดำเนินการ เพราะหน้าที่การก่อสร้างนั้นเป็นเรื่องของอุบาสก-อุบาสิกาแต่โบราณมา ซึ่งเกิดวัดในพระพุทธศาสนาเป็นวัดแรก คือวัดเวฬุวัน ที่กรุงราชคฤห์, วัดพระเชตวัน, วัดบุพพาราม และวัดนิโครธาราม ดูตามพระพุทธประวัติความเป็นมาแล้ว เป็นเรื่องของฆราวาสญาติโยมทั้งสิ้น เว้นแต่บางครั้งพระภิกษุอาจช่วยบ้างก็เพียงแต่อยู่เป็นหลักให้เกิดความแน่ใจแก่ผู้สร้างว่าจะต้องมีพระภิกษุอยู่แน่นอนเท่านั้น ไม่ใช่พระภิกษุไปเป็นธุระเสียเอง ตามพระพุทธประวัติแล้วไม่ค่อยจะพบ เพราะไม่ใช่ธุระของผู้บวชเข้ามาในพระธรรมวินัย ถ้าทำหน้าที่ผิดธุระเสียแล้ว มันจะสับสนวุ่นวาย ธุระที่นักบวชควรจะได้ก็กลายเป็นอย่างอื่นไป เป็นการได้สิ่งที่ไม่น่าจะได้ แทนที่จะได้หัวกลับไปได้หาง หางยาวมากเข้าก็เป็นเรื่องสับสน จนในที่สุดหาทางแก้กันไม่ค่อยจะพบต้นเหตุที่แท้จริง

รูปภาพ
หอภูมิทัศไนย์ (อาคารศาลาการเปรียญ)
............................................................................



หน้าที่คือธุระ ถ้าทุกฝ่ายรู้สิทธิและหน้าที่ ไม่ต้องสมบูรณ์อย่างครั้งพุทธกาล แต่ก็อย่าละเลยจนกลายเป็นส่งเสริมกันไม่ถูกที่ถูกทางจนเกินงามไป สิ่งที่ได้มันจะไม่คุ้มค่าก็เท่านั้นเอง ถ้าทุกฝ่ายรู้และเข้าใจสิทธิพร้อมทั้งหน้าที่ความเป็นพุทธบริษัท ทั้งฝ่ายภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา อย่างดีงามตามสมควรแล้ว พระพุทธศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ประกาศทางเดินทางจิตวิญญาณไว้อย่างชัดเจนแล้ว คือมรรคสัจจ์ตามหลักอริยสัจจ์ ก็ยังมีทางเดินที่ไม่หลงทาง ทั้งผู้นำเดินและผู้ตามก็น่าจะไม่ก่อปัญหา “เหล็กจะพินาศก็เพราะตัวเหล็กเอง คือสนิมที่เกิดอยู่ในตัวเหล็ก”

พระพุทธศาสนาอันเป็นคำสอนที่มีแต่ความบริสุทธิ์ ที่ถ่ายทอดออกมาจากพระหฤทัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเกิดประโยชน์ที่แท้จริงแก่ทุกเหล่าทุกฝ่ายได้ตามพระเมตตาพระมหากรุณาได้อย่างแท้จริง อยู่ที่ธุระอย่างที่ว่าแล้ว ถ้าทุกฝ่ายทำธุระให้ถูกที่ตามหน้าที่แล้ว ทางเดินยังมีเดินได้อย่างสง่างามตามหลักพุทธธรรม ไม่จำเป็นต้องไปสร้างธุระอื่นให้เป็นเรื่องผิดที่ผิดทางอย่างที่ว่า คือหัวควรเป็นหัวที่มีมันสมองที่เต็มไปด้วยความมั่นคงในพุทธธรรม ไม่ต้องไปสร้างธุระอะไรหลอนตัวเอง จนต้องสิ้นเปลืองโดยไม่มีความจำเป็น

สำหรับวัดโพธิคุณ ครั้นเมื่อทุกฝ่ายที่เข้ามาเห็นแล้ว จะถามกันอยู่อย่างต่อเนื่องว่า ใช้ทุนทรัพย์สร้างไปมากมายเท่าไร ? คำถามอย่างนี้จะเป็นคำถามซ้ำๆ ซากๆ จึงขอประกาศไว้ให้ทราบ ณ ที่นี้เลยว่า วัดโพธิคุณที่สร้างมาไม่ใช่มีทุนอะไรมากมายอย่างที่ทุกคนเข้าใจ ทุนจริงๆ ที่ทางวัดมีการดำเนินการเฉลี่ยต่อปีประมาณปีละ 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาท) 20 ปีมีทุนดำเนินการเพียง 30 ล้าน ในจำนวน 30 ล้านบาทนี้ ไม่ใช่ใช้เฉพาะเรื่องการก่อสร้างทั้งหมด ทั้งค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแก่พระภิกษุ-สามเณรยังผนวกรวมอยู่ด้วย แต่ถ้าจะมีคำถามต่อว่า สร้างกันมาได้อย่างไร ? ขอตอบว่า ด้วยความจริงใจของทุกฝ่ายที่เข้ามาร่วมดำเนินการคือศรัทธาที่มั่นคงต่อพระรัตนตรัย ทุนทรัพย์ทุกอย่างที่มีดำเนินการบริหารและจัดการ จะทำเพื่อบูชาพระรัตนตรัยอย่างจริงจังและจริงใจ อะไรที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่าเป็นอบายหายนะ จะไม่มีอย่างเด็ดขาด “วัด” ความหมายคือจำนวนหรือพื้นที่บำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา สำหรับอุบาสกอุบาสิกา, นักบวชคือพระภิกษุ-สามเณร, ธุระคือศีล สมาธิ ปัญญา, ในเนื้อที่ดังกล่าวที่เรียกว่าวัด จะเป็นพื้นที่ดังกล่าวนี้ จะไม่มีอะไรเป็นเหตุให้ต้องใช้ทุนไปในทางที่ไม่จำเป็นในเรื่องอบายหายนะ

รูปภาพ
พระมหาวิบูลย์ พุทฺธญาโณ อดีตเจ้าอาวาส


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ประวัติและปฏิปทาพระมหาวิบูลย์ พุทฺธญาโณ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21566

เว็บไซต์วัดโพธิคุณ
http://watpotikhun.webwat.net/

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


วัดพระพุทธบาทดอยโล้น
หมู่ 3 บ้านฉลอม ต.ท้องฟ้า อ.บ้านตาก จ.ตาก 63000


หลวงพ่อลมาย ลาภสัมปันโน เจ้าอาวาส

วัดพระพุทธบาทดอยโล้น เป็นวัดป่าสายปฏิบัติที่สร้างขึ้นใหม่ ตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางป่าไม้ร่มรื่น สงบเย็น เงียบสงัด ภายในบริเวณวัดมีถาวรวัตถุสิ่งที่น่าสนใจ คือ สมเด็จมหาสากยะมุณีศรีสรรเพชร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ที่มีพุทธลักษณะงดงาม ขนาดหน้าตักกว้าง 20 เมตร สูง 38 เมตร รอยพระพุทธบาทตั้งอยู่บนยอดเขาสูง มีมณฑปสร้างครอบไว้ ต้องปีนบนทางเดินหินขึ้นไป ในบริเวณใกล้เคียงรอยพระพุทธบาทพบเครื่องใช้โบราณ สันนิษฐานว่าจะเป็นเส้นทางเดินทัพ ในบริเวณเดียวกันยังมีบ่อน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านถือว่าเป็นบ่อน้ำทิพย์ เมื่อถึงเดือนเมษายนของทุกปี ช่วงหลังประเพณีสงกรานต์ ชาวบ้านญาติโยมจะจัด ประเพณีขึ้นเขาไหว้รอยพระพุทธบาท

การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 1175 (บ้านตาก-แม่ระมาด)
ถึงหลักกิโลเมตรที่ 8 เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านท้องฟ้าอีกประมาณ 2.5 กิโลเมตร

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


วัดป่าภาวนาราม
(วัดสาขาของวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี)
หมู่ 4 บ้านจัดสรร ต.สามเงา
อ.สามเงา จ.ตาก 63000


พระอาจารย์ถนอม โชติธัมโม เจ้าอาวาส

วัดป่าภาวนาราม เป็นวัดป่าปฏิบัติสายหลวงพ่อชา สุภัทโท

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2012, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2004, 01:20
โพสต์: 1785


 ข้อมูลส่วนตัว www


วัดสะพานสอง
ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก 63000
โทรศัพท์ 081-722-0543


พระอธิการบัวเรียน พุทธสโร เจ้าอาวาส

การเดินทาง : เมื่อถึงสถานีขนส่งจังหวัดตาก ต่อรถไปทางจังหวัดสุโขทัยอีกประมาณ 32 กม. ก็จะถึงหน้าวัดสะพานสอง มีป้ายบอก วัดอยู่ทางขวามือเดินเข้าไปอีก 200 เมตร

ระหว่างวันที่ 20-29 พฤษภาคม ของทุกๆ ปี ทางวัดจะมีการจัดงานปริวาสกรรมและบวชชีพราหมณ์ โดยในงานจะมีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณนำพาปฏิบัติธรรม-บรรยายธรรมทุกวัน

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 5 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 4 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร