วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 12:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 10:39
โพสต์: 14

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากถามผู้รู้ ช่วยตอบเพื่อเป็นวิทยาทานแด่ผู้อ่านทั้งหลายด้วยนะคะ คำถามมีอยู่ว่า
1. สำเร็จอรหันต์ กับ ไปสู่นิพพาน เหมือนกันรึไม่
2. ไม่เข้าใจว่า บางคนใช้คำว่า โมทนา สาธุ
" อนุโมทนา สาธุ
" ขออนุโมทนา
" ขออนุโมทนา สาธุ
" สบอนุโมทนา
คือจะใช้คำไหนดีคะ
คุณแสน ขอขอบคุณอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 19:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สำเร็จอรหันต์ กับ ไปสู่นิพพาน เหมือนกันรึไม่

สำเร็จอรหันต์ คือ ละราคะ ละโทสะ ละโมหะ ละกิเลสตัณหาในใจ ได้หมดแล้ว แต่ยังมีร่างกายหรือขันธ์ 5 อยู่ เรียกว่า "สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ"

ไปสู่นิพพาน คือ ไม่เกี่ยวข้องกับเบญจขันธ์อีก(=ดับร่างกายหรือขันธ์ 5 คือ ร่างกายหรือขันธ์ 5 ตายไปพร้อมกับกิเลสตัณหา) สิ่งที่เขาไปสู่นิพพาน คือ ธรรมกาย หรือ อายตนะนิพพาน ซึ่งเป็นแก่นของธรรม เป็นอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

ถ้าธรรมกาย(อรหันต์)ใดอยากอยู่ช่วยงานสรรพสัตว์ต่อไป ก็ย่อมทำได้ โดยการตั้งปณิธานอย่างหนึ่งอย่างใดเอาไว้ เช่น

พระมหากัสสปะ จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะอยู่รอพระศรีอริยะเมตตรัย และเข้านิพพานพร้อมกับพระศรีอริยะเมตตรัย

หลวงพ่อสด จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะเดินวิชาปราบมารเพื่อช่วยงานพระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรม

พระครูเทพโลกอุดร จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะอยู่รักษาพุทธศาสนาให้ครบ 5000 ปี

พระอวโลกิเตศวร จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาหรือปณิธานเอาไว้ว่า "หากยังมีสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ จักไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ"

การตั้งความปราถนาหรือปณิธานของพระอรหันต์เหล่านี้ ทำให้กายทิพย์ที่เป็นกายธรรมของท่าน(ธรรมกาย) ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ต่อไป


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 09 พ.ค. 2010, 19:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มี.ค. 2009, 20:48
โพสต์: 745


 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:
สำเร็จอรหันต์ กับ ไปสู่นิพพาน เหมือนกันรึไม่

สำเร็จอรหันต์ คือ ละราคะ ละโทสะ ละโมหะ ละกิเลสตัณหาในใจ ได้หมดแล้ว แต่ยังมีร่างกายหรือขันธ์ 5 อยู่ เรียกว่า "สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ"

ไปสู่นิพพาน คือ ไม่เกี่ยวข้องกับเบญจขันธ์อีก(=ดับร่างกายหรือขันธ์ 5 คือ ร่างกายหรือขันธ์ 5 ตายไปพร้อมกับกิเลสตัณหา) สิ่งที่เขาไปสู่นิพพาน คือ ธรรมกาย หรือ อายตนะนิพพาน ซึ่งเป็นแก่นของธรรม เป็นอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ

ถ้าธรรมกาย(อรหันต์)ใดอยากอยู่ช่วยงานสรรพสัตว์ต่อไป ก็ย่อมทำได้ โดยการตั้งปณิธานอย่างหนึ่งอย่างใดเอาไว้ เช่น

พระมหากัสสปะ จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะอยู่รอพระศรีอริยะเมตตรัย และเข้านิพพานพร้อมกับพระศรีอริยะเมตตรัย

หลวงพ่อสด จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะเดินวิชาปราบมารเพื่อช่วยงานพระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรม

พระครูเทพโลกอุดร จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาเอาไว้ว่า จะอยู่รักษาพุทธศาสนาให้ครบ 5000 ปี

พระอวโลกิเตศวร จิตอรหันต์ของท่าน ตั้งความปราถนาหรือปณิธานเอาไว้ว่า "หากยังมีสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ จักไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ"

การตั้งความปราถนาหรือปณิธานของพระอรหันต์เหล่านี้ ทำให้กายทิพย์ที่เป็นกายธรรมของท่าน(ธรรมกาย) ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ต่อไป



หุหุ ถ้าเป็นพระอรหันต์แบบคุณคนดี ไม่เป็นดีกว่า เพราะแบบนี้ เหมือนสัมภเวสี เลย

พระมหากัสสปะ ปรินิพพานแล้ว ส่วนกายของท่าน จะผาในยุคพระศรีอาริยะ เมตตไตยโย

หลวงปู่เทพโลกอุดร คือ พระโสนะ อุตระ ที่มาเมืองไทย พาศาสนามายังสุวรรณภูมิ

หลวงพ่อ สด ก็ปรินิพพานไปแล้ว ไม่มีมาปราบมาร มาอะไรมั่วๆ

เจ้าแม่กวนอิม ก็ ไม่ได้ปรารถจะให้เหล่าสัตว์ไปนิพพาน หมด มีแต่คนเขียนมั่วๆ

พระโพธิสัตว์ ก็จะ ไปนิพพาน เมื่อ ครบรอบพุทธภูมิบารมี

ส่วน ธรรมธาตุ จะมาช่วย หรือ สั่งสอนได้เฉพาะ คนที่รับกระแสนี้ได้เท่านั้น เป็น

พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ รวมกัน เป็น กระแสธรรมธาตุ เท่านั้นเอง

ท่านคนดี ก็เป็น มาร ที่ ล้มล้างคำสั่งสอนอันดีงามของพระพุทธเจ้า สงสัย หลวงพ่อสดก็ต้องมาปราบ 55+

มารมี 2 แบบ หุหุ เวอร์ของขงเบ้งเท่านั้น

1 มารชั่วช้า

2 มารแบบน่ารัก

ส่วนท่านศรีธัญญา เป็นมารที่ชั่วช้า แอบอ้างเป็น พระศรีอาริยะ แล้ว คุณคนดีจะเป็นมารแบบไหนละ

.....................................................
“เวลาทำสมาธิ ให้ระลึกลมหายใจเข้าออก ให้รู้ลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องบังคับลมหายใจ ตามรู้ลมหายใจเข้าออก สงบก็รู้ ไม่สงบก็รู้ สงบก็ไม่ยินดี ไม่สงบก็ไม่ยินร้าย ไม่เอาทั้งสงบและไม่สงบ เอาแค่รู้ตามความเป็นจริงของสภาวธรรมปัจจุบันนั้น”

ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลายกำหนัด
เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้
เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส
เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย
เป็นไปเพื่อสันโดษ
เป็นไปเพื่อความสงัดจากหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร
เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงง่าย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 เม.ย. 2010, 02:08
โพสต์: 65

ชื่อเล่น: ชาเขียว
อายุ: 24

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าจะเอาให้ถูกจริงๆ
ก็ต้อง ขออนุโมทนา สาธุด้วย
แต่ใจความสำคัญที่สุดก็อยู๋ที่ใจเราแหล่ะจ๊ะว่า อนุโมทนา สาธุด้วยจริงรึป่าว

อนุ แปลว่า ตาม ด้วย
โมทนา แปลว่า ยินดี
สาธุ แปลว่า ดีแล้วๆ สิ่งที่ท่านนั้นดีแล้วๆ ประมาณนี้แหล่ะจ๊ะ
บาลีแปลได้ลึกซึ้งมากนะ ถ้าจะแปลอย่างละเอียดจริงๆ

ถ้าพูดแต่ว่า โมทนา ก็พูดออกไปว่า ยินดีๆๆ แล้วยินดีอะไรล่ะ
ถึงมีคำว่า อนุมาต่อหน้ากลายเป็น อนุโมทนา จึงแปลว่า ขออนุโมทนาในบุญที่เขาทำด้วย
อนุเป็นอุปสัค ใช้เติมต่อหน้าศัฟท์ต่างๆ ก็เหมือนภาษาอังกฤษแหล่ะจ๊ะ
ก็เป็นแค่ภาษาแหล่ะจ๊ะ ถึงไม่พูดออกมาเป็นวาจา แต่ใจเปื่ยมล้นไปด้วยปีติ
ยินดีในบุญกุศลที่เขาทำแล้ว ก็ชื่อว่า ได้อนุโมทนาบุญที่เขาทำแล้วเช่นกันจ๊ะ :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 22:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:


1. หุหุ ถ้าเป็นพระอรหันต์แบบคุณคนดี ไม่เป็นดีกว่า เพราะแบบนี้ เหมือนสัมภเวสี เลย
2. พระมหากัสสปะ ปรินิพพานแล้ว ส่วนกายของท่าน จะเผาในยุคพระศรีอาริยะ เมตตไตยโย
3. หลวงปู่เทพโลกอุดร คือ พระโสนะ อุตระ ที่มาเมืองไทย พาศาสนามายังสุวรรณภูมิ
4. หลวงพ่อ สด ก็ปรินิพพานไปแล้ว ไม่มีมาปราบมาร มาอะไรมั่วๆ
5. เจ้าแม่กวนอิม ก็ไม่ได้ปรารถจะให้เหล่าสัตว์ไปนิพพานหมด มีแต่คนเขียนมั่วๆ
พระโพธิสัตว์ ก็จะ ไปนิพพาน เมื่อ ครบรอบพุทธภูมิบารมี
6. ส่วน ธรรมธาตุ จะมาช่วย หรือ สั่งสอนได้เฉพาะ คนที่รับกระแสนี้ได้เท่านั้น เป็น
พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ รวมกัน เป็น กระแสธรรมธาตุ เท่านั้นเอง


ตอบ

1. สัมภเวสีมันต่างกับธรรมธาตุหรือธรรมกาย(อายตนะนิพพาน)ตรงไหนล่ะ ทั้งคู่ก็เป็นจิตเหมือนกัน แต่สัมภเวสีเป็นจิตสังขารที่ยังคิดปรุงแต่งอยู่ จึงนำโลกแห่งความทุกข์มาสู่ตน ส่วนธรรมธาตุหรือธรรมกาย(อายตนะนิพพาน)เป็นจิตบริสุทธิ์ที่ไม่คิดปรุงแต่ง จึงไม่นำโลกแห่งความทุกข์มาสู่ตน อยู่ที่ไหนมันก็ไม่ทุกข์ทั้งนั้นแม้ในนรกภูมิ

2. ธรรมกายของพระมหากัสสปะรอเข้านิพพานพร้อมกับพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ หนึ่งในปณิธานของท่าน

3. หลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า "ถ้าเจริญอิทธิบาท ๔ (โดยอาศัยเจโตสมาธิ)ให้มากแล้ว หากปรารถนาก็สามารถดำรงอยู่ได้ตลอดกัปหรือเกินกว่ากัปก็ทำได้" อายุหลวงปู่เทพโลกอุดร กายเนื้อของท่านตอนนี้ก็น่าถึง 1000-2500 ปีไปแล้ว(ขึ้นอยู่กับว่าท่านเกิดตอนไหน) แต่ที่ไม่เสื่อมสลายไปก็เพราะอิทธิบาท 4

4. หัดนิสัยมารเลยนะ เล่นมั่วและดำน้ำ หลวงพ่อสดบอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ดำน้ำแบบคุณ ว่า
"แกเสือกบอกเขาแล้วว่า ข้าไปอยู่นิพพาน แกมาถามข้าทำไม"
หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ถามท่านอีกว่า
"หลวงพ่อไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปผมก็โกหกเขานะ"
หลวงพ่อสดตอบว่า
"ไม่โกหกหรอก ข้าไปนิพพานแน่" แต่ท่านไปบอกว่าจะไปเมื่อไร แต่สานุศิษย์สำนักธรรมกายและวัดปากน้ำต่างยืนยันว่า ท่านยังไม่ไปนิพพาน เดินวิชาปราบมารต้านอำนาจมารที่คอยก่อกวนโลกอยู่

5. จากหนังสือพระพุทธศาสนามหายาน หน้า 48 พระอวโลกิเตศวรตั้งปณิธานว่า
"หากยังมีสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ จักไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ"
บางตำราเขียนปณิธานพระอวโลกิเตศวรไว้ว่า
“ในเมื่อสัตว์โลกยังโปรดไม่หมด พระองค์ก็ยังไม่มีพระทัย ที่จะเสด็จเข้าสู่พุทธภูมิเสด็จนิพพานเป็นพระพุทธเจ้า”

6. ธรรมธาตุคือ นิพพานธาตุ หรือ ธาตุพระเจ้า อยู่ทุกหนแห่ง ท่านเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ ไม่ใช่คุณขงเบ้งไปกำหนดกฎเกณฑ์ให้พระเจ้า


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 10 พ.ค. 2010, 12:51, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 22:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขงเบ้งเทพแห่งกลยุทธ์ เขียน:

ท่านคนดี ก็เป็น มาร ที่ ล้มล้างคำสั่งสอนอันดีงามของพระพุทธเจ้า สงสัย หลวงพ่อสดก็ต้องมาปราบ 55+

มารมี 2 แบบ หุหุ เวอร์ของขงเบ้งเท่านั้น

1 มารชั่วช้า

2 มารแบบน่ารัก

ส่วนท่านศรีธัญญา เป็นมารที่ชั่วช้า แอบอ้างเป็น พระศรีอาริยะ แล้ว คุณคนดีจะเป็นมารแบบไหนละ


จะใส่ร้ายผม ก็ระบุมาด้วยครับว่า ตอนไหนที่ผมล้มล้างคำสั่งสอนอันดีงามของพระพุทธเจ้า แล้วระบุด้วยว่า ทำไมคุณไม่คิดว่า คุณล้มล้างคำสั่งสอนอันดีงามของพระพุทธเจ้า แล้วพยายามเอาคำสอนของมารมาใส่ในพระพุทธศาสนา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 23:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


sansook เขียน:
อยากถามผู้รู้ ช่วยตอบเพื่อเป็นวิทยาทานแด่ผู้อ่านทั้งหลายด้วยนะคะ คำถามมีอยู่ว่า
1. สำเร็จอรหันต์ กับ ไปสู่นิพพาน เหมือนกันรึไม่


ผู้รู้..เขาไม่มาตอบหรอก..

ที่ตอบ ๆ ...มีแต่ยังไม่รู้...

ยังไม่รู้..ตอบได้หรึเปล่า?? :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 23:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้า พระกัสสปะ หลวงพ่อสด ท่านเหนือภพ3ไปแล้วคุณพลศักดิ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 23:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


sansook เขียน:
สำเร็จอรหันต์ กับ ไปสู่นิพพาน เหมือนกันรึไม่


ไม่เหมือน สำเร็จอรหันต์ คือละสังโยชน์ได้ทั้งหมด กิเลส ราคะ โทสะ โมหะ เมื่อละสังขารก็จะนิพพาน คือไม่มาเกิดอีก พ้นจากวัฏสงสาร... จิตไม่มีอุปทาน จึงไม่มีภพชาติ

"ไปสู่นิพพาน" เป็นความเชื่อของคนจำนวนมาก (ที่มีแนวโน้มว่าจะผิด) คือเชื่อในลักษณะว่า นิพพานคือดินแดนหนึ่ง ที่อยู่เหนือสวรรค์และพรหม และเราสามารถไปยังดินแดนนั้นได้ โดยไม่ต้องสำเร็จอรหันต์ ดินแดนนี้เป็นที่อยู่ของพระอรหันต์ เหมือนสวรรค์เป็นที่อยู่ของเทวดา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 23:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


นิพพานสูตร ในพระไตรปิฏก
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๓๙๗๗ - ๓๙๙๒. หน้าที่ ๑๗๕.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๓๙๙๓ - ๔๐๐๖. หน้าที่ ๑๗๕ - ๑๗๖.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๔๐๐๗ - ๔๐๒๑. หน้าที่ ๑๗๖.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๔๐๒๒ - ๔๐๓๓. หน้าที่ ๑๗๗.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 23:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต



[๒๒๒] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้พระผู้
มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้ ๒ ประการเป็นไฉน คือ สอุปาทิเสสนิพพาน
ธาตุ ๑ อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ
เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำ
กิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว มีประโยชน์ของตนอันบรรลุแล้ว มี
สังโยชน์ในภพนี้สิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นย่อมเสวย
อารมณ์ทั้งที่พึงใจและไม่พึงใจ ยังเสวยสุขและทุกข์อยู่
เพราะความที่อินทรีย์ ๕
เหล่าใดเป็นธรรมชาติไม่บุบสลาย อินทรีย์ ๕ เหล่านั้นของเธอยังตั้งอยู่นั่นเทียว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสิ้นไปแห่งราคะ ความสิ้นไปแห่งโทสะ ความสิ้นไปแห่ง
โมหะ ของภิกษุนั้น นี้เราเรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ก็อนุปาทิเสสนิพพานธาตุเป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระอรหันตขีณาสพ
อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงได้แล้ว มีประโยชน์ของ
ตนอันบรรลุแล้ว มีสังโยชน์ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ
เวทนาทั้งปวงในอัตภาพนี้แหละของภิกษุนั้น เป็นธรรมชาติอันกิเลสทั้งหลายมี
ตัณหาเป็นต้นให้เพลิดเพลินมิได้แล้ว จัก (ดับ) เย็น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรา
เรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นิพพานธาตุ ๒ ประการ
นี้แล ฯ



พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มี
พระภาคตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า

นิพพานธาตุ ๒ ประการนี้ พระตถาคต ผู้มีจักษุผู้อันตัณหา
และทิฐิไม่อาศัยแล้ว ผู้คงที่ประกาศไว้แล้ว อันนิพพานธาตุ
อย่างหนึ่งมีในปัจจุบันนี้ ชื่อว่าสอุปาทิเสส เพราะสิ้นตัณหา
เครื่องนำไปสู่ภพ ส่วนนิพพานธาตุ (อีกอย่างหนึ่ง) เป็นที่
ดับสนิทแห่งภพทั้งหลาย
โดยประการทั้งปวง อันมีในเบื้องหน้า
ชื่อว่าอนุปาทิเสส ชนเหล่าใดรู้บทอันปัจจัยไม่ปรุงแต่งแล้วนี้
มีจิตหลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ ชน
เหล่านั้นยินดีแล้วในนิพพานเป็นที่สิ้นกิเลสเพราะบรรลุธรรม
อันเป็นสาระ เป็นผู้คงที่ ละภพได้ทั้งหมด ฯ
เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้า
ได้สดับมาแล้วฉะนี้แล ฯ



เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๕๒๔๓ - ๕๒๗๕. หน้าที่ ๒๓๑ - ๒๓๒.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B= ... agebreak=0
:b42: :b42: :b42:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 09 พ.ค. 2010, 23:52, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 13:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.พ. 2010, 13:35
โพสต์: 355

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
พระพุทธเจ้า พระกัสสปะ หลวงพ่อสด ท่านเหนือภพ3ไปแล้วคุณพลศักดิ์


ผมอธิบายไปแล้ว ใน 3 รายนี้มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่เหนือภพ 3 คือ เข้านิพพานไปแล้ว เพราะเสร็จกิจแล้ว แต่หลวงพ่อสด และพระกัสสปะ ยังไม่เสร็จกิจ เรื่องหลวงพ่อสด ผมนำตอนที่ท่านตอบหลวงพ่อฤาษีลิงดำเรื่องท่านเข้านิพพานหรือยัง มาให้อ่านแล้ว อ่านอีกทีก็แล้วกัน

หลวงพ่อสดบอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตอนที่พบกันที่ พระจุฬามณีเจดียสถานในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ว่า:

"แกเสือกบอกเขาแล้วว่า ข้าไปอยู่นิพพาน แกมาถามข้าทำไม"
หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ถามท่านอีกว่า
"หลวงพ่อไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปผมก็โกหกเขานะ"
หลวงพ่อสดตอบว่า
"ไม่โกหกหรอก ข้าไปนิพพานแน่" แต่ท่านไปบอกว่าจะไปเมื่อไร แต่สานุศิษย์สำนักธรรมกายและวัดปากน้ำต่างยืนยันว่า ท่านยังไม่ไปนิพพาน เดินวิชาปราบมารต้านอำนาจมารที่คอยก่อกวนโลกอยู่

ส่วนเรื่องพระกัสสปะยังไม่เข้านิพพาน เพราะยังไม่เสร็จกิจ เมื่อคุณไม่เชื่อผมก็ลองอ่านเรื่องนี้ดู หลวงปู่บุดดา สนทนาธรรม กับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร

หลวงปู่สิม กัสสปโบราณโน่น

หลวงปู่บุดดา กัสสปโบราณหรือ ?

หลวงปู่สิม มีเทปนี้มา คือว่าเปิ้นขึ้นไปเทศน์ให้ฟังนั้น ไปในนามคนทรง สองครั้งแล้วท่านขึ้นไปเทศน์ให้ฟัง ในถ้าผาปล่องน่ะ เปิ้นมีเมตตาอย่างใดบ่ฮู้ กัสสปน่ะ มารู้ข่าวว่าท่านยังไม่ทันเข้านิพพาน

หลวงปู่บุดดา ยัง

หลวงปู่สิม แน่ะ หลวงปู่ยังฮู้นี่ บ่เข้านิพพานไปอยู่ไหนล่ะ ในเมื่อท่านเข้านิพพานไปแล้ว ท่านเคยมาหาหลวงปู่ บ่

หลวงปู่บุดดา ท่านคอยพระศรีอารย์อยู่ คอยพระศรีอารย์เวลาเทศน์จบแล้ว จะเป็นภาพทำศพอีก ๘ หมื่นปี นั่นแหละ

หลวงปู่สิม นึกว่าได้นิพพานแล้ว ไปนิพพานเลยแม่นแล้ว ฟังข่าวหลวงปู่ ยังไม่ทันไปนิพพาน ยังคอยพระศรีอารย์อยู่

หลวงปู่บุดดา ยังคอยเจ้าภาพศพ มีเวลามาเทศน์ ๘ หมื่นปี เสร็จแล้วจึงจะมาเผาศพ


แก้ไขล่าสุดโดย คนดีที่โลกลืม เมื่อ 10 พ.ค. 2010, 13:32, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 พ.ค. 2010, 10:39
โพสต์: 14

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอ คุณพระ คุณเจ้า เหล่าเทพ เทวดา ช่วยดลบันดาล ให้ผู้ให้ความกระจ่างในครั้งนี้ คิดหวังสิ่งใด ขอให้สมปรารถนา ทุกท่านด้วยเทอญ
อีกทั้งข้อมูลที่เหลื่อมล้ำกันบ้าง ก็ด้วยเจตนาที่จะแบ่งปันความรู้ให้กับผู้อื่น ทั้งหลายทั้งปวง ขออย่าได้ขัดเคืองใจซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกๆคน มีความสุขมากๆ นะคะ นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 19:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12233


 ข้อมูลส่วนตัว


คนดีที่โลกลืม เขียน:
หลับอยุ่ เขียน:
พระพุทธเจ้า พระกัสสปะ หลวงพ่อสด ท่านเหนือภพ3ไปแล้วคุณพลศักดิ์


ผมอธิบายไปแล้ว ใน 3 รายนี้มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่เหนือภพ 3 คือ เข้านิพพานไปแล้ว เพราะเสร็จกิจแล้ว แต่หลวงพ่อสด และพระกัสสปะ ยังไม่เสร็จกิจ เรื่องหลวงพ่อสด ผมนำตอนที่ท่านตอบหลวงพ่อฤาษีลิงดำเรื่องท่านเข้านิพพานหรือยัง มาให้อ่านแล้ว อ่านอีกทีก็แล้วกัน

หลวงพ่อสดบอกหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตอนที่พบกันที่ พระจุฬามณีเจดียสถานในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ว่า:

"แกเสือกบอกเขาแล้วว่า ข้าไปอยู่นิพพาน แกมาถามข้าทำไม"
หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ถามท่านอีกว่า
"หลวงพ่อไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไปผมก็โกหกเขานะ"
หลวงพ่อสดตอบว่า
"ไม่โกหกหรอก ข้าไปนิพพานแน่" แต่ท่านไปบอกว่าจะไปเมื่อไร แต่สานุศิษย์สำนักธรรมกายและวัดปากน้ำต่างยืนยันว่า ท่านยังไม่ไปนิพพาน เดินวิชาปราบมารต้านอำนาจมารที่คอยก่อกวนโลกอยู่

ส่วนเรื่องพระกัสสปะยังไม่เข้านิพพาน เพราะยังไม่เสร็จกิจ เมื่อคุณไม่เชื่อผมก็ลองอ่านเรื่องนี้ดู หลวงปู่บุดดา สนทนาธรรม กับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร

หลวงปู่สิม กัสสปโบราณโน่น

หลวงปู่บุดดา กัสสปโบราณหรือ ?

หลวงปู่สิม มีเทปนี้มา คือว่าเปิ้นขึ้นไปเทศน์ให้ฟังนั้น ไปในนามคนทรง สองครั้งแล้วท่านขึ้นไปเทศน์ให้ฟัง ในถ้าผาปล่องน่ะ เปิ้นมีเมตตาอย่างใดบ่ฮู้ กัสสปน่ะ มารู้ข่าวว่าท่านยังไม่ทันเข้านิพพาน

หลวงปู่บุดดา ยัง

หลวงปู่สิม แน่ะ หลวงปู่ยังฮู้นี่ บ่เข้านิพพานไปอยู่ไหนล่ะ ในเมื่อท่านเข้านิพพานไปแล้ว ท่านเคยมาหาหลวงปู่ บ่

หลวงปู่บุดดา ท่านคอยพระศรีอารย์อยู่ คอยพระศรีอารย์เวลาเทศน์จบแล้ว จะเป็นภาพทำศพอีก ๘ หมื่นปี นั่นแหละ

หลวงปู่สิม นึกว่าได้นิพพานแล้ว ไปนิพพานเลยแม่นแล้ว ฟังข่าวหลวงปู่ ยังไม่ทันไปนิพพาน ยังคอยพระศรีอารย์อยู่

หลวงปู่บุดดา ยังคอยเจ้าภาพศพ มีเวลามาเทศน์ ๘ หมื่นปี เสร็จแล้วจึงจะมาเผาศพ


หากไร้ปัญญา...เชี่อ..ไม่เชี่อ..ล้วนงมงาย
:b16: :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 พ.ค. 2010, 21:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมโพสพระธรรมเทศนาที่แสดงโดยหลวงพ่อสด เกือบ70กัณฑ์ในนี้ ท่านอ้างธรรมปฏิบัติตั้งแต่ต้นจนอวสาน ส่วนตัวผมตรองดูแล้วจากที่ท่านสอนท่านไม่มาอาศัยอยู่ในภพ3นี้หรอกครับ
ท่านสอนให้หลุดพ้นเข้านิพพานทุกกัณฑ์ ไม่มีให้สรรพสัตว์ ไปอยู่สวรรค์ วงโน้นวงนี้ แบบที่เข้าใจกันหรอกครับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 39 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร