วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 16:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:04 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระวินัยกับกฎหมายบ้านเมือง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:04 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระดูทีวี ซื้อล็อตเตอรี่ ซื้อหวย ผิดไหม

พระดูทีวี ผิดไหม ... ผิด ถ้าหากว่ามันเกินไป มันก็ผิด อะไรมันก็ต้องมีกฎเกณฑ์ มีความพอดีพองามของมัน ถ้าดูข่าว ดูบท ธรรมะอะไรอย่างนี้ มันก็ไม่เป็นไร

แต่ถ้าหากว่าผู้มีจิตใจมั่นคงจริงๆ แล้ว ดูอะไรก็ดูได้ จะดู สาวสวยๆ ให้มันเป็นโครงกระดูกไปก็ได้ ที่ท่านห้ามน่ะ ห้ามบุคคล ผู้ที่จิตใจไม่มีภูมิจิตภูมิธรรมอะไร แต่ท่านก็ห้ามไว้หมดไม่มียกเว้น ทีนี้ถ้าหากว่าผู้มีภูมิจิตภูมิธรรมกันจริงๆ นี่ ถ้าไม่ดูได้ เป็นดี

ที่วินัยท่านห้ามเอาไว้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้มันเกินไป อะไร ที่มันทำเกินเลยกันไป ก็เข้าข่ายที่เสียหาย

เคยมีพระในคณะธรรมยุต ซื้อลอตเตอรี่ถูกรางวัลที่ ๑ เจ้าคณะบอกให้สึก แต่ท่านก็บอกอย่างนุ่มนวล
“ท่านรวยเป็นเศรษฐีแล้ว ออกไปหาความสุขในทางโลกเสีย” ท่านว่า แต่แท้ที่จริงเขาไล่ให้สึก

ถ้าพูดไปตามกฎเกณฑ์ของคณะสงฆ์ มันเป็น
อเนสนา ล็อตเตอรี่ ก็คือการพนัน พนันที่ไม่ผิดกฎหมาย ต้องอาบัติทุกกฏ กฎเกณฑ์ของพระ ยินดีในปัจจัย ๔ ตามที่ญาติโยมศรัทธา ตามมีตาม เกิด ถ้าไปแสวงหาอะไรที่มันเกินกฎเกณฑ์นี้ มันก็เป็นอเนสนา

...แต่ไปซื้อหวยนี่ล่อแหลมต่ออันตราย เพราะหวยผิดกฎหมาย พระไปทำผิดกฎหมายเป็นพระได้อย่างไร สำหรับหวยเบอร์ นี่ คนขายก็ผิด คนซื้อก็ผิด พระไปซื้อหวยเบอร์จะเป็นอาบัติอะไร เวลาถูกปรับ ก็ปรับตั้งแต่ ๑ บาทขึ้นไป แต่พระท่านก็ยังทำกันอยู่


••••••••••••
:b8: :b8: :b8:
>> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=90&t=58244


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:04 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระต้องอาบัติปาราชิก บรรลุมรรคผลได้หรือไม่

การบวชนี่ สิ่งที่เราจะต้องระมัดระวัง ก็คือ อกรณียกิจ ๔ : เสพเมถุน ลักของเขา ฆ่ามนุษย์ให้ตาย พูดอวดอุตริมนุสสธรรมที่ไม่มีในตน อันนี้ถ้าพลาดเข้าแล้วขาดจากความเป็นพระภิกษุ หมายถึง ต้องอาบัติปาราชิก ในเมื่อขาดจากความเป็นพระภิกษุเพราะวินัย ๔ ข้อนี้ ในชั่วชีวิตนี้ เราจะอุปสมบทหรือจะอยู่เป็นพระต่อไปอีกไม่ได้ ก็ต้องลาเพศไปเป็นคฤหัสถ์

ในเมื่อลาเพศไปเป็นคฤหัสถ์ ไปสมาทานศีล ๕ ไหว้พระสวดมนต์ เจริญสมาธิภาวนา
ถ้าผู้มีบารมี สามารถสำเร็จได้ถึงพระอนาคามี แต่ถ้าหากยังเป็นพระอยู่นี่ ปิดทางมรรคผลนิพพาน ถ้าสละเพศบรรพชิตแล้วไปเป็นคฤหัสถ์ หรือบวชเป็นดาบส บวชเป็นสามเณร ก็สามารถปฏิบัติให้เกิดคุณธรรมขึ้นมาได้


••••••••••••
:b8: :b8: :b8:
>> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=90&t=58245


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:05 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธศาสนาสำเร็จมาด้วยบุญบารมีของมหาบุรุษ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:05 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สัจธรรมไม่เสื่อมสูญ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:05 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ช่วยกันรักษาวงศ์สกุลพระพุทธศาสนา

ในทางศาสนา พระพุทธเจ้าเคยเทศน์เอาไว้ว่า ศาสนาของเราตถาคตจะเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงสืบไปก็อาศัยพุทธบริษัท ๔ คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ยังเป็นผู้สนใจศึกษาธรรมวินัย อันเป็นคำสั่งสอน แล้วก็น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติ ฝึกหัดดัดกาย วาจา ใจ ของตน ให้เป็นไปตามระเบียบแห่งพระธรรมวินัยนั้นๆ โดยไม่ขาดตกบกพร่อง ศาสนาของเราตถาคตก็จะเจริญรุ่งเรือง อย่าว่าแต่ ๕,๐๐๐ ปี ถ้าหากมีพุทธบริษัทปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ตราบใด ศาสนาของเราตถาคตก็จะเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงอยู่ตราบนั้น ดังนั้น ความเสื่อมความเจริญของศาสนาของเราตถาคต ก็ขึ้นอยู่กับพุทธบริษัท ๔ ไม่มีใครจะมาทำให้ศาสนาของเราเสื่อมได้นอกจากพวกเราเอง

อันนี้ก็แสดงว่าพุทธบริษัทก็เป็นลูกตระกูลหนึ่ง เป็นลูกในตระกูลพระพุทธศานา ดังนั้น พระพุทธศาสนาจะเสื่อมหรือเจริญ ก็อยู่ที่พวกเราซึ่งเป็นกุลบุตรกุลธิดาในตระกูลของพระพุทธเจ้า

สมณะศากยบุตร เราบวชเป็นสมณะ เป็นบุตรของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นพระบิดาของเรา เวลานี้องค์พระพุทธเจ้าที่เป็นเนื้อหนังไม่ปรากฏแก่เรา แต่คำสอนของพระองค์ยังปรากฏอยู่ ครบถ้วนบริบูรณ์ ธรรมวินัยยังบริบูรณ์ ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ก็บริบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง หลักและวิธีการเจริญสมาธิภาวนา เพื่อให้สำเร็จมรรคผลนิพพานก็ยังมียังสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่อง

เพราะฉะนั้น แม้ว่าเราจะอยู่เป็นนักบวชก็ตาม สึกไปเป็นคฤหัสถ์แล้วก็ตาม ขอให้ยึดมั่นถือมั่นในการเจริญพุทธคุณ ธัมมคุณ สังฆคุณ คือ สวดอิติปิโส สวากขาโต สุปฏิปันโน แล้วก็เจริญเมตตาพรหมวิหาร เสร็จแล้วแผ่ส่วนกุศลให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ให้เป็นผู้มีส่วนแห่งบุญกุศลที่เราได้ทำแล้ว เป็นการผูกมิตรไมตรีกับสัตว์ที่อยู่ในโลกวิญญาณ ภูตผีปีศาจ ถ้าเราดีกับเขา เขาก็ดีกับเรา ถ้าเราร้ายต่อเขา เขาก็ร้ายต่อเรา

สักขีพยานที่ปรากฏในคัมภีร์ มีพระภิกษุกลุ่มหนึ่งจำนวน ๓๐ รูป ไปบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่า ภายในป่านั้นมีภูตผีปีศาจดุร้าย พอตกเวลาค่ำคืน ภูตผีปีศาจมันก็ออกมาหลอกมาหลอน แสดงหน้าตาให้น่าเกลียดน่ากลัว ส่งกลิ่นเหม็นไปตลบบริเวณ จนพระทนไม่ไหว ก็ไปกราบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าท่านทรงทราบ ท่านก็สอนให้พระภิกษุเจริญบทพุทธคุณ คือ อิติปิโส บทธัมมคุณ คือ สวากขาโต บทสังฆคุณ คือ สุปฏิปันโน แล้วให้เจริญเมตตาพรหมวิหาร

เสร็จแล้วก็น้อมจิตน้อมใจ อุทิศส่วนกุศลให้บิดามารดา ปู่ย่าตายาย ตลอดจนสัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญแห่งกุศลที่ข้าพเจ้าทำนี้ด้วยเทอญ

เวลาน้อมจิตน้อมใจนึก จะกล่าวเป็นคำพูดเบาๆ พอตัวเองได้ยิน


“ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญบุญกุศล ได้สวดมนต์ เจริญเมตตาพรหมวิหาร ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลอันนี้ให้แก่บิดามารดา ปู่ย่า ตายาย ตลอดสัตว์ทั้งหลายผู้เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ตลอดทั้งเจ้ากรรมนายเวร จงอนุโมทนาบุญกุศลที่ข้าพเจ้าให้แล้วนี้ด้วยเทอญ”

อันนี้เป็นหลักปฏิบัติที่เป็นจุดยืนของชาวพุทธ ใครจะมีคาถาอาคมหรือบทสวดอะไร เช่น ชินบัญชร เป็นต้น ก่อนอื่นให้ตั้งใจสวดบทดังที่กล่าวมานี้จบไปก่อน แล้วจึงค่อยสวดบทอื่นๆ ถ้าเราสวดบทดังกล่าวนี้เป็นประจำทุกวันๆ บทอื่นไม่ต้องสวดก็ไม่มีปัญหาอะไร


••••••••••••
:b8: :b8: :b8:
>> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=90&t=64071


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:06 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่ากลัวติดดี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:06 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เด็กๆ อยากเรียนเก่ง ให้เอาอย่างหลวงตา

สมัยที่หลวงพ่อเรียนหนังสืออยู่ที่วัดสระปทุม (วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร) ที่กรุงเทพฯ เวลาเข้าห้องเรียน สายตามองจ้องอาจารย์ผู้สอน ส่งใจไปรวมไว้ที่ตัวอาจารย์ เอาไปเอามา มันเกิดมีสมาธิขึ้นมาได้ ที่ว่ามีสมาธิก็เพราะว่า ในตอนแรกๆ สายตาและใจของเราจ้องอยู่ที่ตัวอาจารย์ ภายหลัง มันย้อนมาเตรียมพร้อมอยู่ที่ตัวเราเอง พอมาตอนนี้ อาจารย์อธิบาย อะไรให้ฟัง พอท่านหยุดหายใจ เราสามารถรู้ล่วงหน้าว่า ต่อไป อาจารย์จะพูดอะไร เวลาไปสอบ อ่านคำถามจบ ใจมันว่างลงนิดหนึ่ง คำตอบก็ผุดขึ้นมาโดยไม่ต้องคิด ก่อนหน้าจะไปสอบ มันรู้ข้อสอบล่วงหน้าหมด

ภายหลังมาคิดว่า เอ๊ะ ! มันเป็นได้แต่เราคนเดียวหรือ ก็พอดีมีหลานสาวคนหนึ่งจะไปเรียนมหาวิทยาลัย แม่เขาพากันมา ก็บอกว่า


“หลานจะเรียนมหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติสมาธิด้วย”

เขาก็ขัดแย้งว่า “ตาจะให้ไปเรียนแล้วจะให้ปฏิบัติสมาธิด้วย ให้หนูเอาเวลาไหนไปเรียน”

“เอาเวลาเรียนนั่นแหละปฏิบัติสมาธิ”

ก็แนะนำให้มองจ้องอาจารย์ ส่งจิตไปรวมไว้ที่ตัวอาจารย์ เขาก็ได้ผลดีเป็นที่พอใจ แล้วเด็กคนนี้รู้ข้อสอบล่วงหน้าหมด ระดับ ปริญญาตรีก็ได้เกียรตินิยม ปริญญาโทก็เกียรตินิยม เวลานี้ไปทำปริญญาเอกอยู่อเมริกา

ไปอยู่โน่นยังโทรศัพท์ข้ามทวีปมา

“ตา ! หนูรู้ข้อสอบล่วงหน้าอีกแล้ว พวกเพื่อนฝรั่งเขากำลังสนใจสมาธิกัน”

“เออ ! เขาสนใจก็สอนให้เขาด้วย”

นักเรียน เอาการเรียนเป็นอารมณ์จิตในการภาวนา

นักทำงาน เอางานเป็นอารมณ์จิตในการภาวนา

นักคิดนักวางแผน เอาการคิด การวางแผน เป็นอารมณ์จิตในการภาวนา


••••••••••••
:b8: :b8: :b8:
>> http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=90&t=58247


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:06 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฏิบัติธรรมที่บ้านก็ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:06 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


การปฏิบัติสมาธิเพื่อชีวิตประจำวัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:07 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช้บริกรรม พุทโธ ได้ไหม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:07 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปฏิบัติสมาธิได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:07 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตมีอำนาจเหนือกาย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:07 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิต-สติ-ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 พ.ย. 2019, 07:08 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2374

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตมีลักษณะเช่นใด


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 3 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร