วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=19



กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23 ... 45  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 27 พ.ย. 2009, 12:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ม.ค. 2009, 02:20
โพสต์: 1387

ที่อยู่: สัพพะโลก

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
สวัสดีค่ะคุณอมิตาพุทธ
ดีใจน่ะค่ะที่ได้คุยกันอีก :b1:
ไม่ใช่ผ่าตัดที่ตาค่ะ ผ่าตัดที่ท้องน่ะค่ะ
เลยต้องสูญเสียอวัยวะข้างในไป1อย่างค่ะ :b7:

แต่ตอนนี้เริ่มทำใจได้แล้วค่ะ หลังจากที่ได้คุยกับคุณน้ำ
ตอนนี้ก็เริ่มบำรุงตัวเองให้แข็งแรง ตอนนี้อาการดีขึ้นนิดหน่อยแล้วค่ะ

อ่านที่คุณน้ำเขียน คุณอมิตาพุทธไปทำงานช่วยที่โรงทานเหรอค่ะ
ถ้าคุณอมิตาพุทธว่าง ช่วยpostรูปให้เราดูบ้างสิค่ะ :b1:

คุณอมิตาพุทธ+คุณน้ำรู้ไม๊ค่ะ การได้ไปช่วยทำงานที่โรงทาน
เป็นความฝันของเราเลยค่ะ

แต่ความฝันของเรา คงจะไม่มีทางเป็นความจริงไปได้น่ะค่ะ
เราชอบมากๆเลยค่ะ
ถ้าเราหายดีแล้ว เราคงต้องคุยเรื่องนี้
กับคุณอมิตาพุทธ+คุณน้ำเยอะหน่อยน่ะค่ะ
เมื่อคืนก่อนนอนยังคิดๆอยู่เลยค่ะ
มาวันนี้ได้คุยเรื่องนี้เลยดีใจจังค่ะ
แล้วคุยกันใหม่น่ะค่ะ :b47: :b51: :b43: :b41:


สวัสดีครับคุณ เต้
ดีใจที่มีเวลาได้มาคุยกันอีกครั้งเหมือนกันครับ :b1:
ยังไม่เคยไปช่วยงานโรงทานหรอกครับ
แต่ไปช่วยที่ฝอถังนะ่ครับ ช่วยเขาขายอาหารเจ
เพราะอาหารเจที่ฝอถังทำขาย จะราคาถูก
คือเน้นส่งเสริมให้คนทานเจ และก็รายได้ส่วนหนึ่ง
ก็นำไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ในฝอถัง เช่นค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ น่ะครับ
เนื่องจากฝอถัีง ที่ผมไปช่วยงานเป็นฝอถังเล็กๆ เงินบริจาคจากญาติธรรมน้อย
ทำให้บุคลากรที่ดูแลฝอถัง ต้องหารายได้เสริมเขา
ทุกๆ วัน ก็จะมีบุคลากรที่ดูแล ไปขายน้ำเต้าหู้ เพื่อที่จะนำรายได้เหล่านั้น
มาเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในฝอถัง น่ะครับ :b12:

ขอคุณพระศรีรัตนตรัย
ขอบารมีพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้ที่ทรงสดับฟังเสียงปริเวทนาของเวไนยสัตว์
คุ้มครองให้คุณเต้ หายป่วยเป็นปกติในเร็ววัน ครับ
:b8: :b8: :b8:

.....................................................
ผู้มีจิตเมตตาจะไม่มีศัตรู ผู้มีสติปัญญาจะไม่เกิดทุกข์.


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 00:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
คุณน้ำค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะที่นำข้อมูลการเดินจงกลมมาให้เราอ่าน
ตอนนี้กำลังฝึกอยู่น่ะค่ะ พอดีตอนนี้ต้องเดินช้าๆพอดี
ต้องก้าวขาสั้นๆ เพราะถ้าก้าวขายาวๆเหมือนไปดึงที่แผล
แต่เหมือนผิดๆถูกยังไงก็ไม่รู้สิน่ะค่ะ :b1:

อ้อ!เราลืมเล่าเรื่องอะไรอย่างหนึ่งให้คุณน้ำฟังน่ะค่ะ
คือ วันแรกที่เรากลับมาจากโรงพยาบาล
พอตอนกลางคืนเราฝันถึงคุณน้ำน่ะค่ะ
เราฝันว่า มีผู้หญิงใส่ชุดขาวทั้งชุด นั่งในท่านั่งสมาธิ
แต่ท่าที่นั่งสมาธินี่สวยมากๆน่ะค่ะ คือหลับตา-นิ่ง-ตัวตรง

เราฝันว่าเรายืนอยู่ แล้วผู้หญิงที่อยู่ในท่านั่งสมาธิ
ก็ลอยมาหาเรา แต่ก็ไม่ใช่ระยะใกล้มากซักเท่าไหร่
ลอยอยู่ในระดับที่สูงกว่าศรีษะของเรานิดหน่อย
พอเราเห็น เราก็เรียก"คุณน้ำ"
แล้วเราก็ตื่น แปลกน่ะค่ะทำไมเราฝันเห็นคุณน้ำ ในชุดขาว2ครั้งแล้วน่ะค่ะ
แล้วหน้าตา ก็เป็นคนคนเดียวกัน กับที่บอกว่า"น้ำจะมาสอนให้คุณเต้เดินจงกลม"
แปลกน่ะค่ะคุณน้ำ :b10:
คุณน้ำมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้างค่ะ : :b38: :b45:





การเดินจงกรม มันเป็นเพียงชื่อเรียกน่ะค่ะ แล้วตรงนั้นเป็นเพียงรูปแบบที่เขาใช้ๆกัน
สำหรับคุณเต้ ถ้าเดินแล้วรู้สึกไม่ค่อยจะถนัด เหมือนมันถูกๆผิดๆ
ลองเดินระยะที่ ระยะเดียวก่อนสิคะ เดินจนจำขึ้นใจได้
ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ แค่นี้แหละค่ะ
หรือถ้าทำแล้วยังไม่ถนัด ก้ใช้วิธีง่ายๆค่ะ เวลาเดิน ให้เอาสติรู้ที่เท้ากำลังก้าวเดิน แค่นี้ค่ะ
ไม่ว่าจะเดินทำอะไร ก็ให้รู้อยู่ขณะที่เดิน ทำเท่าที่ทำได้นะคะ แล้วสติจะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
พอสติดีขึ้น สมาธิก็จะดีขึ้นตามค่ะ

เรื่องที่คุณเต้เล่ามา เราเคยสร้างกุศลร่วมกันมาน่ะค่ะ ไม่งั้นคุณเต้คงไม่ฝันถึงน้ำ
ไม่ใช่คุณเต้คนเดียวนะคะที่ฝันถึงน้ำ มีน้องที่ทำงานด้วยกัน เขาก็บอกว่า
เขาฝันถึง ว่าน้ำแต่งขาวทั้งชุด แล้วไปสอนให้ทำกรรมฐานในฝัน
นี่ก็ตกลงว่าจะไปที่บ้านเขาที่จังหวัดน่านน่ะค่ะ ไปแนะนำกรรมฐานให้แม่เขา ตัวเขา และคนแถวบ้าน
เขาขอมาน่ะค่ะ น้องเขากำลังจะลาออกจากงานแล้ว เขาเลยขอตรงนี้มา
ไปปีใหม่นี่แหละค่ะ เขารู้ว่าน้ำชอบดูดาว เขาเตรียมเช่าเต้นท์ไว้ให้แล้ว
เขาจะพาไปค้างที่ภูติดดาวหรือภูชิดดาวอะไรประมาณนี้แหละค่ะ
เขาบอกว่าตัวเราจะเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยดวงดาว เพราะว่าอยู่ใกล้ชิดท้องฟ้ามากๆ
สักวันหนึ่ง เมื่อบุญกุศลหนุนนำ เราคงจะได้พบกันอย่างแน่นอนค่ะ :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ย. 2009, 01:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ.น้ำค่ะ
วันนี้หิวโซเลย อยากทานน้ำพริกมะขามเปียกค่ะ
ชอบทานมากเลยแล้วก็ขนมไข่นกกะทา
ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :b8:

ขอรบกวนอีกเรื่องคือ ทักทายสนใจ
ที่จะเรียนอภิธรรม หรือปริยัติ
ไม่ทราบเขามีเรียนทาง on line
หรือเปล่าค่ะ? อ.น้ำ พอจะมีรายละเอียดบ้างไหมค่ะ? :b10:

เคยติดต่อทางไปรษณีย์ เขาต้องส่งไปที่เมืองไทยก่อน
แล้วให้ทางเมืองไทยส่งมาให้ที่นี่ ยุ่งยากหน่อย
ถ้าไม่มีทางเลือกก็คงต้องใช้วิธีหลังนี้ ขอรบกวนสองเรื่องนะค่ะ :b8:

อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 29 พ.ย. 2009, 01:26, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 01 ธ.ค. 2009, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


taktay เขียน:
อ.น้ำค่ะ
วันนี้หิวโซเลย อยากทานน้ำพริกมะขามเปียกค่ะ
ชอบทานมากเลยแล้วก็ขนมไข่นกกะทา
ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :b8:

ขอรบกวนอีกเรื่องคือ ทักทายสนใจ
ที่จะเรียนอภิธรรม หรือปริยัติ
ไม่ทราบเขามีเรียนทาง on line
หรือเปล่าค่ะ? อ.น้ำ พอจะมีรายละเอียดบ้างไหมค่ะ? :b10:

เคยติดต่อทางไปรษณีย์ เขาต้องส่งไปที่เมืองไทยก่อน
แล้วให้ทางเมืองไทยส่งมาให้ที่นี่ ยุ่งยากหน่อย
ถ้าไม่มีทางเลือกก็คงต้องใช้วิธีหลังนี้ ขอรบกวนสองเรื่องนะค่ะ :b8:

อนุโมทนา เจริญในธรรมค่ะ




การเรียนอภิธรรมก็เหมือนเรียนนักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก คือ ต้องท่องจำค่ะ
แล้วก็สอบอีกที เพื่อรับใบประกาศ เหมือนนักเรียนแหละค่ะ

ก็มีการเรียนทางออนไลน์นะคะ
http://larndham.org/index.php?showtopic=11242

http://www.buddhism-online.org/web/

ลิงค์แรกมีที่เขาสนทนากัน ซึ่งมีลิค์ที่น่าเข้าไปศึกษา ลองไล่ๆอ่านดูนะคะ
ส่วนลิงค์ที่ 2 เป็นการเรียนอภิธรรมออนไลน์ ดูด้านขวามือค่ะ เขียนว่าบทเรียน

http://www.thammapedia.com/dhamma/naktham.php

ลิงค์นี้ หลักสูตร นักธรรมตรี ถึง นักธรรมเอกค่ะ

http://vichakarn.triamudom.ac.th/social/

แบบทดสอบ ข้อสอบค่ะ ทำแล้วตรวจสอบให้คะแนนกับตัวเองได้
ห้ามแอบดูหนังสือ แล้วนำมาตอบข้อต่อข้อนะคะ ต้องทำด้วยตัวเองจริงๆ

อนุโมทนาในความเพียรและความใฝ่รู้ในสิ่งที่มีคุณอนันต์กับชีวิตค่ะ สาธุ :b8:

เรื่องเดินจงกรม และนั่ง ตอนนี้เป็นยังไงมั่งคะ :b12:



ฝากข้อความถึงคุณทักทายไว้ ที่บล็อกส่วนตัวของน้ำน่ะค่ะ
ในกระทู้กิเลสค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 01 ธ.ค. 2009, 22:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 01 ธ.ค. 2009, 22:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled53.bmp
untitled53.bmp [ 440.91 KiB | เปิดดู 4320 ครั้ง ]
taktay เขียน:
อ.น้ำค่ะ
วันนี้หิวโซเลย อยากทานน้ำพริกมะขามเปียกค่ะ
ชอบทานมากเลยแล้วก็ขนมไข่นกกะทา
ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :b8:





จัดหาให้พิเศษเลยค่ะ กุ๊กกิติมาศักดิ์ สูตรดั้งเดิม ฟังแล้วกลืนน้ำลายตามค่ะ

http://www.trueplookpanya.com/true/know ... nt_id=2326 ตอนที่ 1

http://www.trueplookpanya.com/true/know ... _id=003324 ตอนที่ 2

น้ำพริกมะขามเปียก

เครื่องปรุง
ส้มมะขามเปียกล้างแล้วหั่นให้ละเอียด 20 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด
กระเทียมแกะเปลือก 2 หัว
หอมแดง 2 หัว
กะปิห่อใบตองย่างไฟ 1 ช้อนโต๊ะ
มะเขือขื่นแคะเม็ดหั่นละเอียด 1 ผล
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีปรุง
นำพริกขี้หนูสวน กระเทียม หอมแดง ส้มมะขามเปียก กะปิ ใส่ครกโขลกรวมกันให้ละเอียด
ใส่มะเขือที่เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เข้ากันตักใส่ถ้วย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมรส
ตามต้องการ รับประทานกับผักสด เช่น ถั่วพู ยอดกระถิน แตงกวาดอง มะเขือเปราะ
ยอดผักบุ้งนา ยอดแคลวก พร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ


อีกสูตรค่ะ

ส่วนผสม

หมูสับ 3/4 ถ้วยตวง

กุ้งแห้ง 1/3 - 1/2 ถ้วยตวง

มะขามเปียกคั้นข้นๆ 1/2 ถ้วยตวง

กะปิ 1 ช้อนชา

พริกแห้งคั่ว ตามชอบ

หอมเจียว กระเทียมเจียว อย่างละ 1/3 ถ้วยตวง หรือแล้วแต่ชอบ
(พอดีที่บ้านมีแบบทอดสำเร็จอยู่แล้วอะค่ะ เลยสะดวกมาก)

น้ำตาลทราย เกลือ เพื่อปรุงรส

น้ำมันพืช 2 ชต.

วิธีทำ

ตั้งกะทะ ใส่น้ำมัน แล้วเอาหมูลงผัด ตามด้วยกุ้งแห้ง กะปิ พริกแห้ง (หักเป็นท่อนๆ)
กระเทียมและหอมเจียว ผัดจนหมูสุกและทุกอย่างเข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก เกลือ
และน้ำตาล ชิมรสตามชอบ (ของตัวเองชอบเปรี้ยว ก็จะปรุงให้เปรี้ยวนำ หวานตาม
แล้วเค็มปะแล่มๆ ค่ะ) ผัดจนน้ำงวด และน้ำพริกเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟกับผักสด
ไข่ต้ม (ไข่เจียว ไข่ดาว ก็น่าจะได้ค่ะ) และข้าวร้อนๆ ค่ะ

จริงๆ ถ้าไม่มีกะปิ ก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ ใช้น้ำปลาแทนได้ พอดีวันนี้ใช้กะปิ (กลิ่นตลบมากๆ)
เลยงดน้ำปลา กลัวกลิ่นจะแรงเกินไปถ้าใช้ทั้งสองอย่าง รวมทั้งกุ้งแห้งและกะปิค่อนข้างเค็มอยู่แล้ว
เลยกะว่าถ้าใส่น้ำปลาอีกจะเค็มเกิน (แต่ที่ไหนได้ สาดเกลือไปเยอะเหมือนกันค่ะกว่าจะได้รสที่ต้องการ)

อ้อ ลืมไป ตอนผัดใช้ไฟค่อนข้างอ่อนนะคะ

เครดิตจากที่นี่ค่ะ http://lainahm.blogsome.com/2009/05/12/p175/

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 01 ธ.ค. 2009, 22:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสต์ เมื่อ: 01 ธ.ค. 2009, 22:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled53.bmp
untitled53.bmp [ 92.63 KiB | เปิดดู 4315 ครั้ง ]
taktay เขียน:
อ.น้ำค่ะ
วันนี้หิวโซเลย อยากทานน้ำพริกมะขามเปียกค่ะ
ชอบทานมากเลยแล้วก็ขนมไข่นกกะทา


ขนมไข่นกกระทา

หามาได้หลายสูตรเลยค่ะ ลองทำดูนะคะ สูตรค่าใช้จ่ายน้อยๆก็มีค่ะ

* แป้งมัน 500 กรัม

* แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ

* มันเทศต้มจนสุก 800 กรัม

* น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ

* เกลือป่น 1 1/2 ช้อนชา

* งาขา (สำหรับโรยหน้า ตามความชอบ)

* น้ำปูนใสเล็กน้อย

* น้ำมันพืชสำหรับทอด

1. นำแป้งมัน, แป้งสาลี, น้ำตาลทราย, และเกลือผสมเข้าด้วยกัน

2. นำส่วนผสมในขั้นตอนที่หนึ่งไปผสมกับมันเทศนึ่ง จากนั้นใส่น้ำปูนใสลงไปนิดหน่อย ขยำส่วนผสมจนเข้ากันดี จึงปั้นเป็นลูกกลมๆ

3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่แป้งที่ปั้นไว้แล้วลงไปทอด คอยกลับสม่ำเสมอ อย่าให้ไหม้

4.. เมื่อสุกเหลืองดี ตักออกมาสะเด็ดน้ำมัน ทิ้งไว้ให้เย็น (โรยหน้าด้วยงาขาว) จึงเสริฟรับประทานได้


สูตรใส่นม

ส่วนผสม
ไข่นกกระทา มันเทศ / เผือก / ฟักทองนึ่งแล้วบด 500 กรัม
แป้งสาลี 200 กรัม
แป้งมัน 125 กรัม
ผงฟู 3 / 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราบ 400 กรัม
เกลือป่น 1/ 2 ช้อนโต๊ะ
นมสด 3 / 4 - 1 ถ้วย
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ1. ร่อนแป้งสาลี แป้งมัน ผงฟู และเกลือเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง
2. ผสมมันเทศที่นึ่งแล้วกับน้ำตาล เติมแป้งที่ร่อนไว้แล้วลงไป นวดให้เข้ากันจนเนื้อเนียน ค่อย ๆ เติมนมสดลงไปทีละน้อย นวดต่อไปจนกระทั่งแป้งเนียนนุ่ม หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
3. นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ จนหมดแป้ง คลุมแป้งทีปั้นแล้วด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำบิดให้หมาด ๆ
4. จากนั้นใส่น้ำมันสำหรับทอดลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟกลาง ใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงทอด ขณะทอดใช้ทัพพีโปร่งกดตัวขนมเบา ๆ ทอดให้เหลือ ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน

สูตรใส่กะทิ

ส่วนผสม
มันเทศนึ่งสุกยีละเอียด 2 1/2 ถ้วยตวง
แป้งมัน 3/4 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 3 ช้อนโต๊ะ
ไข่แดง 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนชา
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งมันกับผงฟูด้วยกันสัก 2 ครั้ง
2. นวดมันที่ยีไว้รวมกับแป้ง ใส่เกลือ ไข่น้ำตาล นวดไปจน เข้ากัน ระหว่างนวดเติมกะทิไปเรื่อย ๆ จนหมด เนื้อมันเข้ากับส่วนผสมทั้งหมดดีแล้ว
3. แบ่งมันออกเป็นก้อนเล็ก ๆ ขนาดไข่นกกระทา คลึงให้ผิว เนียน
4. นำลงทอดในน้ำมันมาก ๆ ไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนผิว เหลืองทองและข้างในสุกทั่วถึง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน


มันเทศหรือมันฝรั่งนึ่งสุก 3 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
แป้งมัน 2 ถ้วย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วย


ใช้ส้อมยีมันฝรั่งให้ละเอียด หรือจะโขลกก็ได้
ผสมแป้งมัน แป้งสาลี เกลือ แล้วร่อนรวมกัน
ใส่ลงในมันฝรั่ง ผสมให้เข้ากัน นวดส่วนผสมจนแป้งเนียน ใส่ไข่นวดต่อไปให้เข้ากัน
พักไว้ 30 นาที แล้วจึงปั้นเป็นเม็ดกลมๆ รีๆ (ขนมดเท่าไข่นกกะทา)
นำไปทอดในน้ำมันมาก ที่ร้อนปานกลาง เวลาทอดต้องใช้ทัพพีโปร่ง กดขนมเพื่อให้ขึ้นฟูนิ่ม
ทอดพอเหลือง รับประทานร้อนๆ




หมายเหตุ * เห็นเขาว่า ใช้มันฝรั่งทำนี่ อร่อยกว่ามันเทศอีกนะคะ แล้วก็อร่อยกว่าเฟรนฟราย

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสต์ เมื่อ: 02 ธ.ค. 2009, 06:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


walaiporn เขียน:
ฝากข้อความถึงคุณทักทายไว้
ที่บล็อกส่วนตัวของน้ำน่ะค่ะในกระทู้กิเลสค่ะ[/color]


อนุโมทนาค่ะ อ.น้ำ ทั้งน้ำพริก และขนมไข่นก ลองทำ
แล้วจะแจ้งผลนะค่ะ

การเดินตอนนี้ก็ลดลงมาเหลือ 1-4 ยกเว้นระยะ 2
แล้วก็นั่งครึ่งชั่วโมง ดีขึ้นค่ะ เอนเอียงบ้างนิดหน่อย
ก่อนปฏิบัติ ก็กำหนดลมหายใจสักห้าถึงสิบนาทีก่อน
ถึงนั่ง ก็ดีขึ้นค่ะ มีแต่คิดกับนิมิตรนิดหน่อย แต่จับ
เดินหนอ พองหนอได้มากกว่าเดิม พอได้ยินเสียงคนพูด
ปุ๊ปก็กำหนดได้ทันที แต่ถ้าเป็นเสียงแปลกๆที่มาใหม่ๆ
ยังไม่ค่อยทันค่ะ ผ่านไปแป๊ปถึงนึกได้ว่ามีเสียงผ่านเข้ามา
ก็เลยกำหนดรู้หนอแทน

อ.น้ำขา ทักทายไปกระทู้กิเลสไม่ได้ค่ะ อยู่หมวดไหนค่ะ?
เอางี้ได้ไหม?ถ้า อ.น้ำไม่รังเกียจ มีอะไรเข้าไปที่เมล์
ได้เลยค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 04 ธ.ค. 2009, 12:12, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 02 ธ.ค. 2009, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



คุณทุกทายคะ cool

ขอโทษทีค่ะ ที่เขียนข้อความไว้ไม่ชัดเจน

แล้วก็สิ่งที่คุณทักทายบอกไว้นั้น จะขอถามเพิ่มเติมนะคะ

ตรงนี้ค่ะ ขออนุญาติแอดเมล์ไว้นะคะ :b12:

blog/walaiporn/index_b-292.html#replies

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 09 ธ.ค. 2009, 06:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2009, 11:20
โพสต์: 3


 ข้อมูลส่วนตัว


อูย....

น้ำลายไหล.........

อิอิ


โพสต์ เมื่อ: 12 ธ.ค. 2009, 08:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2009, 18:30
โพสต์: 165

แนวปฏิบัติ: มหายาน
งานอดิเรก: ทรงพระสูตร
ชื่อเล่น: พุทธศานติ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อาหารเจในปัจจุบันเค้าทานกันแบบไหนครับ

ทานเจแบบที่ 1 ทานเจ แบบเบียดเบียนสัตว์ได้ คือ ทานผักและผลไม้ธัญพืชทุกชนิดและสามารถทาน นม น้ำผึ้ง ไข่ ได้คล้ายการทานมังสะวิรัติของอินเดียมาก

เรื่องเริ่มจากคนในชมพูทวีป ละเว้นการฆ่า โดยถือมังสะ แต่การรับประทานเนยนมของคนในชมพูทวีปสมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน เป็นไปโดยศาสนพิธี โดยถือว่าแม่โค คือตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายสถิตอยู่ในตัวแม่โค และประทานนมจากแม่โคให้พวกเขา ฉะนั้นคนอินเดียจึงปูชา แม่โค เปรียบเสมือนเป็นปิตา มาตา (พ่อแม่)ไม่มีการทุบตีแม่โค ทุกเช้าจะทำพิธีปูชา ด้วยผงหอม ผงคัมคัมสีแดง สีเหลือง และจะปูชาแม่โคด้วยผลไม้ของหวานต่างๆ อาบน้ำให้แม่โค มีการทำอารตี ให้เหมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระองค์หนึ่งของอินเดีย คนอินเดียปูชาแม่โคเหมือนเป็นผู้มีพระคุณสูงสุด ดังเคยเห็นในยุคแรกๆพวกนักท่องเที่ยวที่ไปประเทศอินเดีย ไปคนทุบตีโค ไล่โค หรือ ฆ่าโค ในอินเดียต้องโทษติดคุกหรือประหารชีวิตมาแล้ว ชมพูทวีปสมัยโบราณหากใครทำให้แม่โค หรือ โค ตายต้องโทษอย่างสูงสุด คือ ต้องหลุดจากวรรณะ และเป็นบาปอย่างมหันต์ จัดเป็นอนันตริยกรรมอย่างนึงของสังคมสมัยนั้นจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว ถ้าอยู่ในวรรณะสี่ คือ กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร หากทำโคตาย ต้องตกเป็นจัณฑาลทันที ถือเป็นพวกกาลกิณีไม่อยู่ในวรรณะ ต้องขับไล่ไปให้พ้น ไปอยู่ในหมู่บ้านใดก็จะฉิบหาย เคยมีพวกจัณฑาลไปดื่มน้ำในแม่น้ำที่มีผู้คนในวรรณะสี่ใช้อยู่ เค้าถือว่าเป็นพวกจัญไรไม่ให้ใช้ร่วมกัน ถ้าเห็นจะถูกทุบตีจนตาย บางคนถูกทุบจนแขนหักก็มี การรับประทาน เนย นม ของคนอินเดีย แม้เค้าจะรับประทานก็จริงแต่ไม่จัดเป็นการเบียดเบียนสัตว์ เพราะสถานะของโคในชมพูทวีปนั้น คือ พระผู้เป็นเจ้า ถูกปูชาในแทบทุกสถานที่ คนอินเดียทานนมโคก็จริง แต่ก็ปูชาและยกย่องแม่โคเช่นกัน ไม่มีการฆ่าโคในชมพูทวีป

ทานเจแบบที่ 2 ทานเจ แบบฆ่าสัตว์ได้ 1ชนิด คือ ทานผักและผลไม้ธัญพืชทุกชนิดและสามารถนำหอยมาฆ่าทานได้ จะทานสดๆบีบมะนาวไปหน่อยก็ดี จะนำไปต้มลวกให้หอยตายแล้วอ้าก็ดี
เกิดจากคนที่ถือทานเจตลอดชีวิต แต่ตกไปในทะเล ไม่มีอะไรให้ทาน จึงอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า หากมีอะไรเกี่ยวขึ้นมาที่ไม้เท้า ก็จะรับประทานสิ่งนั้น ปรากฏว่ามีหอยทะเลติดไม้เท้า จึงถือว่า หอยยอมสละชีวิตให้ตนทานได้ จากนั้นจึงถือทานหอยได้มาโดยตลอด ซึ่งเรื่องจริงหอยอาจยอมสละชีวิตให้เฉพาะตอนไม่มีอะไรทานในจังหวะนั้นก็ได้ ๑ หรือจะสละให้ทานตลอดไปก็ได้ ๑ หรือคิดไปเองว่าสละชีวิตให้ก็ได้ ๑ แต่ให้พิจารณาจากพระไตรปิฏกบาลี พระวินัยปิฎก เล่ม ๕ มหาวรรคภาค ๒ ตามความพระบาลี มีความดังนี้

"ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น
ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปไหน
ขอเนื้อต่ออุบาสิกาสุปปิยา.

เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสเช่นนี้แล้ว ภิกษุรูปนั้นได้ทูลรับต่อพระผู้มีพระภาคว่า ข้าพระ-
พุทธเจ้า ได้ขอเนื้อต่ออุบาสิกาสุปปิยา พระพุทธเจ้าข้า
พ. เขานำมาถวายแล้วหรือ ภิกษุ
ภิ. เขานำมาถวายแล้ว พระพุทธเจ้าข้า
พ. เธอฉันแล้วหรือ ภิกษุ
ภิ. ฉันแล้ว พระพุทธเจ้าข้า
พ. เธอพิจารณาหรือเปล่า ภิกษุ
ภิ. มิได้พิจารณา พระพุทธเจ้าข้า

ทรงติเตียน
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษ ไฉนเธอจึงไม่ได้พิจารณา แล้วฉัน
เนื้อเล่า เธอฉันเนื้อมนุษย์แล้ว การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชน
ที่ยังไม่เลื่อมใส .... ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อมนุษย์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาคนที่มีศรัทธาเลื่อมใสมีอยู่ เขาสละเนื้อของเขาถวายก็ได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อมนุษย์ รูปใดฉัน ต้องอาบัติถุลลัจจัย
อนึ่ง ภิกษุยังมิได้ พิจารณา ไม่พึงฉันเนื้อ รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อช้าง
ก็โดยสมัยนั้นแล ช้างหลวงล้มลงหลายเชือก สมัยอัตคัตอาหาร ประชาชน
พากันบริโภคเนื้อช้าง และถวายแก่พวกภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้อช้าง
ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้ฉัน
เนื้อช้างเล่า เพราะช้างเป็นราชพาหนะ ถ้าพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบคงไม่ทรงเลื่อมใสต่อพระสมณะ
เหล่านั้นเป็นแน่ ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติ
ห้ามแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อช้าง รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ.

พระพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อสุนัข
สมัยต่อมา ถึงคราวอัตคัดอาหาร ประชาชนพากันบริโภคเนื้อสุนัข และถวายแก่พวก
ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ภิกษุทั้งหลายฉันเนื้อสุนัข ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า
ไฉนพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรจึงได้ฉันเนื้อสุนัขเล่า เพราะสุนัขเป็นสัตว์น่าเกลียด น่าชัง
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้ามแก่ภิกษุทั้งหลาย
ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงฉันเนื้อสุนัข รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ."

สรุปคือ มีภิกษุรูปหนึ่งไปขอเนื้อต่อพุทธศาสนิกชนที่ชื่อว่า "สุปปิยา" แล้วปรากฏเป็นเนื้อมนุษย์ พุทธองค์ทรงตำหนิติเตียนว่า ได้พิจารณาเนื้อนั้นแล้วหรือยัง ไม่มีใครพิจารณาจึงทรงติเตียนพร้อมแสดงธรรมีกถา แล้วตรัสห้ามฉันเนื้อมนุษย์ ถึงแม้เขาจะสละเนื้อหรือชีวิตมนุษย์ของเขา ถวายให้เราฉันได้ ด้วยความศรัทธาก็ตาม ก็ไม่สมควรฉันด้วยประการทั้งปวง ผู้ใดละเมิดบัญญัติไปฉันเนื้อมนุษย์ แม้นจะกล่าวว่า มีบุคคลศรัทธาเลื่อมใส สละเนื้อและชีวิตของบุคคลนั้นถวายให้ฉันก็ตาม ก็มิควร ให้ต้องอาบัติถุลลัจจัย

ทานเจแบบที่ 3 ทานเจ แบบไม่ฆ่าสัตว์และไม่เบียดเบียนสัตว์ คือ ทานผักและผลไม้ธัญพืชทุกชนิดอย่างเดียว คือ ทานทุกอย่างที่งอกจากดิน ทานทุกอย่างที่เป็นพืช รวมถึง ผักสด ผลไม้ ธัญพืชทุกอย่างด้วย

การทานเจทั้ง 3 แบบจะยกเว้นผัก 5 ชนิดเหมือนกัน คือ กระเทียม กุ่ยช่าย หลักเกียว หัวหอม ใบยาสูบ

อยากทราบว่าในสายมหายานทานเจแบบใดครับ และอยากให้ทางคณะเผยแพร่พระพุทธศาสนาจัดทำข้อสรุปการทานเจ มาแจกจ่ายด้วย เผื่อไว้ใช้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในงานเทศกาลทานเจปีหน้าให้ผู้ที่มีศรัทธาได้ทานเจแบบพุทธศาสนา ฝ่ายมหายานได้อย่างถูกต้องครับ

หมายเหตุ

- วินย.5/49/59 อ้างอิงตามพระไตรปิฏกพระบาลีมีความหมายถึง พระวินัยปิฎกเล่มที่5 ข้อ 49 หน้าที่ 59 หรือ พระวินัยปิฎก เล่ม ๕ ชื่อคัมภีร์มหาวรรค ภาคที่ ๒ เล่มที่ ๕ ข้อที่ ๔๙ หน้าที่ ๕๙ บรรทัดที่ ๗ ตามพระไตรปิฏกฉบับพระบาลี

.....................................................
สัตว์ทั้งหลายย่อมต้องการความสุข ผุ้ใดแสวงหาสุขเพื่อตน
เบียดเบียนผู้อื่นด้วยอาชญา เมื่อละโลกแล้ว ย่อมไม่ได้สุข


โพสต์ เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 01:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาค่ะ คุณperish
ดิฉันจะทานมังสวิรัติ แทบทุกวันพระ คือบางโอกาส
ไม่สะดวก ก็จะไม่ทาน ถือเอาความไม่เดือดร้อน
ของตัวเองและผุ้คนรอบข้างเป็นหลัก ที่พยายาม
ทานมังสวิรัติอาทิตย์ละครั้ง ก็เพียงเพื่อจะลด ละ
การเบียดเบียนสัตว์แม้จะแค่หนึ่งวันต่ออาทิตย์ก็ตาม
และเป็นการฝึกความอดทน ในความอยากคือกิเลส
ไม่ค่อยทราบความหมายที่แท้จริง ลึกซึ้งของการ
กินเจแต่อย่างใด และขออนุโมทนาสาธุกับข้อมูล
ที่คุณนำมาให้ได้ศีกษานะค่ะ :b8:

เจริญในธรรมค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 01:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ.น้ำค่ะ ทักทายทำน้ำพริกมะขามเปียกแล้วนะค่ะ
อร่อยมาก..ขอบอก.... :b22:

ส่วนลิงค์เรียนธรรมออนไลน์นั้น เข้าไปได้แค่หน้าแรก เข้าไปหน้าอื่น
และสมัครไม่ได้ค่ะ มันเป็นภาษาจีน และภาษาคอมค่ะ จะมีก็ลิงค์ข้อสอบ
ที่อ่านออก แต่ก็ทำข้อสอบไม่ได้ เพราะไม่มีข้อมูลให้อ่านก่อน เฮ้อ....
พยายามมาหลายครั้งแล้ว อนุโมทนานะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 02:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



กำลังงงๆ ...
ลองเข้าไปทุกลิงค์ที่เรียนธรรมะ น้ำเข้าไปปกติทุกลิงค์เลยนะคะ
แม้แต่บททดสอบการเรียนนักธรรม ก็เข้าได้หมด ปกติดี
คุณทักทายเข้าไม่ได้เลยหรือคะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสต์ เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 03:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ.น้ำค่ะ ลิงค์แรกและลิงค์ที่สาม
เข้าไม่ได้เลย เข้าไปเน็ตค้าง ลิงค์ที่สองเข้าได้แต่พอเข้า
ไปหน้าที่สมัครกลายเป็นภาษาจีน และภาษาคอมค่ะ ส่วน
ลิงค์สุดท้ายเข้าได้ปกติ เป็นข้อสอบแต่ทำไม่ได้เพราะไม่
มีข้อมูลให้อ่านก่อนเลย...ใบ้ค่ะ...ไม่เป็นไรค่ะ..
คงต้องติดต่อไปทางเมืองไทยให้เขาส่งมาให้...
อนุโมทนานะค่ะ.... :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสต์ เมื่อ: 21 ธ.ค. 2009, 23:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณทักทายต้องเรียนก่อนค่ะ ถึงจะทำข้อสอบได้
กระทู้แรกจะเป็นบทเรียนของนักธรรมตั้งแต่ ชั้นตรี จนถึง ชั้นเอก
ต้องอ่านจนจำได้แล้วนะคะ ก็ไปทำข้อสอบ ห้ามมาเปิดดูอย่างเด็ดขาดค่ะ

http://www.thammapedia.com/dhamma/naktham.php


ข้อสอบนักธรรมชั้นตรีถึงชั้นเอก

http://vichakarn.triamudom.ac.th/social/

เวลาติ๊กคำตอบลงไป ถ้าถูกหรือผิด เขาจะมีคำตอบขึ้นมาค่ะว่าเราตอบถูกหรือผิด

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 21 ธ.ค. 2009, 23:40, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 664 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23 ... 45  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร