วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 19:38  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 14:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 13:58
โพสต์: 14

แนวปฏิบัติ: ยุบหนอ พองหนอ
งานอดิเรก: ทำอาหาร
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีปัญหาครับ คือถูกคนรักบอกเลิก เราคบกันมา1ปีกว่าแล้วครับ เราทะเลาะกันมาตลอด เพราะผมเป็นคนพูดตรง แต่ผมไม่เคยทำร้ายร่างกายเขาเลยนะครับ กลับเป็นเขามากกว่าที่ทำร้ายผม ผมไม่เคยโกรธหรือติดใจอะไร เพราะรู้ว่าอารมณ์มักจะเหนือเหตุผล เขาบอกเลิกผมเพราะเขามีคนรักใหม่แล้วและรู้จักกันมานาน แต่เพิ่งจะได้มาคบกันและกำลังจะหมั้นกัน ผมเสียใจมาก มันพูดไม่ออกครับ มันเร็วเกินไป ผมพยายามคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะอะไร หรือเพราะทำบุญด้วยกันมาน้อย เราไม่ใช่คู่กัน ผมพยายามเข้าหาธรรมะ มันทำให้ผมดีขึ้น ผมเชื่อเรื่องเวรกรรมมากขึ้น ตั้งแต่ผมคบกับแฟนเก่าๆมา ผมไม่เคยคบใครได้นานเลย ไม่เคยเจอคนที่จริงใจ อาจจะเป็นเพราะเวรกรรมที่ผมเคยทำให้พ่อแม่เสียใจ หลังจากอกหัก ผมก็ได้คุยกับพ่อแม่มากขึ้น อยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำสมาธิมากขึ้น คนที่เพิ่งบอกเลิกผม เขาก็ยังวนเวียนมาให้ผมเห็นหน้าอยู่ทุกวันนะครับ บางครั้งผมก็ใจโลเล เสียดายที่เขาทิ้งผมไป แต่ที่ทำให้ผมแย่ไปกว่านั้น ผมต้องทำงานคู่กันกับเขาเป็นเวลา3ปีต่อจากนี้ ไปไหนมาไหนก็ต้องไปด้วยกัน เจอกันทุกวัน
ผมอยากจะทราบว่า
1.ถ้าผมอยากจะขอขมาพ่อแม่ ผมต้องทำยังไงครับ
2.ทำไมผมกับเขา ยังต้องวนเวียนเจอกันทุกวันครับ มันทำให้ผมรู้สึกแย่มากๆ หรือผมกับเขา ยังมีกรรมต่อกันครับ

.....................................................
ถ้าชนะด้วยอาวุธ จะสิ้นสุดด้วยความแค้น ใช้ธรรมะชนะแทน ความขุ่นแค้นจะหายไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


อนุโมทนาสาธุ หาพวงมาลัยดอกไม้เข้าไปกราบก็ได้แล้วครับ ทำคุณกับบุพกาีรีเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ ระลึกถึงท่านคิดถึงท่านเป็นกุศลจิตกว่าเยอะ เมื่อเทียบกับต้องไป อาลัยอาวรณ์เสียดายเสียใจคนที่เขาไม่ได้รักเราแล้ว ความพลัดพรากนั่นเป็นสิ่งธรรมดาในโลกนี้ ก่อนหน้านั้นสามปี เคยอยุ่ได้ ถัดจากนี้ไปอีกสามปี มันยังมาไม่ถึงสักหน่อย เพราะมันคืออนาคตไปคิดถึงสิ่งที่ยังไม่มาไม่มีประโยชน์หรอกนะครับ

และส่วนที่ผ่านไปแล้วจบไปแล้ว วิบากเกิดขึ้นกับจิตที่ยังอาลัยอาวรณ์ ถ้ารักเพราะว่ารักเธอ ทำไมทนเห็นเธอมีความสุขไม่ได้ละ ก็หากนั่นคือความสุขของเธอ เรายังทุกข์เพราะเรารักตัวเองอยู่ ห่วงหวงตัวเองรักตัวเองมันก็ทุกข์เท่านั้น รักและดูแลเธอในอีกความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มุฑิตาจิต คือพลอยยินดีพอใจที่เห็นเธอและคนที่เธอรักมีความสุข นี่คือธรรมหนึ่งในพรหมวิหาร ๔

พิจารณาธรรมต่อ อย่าให้จิตตก ยกผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ยืินเดินนั่งนอนพิจารณา ในความเป็นสีสรรของผม เล็บ ในความเป็นสิ่งปฏิกูลน่ารังเกียจ ในธาตุดินน้ำลมไฟ ที่มีอยู่ในขน ผม เล็บ ฟัน หนัง พิจารณาความตาย ความพลัดพราก พระท่านว่าของแน่ของยั่งยืน สุขจากกามประเดี๋ยวเดียว เทียบจากสุขจากความสงบกันไม่ได้เลย ยืนเดินนั่งนอนกินดื่มทำพูดคิด ใคร่ควรไว้ ขนผมเล็บฟันหนัง ด้วยความเป็นสี เป็นสิ่งสกปรกปฏิกูล เป็นธาตุ มีพรหมวิหาร ยกจิตยินดีกับเธอได้ ไม่ห่วงความสุขตัวเอง ความสุขก็อยู่กะตัวแล้วเจริญพร

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 15:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ย. 2010, 09:54
โพสต์: 39

แนวปฏิบัติ: พุท-โธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: โก้
อายุ: 23
ที่อยู่: จ.กาญจนบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมก็เป็นคล้ายคุณนะคับ โดนแฟนบอกเลิก
แต่แฟนขอให้เราเป็นเพื่อนกัน แต่มันก็ทำใจลำบาก
ทุกวันนี้ก็ทำใจอยู่คับ
ปล่อยวางเถิดคับ

การขอขมาบิดามารดากับสิ่งที่เราพลาดไปแล้วนะดีคับ
ทำไปเถิดคับ ท่านให้อภัยเราเสมอ ไม่ว่าเราจะทำตัวไม่ดีแค่ไหน

เอาใจช่วยไห้คุณแข็งแรงทั้งกายและใจคับ
ถ้าสนใจปฏิบัติธรรมก็ศึกษาและถามผู้รู้คับ
ทุกวันนี้ผมก็กำลังศึกษาอยู่

.....................................................
สักวันผมจะดีพอ.....
และจะเดินตามปณิธานที่ได้ตั้งไว้.....

ขอขอบคุณความรักที่ทำให้...พบกับความทุกข์
และขอขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้...พบกับธรรมะ
และขอขอบคุณธรรมะที่ทำให้...วันนี้ได้พบกับหาทางที่แท้จริง


ฝากบล็อกหน่อยนะครับ ลองทำเล่นๆดูนะครับ
http://madoodhumma.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 15:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 13:58
โพสต์: 14

แนวปฏิบัติ: ยุบหนอ พองหนอ
งานอดิเรก: ทำอาหาร
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ

.....................................................
ถ้าชนะด้วยอาวุธ จะสิ้นสุดด้วยความแค้น ใช้ธรรมะชนะแทน ความขุ่นแค้นจะหายไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 16:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2009, 14:14
โพสต์: 3

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตกอยู่ในสภาวะไม่ต่างกันค่ะ พยายามใช้ธรรมะตามรู้ ตามดู ก็ยังเศร้าอยู่ แต่ก็จะพยายามผ่านมันไปให้ได้ค่ะ

ป.ล.ในกรณีที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว สามารถขอขมาท่านได้โดยวิธีไหนบ้างคะ

ขอบคุณมากค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 16:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 23:10
โพสต์: 194

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นระลึกไว้ว่า ธรรมะคือการฝึกจิตใจให้ไม่หวั่นไหวเมื่อเกิดอารมณ์ต่างๆขึ้น รู้จักละรู้จักปล่อยวางไม่ยึดมั่นถือมั่น หรือที่เรียกว่าการเผากิเลสนั่นเองซึ่งทางศาสนาของเราแบ่งไว้ถึง 4 ขั้น
1.โสดาบัน
2.สกิทาคามี
3.อนาคามี
4.อรหันต์...หมดกิเลสโดยสิ้นเชิง ไม่หวั่นไหวไม่ยึดมั่นอีกแล้ว

เราไม่จำเป็นต้องตั้งใจไว้ว่าจะทำถึงขั้นโน้นขั้นนี้ แค่เรียนรู้การฝึกจิตรับมือในเรื่องต่างๆแล้วทำให้ดีที่สุดได้แค่ไหนก็เอาแค่เท่านั้น สาธุ....แล้วธรรมะจักชื่อว่ารักษาคุ้มครองท่านผู้มีธรรมนั้นแน่นอน

แต่อย่าไปคาดหวังว่าฝึกธรรมะแล้วจะมีปาฎิหาร์ยต่างๆเกิดขึ้นหรือมีอะไรที่เราปราถนาเกิดขึ้นในทันทีทันใด สิ่งเหล่านี้เป็นการเพิ่มกิเลศและไม่ใช่แก่นแท้ของศาสนาหรือผู้รักษาธรรมจร้า.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 16:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 14:51
โพสต์: 1

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คล้ายกันนะคะ แต่อยู่อีกฝั่งค่ะเพิ่งย้ายออกจากบ้านมาขอเลิกกับแฟนที่เพิ่มแต่งงานกันต้นปีก่อนหน้านี้คบกัน 1 ปีค่ะ ดีที่ยังไม่มีลูกค่ะ เขาไปคุยกับเด็กใน net นัดเจอ ตกลงจะเลี้ยงดูกัน พอเริ่มจับได้ เขาก็บอกไม่ได้ทำอะไรผิดแค่คุย พอตาม ย้อนดูเขาก็คุยกับเด็กเยอะมากค่ะ ตอนนั้นต้องผ่าตัดไทรลอยด์ เจ็บทั้งกายเจ็บทั้งใจ สุดท้ายกันตกลงกันจะดำเนินชีวิตคู่แบบไหนให้อภัยกัน แต่ก็มิวายทะเลาะกันบ่อยมากๆเขาโวยวาย บ่อยครั้งจน ณ วันนี้ ย้ายออกมาอยู่เพียงลำพัง เขาก็โทษเราสารพัด ทั้งที่เราเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงเพราะมันหมดใจแล้ว แต่ที่ร้องไห้ก็เพราะอยู่ในสังคมเดียวกันต้องตอบคำถามคนรอบข้าง และเหงานแต่ความรักมันหมดไปแล้วค่ะ ตามดูว่าจิตเราว่า เหงา เศร้า ร้องไห้ ฟังธรรมะ อ่านหนังสือ มีใครจะพอแนะนำวิธีอื่นๆมั๊ยค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ สังคมนี้มีคนเศร้าในเรื่องต่างๆกันออกไปขอให้เข้มแข็งค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 16:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 13:58
โพสต์: 14

แนวปฏิบัติ: ยุบหนอ พองหนอ
งานอดิเรก: ทำอาหาร
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ชายสบายๆ เขียน:
ก่อนอื่นระลึกไว้ว่า ธรรมะคือการฝึกจิตใจให้ไม่หวั่นไหวเมื่อเกิดอารมณ์ต่างๆขึ้น รู้จักละรู้จักปล่อยวางไม่ยึดมั่นถือมั่น หรือที่เรียกว่าการเผากิเลสนั่นเองซึ่งทางศาสนาของเราแบ่งไว้ถึง 4 ขั้น
1.โสดาบัน
2.สกิทาคามี
3.อนาคามี
4.อรหันต์...หมดกิเลสโดยสิ้นเชิง ไม่หวั่นไหวไม่ยึดมั่นอีกแล้ว

เราไม่จำเป็นต้องตั้งใจไว้ว่าจะทำถึงขั้นโน้นขั้นนี้ แค่เรียนรู้การฝึกจิตรับมือในเรื่องต่างๆแล้วทำให้ดีที่สุดได้แค่ไหนก็เอาแค่เท่านั้น สาธุ....แล้วธรรมะจักชื่อว่ารักษาคุ้มครองท่านผู้มีธรรมนั้นแน่นอน

แต่อย่าไปคาดหวังว่าฝึกธรรมะแล้วจะมีปาฎิหาร์ยต่างๆเกิดขึ้นหรือมีอะไรที่เราปราถนาเกิดขึ้นในทันทีทันใด สิ่งเหล่านี้เป็นการเพิ่มกิเลศและไม่ใช่แก่นแท้ของศาสนาหรือผู้รักษาธรรมจร้า.


อนุโมทนาครับ

.....................................................
ถ้าชนะด้วยอาวุธ จะสิ้นสุดด้วยความแค้น ใช้ธรรมะชนะแทน ความขุ่นแค้นจะหายไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 16:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 พ.ค. 2010, 20:05
โพสต์: 109

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดเสีียว่าเป็นกรรมนั้นถูกต้องและทำให้เราคลายลงได้ครับ

อีกอย่างคือเวลาจะเป็นตัวช่วยเช่นกัน ที่จะทำให้เราดีขึ้น ปล่อยวางได้
ของธรรมดาครับ 1 เดือน หรือ 2 เดือน อาจจะไม่ทำให้เรากลับสู่สภาวะปกติ
ทุกอย่างมันเป็นวัฎจักรของมัน อย่างที่เราเคยได้ยินทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
ความรู้สึกของคุณก็เช่นกัน แต่การดับไปนั้น ขึ้นกับการปล่อยวางว่าคุณจะปล่อยวางได้แค่ไหน

ผมเองมองมันว่าเหตุการณ์แบบนี้มันเป็น phase ๆ ของมัน ( ตามประสบการณ์ผมนะครับ )

phase 1 = เป็นช่วงขาดสติอย่างรุนแรง
phase 2 = เป็นช่วงขาดสติบ้าง
phase 3 = มีสติแต่ยังปล่อยวางไม่ได้
phase 4 = มีสติและปล่อยวางได้

แต่ละ phase ก็คงจะต้อง รับมือต่างกันไป
phase 1 = คงจะต้องหาเพื่อนที่ไว้ใจได้ และพร้อม รับฟังเรา เพื่อให้เราระบาย หรือไม่ก็พบจิตแพทย์ โทร hot line

phase 2 = อ่าน นส.ธรรมมะ ครับ เพราะจิตนิ่งได้ระดับนึง พอที่เข้าใจบ้าง ยอมรับความจริงบ้าง

phase 3 = อ่าน นส.ธรรมะมากขึ้น ปฏิบัติธรรม พยายามปรับเบนชีวิตเข้าสู่ธรรมะมากขึ้น เพื่อให้เข้าสู่จิตใจอย่างแท้จริง

phase 4 = ปฏิับัติตาม phase 3 และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยมีธรรมะเป็นหลักยึด

แต่ผมต้องขอออกตัวว่า แนวทางของใครก็แล้วแต่ปัจเจกบุคคลนะครับ ผมเพียงแค่เแชร์จากสิ่งที่ผมประสบมา และ ผมก็ใช้วิธีรับมือกับเหตุการณ์นั้นตาม phase ที่ผมกล่าว

ขอความสุขจงมีแก่ทุกท่าน และ ขอทุกท่านรู้จักมัน เพราะทุกข์มันแอบอยู่หลังสุข :)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2010, 16:49
โพสต์: 2


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำใจ ทำใจ ทำใจ
ทุกอย่าง ไม่ใช่ของๆ เรา
เราควบคุมมันไม่ได้
พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องให้ได้มากที่สุด ก็พอแล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2010, 01:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 12:21
โพสต์: 637

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรักที่แท้ คืออยากให้เขามีความสุข
เราจะอกหัก ก็ช่างมันเหอะ
ให้คิดว่า อีกหน่อย อย่างไร เราต้องได้เจอสิ่งที่เหมาะสมกว่า
ขอเพียงเราอยู่ในความดีเข้าไว้
เราก็ต้องได้เจอสิ่งที่ดีแน่นอน อาจจะดีกว่ามีคนรักก็ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2010, 02:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ภาระ ผูกพันอะไรก็ยังไม่มีต่อกัน
นอกจาก "พัวพัน" แค่เอาใจให้อยู่กับปัจจุบัน
ให้มากที่สุด...โยนอดีตทิ้งไปเสีย
เจอกันก็ทักเหมือนคนรู้จัก
ถึงเวลาทำงานด้วยกันก็พูดแต่เรื่องงาน
วันเวลาผ่านไป...ทุกอย่างก็จะผ่านไปเอง :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2010, 14:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากคำแนะนำทั้งหมดข้างต้นนั้น คุณเจ้าของกระทู้คงได้คำแนะนำที่นำไปใช้กับตัวเองบ้างแล้ว
ดิฉันเคยทรมานเหมือนที่คุณเป็นค่ะ กว่าจะผ่านมาได้ก็แย่พอประมาณ
ธรรมะช่วยได้แน่นอนค่ะ แต่ต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝนปฎิบัติ
หากคุณตั้งใจศึกษาธรรมะจริงๆแล้ว คุณจะหาทางออกจากความทรมานนี้ได้แน่นอนค่ะ
บางทีคุณอาจจะรู้สึกว่าเรื่องที่เรากำลังประสบอยู่นี้ เป็นแค่เรื่องธรรมดาเท่านั้นเอง
เอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้ค้นพบทางออกจากความทรมานนี้เร็วๆนะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.ย. 2010, 03:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2010, 20:12
โพสต์: 10


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำใจค่ะ สู้ๆ นะคะ

คนเรา.. ตอนเกิดก็เกิดมาคนเดียว ตอนจะจากโลกนี้ไปก็ไปคนเดียวเหมือนกันค่ะ
พยายามมองภาพใหญ่ภาพรวมเข้าไว้ เรื่องทุกข์ๆ แบบรักๆ ใคร่ๆ แล้วก็เลิกกัน แฟนไปมีคนใหม่ ถูกแฟนบอกเลิก ถามว่าทุกข์มั้ย คนอื่นมามองก็อาจจะเฉยๆ แต่ตอนเจอกับตัวเนี่ย ความรู้สึกมันบอกว่ามันคือทุกอย่างของชีวิตในตอนนั้นเลยทีเดียว แต่นั่นก็แค่ "ความรู้สึก" นะคะ มันไม่ใช่ความเป็นจริงค่ะ อย่าปล่อยให้กิเลสตัณหามาบังตาบังใจ

ลองคิดดูว่าพ่อแม่มีบุญคุณกับเราแค่ไหน รักเรามากแค่ไหน ทำอะไรให้เรามาตั้งเท่าไหร่แล้วตั้งแต่เราเกิดมา แล้วผู้หญิงคนนี้ล่ะ 1 ปีที่ผ่านมา คุณคิดว่ามันเทียบกันได้มั้ย บางทีเราร้องไห้เสียใจจะเป็นจะตายกับผู้หญิง (หรือผู้ชายหนึ่งคน) แต่กลับปล่อยปะละเลยบุพการีไว้ทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ดูแล ลองหันมาอยู่กับพ่อกับแม่ ให้เวลาพ่อแม่ เอาอกเอาใจพ่อแม่ พาพ่อแม่ไปทานข้าว นั่งดูทีวีด้วยกันคุยกัน ฟังท่านบ่นนู่นนี่บ้าง ลองเอาใจเรามาให้กับพ่อแม่แทนก่อนดีมั้ยคะ

ส่วนที่ยังต้องเจอผู้หญิงคนนั้นอยู่ก็มองเค้าเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกคนนึงค่ะ เป็นบททดสอบความอดทนของคุณด้วยอย่างนึง แต่ในขณะที่อดทนก็ขอให้พิจารณาเห็นตามจริงว่าภายใต้เนื้อหนังมังสามันก็เป็นกระดูก เป็นน้ำเหลือง เป็นเลือด แล้วใจเราที่ไปยึดอยู่กับอดีตที่มันผ่านไปแล้ว โดยเฉพาะความสุขความทรงจำที่ดีนั้น ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไร คนเราทุกข์เพราะความคิด อยู่กับปัจจุบันค่ะ ทุกอย่างเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องจบลง ไม่จากกันวันนี้ ก็จากกันวันหน้า ไม่จากเป็น ก็จากตาย

ค่อยๆทำทุกวันให้ดีนะคะ สร้างเหตุปัจจัยที่ดี แล้วผลก็จะดีเองค่ะ

ขออนุโมทนาที่ตั้งใจไปขอขมาพ่อกับแม่ด้วยนะคะ

.....................................................
Everything that has a beginning has an end.


แก้ไขล่าสุดโดย ศรัทธา4 เมื่อ 20 ก.ย. 2010, 03:29, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ก.ย. 2009, 09:31
โพสต์: 292

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แวะมาเยี่ยมค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ
ความทรมานที่เคยมีลดน้อยลงบ้างหรือยัง?


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 26 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 11 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร