วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2013, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

จาก...หนังสือ ฐานิยปูชา ๒๕๓๖

เหล็กไหล

- เหล็กไหลมีจริงหรือเปล่าครับหลวงพ่อ ?

- มีจริง แต่มันเป็นของหายาก เอายาก ที่เขามาอวดกันมันไม่ใช่เหล็กไหลหรอก เหล็กไหลนี้มันจะไหลอยู่ไม่หยุด หลวงพ่อไล่ตะครุบเหล็กไหลนี่จนเหงื่อแตก มันก้อนโตขนาดเม็ดข้าวโพดเม็ดใหญ่ๆ ทีนี้วัตถุที่โตขนาดนี้ ถ้าเป็นสิ่งอื่นเราไปหยิบมันจะติดมือขึ้นมา อันนี้พอไปหยิบ หยิบแล้วทั้งๆ ที่มันแข็ง มันสัมผัสมือเหมือนกับหยิบสำลี คล้ายๆ กับมันยุบตัวลงไป แต่พอยกมือขึ้นมันจะไม่ติดมือ พอยกมือขึ้นปั๊บมันจะกลิ้ง พอไปจับจะหยิบขึ้นให้มันติดมือมาไม่มีติด

ถ้ามันอยู่บนพื้นไม้กระดาน มันจะกลิ้งอยู่อย่างนั้น พอตกถูกพื้นปูนซีเมนต์มันจะหายจมลงไปในปูนซีเมนต์เลย หลวงพ่อนี่จับต้องมาด้วยมือ เห็นมาด้วยตา เพราะฉะนั้น ถ้าใครเอามาให้ดูแล้วมันไม่ใช่หรอก มีแต่ก้อนหินธรรมดานี่แหละเขาเอามาให้ดู อย่างดีก็พวกประเภทที่เขาเรียกว่าโคตรเหล็กไหล ไอ้ตัวเหล็กไหลจริงๆ นี่มันไม่ใช่อย่างนั้น สีมันดำเหมือนตาดำคน ที่นี้ พอจับปั๊บมันจะเย็นเหมือนจับน้ำแข็ง เวลาเอาวางไว้แม้อยู่ในที่ราบๆ มันก็จะกลิ้งของมัน มันอยู่ในฟันกรามเขาส่องดูก็มองเห็น พอเอาไม้แหย่มันจะวิ่งหลบเข้าไป หลบหนีเข้าไปทั้งที่ไม้ยังไม่ได้ถูกมันเลย

พอเผลอๆ มันตกป๊อกลงมาอยู่ในอุ้งมือนี่ แทนที่มันจะไหลลงไปทางลาดๆ ต่ำลงไป มันกลับวิ่งลัดขึ้นมา วิ่งมาตามข้อศอกวิ่งขึ้นมาข้างบน วิ่งขึ้นมาทางสูง แทนที่มันจะกลิ้งลงไปทางต่ำ ตกลงบนไม้กระดานก็ไล่ตะครุบ ไล่ไปไล่มามันตกลงบนพื้นปูนซีเมนต์กลิ้งไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีอะไร ราบๆ เกลี้ยงๆ ไม่มีวัตถุอะไร มันหายจมลงไปในพื้นปูนซีเมนต์ เมื่อก่อนนี้อยากได้เหล็กไหลเหมือนกัน พอไปไล่จับก็เลยหายสงสัย


รูปภาพ
พระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติ อาภคฺโค)
วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี



- มันมาจากไหนครับเหล็กไหล ?

- เหล็กไหลอันนี้ ตามประวัติส่วนใหญ่จะมาจากสมเด็จลุน บ้านเงินไทร บ้านอยู่ฝั่งทางประเทศลาว พระองค์นี้มีอิทธิปาฏิหาริย์ ขนาดเหยียบเรือกลไฟของฝรั่งนี่เอียงกะเท่เร่ เหมือนกับหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดทางภาคโน้น ก็อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกัน มีตำรวจคนหนึ่งเขาเรียกว่าไอ้เพ็งคอลาย หมอนี่ก็ได้มาจากสมเด็จลุน ของๆ มันนี้ ใครขอนี่มันยื่นให้เลย อยากได้เอาไป แต่พอเสร็จแล้วเขามีวิชาเรียก ให้ใครไปแล้วมันจะกลับไปอยู่กับเจ้าของ

พระครูพิบูลธรรมภาณ อาจารย์โชติที่อำเภอพิบูลฯ อุบลฯ นี่ท่านคุยให้ฟังว่า ของคนเมืองพิบูลฯ อำเภอพิบูลมังสาหาร มีอยู่คนหนึ่ง เขาเคยให้ท่านพาไปขาย ตกลงซื้อขายกันราคา ๕๐ ล้าน จะเอาเงินไปวางกันที่ธนาคารฝากเงินในบัญชีของเจ้าของแล้วก็จะมอบเหล็กไหลนี้ให้ พอตกลงกันแล้ว ตกกลางคืนได้ที่เอาใส่ในกระป๋องแล้วบัดกรีเอาไว้ ตื่นเช้ามาเห็นแต่รู มันหนีออกไปแล้ว เสร็จแล้วพอกลับมาบ้านมันมาอยู่ที่บ้าน เลยไม่ได้ขาย ส่วนใหญ่ถ้าใครเขามีแล้วเขาจะใช้โลหะต่างประเภท ถ้าประเภทเหล็กนี่เอามันไม่อยู่ ต้องใช้ทอง นาก เงิน ทองแดงหุ้มเอาไว้ ถ้าเอาไปวางไว้บนพานธรรมดาตื่นเช้ามาหาย

- เหล็กไหลเขามีไว้ทำไมครับ

- เขาก็ถือว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ของดีวิเศษ ใครมีแล้วเป็นสิริมงคลอะไรทำนองนั้น แต่ว่าฝรั่งที่เขาเชื่อว่าเหล็กไหลมี และเขาทดสอบดูว่ามันเป็นวัตถุที่สามารถทุ่นแรงได้ คือมันมีแรงผลักดัน ทำให้เป็นวัตถุที่ทุ่นแรง ฝรั่งเขาต้องการ เขาจะไปทำให้มันสร้างวัตถุทุ่นแรงสำหรับยกสิ่งของหนักๆ

อาจารย์บุญที่วัดป่าอะไรทางนี้ นั่นก็ไปเที่ยวหาเหล็กไหล ไปนอนอยู่ที่วัดป่าสาลวันหลายคืน ทีแรกให้โยมไปเฝ้าอยู่ก่อน ไม่ทราบว่าท่านไปได้ยินมาจากที่ไหนว่าหลวงพ่อมีเหล็กไหล หลวงพ่อก็พูดตลกๆ โอย เหล็กไหลมีถมเถไป เอาไหมจะขอเขาให้ เหล็กไหลผมนี่ตอนเช้ามันก็ไหลลงกรุงเทพฯ ไหลขึ้นหนองคาย อุบลฯ ทุกวัน (หลวงพ่อหมายถึงรถยนต์ รถโดยสาร) ไปหาสิ่งที่มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ ไอ้มีนะมีแน่ จะไปหาที่ไหนมันจึงจะพบ


ปลุกพระ

มีคนหนึ่งเอาพระของครูบาอาจารย์ของเขามาอวด เขาเอามาคุยทับ เอาคนปลุกพระมาด้วย นี่ผมปลุกเสกมาตั้งร้อยครั้งแล้ว ผมจะให้คนนี้ปลุกเสกให้ดู พอเขาปลุก หลวงพ่อก็กำหนดจิต ชายคนนั้นแกทำยังไงจึงเหงื่อแตกก็ไม่รู้ หลวงพ่อเจียนหมากแล้วโยนเปลือกหมากให้ เอ้า ลองปลุกเปลือกหมากฉันดู พอไปจับ ตัวนี่สั่นขึ้นมา แกก็เอากระดาษห่อใส่กระเป๋า หลวงพ่อก็เอาผ้าเช็ดปากมาเป่าแล้วโยนให้ เอานี่ดีกว่า เสร็จแล้ว ๒-๓ วันต่อมาไปโดนเขารุมตี แกก็ทำทีเป็นนอนสลบไม่รู้เรื่อง

พอพวกนั้นมันเห็นว่าสลบไปแล้วก็ขึ้นรถเตรียมจะกลับ แกก็ลุกขึ้นมา เอ้า ยังไม่ได้คิดบัญชีกันเลยทำไมรีบไป พวกนั้นมันก็ย่ามใจว่า ไอ้แก่นี่หรือจะสู้ไอ้หนุ่มตั้ง ๖ คนได้ แกก็จับเอาไม้ ที่พวกนั้นตีแกหวดเอาๆ หัวแตกไป ๔ ราย ๒ รายไม่กล้าเข้ามา กระโดดขึ้นรถไปแจ้งความ ตำรวจเขามาจับไปโดยเปรียบเทียบปรับคนละ ๕๐๐ บาทฐานก่อการทะเลาะวิวาทกัน พอเสร็จมาคุยให้หลวงพ่อฟัง "แหม...ผ้าเช็ดปากหลวงพ่อนี้ดีจริงๆ" "ดียังไง" "ก็ไอ้หนุ่มมันตั้ง ๖ คน มันสู้ผมไม่ได้ มันไปแจ้งตำรวจมาจับผมไปโรงพัก ถูกปรับคนละ ๕๐๐ บาท หมดทุกคน" "เอ้า...ผ้าเช็ดปากดี ทำไมถึงต้องไปถูกปรับ แปลว่ามันไม่ดีซิถึงถูกปรับ"

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2013, 19:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


    ของฟรี

    หลวงพ่อไปกรุงเทพฯ มีผู้ถวายพระสมเด็จ เขาเรียกแบบทรงตั้งโต๊ะกัง ที่เรียกว่าตั้งโต๊ะกังเพราะสมเด็จโตท่านสร้างถวายรัชกาลที่ ๕ เพื่อพระราชทานเป็นรางวัลให้แก่บุคคลที่ช่วยพัฒนาบ้านเมือง ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกร้านทอง เสร็จแล้วมีผู้ถวายหลวงพ่อมา ทีนี้มีพระอาจารย์มนตรีเป็นอาจารย์สอนโรงเรียน มาบวชมาเห็นเข้าแกก็จับๆ วางๆ หลวงพ่อก็เดาคาดคะเนเอา คุณอยากได้ก็เอาไปซิ แกก็ดีใจจนเนื้อเต้นถามว่า "หลวงพ่อดีไหม" "ก็ดีซิถึงให้ ของไม่ดีจะให้ไปทำไม แล้วคุณว่าดีไหมล่ะ" "ก็ดีซิครับถึงอยากได้"

    บางทีมีบางคนเขาให้เขาว่าเป็นพระก็ถือมา คนเขารู้ว่าหลวงพ่อมีพระเขาก็หาเงินมาเช่าซื้อ มีคนหนึ่งมีเงินมาหกพันบาท จะมาเช่าพระสมเด็จจากหลวงพ่อ หลวงพ่อบอกไม่ได้หรอก ไม่ให้ แล้วก็มีอีกคนหนึ่งมาหาพระสมเด็จเหมือนกัน มานั่งอยู่เป็นนาน แกก็ถามคนแรกว่า "ถ้าผมมีปัญญาเอาได้คุณจะว่าผมไหม" "ก็เอาซี้ ถ้าคุณมีปัญญาเอาได้ก็เชิญตามสบายเลย ผมไม่ว่า" คนนั้นแกก็ลุกปุ๊บปั๊บลงไปใต้ถุนกุฏิ ไปขอธูปเทียนกับเณรที่อยู่ห้องข้างล่าง

    แล้วก็ไปเด็ดดอกไม้ขึ้นมา มาถึงก็มากราบ แกก็ไหว้พระ อรหัง สัมมาสัมพุทโธ ว่านะโมพุทธังอะไรของแกไป มือหลวงพ่อนี่มันล้วงเข้าไปในย่ามยังกับสปริง เอามายื่นให้ หมอนั่นตบอกผาง "พระแบบนี้ก็มีด้วย ทำไมร่ำรวยมากนักหรือจึงให้" "ไม่ใช่ร่ำรวย แต่ของพวกนี้มันเป็นของไม่แน่นอน คุณมาดูแล้วคุณว่าของแท้ของจริงแต่คนหลังมาดูเขาอาจจะว่าไม่ใช่ของแท้ของจริง หลวงพ่อก็กลายเป็นพระโกหกต้มคน เพราะฉะนั้น จะแท้จะจริงจะเทียมก็ตาม คุณได้ฟรีๆ โดยไม่เสียสะตุ้งสตางค์ ฉันไม่เสียหาย"


    พระแก้วที่บ้าน

    ญาติโยมทั่วไปเห็นพระเห็นสงฆ์ก็มีศรัทธาเลื่อมใส เพราะเชื่อว่าพระสงฆ์เป็นผู้ทรงศีลทรงธรรม พากันแห่ไปทำบุญทำกุศล ให้ทานถวายจตุปัจจัยไทยทานตามมีตามเกิด เพราะเราเชื่อว่าจะเป็นบุญเป็นกุศล นี่เป็นการทำบุญกับพระที่เป็นพระสงฆ์ เป็นเนื้อนาบุญของโลก

    ทีนี้เนื้อนาบุญของเรานั่งอยู่ข้างๆ เราก็มีอยู่ ที่บ้านก็มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นเนื้อนาบุญของบุตรของหลาน และปู่ย่าตายายพ่อแม่ก็เป็น พระแต่ละองค์ๆ ถ้าญาติโยมไปที่อุบลฯ ไปกราบหลวงพ่อมี ท่านจะถามว่ารู้จักพระแก้วไหม ถ้าใครบอกว่าไม่รู้จัก ท่านจะบอกว่าทำไมโง่แท้ ถามหาพระแก้วรู้จักไหม ไม่รู้จัก ทำไมโง่แท้ ทีนี้ท่านก็จะบอกว่า พระแก้วก็คือ พ่อแก้วแม่แก้ว ตาแก้วยายแก้ว ปู่แก้วย่าแก้ว ท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นพระแก้วของลูกของหลาน ที่ว่าเป็นพระแก้วก็เพราะว่าไม่มีใครจะปรารถนาดีต่อบุตรหลานของตนเองเหมือนปู่ย่า ตายาย พ่อแม่

    พวกญาติโยมทำงานหามรุ่งหามค่ำแสวงหาทรัพย์สมบัติผลประโยชน์ก็เพื่อลูกเพื่อเต้า เพื่อลูกเพื่อหลาน บางคนถึงกับบ่นเช้าบ่นเย็น ลูกคนนั้นลูกคนนี้มันยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝา ยังไม่มีครอบมีครัว ถ้ามีลูกสาวหล่า (ลูกสาวคนสุดท้อง) หัวแก้วหัวแหวน พ่อแม่ก็บ่นอยู่เสมอว่า อีนางมันแต่งงานแล้วมีลูกมีผัวเป็นฝั่งเป็นฝามันมีความสุขสบายดีแล้วกูก็นอนตาหลับ แน้...ผู้เฒ่าบ่นอย่างนี้เด้...สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแต่น้ำใจของพ่อของแม่ทั้งนั้น

    ดังนั้น การทำบุญ เมื่อไม่มีโอกาสไปทำบุญกับวัดกับวา กับพระกับสงฆ์ ทำบุญกับพ่อแม่ปู่ย่าตายายของตนเอง มาตาปิตุอุปัฏฐานัง การอุปัฏฐากเลี้ยงดูบิดามารดา เอตัมมังคะละมุตตะมัง เป็นมงคลอันสูงสุด เป็นอันดับแรกด้วยในมงคลสูตร ท่านเทศน์ไว้อย่างนั้นแล้วก็เป็นอันดับแรก สำหรับพระสงฆ์ยังไปอยู่ปลายๆ โน้น แสดงว่าความสำคัญนี่คือพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เป็นพระอันดับหนึ่งหรือองค์ที่หนึ่งของลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อแม่เป็นผู้ให้เกิด เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้ให้วิชาความรู้ เป็นผู้ให้ทรัพย์สมบัติ เป็นผู้ให้น้ำจิตน้ำใจทุกอย่างแก่ลูกของตน

    เพราะฉะนั้นใครยังมีพ่อแม่อยู่ รีบอุปถัมภ์อุปัฏฐาก รีบทำบุญกับท่าน อย่าไปปล่อยให้ท่านลำบาก อย่างบางทีเราอาจจะศรัทธาในพระเจ้าพระสงฆ์ มีของดีๆ ขนไปให้พระเจ้าพระสงฆ์ฉันหมด แต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายปล่อยให้อด ก่อนอื่นนี่ต้องนึกถึงพ่อถึงแม่เสียก่อน ของดีๆ จะไปใส่บาตร เอ้อ...ส่วนนี้จะให้พ่อแม่รับประทาน ส่วนนี้จะใส่บาตรให้พระ หรือถ้าหากจะคิดว่าส่วนนี้จะใส่บาตร ส่วนนี้จะเอาเหลือให้พ่อแม่ อะไรทำนองนั้น

    พระเจ้าพระสงฆ์นี่กับพ่อกับแม่มีค่าเท่ากัน เราจะได้มาพบหน้าพระเจ้าพระสงฆ์ก็เพราะพ่อแม่ให้เกิด เราจะรู้จักพระเจ้าพระสงฆ์ก็เพราะพ่อแม่สั่งสอน เราจะรู้จักทำบุญสุนทานก็เพราะพ่อแม่เป็นผู้สอนเป็นผู้พาทำ ดังนั้น พ่อแม่จึงเป็นครู นอกจากจะเป็นครูแล้วยังเป็นพระพรหม เขาเขียนรูปพระพรหมไว้ ๔ หน้า เขาเขียนโกหก ความจริงพระพรหมไม่มี ๔ หน้า ๔ ตาอะไรหรอก มีหน้าเดียวเหมือนมนุษย์นี่ แต่ว่าพระพรหมท่านมีคุณธรรม ๔ อย่าง คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ท่านก็เลยเขียนปริศนาเอาไว้เป็นรูปพระพรหม ๔ หน้า ดังนั้น พ่อแม่ของเราก็เป็นพระพรหมเหมือนกัน พรหมา ติ มาตาปิตะโส บิดามารดาชื่อว่าเป็นพรหมของลูก เพราะบิดามารดาเป็นผู้มีเมตตาต่อลูก กรุณาสงสารลูก มุทิตาพลอยยินดีเมื่อลูกได้ดี อุเบกขาเบาใจได้นอนตาหลับเพราะลูกของตนมีหลักมีแหล่งช่วยตัวเองได้แล้ว อันนี้คือคุณธรรมที่มีในน้ำจิตน้ำใจของพ่อของแม่

    ดังนั้น ใครจะทำบุญสุนทาน ใครจะทำอะไร ใครจะให้อะไรแก่ใคร ควรจะคิดถึงพ่อถึงแม่เป็นอันดับหนึ่ง อย่าปล่อยให้พ่อแม่ต้องลำบากยากเข็ญ ไปทำบุญแต่ที่อื่นไม่รู้จักทำบุญกับพ่อกับแม่ก็ไม่มีความหมายเพราะเราเป็นผู้แล้งน้ำใจต่อพ่อต่อแม่ ขาดความกตัญญูกตเวที ความกตัญญูกตเวทีเป็นคุณธรรมที่เป็นพื้นฐานให้เกิดคุณงามความดี คนที่จะรู้จักว่าผู้อื่นดีได้ก็ต้องรู้จักว่าพ่อแม่ตัวเองดีกว่าใครทั้งหมด พ่อแม่ถึงจะเป็นขี้เหล้าเมายาเล่นการพนันเป็นนักเลงโต ศักดิ์ศรีของความเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยังมีอยู่โดยสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่อง


    :b8: :b8: :b8:

    • ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อพุธ ฐานิโย”
    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=50583

    • รวมคำสอน “หลวงพ่อพุธ ฐานิโย”
    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=40915

    • ประมวลภาพ “หลวงพ่อพุธ ฐานิโย” วัดป่าสาลวัน
    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=28489

    .....................................................
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


    แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
    กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

    เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


     ผู้ใช้งานขณะนี้

    ่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


    ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
    ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
    ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
    ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
    ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

    ค้นหาสำหรับ:
    ไปที่:  
    Google
    ทั่วไป เว็บธรรมจักร