วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 03:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 20:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2009, 16:28
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


คือผมเป็นคนนึงที่อยากทำสมาธิโดยการนั่งที่บ้าน แต่ว่าเห็นมีคนบอกว่าการนั่งสมาธิคนเดียวอาจทำให้จิตหลุดได้ หรือ ว่าไม่กลับมา (ตายนั่นเอง)
ผมจึงอยากถามผู้รู้ว่าควรทำอย่างไรดี แล้วมันจริงหรือไม่ที่จิตหลุดแล้วอาจกลับมาไม่ได้ เคยได้ยินมาหลายคนเหมือนกันนะครับที่ว่าต้องมีคนมาเรียกถึงจะกลับ แล้วถ้าผมไม่มีใครมาเรียกล่ะ - -*

แล้ววิธีนั่งสมาธิที่ถูกต้องต้องทำอย่างไร :b20: :b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 เม.ย. 2009, 13:18
โพสต์: 70

อายุ: 0
ที่อยู่: ลาดพร้าว

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ :b8: :b8:
ในสิ่งที่คุณคิดจะทำเป็นสิ่งที่ดีแล้วอย่ากลัวไปเลยค่ะ จิตไม่หลุดง่ายขนาดนั้นหรอกจ้ะ
ที่สำคัญคือ ทำจิตใจให้นิ่ง ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ก่อนแล้วจะพบว่ารู้อย่างนี้มานั่งสมาธิตั้งนานแล้วก็ดี

วิธีนั่งสมาธิลองหาอ่านได้ในบอร์ดนี้ก็มีค่ะ ค่อยๆหาดูนะคะ
ของเราที่จะทำให้นั่งได้นานๆ หลังสวดมนต์เสร็จแล้ว
ก่อนนั่งสมาธิ เราจะหายใจเข้าลึกๆจนแทบขาดใจ และหายใจออกยาวๆจนแทบขาดใจ รวมทั้งหมด 3 ครั้ง เพื่อให้ลมจากกายยาบออกมาเสียก่อน
จากนั้นก็นั่งได้ยาวเลย ลองดูนะคะ :b12:

.....................................................
ตามความคิดเห็นส่วนตัวของเรา

หากเราเปรียบเจ้ากรรมนายเวรของเราเป็นเจ้าหนี้
เราคือ ลูกหนี้ที่มีสิทธิ์โดนทวงได้ทุกเวลา
การทำบุญ ถวายสังฆฑาน ปล่อยชีวิตสัตว์ หรือการทำทาน เป็นเพียงการใช้ดอกเบี้ย
การทำสมาธิแล้วสื่อจิตถึงเจ้ากรรมนายเวรและขออโหสิกรรมนั้น เป็นการใช้เงินต้นที่เราได้ติดเขานั่นเอง


ลองดูสิว่าถ้ากลับกันตัวคุณเป็นเจ้าหนี้ คุณอยากให้ลูกหนี้ใช้หนี้คุณแบบไหนกันล่ะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ค. 2009, 22:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีทำสมาธิในขณะที่กำลังนั่งมีหลายวิธี แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแบบไหน แม้แต่การฝึกเจริญสติดูลมหายใจเข้าออกขณะที่กำลังนั่ง หรือจะใช้พุทโธ ตลอดจนคำบริกรรมภาวนาต่างๆ

หรือ แม้กระทั่ง การฝึกเจริญสติเหมือนกัน แต่มาดูที่กายแทน คือ เมื่อหายใจเข้า ท้องจะพอง เมื่อหายใจออก ท้องจะแฟ่บ เราก็นั่งหลับตา เอาจิตสัมผัสอาการของกายคือ ท้องที่พองขึ้น ยุบลง นี่ก็ได้ทั้งสมาธิ ได้ทั้ง สติ สัมปชัญญะ

หรือ ถ้าเป็นคนชอบคิดฟุ้งซ่านอยู่บ่อยๆ ก็อาจใช้คำบริกรรมภาวนาเข้าช่วย เช่น จับตามอาการของกายคือท้องพองยุบตามลมหายใจเข้าออกแบเดิม เพียงแต่ใช้คำภาวนาตามอาการท้องพองยุบลงไป เช่น หายใจเข้าท้องจะพองก็กำหนดว่า พองหนอ หายใจออก ท้องจะแฟ่บ กำหนด ยุบหนอ นี่ก็ทำให้เกิดสมาธิได้ พร้อมๆทั้งมีสติ สัมปชัญญะกำกับไปด้วย

เลือกดูค่ะ ว่าชอบแบบไหน :b1:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ละอายกรรม เขียน:
คือผมเป็นคนนึงที่อยากทำสมาธิโดยการนั่งที่บ้าน แต่ว่าเห็นมีคนบอกว่าการนั่งสมาธิคนเดียวอาจทำให้จิตหลุดได้ หรือ ว่าไม่กลับมา (ตายนั่นเอง)

1คนที่บอกเป็นคนดีหรือไม่(มีศีล มีธรรม หรือไม่)? ถ้าเป็นคนดีก็ต่อด้วยข้อ2
2สิ่งที่เขาบอกเป็นเรื่องที่เขาเจอมาเองหรือไม่? ถ้าเจอมาเองก็ปรึกษาเขาได้ครับ แต่ถ้าไม่ก็อย่าเพิ่งเชื่อ
ละอายกรรม เขียน:
ผมจึงอยากถามผู้รู้ว่าควรทำอย่างไรดี

ก็ลองทำดูก่อนครับ เอาแค่ให้มันไม่ต้องคิดอะไร ทำได้เดี๋ยวก็รู้เองครับ
ละอายกรรม เขียน:
แล้วมันจริงหรือไม่ที่จิตหลุดแล้วอาจกลับมาไม่ได้ เคยได้ยินมาหลายคนเหมือนกันนะครับที่ว่าต้องมีคนมาเรียกถึงจะกลับ แล้วถ้าผมไม่มีใครมาเรียกล่ะ - -*

ไม่รู้ครับ..เพราะยังไม่เคยหลุดซะที แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่นะครับ เพราะอาการที่บอกมานั้นน่าจะขาดสติ และคนที่ขาดสตินั้นจะเอาสมาธิมาจากไหน การฝึกสมาธิก็เหมือนฝึกการควบคุมจิต(สังขาร) เมื่อมีสามธิตั้งมั่นดีแล้วก็ควบคุมจิตได้แล้วมันจะหลุดไปไหน...

ละอายกรรม เขียน:
แล้ววิธีนั่งสมาธิที่ถูกต้องต้องทำอย่างไร :b20: :b20: :b20:

ปรึกษาท่านกรัชกายครับ... :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 14:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คือผมเป็นคนนึงที่อยากทำสมาธิโดยการนั่งที่บ้าน แต่ว่าเห็นมีคนบอกว่าการนั่งสมาธิคนเดียวอาจทำให้จิตหลุดได้ หรือ ว่าไม่กลับมา (ตายนั่นเอง)
ผมจึงอยากถามผู้รู้ว่าควรทำอย่างไรดี แล้วมันจริงหรือไม่ที่จิตหลุดแล้วอาจกลับมาไม่ได้ เคยได้ยินมาหลายคนเหมือนกันนะครับที่ว่าต้องมีคนมาเรียกถึงจะกลับ แล้วถ้าผมไม่มีใครมาเรียกล่ะ - -*

แล้ววิธีนั่งสมาธิที่ถูกต้องต้องทำอย่างไร


อนุโมทนาครับที่มีดำริจะทำสมาธิ :b8: ลองหาวันว่างไปที่นี่เลยครับ..
เขามีครูอาจารย์ดีๆมาสอนเป็นประจำ ชวนคุณแม่ไปด้วยนะครับ นี่จะเป็นมหากุศลทีเดียว

ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
ศูนย์ ๑ สำนักงานใหญ่ เพชรเกษม ๕๔
เลขที่ ๕๘/๘ ซ.เพชรเกษม ๕๔ แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐
โทรศัพท์ ๐-๒๘๐๕-๐๗๙๐-๔ โทรสาร ๐-๒๔๑๓-๓๑๓๑
อีเมล์ ybatoffice@ybat.org


http://www.ybat.org/contact_us.htm

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 14:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2009, 01:02
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

สวัสดีครับ อยู่แค่คืบตรงนี้เอง :b16: :b12: :b8:

เข้าไปศึกษาดู เลือกวีธีที่ตรงกับจริตตัวเอง แบบว่าสบาย ๆ น่ะครับ

http://www.dhammajak.net/dhammabox-2/4.html (รวมวิธีปฏิบัติสมาธิ)

พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) กล่าวถึงสมาธิบางส่วนไว้ว่า
:b43:

"...ลักษณะเด่นที่สุดของจิตที่เป็นสมาธิ ซึ่งสัมพันธ์กับความมุ่งหมายของสมาธิด้วย ก็คือ ความควรแก่งาน หรือความเหมาะสมแก่การใช้งาน และงานที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนาก็คือ งานทางปัญญา อันได้แก่การใช้จิตที่พร้อมดีเช่นนั้น เป็นสนามปฏิบัติการของปัญญา ในการพิจารณาสภาวธรรมให้เกิดความรู้แจ้งตามเป็นจริง และโดยนัยนี้จึงควรย้ำเพิ่มไว้อีกด้วยว่า สมาธิที่ถูกต้อง ไม่ใช่อาการที่จิตหมดความรู้สึก ปล่อยตัวตนเข้ารวมหายไปในอะไร ๆ แต่เป็นภาวะที่ใจสว่าง โล่ง โปร่ง หลุดออกจากสิ่งบดบัง บีบคั้น กั้นขวาง เป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง ตื่นอยู่ เบิกบาน พร้อมที่จะใช้ปัญญา..."

:b43:

ขออนุโมทนาในความประสงค์ที่จะนั่งสมาธิ เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
ราตรีของผู้ตื่นอยู่นาน...โยชน์ของผู้ล้าแล้วไกล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2009, 16:28
โพสต์: 14


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเป็นเจ้าของกระทู้นะครับ
คือผมจะมาบอกว่าวันนี้ผมได้ลองนั่งดูแล้วครับ โดยเป็นวิธีที่ตัวเองคิดขึ้น เพื่อที่จะนั่งได้นานอ่ะครับซึ่งได้ผลมากๆเลยมาบอกต่อ คือ ผมใช้วิธีการนับเอาครับ สมมุตินะครับ เวลาเรายังไม่นั่งลองหายใจเข้าแล้วออก แล้วดูว่าใช้เวลากี่วินาที สมมุติว่าได้ 3 วินาที เวลาเรานั่งก็นับ1ทั้งหายใจเข้าและออก พอครั้งต่อไปก็นับ 2 จะเห็นได้ว่าเราจะพอรู้ว่าเรานั่งไป 6 วินาทีแล้ว ยังงี้ครับ
นับยังงี้ครับ แต่พอเรานั่งไปเราก็จะสงบขึ้นแล้วหายใจเข้าออกใช้เวลานานกว่าเก่าครับ แต่ให้ถือว่าเวลาที่เรานั่งคำนวณจากที่เรากำหนดไว้ตอนแรก เพราะฉะนั้นเวลานั่งเสร็จเราจะได้นั่งนานกว่าที่กำหนดครับ สมมุติจะนั่ง 10 นาที เราก็นับเลขให้ถึง 200 ครับ :b12: :b12: :b12: :b12:


ปล.มีปัญหาอยู่ที่การนั่งของผมอย่างนึงคือ ผมนั่งแล้วขาชาอ่ะครับ ทั้ง 2 ข้างเลย สงสัยจะนั่งไม่ดี - -*
ใครมีวิธีดีดีก็ช่วยกันบอกด้วยนะครับ หรือว่าถ้านั่งหลายๆครั้งแล้วมันจะหายไปเองหว่า...

แต่มารู้สึกชาตอนนั่งเสร็จแล้วนะครับคือตอนนั้นก็รู้สึกแต่เราเพ่งไปที่ลมหายใจเลยลืมแต่พอเลิกแล้วยืนทีขาไม่มีแรงเลย สงสัยเลือดไม่ไปเลี้ยง- -*


แก้ไขล่าสุดโดย ละอายกรรม เมื่อ 12 พ.ค. 2009, 18:13, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 15:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
มีปัญหาอยู่ที่การนั่งของผมอย่างนึงคือ ผมนั่งแล้วขาชาอ่ะครับ ทั้ง 2 ข้างเลย สงสัยจะนั่งไม่ดี - -*
ใครมีวิธีดีดีก็ช่วยกันบอกด้วยนะครับ หรือว่าถ้านั่งหลายๆครั้งแล้วมันจะหายไปเองหว่า.


--ขาชาเป็นเวทนาที่เกิดขึ้นทางกายเราหรือเรียก "กายเวทนา" ให้กำหนดปวดหนอๆ หรือชาๆหนอ ตรงบริเวณที่ชาหรือปวดนั้น
อย่าเพิ่งไปเลิกนั่ง ให้นั่งจนเราคุ้นเคยกับมันนั่งต่อไปเรื่อยๆจนทนไม่ไหวจริงๆ ก็ใช้หลักการเดิมจากที่เคยนับเลข 1-200 ให้เปลี่ยนมาเป็นกำหนดปวดแทน หรือจะบอกว่า ปวดหนอ 1 ปวดหนอ 2 ......ไปจนถึงปวดหนอจนทนไม่ได้(ทนไม่ไหวแล้ว-จะได้รู้เวทนาในเวทนาบ้าง)ไม่รู้ปวดครั้งที่เท่าไรถึงค่อยเลิก หรือไม่ถ้ามันหายปวดไปเอง ก็ให้มาเริ่มนับลมหายใจ 1-200 ใหม่เหมือนเดิมก็ได้

-- ที่คุณทำอยู่เป็นแบบอานาปานสติแบบนับลบหายใจเข้า ออก ซึ่งจะนับเป็นรอบๆ 15 รอบของการหายใจจะประมาณ 1 นาที เมื่อทำบ่อยๆก็ไม่ต้องนับตัวเลขก็ได้ แต่ตอนนี้ก้ให้นับไปก่อนจะได้ไม่ลืม
(ควรจะหายใจยาวๆหน่อย สมาธิถึงจะดีขึ้น)

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 17:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: คุณละอายกรรม ชื่อเก๋มากนะคะ แค่ชื่อก็ดูเป็นกุศลแล้วนะคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ฝึกตามท่านๆแนะนำก็จะได้ไปเองนะคะ เคยเป็นแบบคุณเหมือนกันค่ะ
กว่าจะรู้แนวตัวเอง ทำเอาผู้แนะนำ :b5: :b5: กันเลยค่ะ เดี๋ยวนี้เริ่มได้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่คอยขวางการปฏิบัติ
:b32: ความขี้เกียจ :b32: ตัวนี้สำคัญมากเลยค่ะ
ใครมีวิธีขจัดตัวนี้ เอาแบบออกไปจากตัวเลยนะคะตอนนี้ก็ :b31: :b31: :b31: :b31: อยู่ค่ะ

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 พ.ค. 2009, 22:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3832

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ตามชื่อนี้ไปแล้วจะพบทางสว่างครับ

"หลวงพ่อพุธ ฐานิโย"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนานะครับ
ในการพยายามของคุณ

ถ้ากังวลกับการนั่งสมาธิ แนะนำให้ไปฝึกนั่งกับครูบาอาจารย์ก่อน เพื่อจะได้มีหลักพื้นฐานและกำลังใจ
สำหรับ แนวทางของแต่ละอาจารย์ก็แตกต่างกันไป จะเป็นสายพุทโธ ยุบหนอ พองหนอ หรืออาณาปาณสติ หรืออื่นๆ ก็ให้ลองฝึกว่าแนวทางไหนเหมาะกับจริตของตนครับ

ถ้ากังวลว่านั่งแล้วจิตหลุด ก่อนนั่งก็ขอให้อาราธนาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ที่ท่านเคารพ มาช่วยคุ้มครอง จะช่วยเพิ่มกำลังใจให้นะครับ

ถ้าท่านสนใจจะปฎิบัติ ก็ลองหาดูสถานปฎิบัติธรรมที่ท่านคิดว่าเหมาะสมกับท่าน
ลองศึกษาข้อมูลดูเอาเองนะครับ หรือจะไปที่คุณ -dd- แนะนำก็ได้

สำหรับผม ถนัด สายยุบหนอ พองหนอ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวันครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม www.jarun.org

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 12:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ความขี้เกียจ ตัวนี้สำคัญมากเลยค่ะ
ใครมีวิธีขจัดตัวนี้ เอาแบบออกไปจากตัวเลยนะคะ
:b39:

ต้องใช้การฝืนใจ กับ การตรงเวลา พอใกล้จะถึงเวลานั่งมักจะมีความขี้เกียจความสบายเข้าครอบงำบังตาให้ไม่อยากทำ จิตยังไม่เป็นสมาธิ มีอกุศลบดบังจิตในตอนก่อนปฏิบัติอยู่ แต่เมื่อต้องฝืนใจลองนั่งไปดู สักไม่เกิน5 นาทีแรก จิตจะเปลี่ยนเป็นกุศล มีสมาธิขึ้น ความรู้สึกที่ขี้เกียจจะหายไปแล้วรู้สึกปิติยินดีขึ้นมีกุศลเข้ามาแทนที่อกุศลในจิตใจ แล้วนั่งได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ :b41:

ส่วนการตรงเวลาก็คือตั้งเวลาไว้เลยว่า สี่ทุ่ม หรือห้าทุ่มตรงจะเริ่มนั่ง ถ้าจะ Late ก้อย่าให้เกินครึ่งชม.จากที่ตั้งใจไว้ แล้วเริ่มนั่ง เช่น K owan ตั้งใจไว้จะนั่ง15 นาที ก็ตั้งเวลาไว้อีก พอถึง 22.15 น.นาฬิกาดังก็เลิกนั่ง เท่านี้ครับ (ไม่รวมวันที่เราเหน็ดเหนื่อยมากๆ หรือวันที่ป่วยไข้ไม่สบายนะครับ เพราะยากที่จะฝืนใจทำได้ คงได้แค่เพียงสวดมนต์บทสั้นๆน่ะ)
:b44:

.....................................................
"มีสติเป็นเรือนจิต ใช้ชีวิตเป็นเรือนใจ ใช้ปัญญาเป็นแสงสว่างส่องทางเดินไปเถิด จะได้ล้ำเลิศในชีวิตของท่าน มีความหมายอย่างแท้จริง"
ในการปฏิบัติธรรม หลวงพ่อท่านบอกว่า ให้ตัดปลิโพธกังวลใจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ลูก สามี ภรรยา ความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง อย่าเอามาเป็นอารมณ์ จากหนังสือ: เจริญกรรมฐาน7วันได้ผลแน่นอน หัวข้อ12: ระงับเวรด้วยการแผ่เมตตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 พ.ย. 2008, 17:20
โพสต์: 1051

งานอดิเรก: อ่านหนังสือธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: Bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: จะพยายามทำให้ได้เหมือนคุณอินทรีย์ 5 แนะนำนะคะ... แบบว่าพอทานข้าวเย็น...
ดูโทรทัศน์...เพลินๆ แล้วเลยขี้เกียจ :b9: กระทันหันเลยค่ะ จะพยายามค่ะ :b8: :b8:

.....................................................
    มีสิ่งใด น่าโกรธ อย่าโทษเขา.... ต้องโทษเรา ที่ใจ ไม่เข้มแข็ง
    เรื่องน่าโกรธ แม้ว่า จะมาแรง ....ถ้าใจแข็ง เหนือกว่า ชนะมัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 18:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คัมภีร์ปฏิสัมภิทามัคค์ แสดงอกุศลธรรมฝ่ายตรงข้าม ที่อินทรีย์ ๕ จะกำจัดเป็นคู่ๆ ดังนี้

๑. ศรัทธา เป็นใหญ่ในหน้าที่น้อมใจดิ่งหรือมุ่งไปเด็ดเดี่ยวๆ กำจัดอกุศล คือ ความไม่เชื่อถือ
๒. วิริยะ เป็นใหญ่ในหน้าที่ประคอง หรือ คอยยกจิตไว้ กำจัดอกุศล คือ ความเกียจคร้าน
๓. สติ เป็นใหญ่ในหน้าที่คอยคุ้ม หรือ ดูแลจิต กำจัดอกุศล คือ ความประมาท
๔. สมาธิ เป็นใหญ่ในหน้าที่ทำจิตไม่ให้ซัดส่าย กำจัดอกุศล คือ ความฟุ้งซ่าน (อุทธัจจะ)
๕. ปัญญา เป็นใหญ่ในหน้าที่ดูเห็นตามสภาวะ กำจัดอกุศลคืออวิชชา (ความไม่รู้ตามสภาวะ)


คุณ O.wan สังเกต ข้อ ๒ ท่านว่า วิริยะ กำจัดอกุศลธรรม คือ ความขี้เกียจ
เมื่อต้องการเจริญวิริยะเพื่อกำจัดความเกียจคร้านก็ต้องเดินจงกรม และรวมถึงการตามดูรู้ทันอิริยาบถย่อย
อื่นๆ ด้วย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 พ.ค. 2009, 18:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


และมิใช่มีเพียงคุณเท่านั้นที่เกิดอาการเช่นว่านั้น ถมเถครับ เอามาให้ดูพอเป็นกระษัยสักรายหนึ่งก็ได้


สวัสดีค่ะทุกท่าน
ขอคำแนะนำในการสลัดความขี้เกียจหน่อยค่ะ
ปกติสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนค่ะ แต่บางวันขี้เกียจมากๆเลย บางทีก็ง่วงด้วยค่ะ
เลยเว้นไป แบบว่าขอติดไว้ก่อน
รบกวนขอเทคนิค แนวคิดต่างๆเพื่อที่จะสลัดเจ้าตัวนี้ออกไปหน่อยค่ะ

นำมาจาก
http://larndham.net/index.php?showtopic=34119

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร