วันเวลาปัจจุบัน 16 เม.ย. 2024, 13:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 87 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 00:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


krathin เขียน:
noohmairu เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
แสงมา...สว่างเกิด..มืดก็หาย

เราจะกล่าวว่า..ขณะที่มืด..ความสว่างก็อยู่ตรงนั้น..ก็ไม่ถูก

เราจะกล่าวว่า..ขณะที่มืด..มันไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย..ก็ไม่ถูกอีก

แล้วอะไรละที่ถูก..

ก็..แสงมา..สว่างจึงเกิด..งัย

ตอนนี้มืดอยู่..ก็เพียงควานหาแสง..เมื่อมีแสง..สว่างก็เกิดเองไม่ต้องไปหา

ตอนนี้อวิชชาอยู่..ก็เพียงควานหาธรรม..เมื่อธรรมเกิด..จิตก็สว่าง..นี้งัย..จิตคือพุทธะ
:b12: :b12:


จิต เป็นเหมือน ความว่าง

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ส่องสว่างทั่วพื้นโลก ความว่างที่แท้จริง ก็ไม่ได้สว่างขึ้น

เมื่อพระอาทิตย์ตก ความว่าง ก็ไม่ได้มืดลง

ความสว่าง และ ความมืด สับเปลี่ยนไปมา

แต่ ความว่าง ยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


สาธุคะ
ขอบคุณสำหรับการขยายความ "จิตว่าง"
สำหรับผู้รู้น้อยแล้วถือว่า ได้ความรู้เพิ่มเติมมาอีก1อย่างคะ :b9:



จิตว่าง คือ จุดสูงสุดของมนุษย์ เป็น ลักษณะ จิตรวมกับธรรมธาตุ

จึง ว่าง สว่าง บริสุทธิ์ หยุดความปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา หยุดกิริยาของจิต ไม่มีอะไรเหลือ ไม่เหลืออะไรสักอย่าง

ลักษณะนี้เหนือ สมมุติ จึงไม่มีใครอธิบายได้ทั้งหมด

เหนือคำพูด


ส่วนลักษณะจิตว่าง ที่อธิบายมาด้านบน ของท่าน noohmairu นับว่าอธิบายผิดอย่างมาก ที่ท่านอธิบายมา คือ อากาสธาตุ

ไม่ใช่จิตว่าง ไม่ใช่ตัวจิต ไม่ใช่ธรรมธาตุ

จิตว่าง คือ สภาวะที่จิตรวมกันกับธรรมธาตุ อย่างสิ้นเชิง เป็นวิมุตติจิต เป็นสภาพที่เลิศเลอ เหนือแดนโลกธาตุ

เหนือ สมมุติ เหนือ ขันธ์

อธิบายเท่านี้ก็พองับ

ให้พอเข้าใจ แต่กรุณาไม่ถามคำถามแบบนี้อีกนะครับ

เพราะว่า คำถาม ไปถามถึง วิมุตติ ซึ่งเหนือสมมุติ มันอธิบายไม่ได้งับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 00:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 744


 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:
ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

แล้วพวก นิพพาน เป็น อัตตา เป็น อนัตตา ยิ่งห่างไกลที่จะมองเห็นได้เลยนะงับ

..........

เพราะ นิพพาน ยังเป็น อัตตา เป็น อนัตตา เลย

อัตตา อนัตตา ก็สมมุติ อันหนึ่ง

นิพพาน เหนือ สมมุติ จะมาเป็น อัตตา อนัตตาได้ไงงับ

หลงแล้ว อิอิ


ผมได้อธิบายมาเป็นสิบๆครั้งแล้ว ผมมั่นใจว่าคุณเข้าใจ แต่แกล้งโง่

อัตตา = เที่ยง เป็นอมตะ ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเกิด แก่ เจ็บ ตาย นี่ความความหมายของอัตตา

อนัตตา = ไม่เที่ยง ไม่เป็นอมตะ มีความทุกข์ มีความแปรปรวนเกิด แก่ เจ็บ ตาย นี่ความความหมายของอนัตตา

เชิญท่านขงเบ้งแกล้งโง่ต่อไปครับ ผมไม่ขอแข่งเรื่องแกล้งโง่


ผมยอมเป็นคนโง่งับ


เพราะโง่ ก็คือ สมมุติ

แต่คนหลงสมมุติ ทำตัวฉลาด แต่ชอบทำแต่เรื่องโง่ๆ

น่าขำขันนะงับ


ท่านกรัชการ

ด้วยความคิดถึงงับ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 00:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
noohmairu เขียน:

จิต เป็นเหมือน ความว่าง

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ส่องสว่างทั่วพื้นโลก ความว่างที่แท้จริง ก็ไม่ได้สว่างขึ้น

เมื่อพระอาทิตย์ตก ความว่าง ก็ไม่ได้มืดลง

ความสว่าง และ ความมืด สับเปลี่ยนไปมา

แต่ ความว่าง ยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:



ส่วนลักษณะจิตว่าง ที่อธิบายมาด้านบน ของท่าน noohmairu นับว่าอธิบายผิดอย่างมาก ที่ท่านอธิบายมา คือ อากาสธาตุ

ไม่ใช่จิตว่าง ไม่ใช่ตัวจิต ไม่ใช่ธรรมธาตุ

จิตว่าง คือ สภาวะที่จิตรวมกันกับธรรมธาตุ อย่างสิ้นเชิง เป็นวิมุตติจิต เป็นสภาพที่เลิศเลอ เหนือแดนโลกธาตุ



อิอิ noohmairu ก็พูดแบบ noohmairu ละจ้าๆ

ถ้าหลวงปู่ดูลย์ พูดเองก็ต้องแบบนี้ละจ้าๆ

จิตคือพุทธะ หลวงปู่ดูลย์

http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18

อ้างคำพูด:

จิตเป็นเหมือนกับความว่างซึ่งภายในนั้น ย่อมไม่มีความสับสนและความไม่ดีต่าง ๆ

ดังจะเห็นได้ในเมื่อดวงอาทิตย์ผ่านไปในที่ว่างนั้น ย่อมส่องแสงไปได้ทั้งสี่มุมโลก

เพราะว่าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ย่อมให้ความสว่างทั่วพื้นโลก

ความว่างที่แท้จริงนั้น มันก็ไม่ได้สว่างขึ้น

และเมื่อดวงอาทิตย์ตกความว่างก็ไม่ได้ มืดลง

ปรากฎการณ์ของความสว่าง และความมืดย่อมสับเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

แต่ธรรมชาติ ของความว่างนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่นั่นเอง

จิตของพุทธะและของสัตว์โลกทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้น


http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18



อนุโมทนาสาธุจ้า :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย noohmairu เมื่อ 28 เม.ย. 2010, 00:21, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 00:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
krathin เขียน:
noohmairu เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
แสงมา...สว่างเกิด..มืดก็หาย

เราจะกล่าวว่า..ขณะที่มืด..ความสว่างก็อยู่ตรงนั้น..ก็ไม่ถูก

เราจะกล่าวว่า..ขณะที่มืด..มันไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย..ก็ไม่ถูกอีก

แล้วอะไรละที่ถูก..

ก็..แสงมา..สว่างจึงเกิด..งัย

ตอนนี้มืดอยู่..ก็เพียงควานหาแสง..เมื่อมีแสง..สว่างก็เกิดเองไม่ต้องไปหา

ตอนนี้อวิชชาอยู่..ก็เพียงควานหาธรรม..เมื่อธรรมเกิด..จิตก็สว่าง..นี้งัย..จิตคือพุทธะ
:b12: :b12:


จิต เป็นเหมือน ความว่าง

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ส่องสว่างทั่วพื้นโลก ความว่างที่แท้จริง ก็ไม่ได้สว่างขึ้น

เมื่อพระอาทิตย์ตก ความว่าง ก็ไม่ได้มืดลง

ความสว่าง และ ความมืด สับเปลี่ยนไปมา

แต่ ความว่าง ยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


สาธุคะ
ขอบคุณสำหรับการขยายความ "จิตว่าง"
สำหรับผู้รู้น้อยแล้วถือว่า ได้ความรู้เพิ่มเติมมาอีก1อย่างคะ :b9:



จิตว่าง คือ จุดสูงสุดของมนุษย์ เป็น ลักษณะ จิตรวมกับธรรมธาตุ

จึง ว่าง สว่าง บริสุทธิ์ หยุดความปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา หยุดกิริยาของจิต ไม่มีอะไรเหลือ ไม่เหลืออะไรสักอย่าง

ลักษณะนี้เหนือ สมมุติ จึงไม่มีใครอธิบายได้ทั้งหมด

เหนือคำพูด


ส่วนลักษณะจิตว่าง ที่อธิบายมาด้านบน ของท่าน noohmairu นับว่าอธิบายผิดอย่างมาก ที่ท่านอธิบายมา คือ อากาสธาตุ

ไม่ใช่จิตว่าง ไม่ใช่ตัวจิต ไม่ใช่ธรรมธาตุ

จิตว่าง คือ สภาวะที่จิตรวมกันกับธรรมธาตุ อย่างสิ้นเชิง เป็นวิมุตติจิต เป็นสภาพที่เลิศเลอ เหนือแดนโลกธาตุ

เหนือ สมมุติ เหนือ ขันธ์

อธิบายเท่านี้ก็พองับ

ให้พอเข้าใจ แต่กรุณาไม่ถามคำถามแบบนี้อีกนะครับ
เพราะว่า คำถาม ไปถามถึง วิมุตติ ซึ่งเหนือสมมุติ มันอธิบายไม่ได้งับ



ขออำภัย ท่านเบ้ง

ยังอ่านยังไม่จบ ไม่ครบกระบวนความ
ที่ท่านเบ้งอธิบาย ลอกมาจากหลวงปู่ดุลย์ล่ะม๊าง

แต่เอามาตอบ
ด้วยความไม่เข้าใจม๊ากๆๆๆ


noohmairu เขียน:
ว่างจาก จิต
อิสระจาก สิ่งที่เคลื่อนไหว
อนุโมทนาสาธุจ้า

นั่นอธิบายคำพูดหลวงปู่ดุลย์ และเข้าถึงคำพูด และแสดงความเข้าใจ
ได้ชัดแจ้งกว่าไหนๆๆ


แก้ไขล่าสุดโดย enlighted เมื่อ 28 เม.ย. 2010, 00:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 00:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

จิตว่าง คือ จุดสูงสุดของมนุษย์ เป็น ลักษณะ จิตรวมกับธรรมธาตุ

จึง ว่าง สว่าง บริสุทธิ์ หยุดความปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา หยุดกิริยาของจิต ไม่มีอะไรเหลือ ไม่เหลืออะไรสักอย่าง

ลักษณะนี้เหนือ สมมุติ จึงไม่มีใครอธิบายได้ทั้งหมด

เหนือคำพูด


จิตว่าง คือ สภาวะที่จิตรวมกันกับธรรมธาตุ อย่างสิ้นเชิง เป็นวิมุตติจิต เป็นสภาพที่เลิศเลอ เหนือแดนโลกธาตุ

เหนือ สมมุติ เหนือ ขันธ์

อธิบายเท่านี้ก็พองับ

ให้พอเข้าใจ แต่กรุณาไม่ถามคำถามแบบนี้อีกนะครับ

เพราะว่า คำถาม ไปถามถึง วิมุตติ ซึ่งเหนือสมมุติ มันอธิบายไม่ได้งับ


อิอิ ขงเบ้งโรงงิ้วอธิบายตามความคิดสมมติละจ้าๆ

แต่หลวงปู่ดูลย์ ท่านอธิบายจากจิตหนึ่งล้วนๆๆ ละจ้าๆ

จิตคือพุทธะ หลวงปู่ดูลย์
อ้างคำพูด:

จิต หนึ่ง นี้เป็นสิ่งซึ่งเราเห็นตำตาเราอยู่แท้ๆ

แต่จงลองไปใช้เหตุผล (ว่ามันเป็นอะไร เป็นต้น) กับมันเข้าดูซิ

เราจะหล่นลงไปสู่ความผิดพลาดทันที

สิ่งนี้เป็นเหมือนกับความว่างอันปราศจากขอบทุกๆ ด้าน

ซึ่งไม่อาจจะหยั่งหรือวัดได้



อนุโมทนาสาธุจ้า :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 00:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เบ้งเขียน
จิตว่าง คือ จุดสูงสุดของมนุษย์ เป็น ลักษณะ จิตรวมกับธรรมธาตุ
......................................................................

รวมกันตายหมู่ แยกอยู่อิสระ


แก้ไขล่าสุดโดย enlighted เมื่อ 28 เม.ย. 2010, 00:57, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 00:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

ผมยอมเป็นคนโง่งับ


เพราะโง่ ก็คือ สมมุติ

แต่คนหลงสมมุติ ทำตัวฉลาด แต่ชอบทำแต่เรื่องโง่ๆ

น่าขำขันนะงับ


ท่านกรัชการ

ด้วยความคิดถึงงับ


อิอิ

ขงเบ้งโรงงิ้วยอมเป็นคนโง่ตามสมมติ

ชอบทำตัวโง่ตามสมมติ

ชอบทำแต่เรื่องโง่ๆ ตามสมมติ

ชอบอวดฉลาดตามสมมติ

ชอบตามสมมติทุกลมหายใจเข้าออกละจ้าๆ



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 01:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 เม.ย. 2010, 15:07
โพสต์: 313

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตคือพุทธะ หลวงปู่ดูลย์

http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18
อ้างคำพูด:

จิตเป็นเหมือนกับความว่างซึ่งภายในนั้น ย่อมไม่มีความสับสนและความไม่ดีต่าง ๆ

ดังจะเห็นได้ในเมื่อดวงอาทิตย์ผ่านไปในที่ว่างนั้น ย่อมส่องแสงไปได้ทั้งสี่มุมโลก

เพราะว่าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ย่อมให้ความสว่างทั่วพื้นโลก

ความว่างที่แท้จริงนั้น มันก็ไม่ได้สว่างขึ้น

และเมื่อดวงอาทิตย์ตกความว่างก็ไม่ได้ มืดลง

ปรากฎการณ์ของความสว่าง และความมืดย่อมสับเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

แต่ธรรมชาติ ของความว่างนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่นั่นเอง

จิตของพุทธะและของสัตว์โลกทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้น


http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18

หลับอยุ่ เขียน:

แหกตาดูซะบ้าง! Onion_L :b32:
ไอ้ตงฟางปุ๊ป้ายเอ๋ย ส่องได้ไงทั่วพื้นโลก โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์และตัวมันเอง ในขณะที่ส่องประเทศไทย อีกด้านตรงข้ามของโลกใบนี้ แสงอาทิตย์มันจะส่องได้ไง มันต้องมืดเป็นกลางคืนสิ :b32: :b32: :b32:

เพ้อเจ้อกถาไม่อนุโมทนาจ้า :b32:


อิอิ noohmairu ขออยู่โลกเดียวกะหลวงปู่ดูลย์ละจ้าๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


แก้ไขล่าสุดโดย noohmairu เมื่อ 28 เม.ย. 2010, 01:18, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 01:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แหกตาดูซะบ้าง! Onion_L :b32:
ไอ้ตงฟางปุ๊ป้ายเอ๋ย ส่องได้ไงทั่วพื้นโลก โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์และตัวมันเอง ในขณะที่ส่องประเทศไทย อีกด้านตรงข้ามของโลกใบนี้ แสงอาทิตย์มันจะส่องได้ไง มันต้องมืดเป็นกลางคืนสิ :b32: :b32: :b32:

เพ้อเจ้อกถาไม่อนุโมทนาจ้า :b32:[/quote]

เหอๆๆ

หลวงปู่ดุลย์โดนหลับอยู่ ด่าเต็มๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 01:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
จิตคือพุทธะ หลวงปู่ดูลย์

http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18
อ้างคำพูด:

จิตเป็นเหมือนกับความว่างซึ่งภายในนั้น ย่อมไม่มีความสับสนและความไม่ดีต่าง ๆ

ดังจะเห็นได้ในเมื่อดวงอาทิตย์ผ่านไปในที่ว่างนั้น ย่อมส่องแสงไปได้ทั้งสี่มุมโลก

เพราะว่าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ย่อมให้ความสว่างทั่วพื้นโลก

ความว่างที่แท้จริงนั้น มันก็ไม่ได้สว่างขึ้น

และเมื่อดวงอาทิตย์ตกความว่างก็ไม่ได้ มืดลง

ปรากฎการณ์ของความสว่าง และความมืดย่อมสับเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

แต่ธรรมชาติ ของความว่างนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่นั่นเอง

จิตของพุทธะและของสัตว์โลกทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้น


http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18

หลับอยุ่ เขียน:

แหกตาดูซะบ้าง! Onion_L :b32:
ไอ้ตงฟางปุ๊ป้ายเอ๋ย ส่องได้ไงทั่วพื้นโลก โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์และตัวมันเอง ในขณะที่ส่องประเทศไทย อีกด้านตรงข้ามของโลกใบนี้ แสงอาทิตย์มันจะส่องได้ไง มันต้องมืดเป็นกลางคืนสิ :b32: :b32: :b32:

เพ้อเจ้อกถาไม่อนุโมทนาจ้า :b32:


อิอิ noohmairu ขออยู่โลกเดียวกะหลวงปู่ดูลย์ละจ้าๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:


เหอๆๆ

จิตพุทธะของหลวงปู่ดุลย์

ท่านพุทธทาสที่แปลคำสอนฮวงโป กับพระสูตรสังฆปรินายกฮวงโป ก็กล่าวเหมือนกัน เปี๊ยบเลย

โดนหลับอยู่ ด่ายกทีม

ตัวอย่่าง ปากพาบันลัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 05:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 08:14
โพสต์: 829

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:
noohmairu เขียน:

จิต เป็นเหมือน ความว่าง

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ส่องสว่างทั่วพื้นโลก ความว่างที่แท้จริง ก็ไม่ได้สว่างขึ้น

เมื่อพระอาทิตย์ตก ความว่าง ก็ไม่ได้มืดลง

ความสว่าง และ ความมืด สับเปลี่ยนไปมา

แต่ ความว่าง ยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:



ส่วนลักษณะจิตว่าง ที่อธิบายมาด้านบน ของท่าน noohmairu นับว่าอธิบายผิดอย่างมาก ที่ท่านอธิบายมา คือ อากาสธาตุ

ไม่ใช่จิตว่าง ไม่ใช่ตัวจิต ไม่ใช่ธรรมธาตุ

จิตว่าง คือ สภาวะที่จิตรวมกันกับธรรมธาตุ อย่างสิ้นเชิง เป็นวิมุตติจิต เป็นสภาพที่เลิศเลอ เหนือแดนโลกธาตุ



อิอิ noohmairu ก็พูดแบบ noohmairu ละจ้าๆ

ถ้าหลวงปู่ดูลย์ พูดเองก็ต้องแบบนี้ละจ้าๆ

จิตคือพุทธะ หลวงปู่ดูลย์

http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18

อ้างคำพูด:

จิตเป็นเหมือนกับความว่างซึ่งภายในนั้น ย่อมไม่มีความสับสนและความไม่ดีต่าง ๆ

ดังจะเห็นได้ในเมื่อดวงอาทิตย์ผ่านไปในที่ว่างนั้น ย่อมส่องแสงไปได้ทั้งสี่มุมโลก

เพราะว่าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ย่อมให้ความสว่างทั่วพื้นโลก

ความว่างที่แท้จริงนั้น มันก็ไม่ได้สว่างขึ้น

และเมื่อดวงอาทิตย์ตกความว่างก็ไม่ได้ มืดลง

ปรากฎการณ์ของความสว่าง และความมืดย่อมสับเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

แต่ธรรมชาติ ของความว่างนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงอยู่นั่นเอง

จิตของพุทธะและของสัตว์โลกทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้น


http://www.watpanonvivek.com/index.php? ... 2-03-51-18



อนุโมทนาสาธุจ้า :b8:



เบ้ง เขียน

ส่วนลักษณะจิตว่าง ที่อธิบายมาด้านบน ของท่าน noohmairu นับว่าอธิบายผิดอย่างมาก ที่ท่านอธิบายมา คือ อากาสธาตุ

ไม่ใช่จิตว่าง ไม่ใช่ตัวจิต ไม่ใช่ธรรมธาตุ

จิตว่าง คือ สภาวะที่จิตรวมกันกับธรรมธาตุ อย่างสิ้นเชิง เป็นวิมุตติจิต เป็นสภาพที่เลิศเลอ เหนือแดนโลกธาตุ


เหอๆๆ
เบ้งเอ๋ยย

"noohmairu" ดันอธิบายผิดๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆ
ดันอธิบายผิดๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ เหมือนกับหลวงปู่ดุลย์ อธิบายในจิตพุทธะเลย เหมือน เปี๊ยบบบ

และหลวงปู่ดุลย์
หลวงปู่ดุลย์ ก็ดันอธิบายผิดๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆ
ดันอธิบาย เหมือนกับ "noohmairu" เหมือน เปี๊ยบบบบ

อธิบายไม่เหมือนเบ้งเลย

อ๊ะจ๊ากโปรดประทาน อเวจีสำหรับเบ้ง





โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 09:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดเรื่อง ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปล่อยโค/กระบือจากโรงฆ่าสัตว์ ปล่อยหอยขม ปล่อยปลาไหล

พื้นๆ มองเห็นง่ายๆ เป็นรูปธรรมดีกว่า เอาจากเรื่องง่ายๆไปหายาก

หรือพูดเรื่องทำบุญ ถวายทาน ทำทาน ทอดกฐิน ทอดผ้าสามัคคี ปิดทองฝังลูกนิมิต ไหว้พระ สวดมนต์

ก็ดีพอได้พอมองเห็น เห็นท่าจะดีเป็นแน่ทีเดียว :b1: เอาจากเรืองง่ายๆไปหายาก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 28 เม.ย. 2010, 09:12, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 09:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:
ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

ผมยอมเป็นคนโง่งับ


เพราะโง่ ก็คือ สมมุติ

แต่คนหลงสมมุติ ทำตัวฉลาด แต่ชอบทำแต่เรื่องโง่ๆ

น่าขำขันนะงับ


ท่านกรัชการ

ด้วยความคิดถึงงับ


อิอิ

ขงเบ้งโรงงิ้วยอมเป็นคนโง่ตามสมมติ

ชอบทำตัวโง่ตามสมมติ

ชอบทำแต่เรื่องโง่ๆ ตามสมมติ

ชอบอวดฉลาดตามสมมติ

ชอบตามสมมติทุกลมหายใจเข้าออกละจ้าๆ



อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:



ยังกะแกฉลาดนักสิ ไอ้ตุ๊ดส์์์ วิปริตจิตวิปลาส แสงอาทิตย์ส่องทั่วพื้นโลก :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


noohmairu เขียน:


อิอิ noohmairu ขออยู่โลกเดียวกะหลวงปู่ดูลย์ละจ้าๆ


อนุโมทนาสาธุจ้า
:b8:



5555 แกมันอยู่คนละโลกกับฝ่ายพระท่าน ไอ้ กระเทยทางไซเบอร์ เอ๋อ วิปริตจิตวิปลาส

แสงอาทิตย์ ส่องทั่วพื้นโลก :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2010, 09:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


enlighted เขียน:














เหอๆๆ
เบ้งเอ๋ยย

"noohmairu" ดันอธิบายผิดๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆ
ดันอธิบายผิดๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ เหมือนกับหลวงปู่ดุลย์ อธิบายในจิตพุทธะเลย เหมือน เปี๊ยบบบ

และหลวงปู่ดุลย์
หลวงปู่ดุลย์ ก็ดันอธิบายผิดๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆ
ดันอธิบาย เหมือนกับ "noohmairu" เหมือน เปี๊ยบบบบ

อธิบายไม่เหมือนเบ้งเลย

อ๊ะจ๊ากโปรดประทาน อเวจีสำหรับเบ้ง






ไอ้กระเทยตงฟางปุ๊ป้ายเอ๋ย มาเพ้อเจ้อ กลับกลอก ไหลลื่นอะไรแถวนี้ ด่าตังเองก้เป็นด้วย :b32: บรรลุแล้วหรือแกหน่ะ :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 87 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร