วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 03:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=8



กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2009, 03:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12
โพสต์: 1067


 ข้อมูลส่วนตัว




sang_05.jpg
sang_05.jpg [ 17.95 KiB | เปิดดู 8501 ครั้ง ]
สิ่งเล็กๆ.....ที่เรามองข้าม

คัดลอกจาก/กวีนิรนาม

:b47: We ourselves fell that what we are
doing is just a drop in the ocean.
But the ocean would be less
be cause of that missing drop.

:b47: ถ้าเรารู้สึกว่าสิ่งที่ทำลงไปเป็น
เหมือนกับเพียงน้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทร
แต่มหาสมุทร คงจะมีน้ำน้อยลง
ถ้าขาดหยดนั้นไป…

มีที่เดียวที่คำว่า"Success"
มาก่อน"Work"
คือในปทานุกรมเท่านั้น

:b47: ในวันที่คุณไม่มีความสุข
ขออย่ามัวคิดจะหาความสุข
มาให้ตัวเองได้อย่างไร
แต่จงแบ่งปันความสุขให้แก่คนอื่น
การแบ่งปันความสุขออกไปนั่นแหละ
จะทำให้คุณได้รับความสุขกลับมา
อย่างแน่นอน

:b47: Intelligence is when you find
a mistake in your boss's work
Wisdom is when you think about it
and decide not to mention it.

:b47: ความรอบรู้ก็คือ เมื่อคุณได้พบ
ข้อผิดพลาดในงานของหัวหน้า
สติปัญญาก็คือ เมื่อคุณคิดถึงเรื่องนี้
แล้วก็ตัดสินใจไม่เอ่ยถึงมัน


:b47: Most people enjoy the
inferiority of their friends.

:b47: ผู้คนส่วนใหญ่มีความสุข
กับความต่ำต้อยของมิตรสหาย

:b47: ก่อนเซ็นชื่อในเอกสารใด ๆ
พึงจำไว้ว่า ข้อความตัวโต ๆ นั้น
คือผลประโยชน์ที่เขาจะให้เรา
แต่ที่พิมพ์ไว้ตัวเล็ก ๆ นั่น
คือสิ่งที่เราจะต้องเสีย

:b47: เหลือทางถอยไว้ให้กับคนอื่น
เท่ากับเหลือทางถอยไว้ให้กับตัวเอง
เราไม่สามารถปรับทิศทางลมได้
แต่เราสามารถปรับใบเรือได้

:b47: คนเราเจ็บปวดครั้งแรก
พอที่จะโทษคนอื่นได้
แต่เจ็บปวดครั้งที่สอง
มีแต่ต้องโทษตัวเอง

:b47: บางสิ่งของชีวิตไม่จำเป็นต้องจำ
ถ้ามันทำให้เจ็บ
แต่บางสิ่งก็ควรจะเก็บ
ถ้ามันเป็นความเจ็บที่น่าจำ

:b47: ไม่มีคำว่าแพ้หากว่าเราได้เริ่ม
ไม่มีคำว่าอยู่ที่เดิมหากเราได้ค้นหา
ไม่มีคำว่าเป็นที่หนึ่งหากยังต้องพึ่งพา
ไม่มีคำว่าดีกว่าหากว่าเราไม่ตั้งใจ

.....................................................
...นฺตถิตัณหา สมานที...
ห้วงน้ำใหญ่โต เสมอด้วยตัณหาไม่มี
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มิ.ย. 2009, 23:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




4223c6f1250cd15b4b5d40bcf651c0fd_web.gif
4223c6f1250cd15b4b5d40bcf651c0fd_web.gif [ 154.77 KiB | เปิดดู 8984 ครั้ง ]
14 สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเรา

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ ตัวเราเอง
The most formidable enemy in ones life is oneself

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอวดดี
The biggest failure in ones life is self-important.

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกลวง
The unwiset act in ones life is deceit.

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอิจฉาริษยา
The most miserable act in ones life is jealousy.

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา คือ การยอมแพ้ตนเอง
The gravest mistake in ones life is self-abundonment.

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตของเรา คือ การหลอกตัวเอง
The most sinful act in ones life is self-deception.

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การถดถอยของตัวเอง
The most pitiful temperament in ones life is self-abasement.

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะวิริยะ
The most admirable spirit in one's life is perserverance.

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง
The most complete bankruptcy in one�s life is despair.

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิตเรา คือ สุขภาพที่สมบูรณ์
The greatest wealth in ones life is health.

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ หนี้บุญคุณ
The heaviest debt in ones life is a debt gratitide for others help.

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ การให้อภัยและความเมตตา
The groundest gift in ones life is forgiveness and kindness,

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา คือ

การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล
The biggest shortcoming in ones life is permissism on unreason.

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจมากที่สุด คือ การให้ทาน
The greatest gratification in ones life is alms giving

แหล่งที่มาจาก FW (teenee.com)

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2009, 15:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2009, 02:06
โพสต์: 811

อายุ: 0
ที่อยู่: มหานคร

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณที่นำธรรมะดีๆมาแบ่งปันกันครับ

:b8: :b1: :b8:

.....................................................
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1231579918.gif
1231579918.gif [ 97.05 KiB | เปิดดู 8385 ครั้ง ]
เวลาของชีวิตแต่ละคนสั้นนัก..
จงทำในสิ่งที่อยากซะ.. ก่อนจะสายไป!!!

มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยากจะแนะนำให้เพื่อนรู้จัก
เค้าอายุ 18 กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง...
มะเร็ง ระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถเยียวยารักษาให้หายได้อีกแล้ว
และก็พร้อมจะจากไปในทุกขณะ

เขาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมาตลอด มีคุณแม่เป็นผู้ดูแล
แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดเบื่อหน่ายชีวิตประจำวันอันจำเจซ้ำซาก
อยากจะออกไปนอกบ้านสักครั้ง

เมื่อ รับรู้ความในใจของบุตรชายเช่นนั้นแล้ว
ไหนเลยผู้เป็นมารดาจะไม่โอนอ่อนผ่อนตาม
เขาจึงมีโอกาสออกไปเดินเล่นละแวกบ้าน ผ่านร้านค้ามากมาย...
จวบจนพบร้านขายซีดีแห่งหนึ่ง เขาก็ต้องหยุดชะงัก

จ้อง มองเข้าไปในร้านแห่งนั้น..
ที่นั่นเขาได้เห็นเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง
และในทันใดชายหนุ่มก็แจ่มชัดอย่างยิ่งว่าเธอคือรักแรกพบของเขาที่อุบัติขึ้น
ณ บัดนั้น เขาเดินเข้าไปข้างในร้าน ขณะสายตาจับจ้องอยู่แต่เธอ
กระทั่งมาหยุดยื่ตรงหน้าเธอโดยไม่รู้ตัว

"จะให้ฉันช่วยอะไรได้บ้างคะ" เธอเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้ม
ช่างเป็นรอยยิ้มที่หวานที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัส
มันทำให้เขาอยากประทับริมฝีปากเธอในทันที

เขาตอบตะกุกตะกักออกไปว่า "เอ้อ ผมอยากได้ซีดีสักแผ่นครับ"
จากนั้นก็ทำทีหันไปเลือกซีดีได้แผ่นหนึ่ง
ก่อนจะกลับมาอยู่เบื้องหน้าเธออีกครั้งเพื่อชำระเงิน

"คุณอยากให้ฉันห่อกระดาษด้วยมั้ยคะ"
เธอ ถามพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ด้วยอีกหน เขาพยักหน้า
เธอจึงหันหลังไปจัดการให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม
กลับมาถึงบ้านเขาจัดการเก็บแผ่นซีดีไว้ในตู้
เพราะไม่ได้สนใจบทเพลงในแผ่นซีดีแม้แต่น้อย
สิ่งที่เขาสนใจก็คือคนขายนั่นต่างหาก

หลัง จากวันนั้นแล้ว
ชายหนุ่มก็แวะเวียนไปที่นั่นเป็นประจำทุกวัน ซื้อซีดีมาวันละแผ่นเสมอ
พร้อมกับอนุญาตให้หญิงสาวห่อกระดาษทุกครั้ง
รวมทั้งเมื่อกลับมาบ้านก็เก็บมันไว้ในตู้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา
เขารู้สึกขวยเขินที่จะชวนเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน
ทั้งๆที่เบื้องลึกนั้นปรารถนาเหลือเกิน แต่ก็...ไม่กล้าพอ

เมื่อคนเป็นแม่รับรู้ในเวลาต่อมา
ท่านก็คะยั้นคะยอให้ลูกชายทำตามใจปรารถนาของตน
รุ่งขึ้นเขาจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมด ไปยังร้านนั้นอีกครั้ง

ซื้อ ซีดีหนึ่งแผ่นเหมือนวันก่อนๆ และระหว่างที่เธอหันหลังให้นั้น
เขาก็ตัดสินใจทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของตนไว้บนโต๊ะก่อนวิ่งออกจากร้านไป

สองสามวันต่อมาคุณแม่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ จึงรับสาย
และพูดว่า "สวัสดีค่ะ" หญิงสาวในร้านขายซีดีนั่นเองที่เป็นผู้โทรมา

เมื่อสาวน้อยถามหาคนเป็นลูกชาย ผู้เป็นแม่ก็เริ่มร่ำไห้
แล้วบอกว่า "หนูคงไม่รู้หรอกว่า...เขาเพิ่งจากไปเมื่อวานนี้เอง"

ถัดจากนั้นเสียงจากคนถามก็คล้ายจะถูกปลิด
คงเหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นเบาๆของผู้เป็นแม่ ในวันนั้นเอง

ผู้เป็นแม่ก็เข้าไปในห้องของลูกชายเพื่อหวนระลึกถึงเขาอีกครั้ง...
เริ่มด้วยการสัมผัสเสื้อผ้าที่เขาเคยสวมใส่ และทันทีที่เปิดประตูตู้ ก็ต้องประหลาดใจ
เมื่อพบซีดีที่ยังห่อกระดาษไว้ กองอยู่เต็มไปหมด คุณแม่เลือกหยิบมาแผ่นหนึ่ง

นั่งลงบนเตียงและเริ่มแกะออกดู
ทันใดนั้นก็มีกระดาษเล็กๆแผ่นหนึ่งหล่นลงมา
คุณแม่หยิบมันขึ้นมาอ่าน

"สวัสดีค่ะ คุณดูน่ารักจังเลย คิดอยากออกไปเที่ยวกับฉันบ้างรึเปล่า"
กระทั่งเธอแกะซีดีแผ่นถัดๆมา ก็ยังพบกระดาษแผ่นเล็กๆ มีข้อความเช่นเดิม...

ไง.... อ่านแล้วรู้สึกดีๆกันมั่งมั้ย.....

อ่านแล้วคิดได้ว่า เวลาของชีวิตแต่ละคนสั้นนัก

เพราะฉะนั้น จงทำในสิ่งที่อยากซะ! ก่อนจะสายไป!!!

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลายฟ้า...ค่ะ เขียน:
เวลาของชีวิตแต่ละคนสั้นนัก..
จงทำในสิ่งที่อยากซะ.. ก่อนจะสายไป!!!

มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยากจะแนะนำให้เพื่อนรู้จัก
เค้าอายุ 18 กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง...
มะเร็ง ระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถเยียวยารักษาให้หายได้อีกแล้ว
และก็พร้อมจะจากไปในทุกขณะ

เขาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมาตลอด มีคุณแม่เป็นผู้ดูแล
แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดเบื่อหน่ายชีวิตประจำวันอันจำเจซ้ำซาก
อยากจะออกไปนอกบ้านสักครั้ง

เมื่อ รับรู้ความในใจของบุตรชายเช่นนั้นแล้ว
ไหนเลยผู้เป็นมารดาจะไม่โอนอ่อนผ่อนตาม
เขาจึงมีโอกาสออกไปเดินเล่นละแวกบ้าน ผ่านร้านค้ามากมาย...
จวบจนพบร้านขายซีดีแห่งหนึ่ง เขาก็ต้องหยุดชะงัก

จ้อง มองเข้าไปในร้านแห่งนั้น..
ที่นั่นเขาได้เห็นเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง
และในทันใดชายหนุ่มก็แจ่มชัดอย่างยิ่งว่าเธอคือรักแรกพบของเขาที่อุบัติขึ้น
ณ บัดนั้น เขาเดินเข้าไปข้างในร้าน ขณะสายตาจับจ้องอยู่แต่เธอ
กระทั่งมาหยุดยื่ตรงหน้าเธอโดยไม่รู้ตัว

"จะให้ฉันช่วยอะไรได้บ้างคะ" เธอเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้ม
ช่างเป็นรอยยิ้มที่หวานที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัส
มันทำให้เขาอยากประทับริมฝีปากเธอในทันที

เขาตอบตะกุกตะกักออกไปว่า "เอ้อ ผมอยากได้ซีดีสักแผ่นครับ"
จากนั้นก็ทำทีหันไปเลือกซีดีได้แผ่นหนึ่ง
ก่อนจะกลับมาอยู่เบื้องหน้าเธออีกครั้งเพื่อชำระเงิน

"คุณอยากให้ฉันห่อกระดาษด้วยมั้ยคะ"
เธอ ถามพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ด้วยอีกหน เขาพยักหน้า
เธอจึงหันหลังไปจัดการให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม
กลับมาถึงบ้านเขาจัดการเก็บแผ่นซีดีไว้ในตู้
เพราะไม่ได้สนใจบทเพลงในแผ่นซีดีแม้แต่น้อย
สิ่งที่เขาสนใจก็คือคนขายนั่นต่างหาก

หลัง จากวันนั้นแล้ว
ชายหนุ่มก็แวะเวียนไปที่นั่นเป็นประจำทุกวัน ซื้อซีดีมาวันละแผ่นเสมอ
พร้อมกับอนุญาตให้หญิงสาวห่อกระดาษทุกครั้ง
รวมทั้งเมื่อกลับมาบ้านก็เก็บมันไว้ในตู้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา
เขารู้สึกขวยเขินที่จะชวนเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน
ทั้งๆที่เบื้องลึกนั้นปรารถนาเหลือเกิน แต่ก็...ไม่กล้าพอ

เมื่อคนเป็นแม่รับรู้ในเวลาต่อมา
ท่านก็คะยั้นคะยอให้ลูกชายทำตามใจปรารถนาของตน
รุ่งขึ้นเขาจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมด ไปยังร้านนั้นอีกครั้ง

ซื้อ ซีดีหนึ่งแผ่นเหมือนวันก่อนๆ และระหว่างที่เธอหันหลังให้นั้น
เขาก็ตัดสินใจทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของตนไว้บนโต๊ะก่อนวิ่งออกจากร้านไป

สองสามวันต่อมาคุณแม่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ จึงรับสาย
และพูดว่า "สวัสดีค่ะ" หญิงสาวในร้านขายซีดีนั่นเองที่เป็นผู้โทรมา

เมื่อสาวน้อยถามหาคนเป็นลูกชาย ผู้เป็นแม่ก็เริ่มร่ำไห้
แล้วบอกว่า "หนูคงไม่รู้หรอกว่า...เขาเพิ่งจากไปเมื่อวานนี้เอง"

ถัดจากนั้นเสียงจากคนถามก็คล้ายจะถูกปลิด
คงเหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นเบาๆของผู้เป็นแม่ ในวันนั้นเอง

ผู้เป็นแม่ก็เข้าไปในห้องของลูกชายเพื่อหวนระลึกถึงเขาอีกครั้ง...
เริ่มด้วยการสัมผัสเสื้อผ้าที่เขาเคยสวมใส่ และทันทีที่เปิดประตูตู้ ก็ต้องประหลาดใจ
เมื่อพบซีดีที่ยังห่อกระดาษไว้ กองอยู่เต็มไปหมด คุณแม่เลือกหยิบมาแผ่นหนึ่ง

นั่งลงบนเตียงและเริ่มแกะออกดู
ทันใดนั้นก็มีกระดาษเล็กๆแผ่นหนึ่งหล่นลงมา
คุณแม่หยิบมันขึ้นมาอ่าน

"สวัสดีค่ะ คุณดูน่ารักจังเลย คิดอยากออกไปเที่ยวกับฉันบ้างรึเปล่า"
กระทั่งเธอแกะซีดีแผ่นถัดๆมา ก็ยังพบกระดาษแผ่นเล็กๆ มีข้อความเช่นเดิม...

ไง.... อ่านแล้วรู้สึกดีๆกันมั่งมั้ย.....

อ่านแล้วคิดได้ว่า เวลาของชีวิตแต่ละคนสั้นนัก

เพราะฉะนั้น จงทำในสิ่งที่อยากซะ! ก่อนจะสายไป!!!




อ่านแล้วเศร้าใจมากๆเลยค่ะ .. เฮ้อออ .. ชีวิตนี้ช่างไม่เที่ยงหนอ ..

แอบนั่งน้ำตาคลอ .. คือเป็นพวกเห็นอะไรเศร้าๆไม่ได้ค่ะ .. น้ำตาจะไหลโดยอัตโนมัติ :b24:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แอบนั่งน้ำตาคลอ .. คือเป็นพวกเห็นอะไรเศร้าๆไม่ได้ค่ะ .. น้ำตาจะไหลโดยอัตโนมัติ


กำหนดลงไปที่ความรู้สึกซี่คุณวลัยพร "เศร้าหนอๆๆ" "น้ำตาจะไหนหนอๆๆ" :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 20:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


:b26: :b26: :b2: :b2: :b2: :b2:

คนใจร้าย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:


คนใจร้าย


กัดซะกาย บอกทางสวรรค์ให้มาว่าใจร้าย :b1: จริงๆนะคุณ นี่เป็นวิธีปฏิบัติแนวสติปัฏฐาน คือ
การกำหนดรู้นามธรรมรูปธรรม ที่เกิดขึ้นแต่ละขณะๆ ตามเป็นจริง หรือ ตามที่มันเป็น ซึ่งกรัชกายเน้นย้ำประจำ เข้าใจหรือยัง

จะเล่าให้ฟัง ก่อนหน้า กรัชกายอ่านข้อความที่โยคีโพสต์ข้อความเล่าถึงการปฏิบัติกรรมฐานของเขาแล้ว
ขนลุกทั้งตัว
ในรายที่สภาวะเกิดแรง จำได้คนเชียงใหม่เล่าอาการของเค้า เราอ่านแล้วน้ำตาร่วงเลย เห็นภาพรับรู้เข้าใจ
ถึงความรู้สึกเขา

อารมณ์นี้ติดค้างมานานแล้วไม่หลุด อาจารย์เคยบอกว่า แม้ปีติก็ต้องละ เราก็เฝ้าปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ทุกขณะทุกครั้งที่เกิดอาการนั้น ที่หน้าคอม ฯ นี่แหละ ด้วยการกำหนดตามที่มัน (รูปนาม) เป็น เป็นยังไงกำหนดอย่างงั้น อย่าปิดบังอำพรางหลอกอารมณ์ตนเอง เดี๋ยวนี้อาการนั้นหายไปแล้วหมดไปแล้ว ถึงจะอ่านที่โยคีโพสต์มาก็รู้ แต่เราจะรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอาการตื่นใจเหมือนเมื่อก่อน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 12 มิ.ย. 2009, 21:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 21:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
อ่านแล้วเศร้าใจมากๆเลยค่ะ .. เฮ้อออ .. ชีวิตนี้ช่างไม่เที่ยงหนอ ..
แอบนั่งน้ำตาคลอ .. คือเป็นพวกเห็นอะไรเศร้าๆไม่ได้ค่ะ .. น้ำตาจะไหลโดยอัตโนมัติ :b24:

อย่าเศร้าไปเลย...วันนี้เรามีน้ำตาให้เค้าอย่างมีสติ....

วันข้างหน้า...ใครๆก็จะมีน้ำตาให้เราเหมือนกัน...

เกิดแก่เจ็บตาย...เป็นวัฎสงสาร...

ดีใจที่อ่าน...สาธุ สาธุ

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 13 มิ.ย. 2009, 00:01, แก้ไขแล้ว 7 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อย่าเศร้าไปเลย...วันนี้เรามีน้ำตาให้เค้าอย่างมีสติ....
วันข้างหน้า...ใครๆก็จะมีน้ำตาให้เราเหมือนกัน...



มีสติแล้วน้ำตาไม่ร่วงหรอก ขาดสติมากกว่า บอกแล้วว่า อย่าหลอกหรืออำพรางอารมณ์ความรู้สึกตนเอง
ให้กำหนดตามที่มันเป็น หลอกใครหลอกได้ แต่หลอกตนเองไม่ได้หรอกเชื่อกรัชกายเถอะ

เรารับรู้ถึงความทุกข์ของผู้อื่น ไม่จำเป็นจะต้องเสียน้ำตาก็ได้นี่ ช่วยการงานด้วยสติปัญญา

ที่แนะนำเพราะเห็นว่า ปฏิบัติกรรมฐานอยู่ จึงแนะทางออกให้ หากเป็นผู้อื่นซึ่งไม่ชอบเรื่องนี้กรัชกายจะไม่พูดถึงเลย
ดังนั้นก็คงเท่านี้แหละจะไม่พูดแล้วครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 22:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลายฟ้า...ค่ะ เขียน:
walaiporn เขียน:
อ่านแล้วเศร้าใจมากๆเลยค่ะ .. เฮ้อออ .. ชีวิตนี้ช่างไม่เที่ยงหนอ ..
แอบนั่งน้ำตาคลอ .. คือเป็นพวกเห็นอะไรเศร้าๆไม่ได้ค่ะ .. น้ำตาจะไหลโดยอัตโนมัติ :b24:

อย่าเศร้าไปเลย...วันนี้เรามีน้ำตาให้เค้าอย่างมีสติ....

วันข้างหน้า...ใครๆก็จะมีน้ำตาให้เราเหมือนกัน...

เกิดแก่เจ็บตาย...เป็นวัฎสงสาร...

ดีใจที่อ่าน...สาธุ สาธุ


ขอบคุณค่ะคุณปลายฟ้ากับความรู้สึกดีๆ :b8:

คำปลอบคุณปลายฟ้าต้องใช้กับผู้หญิงค่ะ .. น้ำไม่ค่อยจะเป็นผู้หญิงเท่าไรนักค่ะ :b9:

เอ่อ .. น้ำเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ .. อันนี้พูดความจริงค่ะ ..

ไม่ว่าจะดูหนัง .. อ่านหนังสือ .. ถ้าเศร้าๆล่ะก็ .. นั่งร้องไห้เลยค่ะ ..

ขนาดเพื่อนที่นั่งดูหนังด้วยกันยังร้องไห้ตาม .. ถามเขาว่าร้องทำไมน่ะ ..

เขาบอกว่าก็ช้านเห็นแกร้องนี่ .. ช้านก็เลยอินไปกับแกด้วย ..


สังเกตุได้ค่ะ .. น้ำจะไม่ค่อยเข้ามาในกระทู้แบบนี้ ..

กระทู้ที่น้ำเข้าส่วนมากประมาณว่า .. เอ็งบ้าง .. ข้าบ้าง .. ไม่ว่ากัน ..

ส่วนมากจะมีแต่ผู้ชายเขาคุยกัน ..

ขืนเข้ากระทู้ที่มีผู้หญิงร้องไห้บ่อยๆ .. น้ำล่ะตายเลย .. ร้องไห้ตามเขาตาย .. ไม่เข้าดีกว่าค่ะ ..

มีห้องครัวที่อยู่นานที่สุด .. เพราะเป็นงานที่ถนัดและชอบมากๆค่ะ ..

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ :b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 23:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
walaiporn เขียน:


คนใจร้าย


กัดซะกาย บอกทางสวรรค์ให้มาว่าใจร้าย :b1: จริงๆนะคุณ นี่เป็นวิธีปฏิบัติแนวสติปัฏฐาน คือ
การกำหนดรู้นามธรรมรูปธรรม ที่เกิดขึ้นแต่ละขณะๆ ตามเป็นจริง หรือ ตามที่มันเป็น ซึ่งกรัชกายเน้นย้ำประจำ เข้าใจหรือยัง

จะเล่าให้ฟัง ก่อนหน้า กรัชกายอ่านข้อความที่โยคีโพสต์ข้อความเล่าถึงการปฏิบัติกรรมฐานของเขาแล้ว
ขนลุกทั้งตัว
ในรายที่สภาวะเกิดแรง จำได้คนเชียงใหม่เล่าอาการของเค้า เราอ่านแล้วน้ำตาร่วงเลย เห็นภาพรับรู้เข้าใจ
ถึงความรู้สึกเขา

อารมณ์นี้ติดค้างมานานแล้วไม่หลุด อาจารย์เคยบอกว่า แม้ปีติก็ต้องละ เราก็เฝ้าปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ทุกขณะทุกครั้งที่เกิดอาการนั้น ที่หน้าคอม ฯ นี่แหละ ด้วยการกำหนดตามที่มัน (รูปนาม) เป็น เป็นยังไงกำหนดอย่างงั้น อย่าปิดบังอำพรางหลอกอารมณ์ตนเอง เดี๋ยวนี้อาการนั้นหายไปแล้วหมดไปแล้ว ถึงจะอ่านที่โยคีโพสต์มาก็รู้ แต่เราจะรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอาการตื่นใจเหมือนเมื่อก่อน



ขอบคุณค่ะ :b8:

คำว่าใจร้าย คือคุณชอบปล่อยดาวกระจายใส่อยู่เรื่อย :b5:

เรื่องการกำหนด .. ไม่ใช่ไม่เชื่อคุณ .. แต่เราถูกสอนมาคนละอย่าง ...

ครูบาฯให้เฝ้าดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น .. การกำหนดคือ การไปกดข่มเอาไว้ ..

ลึกๆยังคงมีอาการนั้นอยู่ ... เพียงแต่กดเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่ากดเอาไว้ ..

แต่การเฝ้าดูตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น รู้ลงไป แล้วอยู่กับมัน ..

นี่คือเรากำลังเรียนรู้ อยู่กับสภาวะที่เกิดขึ้น ไม่ได้หนี ไม่ได้สู้ ...

ไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงสภาวะแต่เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้ ...

อาจจะใช้เวลานานกว่าการกำหนด ซึ่งมันก็ได้ผล ..

คุณพูดถูก คนเราหลอกใครนั้นหลอกได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้หรอก .. :b16:

ไม่งั้นครูบาฯท่านไม่พูดหรอกว่า มันต้องใช้เวลาเฝ้าดู รู้ลงไป อยู่กับสภาวะนั้นๆ

จนกว่าเราจะสามารถเห็นตามความเป็นจริงได้ .. :b1:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3836

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงกรัชกาย

มีน้ำตา จะว่าขาดสติมิได้ดอกนาย
มันบ่แน่เสมอไป ผมมีหลักฐาน.

...วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา...

ปิติเป้นส่วนหนึ่งของสมาธิ

ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ได้ข่าวว่ามีคนร้องไห้หลายคนใช่ปะ
อริยะสงฆ์ทั้งนั้น นั่งร้องไห้ น่าคิดนะ

หลวงตาบัวก็เคยเทศน์ว่าท่านร้องไห้ ก้มกราบป๊อกๆตอนท่านเข้าถึงพระรัตนตรัย


แต่กรณีคุณแม่ครัว อันนี้ไม่รุ้นะ
อันนี้พูดถึงแต่ว่า น้ำตาและการร้องไห้ ไม่เท่ากับ ขาดสติ

แชร์เฉยๆนะ :b32: ไม่ได้มากระแทกกิเลสนะ :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2009, 23:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
อ่านแล้วเศร้าใจมากๆเลยค่ะ .. เฮ้อออ .. ชีวิตนี้ช่างไม่เที่ยงหนอ ..
แอบนั่งน้ำตาคลอ .. คือเป็นพวกเห็นอะไรเศร้าๆไม่ได้ค่ะ .. น้ำตาจะไหลโดยอัตโนมัติ :b24:

ดีใจที่อ่าน...ค่ะ :b41: :b41:

อย่าเศร้าไปเลย... :b41: :b41:

เกิดแก่เจ็บตาย...เป็นวัฎสงสาร... :b41: :b41:

ต้องขอโทษ..และ..ขอแก้ไขนะค่ะ :b41: :b41:

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 00:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5977

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณปลายฟ้า .. ขอโทษมากมายเลยค่ะ :b8:

เห็นคุณพยายามแก้ไขข้อความ ... ไม่เป็นไรหรอกค่ะ .. น้ำเข้าใจคุณ :b12:

สายไปแล้วค่ะ .. ตอนนี้โดนสะเก็ดดาวกระจายยยยยย .. ไปแล้วค่ะ :b32:

จุดอ่อนของช้านนนน ..... :b9:

สงสัยต้องเก็บตัวสะแล้ว ... รู้สึกว่าตอนนี้เข้าไปตรงไหน ..

กระทู้ตรงนั้น EVERY HOT .. ทันที ... :b5:

ในเวลาปกติการต่อปากต่อคำคนนี่ .. ไม่ค่อยจะถนัดเท่าไรนัก ...

แต่ถ้ากำลังสติแตกล่ะก็ไม่แน่ .. ฟาดฟันกันไปข้างหนึ่ง .. ไม่นายก็ช้าน ..

ขอไปทำสิ่งที่ถนัดและมีประโยชน์กับตัวเองดีกว่าค่ะ ..

ขอโบกมืออำลาแล้วค่ะ ... บะบายยยยย :b29:


:b30: :b30: :b30: :b30: :b30:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 8 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร