วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 03:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 29 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 00:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ก.ค. 2008, 23:37
โพสต์: 449

ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


คัดลอก จากเว็บ DMC เพื่อให้มีข้อมูลทั้ง2ทาง

วัดอยู่เหนือความรวยหรือความจน

หลวงพ่อไม่เคยเบื่อหน่ายเพศสมณะเลยแม้แต่เพียงวันเดียวตั้งแต่บวชวันแรก เผลอประเดี๋ยวเดียว ๓๐ กว่าพรรษาแล้ว เป็นพระนี่อยู่เหนือความรวยความจนนะ พระไม่ได้คิดเรื่องรวยและก็ไม่ได้คิดเรื่องจน มันเหนือตรงนั้นไปแล้ว วัดก็เหมือนกันอยู่เหนือคำว่า วัดรวย หรือ วัดจน

" วัด" เป็นเครื่องวัดของคนเข้าวัดว่า กิเลสหรือสิ่งไม่ดีนั้นหมดไปแค่ไหน ยังเหลืออีกแค่ไหน และก็เป็นสถานที่ตักตวงบุญ เป็นแหล่งเนื้อนาบุญ เป็นแหล่งแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะทำให้เราดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด มีสุคติเป็นที่ไป มีเป้าหมายคือนิพพาน เราจะมองที่ถาวรวัตถุ หรือจำนวนคนเข้าวัดว่า วัดนี้รวย วัดนี้จน ไม่ถูกนะ

วัดหลวงปู่หลวงตาในหลายๆ วัดที่ต่างจังหวัด ท่านมีแค่กุฏิหลังเล็ก ๆ มีทางจงกรม มีที่พักกลางวัน มีศาลาเอนกประสงค์ ที่ท่านทำอย่างนั้นเพราะท่านมีวัตถุประสงค์ที่จะปลีกวิเวก เพื่อให้กายสงัด ใจจะได้สงัด กิเลสมันจะได้หมดไป นั่นวัตถุประสงค์ของท่าน ไม่ใช่ท่านจนนะ ถ้าท่านจะสร้างให้ใหญ่โตท่านก็ทำได้ แต่ท่านไม่ได้มีวัตถุประสงค์อย่างนั้น ใครมีบุญอยากได้บุญก็มาฟังธรรม ไม่มีใครมาท่านก็ปฏิบัติธรรมทำความเพียรของท่านไป มันแล้วแต่วัตถุประสงค์

อย่างวัดใหญ่ๆหลายๆวัดโดยเฉพาะวัดพระธรรมกายที่สร้างก็มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาไว้เป็นสถานที่ประพฤติธรรมให้สาธุชนผู้มีบุญทั้งหลายที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ห่างไกลนัก รถวิ่งสักชั่วโมง ชั่วโมงครึ่ง ได้มาปฏิบัติธรรมรวมกัน เป็นพลังหมู่ในการปฏิบัติธรรมในการศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นจะให้ไปตากแดด ตากลม ตากฝน ก็ทำไม่ได้ เมื่อคนมาเยอะก็ต้องสร้างใหญ่ ไม่ได้เกี่ยวกับรวยหรือจนเลย เพราะว่าวัด หลวงพ่อเอาไปขายไม่ได้ แล้วไม่เคยคิดจะไปขาย เลิกคิดค้าขายหรือทำมาหากินตั้งแต่บวชแล้ว บวชแล้วก็เลิก

หรือมหาธรรมกายเจดีย์ที่สร้างนี่ก็เป็นที่รวมใจให้คนนึกถึงบุญ นึกถึงพระรัตนตรัย ใจจะได้เป็นกุศล เมื่อใจเป็นกุศล เลื่อมใสในพระรัตนตรัย จะได้เป็นรหัสผ่านไปสุคติภพ วัตถุประสงค์เป็นอย่างนี้จึงสร้างให้มันใหญ่ ก็แค่นั้นเอง
เพราะฉะนั้นวัดอยู่เหนือความรวยหรือความจน ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ส่วนเมื่อเข้าใจแล้วจะไปทำบุญที่ตรงไหน มีศรัทธาตรงไหนก็ทำตรงนั้น ศรัทธาอยากสร้างโรงเรียนก็สร้างโรงเรียน ศรัทธาอยากสร้างโรงพยาบาลก็สร้างโรงพยาบาล หรือสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ซึ่งรักษาไข้ทางกาย และให้วิทยาทานพอแล้ว เราจะมาสร้างโรงพยาบาลรักษาไข้ทางใจ หรือมาสร้างโรงเรียนเป็นที่ศึกษาเรื่องความจริงของชีวิตก็มาสร้างวัด ก็แล้วแต่เรา

แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เรียงขั้นตอนของบุญที่จะได้มากมาตามลำดับ ตั้งแต่ ให้อาหารกับสัตว์เดรัจฉาน กับมนุษย์ทุศีล มนุษย์มีศีล มนุษย์เข้าถึงธรรม ถึงฌานสมาบัติ เป็นโคตรภูบุคคล เป็นพระอริยะบุคคล เป็นพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ไล่เรื่อยไปถึงสร้างถาวรวัตถุ เรียงลำดับปริมาณของบุญที่จะได้มากกว่ากัน พระองค์ก็บอกเอาไว้แล้วที่มีอยู่ในตำรับตำรา เมื่อเราทราบอย่างนี้แล้วเราก็เลือกเอา แล้วแต่ใจของเราจะไขว่คว้าเอา

เพราะฉะนั้นวัดอยู่เหนือความรวยความจน ดังนั้นถ้าใครยังคิดว่าวัดนั้นรวย วัดนั้นจนล่ะก็เลิกคิดได้แล้ว เดี๋ยวนี้เขาอยู่ในยุคคิดใหม่ คิดผิดคิดใหม่ได้ แต่คิดใหม่อย่าให้มันผิด คิดให้ถูกนะจ๊ะ ให้คิดตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์สอนให้คิดนั่นแหละ

1. ทำไมวัดต้องสร้างใหญ่

"คุณคิดว่า หากต้องการไปช่วยคนที่ลอยคออยู่ในทะเลบ้าง ติดเกาะบ้าง ลอยแพบ้าง ตามที่ต่างๆ นั้น ควรใช้เรือใหญ่มโหราฬดี หรือใช้เรือเร็วขนาดเล็กดี"

พี่ว่า หากเขาเป็นคนมีเหตุมีผลจริงๆ เขาจะรู้ดีว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกสมบูรณ์พร้อม ทุกอย่างล้วนมีข้อดีและข้อด้อย ผู้เข้าใจโลกจริงๆ จะไม่โจมตีจับผิดกันเอง ซึ่งเขาอาจจะตอบว่า
"เรือเล็ก ช่วยคนได้เร็วขึ้นฝั่งได้ไว แต่ก็ช่วยได้น้อย เอาไปไม่กี่คนน้ำมันหมดก่อน" หากเป็นเช่นนี้ เราก็อธิบายต่อเลยว่าเปรียบเสมือน "การสร้างวัดขนาดพอเหมาะกับหมู่บ้าน ตำบล เพื่อโปรดคนในหมู่บ้านตำบล มีข้อดีคือ คนน้อยเรื่องก็น้อย มุ่งหน้าสร้างบารมีในกลุ่มเล็กๆ เพื่อพ้นทุกข์ได้ง่ายกว่า"

"เรือใหญ่ แน่นอนช่วยคนได้ช้า แต่สามารถช่วยคนได้เป็นจำนวนมาก บางทีอาจช่วยได้หมดทั้งโลก(ขึ้นกับความตั้งใจของเจ้าของเรือ)" หากเป็นเช่นนี้ เราก็อธิบายต่อเลยว่าเปรียบเสมือน "การสร้างวัดขนาดใหญ่เพื่อหวังโปรดคนทั้งโลก มีข้อดีคือ มุ่งโปรดคนจำนวนมากไปพ้นทุกข์ไปด้วยกัน"

สุดท้ายเราก็เสริมไปเลยว่า สร้างวัดจะเล็กหรือใหญ่ล้วนดีทั้งนั้น เล็กก็ช่วยคนได้ไวกว่า ใหญ่ก็ช่วยคนได้มากกว่า ดังนั้น จะไม่ควรจะนำมาเป็นข้อจับผิดกันและกัน แต่เป็นข้อช่วยสนับสนุนกันต่างหาก

ปล. แต่อย่าไปตอบทำนองว่า ควรสร้างวัดใหญ่เท่านั้นจึงจะดี วัดเล็กประโยชน์น้อยมาก (หากตอบเช่นนี้ นอกจากไม่ได้มิตรแล้ว จะได้อมิตรแทนนะครับ)

2. ทำไมต้องทำทาน บวชเลยไม่ได้หรือ

เราอาจพูดให้เขาคิดเป็นปริศนาก่อนครับว่า "มีทั้งได้และไม่ได้ ขึ้นกับจังหวะและเวลา"
เขาอาจถามว่า "หมายความว่ายังไง"

เราก็อุปมาใหม่อีกรอบครับว่า "หากเราแล่นเรืออยู่กลางทะเล กับเราแล่นเรือใกล้จะถึงฝั่ง เวลาไหนควรจะทิ้งเรือทิ้งเสบียงแล้วมุ่งเข้าสู่ฝั่ง"
ถ้าเขาตอบว่า "ก็ต้องเวลาที่เรือใกล้จะถึงฝั่งนะสิ"

เราก็ตอบสวนไปทันทีว่าใช่แล้ว "แต่หากยังอยู่กลางทะเลสมควรสั่งสมเสบียงใช่หรือไม่ เพราะไม่รู้เมื่อไหร่จะถึงฝั่ง" แล้วเราก็ค่อยเฉลยว่า "การทำทานก็คือการสั่งสมเสบียงเพื่อเดินทางไกลในสังสารวัฏนั่นเอง

หากเรามั่นใจว่า ชาตินี้เราบวชแล้ว บรรลุนิพพานหมดกิเลสแน่นอน ก็ไม่ต้องเน้นทำทานก็ได้ มุ่งบวชแล้วปฏิบัติธรรมให้หมดกิเลสไปเลย เปรียบเสมือนผู้ที่มั่นใจว่า เขาแล่นเรือใกล้จะถึงฝั่ง(นิพพาน)แล้ว เขาจะทิ้งเรือทิ้งเสบียงมุ่งเข้าสู่ฝั่งได้เลย

แต่ถ้าไม่มั่นใจว่า เราใกล้จะถึงฝั่งล่ะ ควรทำอย่างไร ควรเน้นทำทานสั่งสมเสบียงให้เพียงพอ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติธรรม(แล่นเรือเข้าใกล้ฝั่ง)ใช่หรือไม่ ให้เขาลองไปคิดดู

3. ทุกวัดสอนแบบเดียวกันไม่ได้หรือ ทำไมต้องมีสายนั้นสายนี้ให้วุ่นวาย

ก็ถามเขากลับไปว่า "เรือที่ไปช่วยคนขึ้นฝั่ง จำเป็นต้องมีหน้าตาเหมือนกัน มีขนาดเท่าๆกัน ทุกๆลำหรือเปล่า วิธีการเดินเรือไปช่วยคน จำเป็นต้องใช้วิธีเดียวกันหรือเปล่า" หากเขาตอบว่า "ไม่จำเป็น เรือแบบไหนก็ได้ ขนาดเท่าใดก็ได้ ใช้วิธีการแล่นเรืออย่างไหนก็ได้ ขอเพียงแล่นมาให้ถูกทิศที่จะเข้าถึงฝั่งเป็นใช้ได้"

เราก็เสริมไปเลยว่า "ใช่แล้ว ทำไมต้องไปกังวลด้วยเล่าว่า วิธีเข้าถึงธรรมมีหลายสายจังเลย อันไหนถูกอันไหนผิด ทำไมต้องกังวล ก็ให้เราดูสิว่า สายไหนก็ตาม ที่สอนให้ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส (คำสอนพระพุทธเจ้า) คำสอนนั้น ล้วนใช้ได้ทั้งนั้นแหละ"
18/11/2009 20:13


เคยได้ฟังคุณครูบ้าง พระอาจารย์บ้าง ท่านเล่าให้ฟังเกี่ยวกับภารกิจของหมู่คณะบนวงบุญพิเศษน่ะครับ ว่าหมู่คณะนอกจากจะปฏิบัติธรรมรวมกันเป็นหมู่ใหญ่แล้ว ก็ยังจะมีภารกิจคอยไปชักชวนผู้มีบุญมาร่วมวงบุญกับหมู่คณะเป็นระยะๆ บุคคลที่หมู่คณะไปชักชวนนั้นได้แก่

1. พระโพธิสัตว์ ผู้บำเพ็ญบารมีมาในระดับหนึ่งมากบ้าง น้อยบ้าง แต่ยังไม่ได้รับพุทธพยากรณ์(ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต) เปรียบเสมือนคนที่มีเรือใหญ่บ้าง กลางบ้าง ที่กำลังแล่นเรือไปคอยตามช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ลอยคอในทะเลทุกข์ ให้ไปขึ้นฝั่ง(พระนิพพาน)ด้วยกัน

พระโพธิสัตว์เหล่านี้ หลายๆ ท่านเมือได้รับทราบถึงมโนปณิธานของหมู่คณะที่ตั้งใจจะช่วยให้หมดมหาสมุทรกันเลยทีเดียว ก็ยินดีที่จะมาร่วมทีมงานกัน (นำเรือมาต่อพ่วงกัน) ในขณะที่หลายท่านก็พอใจที่รวบรวมหมู่คณะเฉพาะวงบุญตัวเองในระดับหนึ่ง แล้วจะเร่งเข้าพระนิพพาน เปรียบเสมือนผู้ที่เป็นเจ้าของเรือขนาดกลาง พอใจที่จะใช้เรือของพวกเขาขนสัตว์พอเต็มลำเรือ แล้วจะรีบมุ่งสู่ฝั่ง อย่างนี้ก็มี

ดังนั้น การชักชวนก็มีทั้งสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้างปะปนกันไป
ซึ่งหมู่คณะของเรา จะหลีกเลี่ยงที่จะชักชวนคนอยู่ 3-4 กลุ่ม คือ
พวกแรก พระโพธิสัตว์ ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว เปรียบได้กับ เจ้าของเรือที่รวบรวมคนได้เต็มลำเรือของตนเองแล้ว กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ฝั่ง หากไปชักชวนพวกเขาให้ย้อนกลับมาช่วยสรรพสัตว์ที่ยังตกค้าง ก็ดูกระไรอยู่

พวกที่สอง หมู่คณะวงบุญของพระโพธิสัตว์ผู้ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว เปรียบได้กับ ลูกเรือที่ได้ขึ้นเรือของเจ้าของเรือที่พร้อมมุ่งเข้าสู่ฝั่งแล้ว หากไปชักชวนพวกเขาลงจากเรือเขา แล้วมาขึ้นเรือเรา ก็ดูกระไรอยู่ เพราะเขากำลังจะเข้าฝั่งแล้ว

พวกที่สาม ผู้มีบารมีพร้อมจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เปรียบเสมือน ผู้มีเรือเล็กนั่งได้เฉพาะเขาคนเดียว และกำลังมุ่งหน้าสู่ฝั่งแล้ว ก็ไม่เหมาะที่จะไปตามเขาออกจากเรือ เพื่อออกจากฝั่งมาอีกน่ะครับ

พวกที่สี่ คือ พระอริยเจ้าตั้งแต่ระดับพระโสดาบันขึ้นไป เปรียบเสมือน ผู้กำลังจะถึงฝั่งเริ่มทิ้งเรือ ทิ้งเสบียงแล้วว่ายน้ำ หรือ เดินเข้าสู่ฝั่งแล้ว การจะไปนำพวกเขากลับลงมาลงเรือ(ลำเดียวกับเรา)อีก ก็ดูกระไรอยู่ จริงมั้ยครับ
สรุปคือ ผู้ที่พ้นแล้ว หรือ เที่ยงแท้แน่นอนว่าจะพ้นวัฏฏะแล้ว หมู่คณะของเราจะไม่ไปชักชวนน่ะครับ แล้วผู้ที่หมู่คณะชักชวนได้ จะเหลือใครบ้างล่ะ

2. ผู้ที่ได้พรัดพรากจากหมู่คณะไปเกิดตามที่ต่างๆ อย่างนี้ก็มีการไปชักชวนกลับมาได้ครับ แต่ต้องสะสางธาตุธรรมกันก่อน
3. บุคคลทั่วๆไป ที่แทบไม่มีสายบุญกับหมู่คณะ ที่ไปเกิดตามสวรรค์ชั้นจาตุ ดาวดึงส์ หมู่คณะของเราก็จะมีการลงมา(จากชั้นดุสิต) มาเทศน์ให้ฟังที่เทวสภา(ชั้นดาวดึงส์)บ้างเป็นระยะๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งพวกนี้ ก็ไม่อาจตอบได้แน่นอนว่า อนาคตจะเข้ามาร่วมกับหมู่คณะหรือไม่

เพราะฉะนั้น บางทีหากใครไม่ได้มีเชื้อสายกับหมู่คณะมา หรือ มีน้อยมาก อาจลองปล่อยๆไปก่อน เพราะไม่แน่ว่า เขาอาจจะเป็นคนวงบุญของพระโพธิสัตว์องค์อื่นๆ หรือ อาจเป็นพวกคนทั่วๆไปที่ไม่ได้มีสายบุญมากับหมู่คณะก็ได้ จากนั้น ก็ให้เวลาไปกับคนอื่นบ้าง ไม่แน่นะ คนที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่ แต่คนที่คิดว่าไม่ใช่อาจใช่ขึ้นมาก็ได้

--------------------

ได

.....................................................
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


แก้ไขล่าสุดโดย kokorado เมื่อ 03 ธ.ค. 2009, 00:41, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 01:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



ใครเชื่อใคร ล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่เขาได้กระทำร่วมสร้างกันมา
ใครที่ไม่มาเชื่อกัน เกิดจากเขาไม่เคยสร้างเหตุมามาร่วมกันนั่นเอง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 07:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


พระพุทธองค์ ท่านก็ไม่ได้ให้เชื่อ
แม้กระทั่ง คำสั่งสอนของท่าน
โดยที่เรายังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง
ไม่ใช่เหรอค่ะ?

อนุโมทนาค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมกายเป็นชือ่ของพระพุทธองค์อีกชื่อหนึ่ง,วิชาธรรมกาย คือ วิชาการสอน, ;วัดพระธรรมกาย คือ วัด แยกให้ออกก่อน แล้ว วิชาธรรมกาย ก็ไม่ใช่ วัดธรรมกาย


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 03 ธ.ค. 2009, 08:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 08:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อรู้จักกายตรงแล้วละก็ให้ตรงทุกคนนะนี่แหละเราจะสร้างบุญกุศลใหญ่สำคัญที่นั่งภาวนาทำใจให้หยุดให้หยุดสักกระพริบตาเดียวเท่านั้นที่สร้างโบสถ์วิหารศาลาการเปรียญสู้ไม่ได้หรอกเขาจึงได้ว่าสร้างวัดสร้างวาให้ผุดสูงเดียวเท่านั้นสู้พิจารณาความแปรผันของเบญขันธ์ร่างกายว่าไม่เที่ยงยักเยื้องแปรผันเป็นของปฏิกูลเท่านี้บุญมากกว่าให้รู้จักหลักอย่างงั้นเราแสวงหาเขตบุญในพระพุทธศาสนาให้มั่นเชียวนะให้ใจหยุดเป็นตัวสำคัญหยุดนี้จะเป็นทางมรรคผลนิพพานพวกให้ทานรักษาศีลมันยังไกลกว่าหยุดนี้ใกล้นิพพานนักพอหยุดได้เท่านั้นเข้าต้นคำสอนของพระศาสดาแล้วไม่ยักเยื้องแปรผัน (นี่คือคำสอนของหลวงพ่อสดบางส่วน)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 08:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


.....เราจะสร้างบุญกุศลใหญ่สำคัญที่นั่งภาวนาทำใจให้หยุดให้หยุดสักกระพริบตาเดียวเท่านั้นที่สร้างโบสถ์วิหารศาลาการเปรียญสู้ไม่ได้หรอก....(ขอแยกประโยคให้ชั้ดเจน)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


,,,,,เขาจึงได้ว่าสร้างวัดสร้างวาให้ผุดสูงเดียวเท่านั้นสู้พิจารณาความแปรผันของเบญขันธ์ร่างกายว่าไม่เที่ยงยักเยื้องแปรผันเป็นของปฏิกูลเท่านี้บุญมากกว่าให้รู้จักหลักอย่างงั้นเราแสวงหาเขตบุญในพระพุทธศาสนาให้มั่นเชียวนะ,,,===============(สร้างวัดสร้างวาให้ผุดสูงเดียวเท่านั้น)===========================================================================(สู้พิจารณาความแปรผันของเบญขันธ์ร่างกายว่าไม่เที่ยงยักเยื้องแปรผันเป็นของปฏิกูลเท่านี้บุญมากกว่าให้รู้จักหลักอย่างงั้น) คิดว่า คำสอนของวัดธรรมกายเหมือนกับ ของหลวงพ่อ สด ไหม ครับ??


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 03 ธ.ค. 2009, 08:09, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
natdanai เขียน:
หากอยากรู้ลึกกว่านั้นแนะนำให้ไปถามกับสหายรักของกระผม มีอักษร นำหน้าชื่อ :b32: :b32:


- พ พาน... :b6:

พ พาน สงสัยต้องเป็นคุณ yahoo แน่ๆเลย

ว่าแต่ไปไหนละ เงียบไปนาน


พล ครับ :b32: :b32:

ส่วนท่าน yahoo สงสัยจะหนีตามท่าน บัวศกล ไปแว้วววว :b2: :b2: :b2:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 09:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...จะวัดเล็กหรือใหญ่โตมโหราฬขนาดไหนก็เถอะ...
...จุดประสงค์ก็ไม่ต่างกัน...จิตใจมนุษย์นะยากแท้หยั่งถึง...
...ท่านทำของท่านสร้างใหญ่โตท่านก็มีจุดประสงค์ของท่าน...
...ญาติโยมที่ไปเขาไม่เดือดร้อน...เขาสุขใจที่ได้ทำ...
...คนที่เขาไปทำบุญเขาก็มีจุดประสงค์แตกต่างกัน...

:b6:
...เราจะมัวไปคิดให้เปลืองสมองว่าไม่ชอบไปทำไม...
...คนที่เขาไปทำบุญวัดนี้เขาก็มีศรัทธา...เขาถึงไปทำ...
...คนอื่นเขาไปทำก็ดีแล้ว...กำลังเราไม่พอที่จะไปที่นั่น...
...เราก็นั่งอนุโมทนาที่บ้านสิเจ้าคะ...ของฟรีต้องอนุโมทนาให้เป็น...
...ไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย...แค่น้อมรับเอาก็ได้ตั้ง 10 %เจ้าค่ะ...

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 15:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาติสยาม เขียน:
natdanai เขียน:
หากอยากรู้ลึกกว่านั้นแนะนำให้ไปถามกับสหายรักของกระผม มีอักษร นำหน้าชื่อ :b32: :b32:


- พ พาน... :b6:

พ พาน สงสัยต้องเป็นคุณ yahoo แน่ๆเลย

ว่าแต่ไปไหนละ เงียบไปนาน


พี่หย๋ามกำลังทำให้ จิ้ง งงจับใจ พ.พาน กับตัว y. มันมาด้วยกันได้ไง :b23:
พอคิด ๆ ดูดี ๆ เออเน๊อะ... yahoo สลับ h กะ y ได้ hayoo
ดึงขาหน้าตัว h ลง ก็ได้ payoo
และตบแต่งอีกนิดก็ payoon แปลงเป็นไทย พยูน...
โอ้ว... ที่แท้ชื่อเล่นคุณ yahoo ก็คือ พยูน นี่เอง... :b14: :b14:

natdanai เขียน:
พล ครับ :b32: :b32:

ส่วนท่าน yahoo สงสัยจะหนีตามท่าน บัวศกล ไปแว้วววว :b2: :b2: :b2:


แน๊ะ... รู้อีก... ผู้สมรู้ร่วมคิดที่แท้....คือท่านนี่เอง... :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 16:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงพ่อสด ท่านสอนหรือว่าอนุโมทนาได้บุญ10 เปอร์เซนต์??? ไม่ใช่ ท่านสอนให้พิจารณา ขันธ์ 5 หรือ??? :b10: ฟังเสียงบันทึกของท่านให้ดีก่อนดีกว่าครับ


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 03 ธ.ค. 2009, 16:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 17:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 เม.ย. 2008, 13:18
โพสต์: 1367

ที่อยู่: bangkok

 ข้อมูลส่วนตัว


หลวงปู่สดสอนให้ หยุด :b13: :b13:

.....................................................
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
อ้างคำพูด:
หลับอยู่...เขียน
หลวงพ่อสด ท่านสอนหรือว่าอนุโมทนาได้บุญ10 เปอร์เซนต์??? ไม่ใช่ ท่านสอนให้พิจารณา ขันธ์ 5 หรือ??? ฟังเสียงบันทึกของท่านให้ดีก่อนดีกว่าครับ

:b6:
...ข้าพเจ้าแนะนำเรื่องการอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ...คุณหลับอยู่...
...เขียนว่าอนุโมทนาบุญ...ไม่ใช่เขียนเรื่องพิจารณาขันธ์5...
...คนอื่นเขาทำความดี...ทำใจให้พลอยยินดีกับสิ่งที่เขาทำ...
...ไม่ใช่ไปโจมตีว่าที่นั่นทำแบบนั้น...ถูกหรือผิดอย่างไร...
...ไม่ได้เขียนว่าหลวงพ่อสดสอนเรื่องการอนุโมทนาบุญ...

:b1:
...ข้าพเจ้าไม่สนับสนุนให้โจมตีกันไม่ว่าจะนิกายอะไร...
...การที่ปฏิบัติแบบวัดพระธรรมกายก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด...
...เพราะท่านสอนให้ทำดีเหมือนกัน...เขาทำมากๆ...
...ตามที่ข้าพเจ้าเคยทัศนาในช่องดาวเทียมDMC...
...เขาหวังผลไปสู่สุคติภูมิคือสวรรค์ตั้งแต่ชั้นดุสิตขึ้นไป...

:b8:
...นั่นก็เป็นเรื่องของคนอื่นอยู่นั่นแหละ...
...แต่ที่เกี่ยวน่ะ...ข้าพเจ้าแนะให้รับบุญที่เขาทำ
...ไม่ได้บอกให้ไปทำตาม...เอาที่กำลังตัวเองทำได้
...ศาสดาก็องค์เดียวกัน...จะแบ่งแยกกันไปถึงไหนกัน...
...เวลาที่ไฟประลัยกัลป์ล้างโลกที่รอดชีวิตตั้งแต่ชั้นดุสิตขึ้นไป...

:b16:
:b48:
:b48:
:b48:
:b48:
:b48:
...จงคิดดี...พูดดี...ทำดี...แล้วทุกอย่างจะดีเอง...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2009, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


กระทู้ นี้ ขอ พุด อีก นิดนึง ฟังเทป เสียงหลวงพ่อสดเอาเองแล้วกันนะครับ (เส้นผมบังภูเขา) โปรดใช้วิจารณญาณ ขอบคุณครับ :b16:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 29 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร