วันเวลาปัจจุบัน 29 มี.ค. 2024, 05:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 719 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16 ... 48  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2009, 18:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุญาตให้ความเห็นค่ะ

การเป็นสามีภรรยา คนเป็นภรรยามักจะคาดหวังมากกว่าสามีเสมอคะ เพราะธรรมเนียมปฏิบัติที่ยึดกันมายาวนานว่า ผู้ชายมีได้ไม่ว่ากัน ผู้หญิงมีแล้วเท่ากับฝังตัวเองเลย ทำให้ผู้ชายชุ่ยกว่าผู้หญิง

สามีมีเมียน้อย มันเป็นปัญหาธรรมดาของสังคมปัจจุบันแล้วก็จริง หลายคู่เป็นแบบนี้ แต่แต่ละคู่ไม่เหมือนกัน

คุณรักเขามาก แต่รักของคุณมาพร้อมกับความระแวง สามีคุณโทรศัพท์ คุณก็คิดไปว่าเขาโทรหาเมียน้อย คุณคิดเองเออเองมากไปหน่อย ชีวิตคู่ของคุณไม่แย่ขนาดนั้นค่ะ

แนะนำนะคะ สามีคุณหันไปหาคนที่เขาคุยด้วยแล้วมีความสุข จุดประสงค์แรกของสามีคุณไม่ได้เพราะอยากมีอะไรกับเขา แต่ไปคุยกับเขาเพราะผู้หญิงคนนั้นเอาใจเก่ง แล้วก็เป็นธรรมชาติของชายหญิง จบกันที่เตียง

เชื่อเถอะค่ะสามีคุณยังรักคุณอยู่ สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ พิจารณาตัวเอง เราบกพร่องหน้าที่ภรรยาหรือเปล่า อย่าเอาข้ออ้างใดๆมาตอบตัวเอง ถามแค่แบบที่ทำนี้ใช่หน้าที่ของภรรรยามั้ย

หน้าที่ของภรรยาที่ดีคือเอาใจใส่ดูแลสามีทั้งทางกายและใจ เป็นที่พักใจให้เขายามเขาเหนื่อย เป็นที่ปรึกษาให้เขายามเขากลุ้ม ฯลฯ มันเหมือนเป็นการเสียเปรียบของผู้หญิง แต่นั่นเป็นสัจธรรม ธรรมชาติของผู้ชายคือการเรียกร้อง เขาเป็นฝ่ายเรียกร้อง เราก็ทำให้ แล้วเมื่อนั้น เขาจะให้เรากลับ นี่ก็เป็นสัจธรรมของดารให้และรับ ยกเว้นกรณีเขามีกิเลสครอบใจ ไม่สนใจความเอาใจใส่ของภรรยา แต่ผู้ชายที่เป็นสามี โดยปกติจะใส่ใจ เพราะเขารักคุณ เขาแต่งงานกับคุณเพราะรัก

ก่อนอื่นก็เหมือนที่หลายๆท่านแนะนำค่ะ ทำใจให้สบายก่อน ถ้าคุณร้อนรุ่มอยู่แบบนี้ จะไม่ก่อให้เกิดอะไรดีเลย คุณทำใจให้สบายโดยการมองเขาในแง่ดี มองว่าไอ้ที่เขามีพิรูธตอนโทรศัพท์ นั่นเพราะเขาไม่อยากให้คุณไม่สบายใจ

สรึปว่ามองจากลบเป็นบวก เพราะความจริงเป็นแบบนั้น เชื่ออรหันต์แบบจุฬาภินันท์นะคะ จุฬาภินันท์ไม่โกหกเพราะถือศีลค่ะ

คู่ของคุณไม่ถึงกับเลิกค่ะ เปิดใจคุยกับสามี บอกเขาว่าให้อภัยเขา คนเราพลาดกันได้ค่ะ เขากับผู้หญิงคนนั้นมีวิบากกัน ก็ใช้กันซะ แล้วก็หมดกัน สามีคุณเลือกคุณมากกว่าเขาค่ะ เขารอการอภัยจากคุณ

คุณเป็นภรรยาที่แรงพอตัวเลย แรงแบบที่สามีไม่อยากพูดด้วย เพราะคุณไม่มีเหตุผล (ขอโทษนะคะที่ตรงเขียนแบบนี้ ปัญญาบอกจุฬาภินันท์แบบนั้นค่ะ) คุณทราบดีว่าการพูดคุยกัน ควรให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นก่อน ใจกว้างพอจะยอมรับสิ่งที่กำลังจะพูดกัน พูดกันด้วยความจริงใจ พร้อมจะอภัยให้กัน พร้อมจะช่วยเหลือกัน พร้อมจะเริ่มต้นใหม่เพื่อตัวคุณเอง เพื่อสามี และเพื่อลูก

ทุกอย่างอยู่ที่คุณค่ะ ดับความระแวงได้ ให้อภัยเขาได้ บอกกับเขา คุยดีๆกับเขา ปัญหาของคุณจะคลี่คลายค่ะ

ขอคุณพระคุ้มครองคุณค่ะ

ลองถือศีล ทำสมาธิ สิคะ ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น อย่างน้อย ใจที่อยู่ในสมาธิจะไม่เร้าร้อนนักค่ะ ใจคุณเย็นลงได้ด้วยพลังแห่งธรรมค่ะ


แก้ไขล่าสุดโดย chulapinan เมื่อ 26 พ.ย. 2009, 04:45, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2009, 19:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 11:51
โพสต์: 505

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b27: สวัสดีค่ะคุณPENYA ที่ทายมาถูกทุกอย่างเลยค่ะ
จะส่งวัน เดือน ปีเกิดมาให้
รอคิวอยู่นะ


สวัสดีค่ะคุณจุฬาภินันท์ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
ทำไมมาให้กำลังใจกันช้าจัง
ที่คุณแนะนำก็เป็นจริงทุกอย่าง จะให้เรียกว่าพี่ หรือเป็นเพื่อนกันดีคะ
ในลานนี้ยังต้องการผู้ที่เข้าใจและต้องการคำแนะนำอยู่เสมอนะคะ
บางครั้ง ( แหมไม่รู้จะแทนตัวเองว่าอย่างไรดี ) เอาเป็นว่าใช้คำว่า เราก็แล้วกันนะ
ดูแล้วสนิทกันดี ในบางครั้งเราอาจจะขาดเหตุผลอย่างที่ว่า
อยู่ด้วยความหวาดระแวงมากๆ
ทุก ๆ คน ในลานนี้ก็แนะนำอย่างที่คุณบอกเหมือนกัน
แต่เรากลับทำไม่ได้ ( เมื่อก่อน ) แต่ตอนนี้ตั้งแต่อาจารย์ ทักทาย และเพื่อน ๆ
แนะนำมาเราเริ่มทำใจได้มากขึ้น
เราเองเป็นคนใจร้อน วู่วาม คิดแล้วต้องพูดต้องรู้เรื่อง
จะเป็นแบบที่คุณ PENYA ทายเลย
ตอนนี้มีความอดทนมากขึ้น เช่น ไม่สนใจโทรศัพท์
บางทีไม่โทรหาเลย หรือมีความจำเป็นก็โทรน้อยลงเท่าที่จำเป็น
พูดน้อยลงด้วย คุณจุฬาภินันท์แนะนำดีมาก
ทำให้มีกำลังใจต่อสู้เพิ่มขึ้น
มีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 คนแล้ว ดีใจจัง
จะทำตามที่คุณ จุฬาภินันท์ แนะนำนะคะ
คุณจุฬาภินันท์ ช่วยดูชีวิตคู่ ครอบครัว ลูก และอื่น ๆ อีกนะคะ
เห็นอะไรก็บอกมาได้เลย หรือมีทางแก้ไขอย่างไร อยากรู้มากค่ะ
เพราะคุณจุฬาภินันท์ปฏิบัติจนเป็นอรหันต์แล้ว ได้อภิญญาหก อ่านใจคนได้นี่คะ
นับถือด้วยใจจริงค่ะ ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะคะ จะรอคำตอบค่ะ
:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2009, 20:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 11:51
โพสต์: 505

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอ วันนี้คุณทักทายไปไหนไม่เห็นมาให้กำลังใจกันเลย
คิดถึงนะ คิดถึงทุกคนเลยจริง ๆ รู้สึกเหงาน่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 01:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


มานิตา เขียน:
เอ วันนี้คุณทักทายไปไหนไม่เห็นมาให้กำลังใจกันเลย
คิดถึงนะ คิดถึงทุกคนเลยจริง ๆ รู้สึกเหงาน่ะ


:b13: มาแล้วค่ะ เห็นไหม เรียกปุ๊ปมาปั๊ปเลย
คุณมานิตาดีขึ้นแล้ว ดีใจจัง ตอนนี้ก็ค่อยๆคิด ค่อยๆทำนะค่ะ
ถ้ามีอะไรที่จะให้ลูกเข้าหาพ่อ ตอนนี้คิดว่าอย่าเพิ่งดีกว่า คุณต้องเป็น
ตัวช่วย เช่นลูกจะไปดูหนัง คุณก็ถามเขาเองว่าลูกจะไปดูหนัง ไม่ให้
ตังค์ลูกหน่อยเหรอ? ถ้าเขาให้ก็บอกลูกว่าพ่อให้ แต่ถ้าเขาไม่ให้ เราก็
ไม่ต้องบอกลูก ลูกก็ไม่รู้ ความรู้สึกที่มีต่อพ่อก็จะไม่ไปในทางลบ
คิดถึงทุกวันค่ะ เอ้า...เอากำลังใจไหสองคันรถบรรทุก... :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 21:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2009, 11:51
โพสต์: 505

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อวานลูกกลับบ้านเย็นก็เลยทำตามที่คุณทักทาย คุณทุกข์ใจ
คุณPENYAและเพื่อนๆ แนะนำ
บอกลูกว่ากลับบ้านเย็นพ่อเขาเป็นห่วงลูกนะโทรถามหลายครั้งแล้ว
ว่าลูกกลับบ้านหรือยัง
ลูกตอบว่าถามทำไมไม่ต้องมาถาม
เราก็เลยบอกว่า ลูกรู้หรือเปล่าว่าพ่อรักลูกมาก
แต่พ่อไม่พูดเท่านั้นเอง
เมื่อตอนแม่ท้องพี่สาว พ่ออยากได้ลูกชายมาก
พ่อพนันกับเพื่อนว่าพ่อต้องได้ลูกชาย
พอแม่ท้องลูกพ่อดีใจมากที่รู้ว่าลูกเป็นผู้ชาย
พ่อรักลูกมากรู้หรือเปล่า
ลูกชายก็เงียบ คิดว่าเขาคงรู้ได้บ้าง
เรื่องอื่น ๆ ก็ปกติอยู่เหมือนเดิมค่ะ
แวะมาอีกนะคะ รอกำลังใจทุกวัน ๆๆๆ

(ตอนแรกตั้งใจจะให้ลูก ๆ โกรธพ่อ แต่พอเพื่อน ๆ แนะนำก็เลยคิดได้
ขอบคุณมากนะคะ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 10:42
โพสต์: 454

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แวะมาเยี่ยมค่ะ ...

พิมเอง ... เอากำลังใจมาฝากพี่มานิตา หนึ่งดวงใจเต็มๆ เลยค่ะ :b12:
พิมรู้สึกว่า พี่มานิตาดีขึ้นมากๆ เลยนะคะ ... ดีใจด้วยค้า :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 01:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


มานิตา เขียน:
(ตอนแรกตั้งใจจะให้ลูก ๆ
โกรธพ่อ แต่พอเพื่อน ๆ แนะนำก็เลยคิดได้
ขอบคุณมากนะคะ)


ความคิดอันนี้แหละที่เราพวกผู้หญิง
มักจะมองข้าม เอาโทสะ เอาทิฐิ มาเป็นที่ตั้ง กลัวสูญเสีย
ซ้ำสอง ก็เลยลืมนึกถึงผลเสียระยะยาวที่จะเกิดขึ้น :b6:

ตอนนี้คงต้องพุ่งเป้าหมายไปแก้ปัญหา
เรื่องลูกกับพ่อแล้ว เพราะเรื่องของสามีภรรยา พักศึกก่อน
ค่อยๆแทรกค่ะคุณมานิตา พยายามเล่าเรื่องดีๆ น่ารักๆ ของพ่อเขา
ตามแต่โอกาส เล่าให้เขาฟังบ่อยๆ ทางด้านพ่อ คุณก็ต้องพยายาม
พูดเรื่องลูกให้เขาฟังตามแต่โอกาส เช่นวันพ่อที่จะถึงนี้ถ้าเขา
ไม่สามารถกลับมาทานข้าวกับลูกได้ คุณก็เล่าให้เขาฟังว่าลูก
รอจะกอดพ่อ รอจะทานข้าวกับพ่อ บางทีเราก็ต้องสร้างสถานะการณ์
เพื่อเป็นกุศโลบาย อาจจะต้องพูดไม่จริงบ้าง แต่เพื่อความสมานฉันท์
เราก็ต้องยอมทำ ถ้าจะมีผลที่ดี มากกว่าผลเสีย :b4:

ถ้ารู้สึกว่าลูกชายยอมรับพ่อเขาขึ้นมาบ้าง
ก็ค่อยผลักดันให้เขาเข้าหากัน แต่คุณต้องแน่ใจว่าในขณะนั้นพ่อเขาก็มีความ
รู้สึกที่อยากให้ลูกเข้าใกล้นะค่ะ คุณคงต้องใช้ความอดทน
ความอดกลั้น ความพยายามให้มากที่สุด ความโกรธ ความเกลียด
น้อยใจ เสียใจ เก็บไว้ก่อนจำไว้อย่างเดียวว่าทุกอย่างเพื่อลูก
ถ้าคิดอะไรไม่ออก ตัดสินใจอะไรไม่ได้ ก็ให้เอาลูกเป็นเป้าหมาย
ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป เอาใจช่วยเสมอค่ะส่งกำลังใจมาแล้วนะค่ะ :b41:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ย. 2009, 19:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2009, 03:20
โพสต์: 48

งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: เดอะซีเคร็ต
ชื่อเล่น: สา
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณน่ะค่ะ ที่แวะเข้ามาให้กำลังใจกัน
ก็อย่างนี้แหละค่ะ ผิดหวังในตัวสามี แต่เราไม่ได้โกรธคุณแม่เขาเพราะไม่เกี่ยวกัน
แต่ท่าทางท่านจะเอาแต่ลูกท่านเลยฮ่ะ
ด้วยความที่ให้เกียรติท่านในฐานะผู้ใหญ่
พอท่านพูดแบบนี้ รู้สึกแย่ รับไม่ได้จริง ๆ
แน่นอนคงต้องปรับตัวกันยกใหญ่
เพราะเราหวังพึ่งท่านในเรื่องคำแนะนำไม่ได้
ท่านคงมองดิฉันเป็นคนอื่น ไปแล้วจริง ๆ
แย่น่ะ ถ้าเราทำตัวแบบคนอื่น กับแม่สามี
แม่ดิฉันสอนไว้เสมอ รักลูกเขา ก็ต้องดูแลเขาเสมือนแม่ตัวเอง
เพราะแม่ใคร ใครก็รัก
ลูกใคร ใครก็รัก
แต่เมื่อลูก ๆ มีปัญหา
แม่ก็เข้าข้างลูกเขย ลูกสะใภ้ เพราะแม่บอกว่าถ้าเขามาอยู่บ้านเรา
อย่าทำให้เขาอึดอัดใจ
ค่ะต้องเข้มแข็ง ดิฉันต้องทำใจให้เข้มแข็งมากกว่าทุกวันนี้
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 09:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 15:01
โพสต์: 408

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มานิตา เขียน:
พ่อรักลูกมากรู้หรือเปล่า
ลูกชายก็เงียบ คิดว่าเขาคงรู้ได้บ้าง


หมั่นพูดให้เรารับรู้ไปเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องบีบบังคับใจให้เค้ารัก
ลูกกับพ่อ ถึงอย่างไรก็ตัดกันไม่ขาด เพียงว่าใจมีทิฐิเกินไป

และสิ่งที่คุณทำ เมื่อทุกๆ คนที่เค้าได้รับรู้ เค้าก็จะรู้สึกดีกับคุณ
ถึงแม้ว่า เราต้องเจ็บปวดแค่ไหน แต่ความที่เราแยกแยะผิดชอบ
ชั่วดีได้ จะทำให้เราได้กุศลธรรมที่ดีต่อชีวิตเราเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดว่าพี่มานิตา คงดีขึ้นแล้วในเรื่องสามี-ภรรยา
เพราะอ่านจากการตอบกระทู้ต่างๆ ดูผ่อนคลาย
อารมณ์ดีขึ้นมาก สู้ต่อไปนะค่ะ ทุก ๆ อย่างจะดีขึ้นเรื่อย ๆ (จากใจ)

เรื่องลูกชาย อ้อ (นนนน) ช่วงนึงเขามีปฏิกิริยากับพ่อเขาเหมือนกัน
ลูกไม่ได้รู้เรื่องเธอคนนั้นหรอกนะ แต่เพราะเขาห่างลูกมาก ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก
เอาเวลาไปดูแลคนอื่น ลูกก็เลยมีปฏิกิริยารุนแรงเวลาพ่อเข้าไปหยอก
แต่สามีของอ้อเขา รู้สึกไม่ดีที่ลูกมีปฏิกิริยาแบบนั้น ดิฉันเลยต้องช่วย
แต่ก็บอกสาเหตุให้สามีของอ้อรับทราบนะว่าที่ลูกเป็นยังงี้เพราะอะไร
แล้วเราก็ใช้วิธีเล่าเรื่องสิ่งดี ดี ที่พ่อเขาเคยทำให้
ตั้งแต่ ตอนที่ลูกอยู่ในท้อง ตอนเขาเด็ก ๆ พ่อเขาทำอะไรให้บ้าง
ที่พ่อเขาเป็นยังงี้เขามีเหตุผลของเขานะ
แล้วดิฉันบอกลูกว่า หากมีสิ่งไหนที่พ่อเขาทำให้แล้วลูกรู้สึกดีให้บอกพ่อเขาไปตรง ๆ
"ชอบจังที่วันนี้ได้กินข้าวพร้อมพ่อ" ประมาณว่าคนเราบ้ายอ
แล้วเขาก็จะพยายามทำเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ลูกชมเขาอีก (กลยุทธนี้ปกติใช้กับเด็กนะ)

แต่ลูกพี่มานิตาเป็นวัยรุ่น อาจจะยากสักนิด แต่อ้อคิดว่าไม่เกินความสามารถหรอกค่ะ
ลองดูนะเผื่อได้ประโยชน์บ้าง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ย. 2009, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ค. 2008, 14:11
โพสต์: 839

ที่อยู่: สงขลา

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นผม ผมขอเลือกข้อนี้เป็นคำตอบสุดท้ายครับ..... เลิกกันเลยหรือแยกกันอยู่เสียใจ
เกิดมาคนเดียว ตายคนเดียวไม่มีใครไปกะเรา cool

.....................................................
ทำดีทุกทุกวัน เมื่อโอกาสมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ย. 2009, 12:34
โพสต์: 35

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b16: คุณมานิตาดีขึ้นมากแล้วค่ะสิ่งร้ายๆก็ผ่านไปได้ เรื่องสามีพักยกก่อน ตอนนี้แก้ปัญหาเรื่องลูกกับพ่อก่อนค่ะค่อยๆแก้นะค่ะเดียวก็ดีเองค่ะลูกคุณเป็นช่วงวัยรุ่นอารมณ์ก็ยังนี้แหละค่ะ( น้องขอบังอาจกล่าวถึงเพราะน้องลูกยังเล็กอยู่ยังไม่ถึงเวลาช่วงนั้นเลยบังอาจเสียเหลือเกิน) ยังงัยก็ใจเย็นๆนะค่ะ...คุณมานิตาเป็นคนเย็นอยู่แล้วจริงปล่าวๆๆๆ ฮิๆๆ :b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2009, 20:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณมานิตา

ขอโทษนะคะ มาตอบช้าค่ะ จุฬาภินันท์จำไม่ได้ทั้งหมดค่ะว่าตอบกระทู้ไหนไปบ้าง เพราะตอบเยอะน่ะค่ะ พยายามตอบให้มากที่สุด เพราะเอาหลักธรรมแท้ๆมาประยุกต์ในแต่ละกรณีน่ะค่ะ

ดีใจที่คำแนะนำของจุฬารัตน์ทำให้คุณได้ใจสบายขึ้นบ้างน่ะค่ะ

ยินดีที่ได้เพื่อนใหม่เช่นกันค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 02:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คุณมานิตาเป็นอย่างไรบ้างค่ะ?
อย่าลืมวันพ่อที่จะถึง วางแผนให้ลูกกับพ่อแสดงความรัก
ต่อกันนะค่ะ...ลืมเรื่องระหว่าง สามี ภรรยา ไปก่อน
แวะมาส่งกำลังใจค่ะ.... :b12:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ย. 2009, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 เม.ย. 2009, 09:21
โพสต์: 376

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดถึงวันพ่อ เราก็อยากให้พ่อลูกเขาแสดงความรักต่อกัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เมื่อปีก่อนๆ เราจะตัดดอกพุทธรักษาเตรียมไว้ให้ลูกไปมอบให้พ่อเขา แต่ปีนี้เขาคงไปทำหน้าที่พ่อของลูกของนังแพ-ยา เขายกย่องเชิดชูกันเหลือเกินว่าลูกบ้านนั้นเก่ง ขนาดเขาเป็นผู้หญิงเขายังเข้มแข็งกว่ากว่าลูกชายของเรา ดูซิว่าเขายกย่องชมเชยกัน แถมยังมาว่าลูกของตัวเองอีก เขาหลงกันจนไม่ลืมหูลืมตา อะไรๆเราแม่ลูกดูผิดไปหมด สักวันเวรกรรมมันต้องตอบสนองหญิงร้าย-ชายเลวคู่นั้นอย่างแน่นอน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 719 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16 ... 48  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร