วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 02:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 281 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 15, 16, 17, 18, 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1178270010_submedium.jpg
1178270010_submedium.jpg [ 167.91 KiB | เปิดดู 7849 ครั้ง ]
ในบรรยากาศอันสุกกระจ่าง
มีจุดแต่งแต้มปรากฏขึ้น
กิเลสย้อมจุดแต้มนั้นจนเป็นสีแดงสด
ไล่เฉดสีลงมาเป็นชมพูหน่วงหนัก
ช่างงดงามยิ่งที่ได้อยู่ในอรูปภพ
เมื่อจิตสูญสลายไป จุดแต้มก็มลายไปด้วย
เมื่อจิตเปิดออก ความเว้นว่างอันแจ่มกระจ่างก็เปิดขึ้น
ขอบุญแห่งตนจงหลอมละลายไปในกามภพ
อันเป็นที่หวั่นเกรงของเหล่านักเทววิทยาและผู้ร่างกฏ
เด็ด เด็ดดอมดมชื่นชมดอกไม้ป่า
มันหาใช่ความสวยยาวนาน หากระสันรัญจวนไม่
หากเป็นเพียงกลีบดอกไหวตามแรงลมอันเรียบง่าย
เพื่อที่จะตระหนักถึงสายลม-ลำธารอันสดชื่น
ซึ่งรวยรินเอาความไร้เดียงสาของดอกไม้ป่า
ความสดชื่นนั้นหาใช่ภาระหรือสิ่งคุกคามไม่
ซึ่งเมืองทั้งเมืองอาจหอมละลายไป
ในไพรแห่งความรักของมวลดอกไม้ป่า
ปราศจากภาระหน้าที่ ไร้จริต หรือกับดัก
โลกเปี่ยมไปด้วยความไว้วางใจและเปิดกว้าง
ขอความปีติเย็นฉ่ำในหยาดน้ำค้างยามเช้า
สีฟ้าใส-เขียวน้ำทะเล-จุดขาว-ขาว แต่งแต้มบนฟ้ากว้าง
เสียงหัวร่อจิตอบอุ่นในลานธรรมจักรฯ ชื่นฉ่ำเย็น
ภาพแห่งความรักความสามัคคี-กัลยาณมิตรจิตยินดี กระจ่างธรรม

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 14:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1226332832.jpg
1226332832.jpg [ 72.74 KiB | เปิดดู 7828 ครั้ง ]
"บ่วง....ห่วง”

อัน เกิด แก่ เจ็บ ไข้ ใครหนีพ้น
เกิดกับตน วิบากกรรม นำเกื้อหนุน
จึงเพียรสร้าง กุศลวิบาก ไว้เป็นทุน
เพื่อนำหนุน ส่งผล ดลฤดี

สัตว์โลกนี้ มีกรรม เป็นทายาท
มิสามารถ หลีกหลบ จบวิถี
กรรมที่ทำ นำส่งมา พาชีวี
จะสุขขี หรือทุกข์ยาก วิบากนำ

การพลัดพราก จากของรัก ก็ทุกข์ยิ่ง
ประสบสิ่ง ไม่ปรารถนา พาอุปถัมภ์
ปรารถนา แล้วไม่ได้ ใจระกำ
ล้วนแต่นำ ทุกข์โหม โถมวิญญา

นี่แหล่ะหนอ การลอยคอ ในวัฏฏะ
ควรเร่งละ อกุศล ดลจิตหนา
ดำเนินตาม รอยบาท พระศาสดา
ด้วยสัมมา อริยมรรค จักพ้นกรรม

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 12:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2009-08-21_143142.jpg
2009-08-21_143142.jpg [ 62.96 KiB | เปิดดู 7803 ครั้ง ]
ความรัก...ที่อาจไม่ใช่...การแสดงออก
ความรัก...ที่อาจไม่ใช่...การกอดแน่นๆ
ความรัก...ที่อาจไม่ใช่...การต้องการสิ่งตอบแทน

! ความรักของคุณเป็นแบบไหน

ถ้าย้อนกลับมาถามผม...ผมขอตอบว่า 2 ข้อด้านบน
แต่ข้อที 3 คือสิ่งที่ผมอยากลองทำ แต่มิอาจทำได้...
เพราะยังอยากให้ลูกหลานรักผมเสมอ...จึงแวะเวียนไปหามากกว่ารอให้เค้ามาหา...

ความรัก...ที่อาจไม่ใช่...การแสดงออก (ในความคิดผม )

ความ รักอาจไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ ที่ต้องเสดงออก
เพราะบ้างครั้งความรัก...จากการแสดงออกของคนเรา...
อาจมาจากการแสร้งทำ ...แสร้งแสดง...ถ้าเรารักใครจริงๆ...
สักวัน...เวลา...อาจเป็นตัวบอกเขาแทน ที่เราจะพูดออกมาก็เป็นได้

ความรัก...ที่อาจไม่ใช่...การกอดแน่นๆ (ในความคิดผม )

ความ รัก...ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การได้สัมผัส ไม่ได้อยู่ที่การกอด...
เพราะ...ถ้าเรากอดเขาแน่นไป...เราอาจจะกลายเป็นคนที่ ทำเขาอึดอัดได้โดยไม่รู้ตัว...

ความรัก...ที่ไม่ใช่...การต้องการสิ่งตอบแทน (ในความคิดผม )

ความ รัก...ที่ไม่ใช่...การต้องการสิ่งตอบแทน...
ผมว่ามีน้อยคนที่จะทำได้...แต่ %การไม่มีใครทำได้...ต่อคนทั้งโลก...มี 1%
ผมว่าผมไม่ได้ตีน้อยไปหรอกนะครับถ้าเรามาคิดๆกันดู...

เรารักใคร...เพื่ออะไร...ถ้าไม่ใช่การต้องการความรักตอบจากเขา
เรารักใคร...เพื่ออะไร...ถ้าไม่มีผลประโยชน์ต่อกัน ( ถ้าไม่ใช่ญาติมิตร )

วันนี้คุณถามตัวเองหรือยังว่า...
เรารักคนที่เรารัก...เพื่ออะไร...และ...เพราะอะไร

วันนี้สำหรับผมมีแต่มิตรภาพแห่งกัลยาณมิตรเท่านั้น
ส่วนรักเพื่อใครเพื่ออะไรตอบหมดแล้วบนกองฟอนก้อนสุดท้ายเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา
แต่ไม่เคยผ่านไป...ยังคงเด่นชัดในใจผม เสมือนเธอคงอยู่เสมอ
รูปภาพ

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ย. 2009, 13:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




1d4a5e4af01-5.jpg
1d4a5e4af01-5.jpg [ 137.58 KiB | เปิดดู 7831 ครั้ง ]
นิทานรักดอกเหมย
ที่ตระหนักถึงความต่ำต้อยตน
แต่เขายังรวบรวมความกล้า
เดินเสี่ยงตามเข้าไปบอกเธอว่า "รัก"
และจะอยู่บนโลกต่อไปโดยไม่มีเธอ-ไม่ได้

หญิงผู้เป็นดวงใจตอบเขาว่า
ถ้าเขาสามารถรอคอยอยู่ใต้ระเบียงห้องเธอ
ได้ติดต่อกัน 100 วัน 100 คืน
เธอจะเป็นของเขาตลอดไป

ณ. ใต้ระเบียง
ทหารหนุ่มเฝ้ารอคอยอยู่ตรงนั้น
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยไม่ยอมขยับเขยื้อนกายไปไหน

เขารอคอยในสายลมบาดผิว
รอคอยในสายฝนกระหน่ำ
รอคอยในความเหน็บหนาวของหิมะ
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยมีหญิงคนรักของเขาเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา
เธอเห็นหยาดน้ำตาของเขาพรูพราวเป็นสาย

จนกระทั่งในคืนสุดท้าย ทหารหนุ่มหยุดร้องไห้
หยุดรอคอย หยุดทุกอย่างไว้ แล้วหันหลังเดินจากไป

เรื่องนี้ไม่มีตอนจบ แต่มีบางคำถาม บางคำตอบในใจ
ความรักของเธอกับเขาอาจจะเหมือนนาฬิกาทราย
เมื่อฝ่ายหนึ่งเริ่มหมดรักไป
ในใจอีกฝ่ายกลับรักขึ้นมาใหม่เต็มเปี่ยม

แต่บางทีทหารหนุ่มอาจตั้งใจแสดงให้เห็นว่าเขารักเธอจริงแท้แค่ไหน
แค่พิสูจน์ให้เห็น แต่ไม่ต้องการครอบครองไว้
หรือบางทีเขาอาจเสียใจ ต้องตัดใจจากไปเพราะรักเขาถูกทำร้ายย่ำยี
หรือบางทีเป็นหญิงสาวเองที่เสียใจ เพระไม่เคยมีใครรักเธอได้ถึงเพียงนี้...

ก็แค่นิทาน...
แต่ชีวิตจริงก็คงไม่แตกต่างจากนิทานนัก...
อยู่ที่เราจะย่อมรับ หรือวิ่งมัน...ก็เท่านั้น
เพราะมันคือชีวิตคุณ......

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 07 พ.ย. 2009, 15:31, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 พ.ย. 2009, 15:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ส.ค. 2005, 10:46
โพสต์: 12074

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

แวะมาเยี่ยมค่ะทุกท่าน...ยังรักกันอยู่ทุกคนนะคะ
แอบชื่นชมอยู่เงียบเงียบนะคะ...สบายดีทุกท่านนะคะ


ความรัก คือ ความเข้าใจ ให้อภัย และอยู่ข้างกันเสมอ
อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนรักในแบบที่ชอบ
เพราะทุกคนมีบางส่วนที่เหมือนกัน บางส่วนที่ต่างกัน
แค่มองข้ามสิ่งที่ไม่ใช่ ยอมรับในสิ่งที่เป็น
พยายามปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงกัน
ให้ช่องว่างสำหรับความส่วนตัว
เพราะคนรัก ก็เป็นเหมือนเพื่อนรัก ที่ยังไงก็มีพื้นที่ของตนเอง
เชื่อใจ เข้าใจ ยอมรับ ช่วยเหลือกัน และเห็นใจกัน
เพราะทุกคนต้องการใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ
อย่าลืมใส่ใจกัน..ทุกวัน


:b48: รักและคิดถึงค่ะ :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ย. 2009, 19:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ก.ค. 2009, 17:51
โพสต์: 189

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
สิ่งที่ชื่นชอบ: วรรณกรรม
ชื่อเล่น: ป้าโคม่า
อายุ: 54

 ข้อมูลส่วนตัว




Beautiful.jpg
Beautiful.jpg [ 44.06 KiB | เปิดดู 7777 ครั้ง ]
จงยิ้มให้กับตัวเอง
ที่อย่างน้อย ถึงจะพบกับเค้าคนนั้นสายเกินไป
แต่ก็ยังได้พบ...

ยิ้มให้เค้า ที่ถึงจะไม่ได้ให้ใจเรามา
แต่ก็ยังได้รับหัวใจของเราไป...

ยิ้มให้กับโชคชะตา
ที่ยังทำให้เรา...ได้รู้จักกัน

คุณควรจะดีใจด้วยซ้ำที่ครั้งหนึ่ง
คุณได้เจอคนที่คุณอยากเก็บรอยยิ้มของเค้าไว้คนเดียว

คนที่คุณใส่ใจกว่าตัวคุณเอง...
คนที่ทำให้คุณหัวเราะ...และร้องไห้ได้มากมาย...

คนที่เพียงแค่ยิ้มของเค้า
ก็สามารถเปลี่ยนวันที่หมองหม่น...ให้กลายเป็นวันที่สดใส
เท่านี้มันก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่หรือ?

แค่การได้เห็นคนที่เรารัก
ได้หัวเราะอยู่กับใครสักคนที่เค้ารักมากที่สุด
...นั่นแหละคือความสุขของการได้รัก...อย่างจริงใจ

จากปลายฟ้า..

.....................................................
รูปภาพ
"จิตที่ให้ย่อมเป็นจิตที่ดี ... จิตที่มีแต่ประชดประชันนั้น ... หาควรแก่การอบอรมสั่งสอนธรรมผู้ใดไม่"


แก้ไขล่าสุดโดย COMA! เมื่อ 09 พ.ย. 2009, 20:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 พ.ย. 2009, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




sw03.jpg
sw03.jpg [ 27.96 KiB | เปิดดู 7988 ครั้ง ]
เรื่องของทางโลกและทางธรรม

ทางโลก
คือ การแสวงหาสุขแล้วไปเจอทุกข์
เหมือนกับปลาที่ฮุบใส้เดือนได้แล้วไปเจอเงี่ยงเบ็ด

ทางธรรม
คือ การกำหนดหยั่งรู้ทุกข์ แล้วปล่อยวางความสุข
เหมือนกับการสละไส้เดือนเพระเห็นโทษแห่งการติดเบ็ด

ทางโลก คือ
เส้นทางที่จะไปตกเหวตาย ที่สรรพสัตว์ทั้งหลายชักนำกันไป
สิ่งที่จะไปเจอ คือความผิดหวัง เพราะสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
คือ ความแก่ ความเจ็บ ความตายและความพลัดพราก
น้ำตา คือรางวัลแก่ผู้เข้าเส้นชัยที่ดำเนินไปในทิศทางของโลก

ทางธรรม คือ
เส้นทางหวนกลับของสุนัขจนตอรก เพราะเมื่อมนุษย์ทั้งหลาย หากถูกกิเลสไล่แล้ว
ก็ทำไปตามกิเลส ความอยากของตน จะต้องไปเจอทางตันอย่างแน่นอน
เพราะเราไม่สามารถจะหาสิ่งมาตอบสนองความอยากของเราได้ตลอด
ฉะนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหันกลับมาฟัดกับกิเลสของเรา
เพื่อเอาชนะกิเลสของตน ไม่ตกเป็นทางของอารมณ์

ทางโลก คือ การทำตามใจกิเลส อันเป็นเหตุแห่งความเดือนร้อน
ทางธรรม คือ การดับกิเลส อันเป็นเหตุแห่งความสงบเย็น

ทางโลก คือ การกินของหวานที่ทำให้เกิดร้อนใน
ทางธรรม คือ การกินของขม เพื่อรักษาอาการร้อนใน

ทางโลก คือการยึดถือสิ่งต่างๆ ว่าเป็นของเรา
ทางธรรม คือ การรู้จักปล่อยวาง จากสิ่งทั้งปวง อย่างผู้มีปัญญา

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ


แก้ไขล่าสุดโดย ลุงมะตูม เมื่อ 11 พ.ย. 2009, 20:14, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 11:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




ans598986.jpg
ans598986.jpg [ 12.89 KiB | เปิดดู 7725 ครั้ง ]
บนความคิดถึง....

ความคิดถึง..ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ กับใครก็ได้..
เมื่อไหร่ก็ตาม..ที่เกิดอารมณ์นี้ขึ้นแล้ว
หาจำกัดเวลาได้ไม่...ว่าจะหยุดลงเมื่อไร
ความคิดถึงเกิดขึ้นได้..โดยไม่รู้ตัว
หากแบ่งเข็มวินาทีออกเป็นวินาทีแห่งความคิดถึง

คุณตอบได้ไหมคะว่า..ในแต่ละวัน..คุณใช้เวลาคิดถึงใครบางคน..วันละกี่นาที ^_^
ฉันคนหนึ่งล่ะที่ตอบไม่ได้..

คิดถึงใครคนหนึ่ง..อาจน้อยกว่าคิดถึงใครอีกคนหนึ่ง
แต่..คิดถึงใครอีกคนหนึ่ง..อาจจะบ่อยครั้งกว่าใครอีกหลายๆ คน
แล้วในวันหนึ่งๆ เราก็คิดถึงใครๆ ได้ตั้งมากมาย
ความคิดถึง..มีหลากหลาย..แอบคิดถึงก็ได้..ไม่ต้องอายใคร
ใครคนหนึ่งที่เราคิดถึง..อาจเป็นคนสำคัญ
หรือบางที..อาจไม่ได้เป็นคนสำคัญ..

แต่ว่า..
เขาคนนั้น..มีผลกระทบต่ออารมณ์และความรู้สึกของเรามากมาย..มากเสียจน..
เราต้องเผลอคิดถึงเขาขึ้นมา
แต่หากผลกระทบนั้นลดน้อยลง..เขาอาจห่างหายไปจากความรู้สึก..
ห่างออกไปจากห้วงคำนึง..จนอาจกลายเป็นว่า..เขาเป็นคนไร้ตัวตนไปแล้ว..สำหรับเรา

แต่..กับบางคน..เรา..อาจเคยพบพานกันแค่เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ
เคยพบเจอกัน..แค่เพียงแว่บเดียว..
แล้วเคยไหม..ที่จะรู้สึกเสมือนว่า..รู้จักเขามาเนิ่นนาน
เหมือนคุ้นเคยมาเป็นแรมปี
เขาแวะเวียนเข้ามาทักทายกับเราบ่อยๆ ในห้วงคำนึง
เขาเข้ามาสะกิดใจเราบ่อยๆ ให้รู้สึก..นึกถึง
เขาเข้ามาทักทายเราบ่อยๆ..ในความฝัน
และบางครั้ง..เราก็ส่งความรู้สึก..ถึงกันและกันได้

คิดถึงนะ..คิดถึงได้ทุกวี่ทุกวัน
คิดถึงนะ..คิดถึงได้ไม่จำกัดเวลา
คิดถึงนะ..คิดถึง..ไม่ว่าจะชื่นสุข..หรือทุกข์ระทม
คิดถึง...คิดถึง..และ..คิดถึง

แล้วคุณล่ะ...เคยไหม..ที่จะรู้สึกแบบนี้..
ความรู้สึกดีๆ ที่เรียกว่าคิดถึง..
แค่คิดถึง..ก็สุขใจ แล้วล่ะ..เพื่อนเอ๋ย

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2009, 20:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




20108xe3kpeomrm.gif
20108xe3kpeomrm.gif [ 176.69 KiB | เปิดดู 8101 ครั้ง ]
ความฝันยามรุ่งสาง
แม้จะเลือนลางในความฝันแต่กลับชัดเจนในความทรงจำ
ด้วยความรู้สึก..ออกมาจากหัวใจ

พระอาทิตย์เหนือท้องทะเลตรงเบื้องหน้า...เปล่งแสงแรกทาทับขอบฟ้า..
ขับให้ปุยเมฆ ขาวละมุนมีสีเหลืองแซมทองดูสวยอร่ามตา
หญิงสาวรูปร่างโปร่งบางยืนอยู่บนระเบียงริมชายหาด...
เธอทอดสายตาเหม่อมองไปยังท้องทะเล เบื้องหน้า...
ทะเลสีฟ้าใสแผ่กว้างไปทั่วทั้งบริเวณแลดูอ้างว้างเหลือเกิน ..
เกลียวคลื่นม้วนตัวเข้ากระทบชายฝั่งระลอกแล้วระลอกเล่า
หาดทรายสีขาวอมน้ำตาลทอดยาวไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา

เสียงคลื่นซัดสาดถาโถมเข้าหาฝั่งดังเซาะเข้าไปถึงในหัวใจ
อารมณ์ทะเลคงเหมือนดั่งอารมณ์ของเธอในยามนี้..
ที่บางคราวก็เงียบสงบ...บางคราวเงียบเหงาและอ้างว้าง
แต่บางคราวกลับบ้าคลั่งดั่งพายุในท้องทะเล
สายลมทะเลพัดโชยเข้ามาโลมไล้ผิวกายแต่เพียงบางเบา
น่าแปลก..ที่เขากลับรู้สึกว่าสายลมนั้น..ได้พัดพาเอาความเศร้าเข้ามาด้วย

เสี้ยวหน้าทางด้านข้างของเธอดูสวยจับตา...
ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลถูกล้อมกรอบด้วยขนตางอนหนาเป็นแพ
จมูกโด่งเป็นสันพองามทอดรับกับริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อ
คางเล็กๆ นั้นทำให้ใบหน้าของเธอดูจิ้มลิ้มพริ้มเพรา
ผิวขาวเนียนละเอียดมีเลือดฝาดดูผุดผาด
เธออยู่ในเสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวยาวเพียงครึ่งขา

เส้นผมที่พริ้วไหวนุ่มละมุนราวกับกลุ่มไหมเนื้อดี
ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสยายถึงกลางหลัง
ปลายผมเป็นเกลียวคลื่นเล็กๆ ดูยุ่งเล็กน้อย
เธอดูสวยบอบบางน่าทนุถนอมแต่กลับดูเซ็กซี่อย่างน่าประหลาด
แม้ว่าขณะนี้เธอจะดูนิ่งเงียบและสง่าดั่งนางพญา...
แต่เขาก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าเดาอารมณ์ของเธอไม่ออกในบางคราว
แม้ว่าเขาจะเป็นคนสนิทและรู้ใจเธอมากที่สุดก็ตาม

กลิ่นหอมของดอกมะลิสีขาวผสานความสดชื่นของใบเปเปอมินต์
กรุ่นกำจายลึกเข้าไปในใจ กลิ่นกายของเธอหอมอบอวลอยู่ในความรู้สึกไม่เคยเปลี่ยนแปลง
บนหาดทรายในยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ โลมไล้ผิวกาย ทำให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์ชวนมอง
ความคิดถึง วัน-เวลา ที่เคยอยู่ด้วยกัน วันเวลาเหล่านั้น เป็นช่วงเวลาที่แสนงดงาม

- -โฮ่งๆๆ โฮ่งๆๆ - -

เจ้าวิกส์เห่าเสียงดัง ชายม่านไหวพึ่บพั่บ
แต่ยังคงนอนหมอบอยู่หน้าประตูดูนายของมันนั่งเศร้า..
มันจ้องมองอย่างเหงาหงอย มันคงรู้สึกเศร้าและหดหู่ตาม

บ่ายคล้อย..หันหน้าออกสู่ทะเล สายลมพัดโชยผ่านชายม่านเข้ามา
คล้ายจะปลอบประโลมหัวใจของเขาให้จางหายจากความเศร้า

เสียงใสๆ แว่วเข้ามา..
ภาพของเธอชัดเจนสดใสเสมือนเหตุการณ์ต่างๆ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันวาน
หลังดวงอาทิตย์จมหายไปจากขอบทะเล..
ร่องรอยทางเดินเคียงกันไปบนผืนทราย..

ในค่ำคืนอันมืดมิด
ท้องฟ้าไร้สิ้นดาวและแสงจันทร์..มองเห็นความเหงา..
ความเศร้าและหมองหม่นซ่อนอยู่ตรงขอบฟ้าอันมืดมิดนั้น..
ลมพัดโชยผ่านม่านระเบียงเข้ามา รู้สึกหนาววูบ..จนขนลุกยะเยือกขึ้นมา
ลมก็พัดกรรโชกแรง..มองออกไปยังนอกหน้าต่าง
เห็นท้องฟ้าและเมฆครึ้มลอยตัวอย่างหนาตา..
คืนนี้ท่าทางพายุจะเข้าเสีย แล้วกระมัง ?

“ตอบใจตัวเองมานาน...แอบรอคอยเธอก็รู้”

อยากให้เธอลองตรองดู ...ในความทรงจำ เก็บไว้

ต่างคนมีทางต้องเดิน...อาจมีเวลาต้องไกล

หนึ่งคนยังคงคอยใจ...ยังคงคอยไปอย่างนั้น

อยู่ไกลกันเกินครึ่งฟ้า...หากยังมีใจถึงกัน

จะโยงใยความสัมพันธ์...จนมาพบกันใกล้ตา......”

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2009, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ย. 2009, 15:57
โพสต์: 188

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




moon-star.jpg
moon-star.jpg [ 35.86 KiB | เปิดดู 7906 ครั้ง ]
“เพราะชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้”

มันก็เป็น เช่นนี้ แหละชีวิต
บ้างก็ถูก บ้างก็ผิด เกินคิดหวัง
สลับเปลี่ยน เวียนวน กี่หนครั้ง
เบาแล้วดัง ย้ายข้าง อย่างละที

อยู่ดำเนิน เดินตาม โชคชะตา
กาลเวลา หมุนนำ ทำหน้าที่
ปะปนกัน ในตัว ทั้งชั่วดี
ตามวิถี เขียนขีด ลิขิตกรรม

ไม่มีหรอก ที่หัวเราะ เพียงอย่างเดียว
ไม่มีหรอก ที่เปล่าเปลี่ยว เดี๋ยวเดียวคว่ำ
ไม่มีหรอก ที่ผิดหวัง ฝังจดจำ
ไม่มีหรอก ที่ชอกช้ำ ย้ำอยู่นาน

มีแต่สุข กับเศร้า เคล้ากันไป
มีเสียใจ ยามนี้ พรุ่งนี้ผ่าน
มีน้ำตา ย่ำแย่ แค่วันวาน
มีชื่นบาน แทรกทรวง ก่อนล่วงเลย

สิ่งใดๆ ย่อมพ้น และวนเปลี่ยน
วิ่งแวะเวียน ชั่วครู่ ไม่อยู่เฉย
ดั่งฤดู กาลเคลื่อน ก็เหมือนเคย
คือเปิดเผย ความจริง สิ่งไม่ทน

กับคำถาม ซ้ำๆ ว่าทำไม
นิ่งพินิจ ครวญใคร่ พอได้ผล
พบแล้วพราก รักแล้วร้าง เร่ห่างตน
วิถีคน เป็นเช่นนั้น นั่น ชีวิต

เพราะทุกวัน มันก็เป็น อยู่แบบนี้
ทุกนาที ที่เผชิญ ดำเนินจิต
ดั่งละคร ยอกย้อน สะท้อนคิด
ตามจริต ครรลอง ตรึกตรองดู

เพราะทุกสิ่ง พบเห็น ต้องเป็นไป
เปรียบนที ล่องไหล เคลื่อนไหวสู่
ความผันแปร สอนพร่ำ ดั่งคำครู
เพื่อเรียนรู้ เช่นนี้ “นี่แหละชีวิต”

.....................................................
รูปภาพรูปภาพ
"สันติภาพมิได้เกิดจากสภาวะนิ่งเฉย หากแต่เกิดจากความเข้าใจ"


แก้ไขล่าสุดโดย ป่าอ้อ เมื่อ 19 พ.ย. 2009, 21:12, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




01253_31.jpg
01253_31.jpg [ 82.6 KiB | เปิดดู 7660 ครั้ง ]
เวลานี้
มีเพียงแสงทองอ่อนละมุนของดวงตะวัน
ขณะนี้แวดล้อมด้วยขุนเขา
และใบไม้แห้งที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นดิน
กา ฤดูหนาวตัวหนึ่งบินถลาอยู่ในป่า
เดียวดาย ฤดูใบไม่ผลิผ่านพ้นไปแล้ว
เงียบงัน ประตูกระท่อมปิดสนิทแน่น
ความมืดโรยตัวช้าๆ ลงมาจากฟากฟ้า
ซุ้มวิสทีเรียค่อยค่อย ลับหายไปในความมืดนั้น
วัชพืชปกคลุมบันไดกระท่อม
ถุงข้าวยังคงแขวนอยู่ที่รั้ว
ที่นี่เงียบสงัดสันโดษ ห่างไกลจากโลกภายนอก
มีเพียงเสียงนกดุเหว่าขับขานเป็นเพื่อนยามราตรี

ค่ำคืนนี้อากาศสดชื่นเย็นสบาย
ก้าวเดินผ่านประตูกระท่อมนั้นออกมา
เถาวิสทีเรียและไอวีงอกแซมกันและกัน
ตลอดหนทางที่คดเคี้ยวขึ้นสู่ภูเขา
ฝูงนกส่งเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ในรัง
ใกล้ๆ กันนั้น ชะนีตัวหนึ่งกำลังส่งเสียงโหยหวน

เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขาสูง
ภาพของหมู่บ้านก็มองเห็นเลือนรางอยุ่ข้างล่าง
สนโบราณทั้งหลายล้วนแต่เต็มไปด้วยบทกวี
ขอดื่มน้ำพุธรรมชาติที่ใสสะอาด
สายลมอ่อนโชยพัด ขณะที่เดือนกลมโตลอยเด่นอยู่บนหัว

จิตใจเคลิ้มฝันอยากเป็นนกกระเรียน
ที่กำลังพริ้วบินอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ
ลิบตาข้างหน้าและสุดสายตาข้างหลัง
คือขุนเขาเขียวตั้งตระหง่าน
จากฟากฟ้าตะวันออกจรดฟากฟ้าตะวันตก
คือปุยเมฆสีขาวล่องลม
แม้นยามนี้ฉันได้พบกับเพื่อนผู้สัญจรมาเยือน
ฉันก็คงไม่มีข่าวสารใดจะเอื้อนเอ่ย

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 21 พ.ย. 2009, 15:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2009, 15:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




01221_13.jpg
01221_13.jpg [ 71.31 KiB | เปิดดู 7627 ครั้ง ]
What hope means?
Hope is bright shining light which keeps darkness at the bay
Hope is gentle cold breeze on a hot summer day
Hope is to remain positive when going gets tough
hope is seeking more when others think u had enough

What hope means?
Hope is dreaming of tommorow
Hope is simmering under sorrow
Hope is sparkles when tears in our eyes
Hope is a beautiful thing & beutiful things never dies

What hope means?
Hope is as light as a feather
Hope keeps all of us together
Hope is ubiquitous and free of cost
hope is the last thing ever lost.....

ความหวังคืออะใร?
ความหวังคือแสงสว่างส่องทางในทะเลยามค่ำคืน
ความหวังคือสายลมเย็นฉ่ำที่อ่อนโยนต้องผิวกายในฤดูร้อน
ความหวังคือสิ่งที่จรรโลงใจให้เข้มแข็งในยามที่ลำบาก
ชีวิตยังมีความหวังเสมอแม้คนอื่นจะบอกว่าหมดหวังก็ตาม

ความหวังคืออะใร?
ความหวังคือความฝันกำลังใจที่ให้เรายืนหยัดได้จนถึงพรุ่งนี้
แม้ในความโศกเศร้าเรายังมีความหวังเพื่อจะผ่านพ้นไปได้
ความหวังยังเปล่งประกายแม้ยามที่เราหลั่งน้ำตา
ความหวังช่างสวยงาม ที่ไม่เคยร้างลาจากไป

ความหวังคือ
ความหวังเบาเหมือนขนนกสีขาวที่ล่องลอยรอบตัวเรา
ความหวังนั้นโอบกอดเราไว้ด้วยกันเสมอ
ความหวังพบได้ทุกแห่งทุกเวลา มีค่าและไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน
สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่คือความหวัง ที่เราจะเข้มแข็งและสู้ต่อไป

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 28 พ.ย. 2009, 15:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2009, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ก.ค. 2009, 01:47
โพสต์: 178

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




001e9079014f09d42ac81d.jpg
001e9079014f09d42ac81d.jpg [ 25.76 KiB | เปิดดู 7605 ครั้ง ]
ความหวัง...ที่ขาดกำลังใจ

เคยมีคนพูดว่า...
อย่าทำรายความหวังของใคร
เพราะเขา...อาจเหลืออยู่แค่นั้น
ผมว่าจริงนะครับ

คนบางคนมีได้ แค่ ความหวังลมๆแล้งๆ
คนบางคนอยู่ได้เพราะ ความหวัง
คนบางคนไม่เคยได้กำลังใจจากใครๆ แต่อยู่ได้ด้วยความหวัง

ความสุขเกิดขึ้นได้โดยไม่เดือดร้อนคนอื่น
เพียงแค่เรารู้ตัวเรา ว่าเรากำลังทำ…
เพื่ออะไร...เพราะอะไร
เราอาจถูกทำรายความหวัง และ ความฝันได้หลายๆครั้ง
แต่ความหวังนั้น จะไม่จางหาย
แม้เราขาดกำลังใจ

เมื่อคุณผ่านมันมาได้...คุณจะรู้ได้ว่า
คุณไม่ได้ตายจากความเจ็บปวดในชีวิตที่ผ่านมา
เพียงแต่มันทำให้คุณเข็มแข็งขึ้น

.....................................................
"เกิดมาก็เพราะกรรม...ดับไปก็หมดกรรม"รูปภาพ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ธ.ค. 2009, 12:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2009, 10:12
โพสต์: 905

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




design_art_814_016.jpg
design_art_814_016.jpg [ 87.83 KiB | เปิดดู 7533 ครั้ง ]
ดอกไม้ในใจ..พร้อมใจผลิบานเพื่อต้อนรับสิ่งดีๆ ในปีใหม่ที่ใกล้เข้ามา ^_^

ลมหนาวที่พัดโชยผ่านหน้าต่างในห้องนอน
ทำให้ม่านสีขาวบางเบานั้น..โบกสะบัดไปมา
สายลมเย็นๆ...ที่พัดมาแต่เพียงบางเบา..
ทำให้หัวใจของฉันเยือกเย็นลง....
มองไปทางไหนก็พบแต่ความสุขใจ..มีรอยยิ้มและความชื่นบาน

สัญญาณของฤดูหนาวได้เริ่มเข้ามาเยือนอีกคราแล้ว..
ฤดูหนาวก้าวเข้ามาพร้อมกับความงดงามของดอกไม้ผลิบานในใจ..
ที่กลับมาพบกันใหม่เปรียบดั่งคำมั่นสัญญาที่มีให้แก่กันและกันมาเนิ่นนาน
ดอกไม้ในใจก็พร้อมจะผลิบาน..งอกงามและเติบโตเรื่อยไปไม่มีสิ้นสุด..

ฉันชอบฤดูหนาว..เพราะความหนาวเย็นของฤดูกาลทำให้ฉันค้นพบว่า..
แท้ จริงแล้ว..ร่างกายและหัวใจของคนเราล้วนต้องการความอบอุ่น..
เสื้อกันหนาวผืน หนา ผ้าห่มผืนโตที่แสนอบอุ่น หรือแม้แต่อุ่นไอรักจากมิตรภาพ..
ไออุ่นเหล่านี้ทำให้ร่างกายและหัวใจของเราอบอุ่นและเป็นสุข..
ฉันมองว่าไอ อุ่นแห่งมิตรภาพ แท้ที่จริงแล้ว..ค้นหาได้ง่าย..ใกล้ตัวเรานี่เอง ^_^

ปีเก่า..ได้เดินทางผ่านกาลเวลา..ไปอย่างช้าๆ..เมื่อฉันมองย้อนไปก็พบว่า..
แต่ละวัน..เดือน..ปี..ที่ผันผ่าน..ล้วนแต่มีเรื่องราวเข้ามากระทบมากมาย..
บางเรื่องราวก็ดี..บางเรื่องราวอาจจะร้าย..บางสิ่งหายไป..
แต่...บางสิ่งอาจได้ทดแทนเข้ามา การแสวงหาอาจเริ่มต้นขึ้น
เพื่อรอคอยการเติมเต็มให้กับชีวิตส่วนที่ขาดหายไป..
สิ่งที่เติมเต็มความคาดหวังอาจทดแทนได้ไม่พอกับส่วนที่ขาด...

เริ่มต้นและจบลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ดำเนินเช่นนี้เรื่อยไป..จนกว่าจะเกิดความพอดี..ตามที่เราหวังไว้..
แต่..ไม่ว่าปีต่อไปจะเป็นเช่นไร...
ฉันได้หวังใจไว้ว่า..
จะเริ่มปีใหม่ให้ดีที่สุด..และมีความสุขที่สุด

สิ่งแรกที่ฉันจะทำในปีใหม่ที่จะถึงนี้..
คงเป็นการส่งความสุขถึงใครสักคน..
ไม่ใช่ สิ..น่าจะเป็นใครๆ หลายๆ คน
กัลยาณมิตร ผู้มอบมิตรภาพอันงดงามที่อยู่ในใจของฉันเสมอมา..
มิตรภาพที่สื่อถึงกันได้อย่างง่ายๆ ราคาอาจไม่ได้มากมาย
แต่มากความหมายที่จะทำให้ผู้รับเป็นสุขใจได้เช่นกัน...

ส.ค.ส.เป็นสื่อแทนมิตรภาพดีๆ ที่มีอยู่ในใจจริง.....
จะขอมอบ พร้อมส่งความรู้สึกดีๆ ไปให้กัลยาณมิตร..ได้รับรู้..
ถึงความรักและห่วงใยจากความรู้สึกภายในดวงจิต...ที่มีให้เสมอมา
ขอให้กัลยาณมิตร..แห่งลานธรรมจักร...ทุกๆ ท่าน
สุขเกษมสำราญ...ตลอดศก...2553 ทุกท่านเทอญ./

.....................................................
"ก้มกราบบ่อยๆ ช่วยขจัดความหยิ่ง-ทะนงออกได้"


แก้ไขล่าสุดโดย ปลายฟ้า...ค่ะ เมื่อ 09 ธ.ค. 2009, 12:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2009, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




2blq1b7.gif
2blq1b7.gif [ 58.97 KiB | เปิดดู 7500 ครั้ง ]
คุณปลายฟ้า...คนไร้สาระหายไปไหน หรือว่าเรียนหนัก ไม่มีเวลาเข้าลานเท :b1: :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 281 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 15, 16, 17, 18, 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 18 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร